บทที่ 580 ฉันไม่ได้ต้องการเปล่าๆ
บทที่ 580 ฉันไม่ได้ต้องการเปล่าๆ
“ท่านองครักษ์มาเองถึงขนาดนี้ ดังนั้นไม่ว่าจะเรื่องอะไร ขอเพียงหลิวโม่คนนี้สามารถทำได้ เพียงคุณพูดคำเดียวต่อให้ต้องผ่าภูเขาทั้งลูกผมก็จะทำแบบไม่ขมวดคิ้วเลย !” แม่ทัพหลิวยื่นมือข้างหนึ่งมาตบหน้าอก แสดงถึงความจริงใจหนักแน่น !
“คือว่าเรื่องมันเป็นอย่างนี้นะแม่ทัพหลิว พอดีว่าฉันเห็นว่าบ้านหลังนี้ของคุณไม่เลวเลย ! ดังนั้นฉันเลยอยากจะซื้อให้เพื่อนของฉันคนหนึ่ง แต่ฉันก็รู้ดีว่าทหารหลายนายต้องสร้างมันมาอย่างยากลำบากขนาดไหน ดังนั้นจึงอยากจะให้แม่ทัพหลิวช่วยหน่อย !” สายตาของชายหนุ่มกวาดมองรอบ นัยน์ตาเจือแววอิจฉา
นี้ไม่ใช่การเสแสร้งแต่เขาอิจฉาจริง ๆ! บ้านหลังนี้มันสวยเกินไปจริง ๆ ภายในบ้านปูนด้วยกระเบื้องหยกขาวเนื้อละเอียด ตัวงานแกะสลักดูปราณีมาก ซึ่งพวกมันก็วางล้อมรอบทั่วบริเวณบ้าน ถ้าเอาไปวางไว้บนโลกละก็จะต้องเป็นของล้ำค่าอย่างแน่นอน ! อีกทั้งในสวนเล็ก ๆ ของบ้านก็ยังมีต้นหญ้าวิญญาณที่เอาไว้หลอมยาอันหาได้ยากอีกด้วย !
แม้กระทั่งหญ้าวิญญาณยังมีไม่น้อยเลย ! ซึ่งนี่ก็ยังไม่นับรวมดอกแห่งจิตวิญญาณที่เขาต้องการก็อยู่ที่นี่ด้วย ! ทว่าที่ชายหนุ่มยังไม่ค่อยพอใจก็คือดอกแห่งจิตวิญญาณพวกนี้ยังมีอายุสั้นเกินไป ไม่งั้นสรรพคุณมันจะดีกว่านี้ ! ขณะที่ฉู่เหินกำลังจ้องอย่างเอาเป็นเอาตาย แม่ทัพหลิวก็ปล่อยเสียงหัวเราะและพูดต่อว่า !
“ท่านองครักษ์สูงสุด ดูคำพูดของคุณสิ ที่จริงบ้านหลังนี้ก็สร้างมาให้คุณนั่นแหละ ดังนั้นวันนี้ต่อให้คุณไม่พูดบ้านหลังนี้มันก็เป็นของคุณอยู่ดี” แม่ทัพหลิวไม่ลังเลเลยแม้แต่น้อยที่จะเฉลยความจริง ! อีกทั้งเขายังแสดงออกว่าคุณพูดอะไรนี้กัน นี่มันบ้านคุณเองนะอีกด้วย !
ฉู่เหินพอได้ยินแบบนี้ก็ตะลึงไปพักหนึ่ง ในใจเขาเดิมทีวางแผนเอาไว้ไม่น้อย แต่คิดไม่ถึงว่าแม่ทัพหลิงคนนี้จะใจกว้างยกให้ตัวเองแบบนี้ ! เพียงแต่น่าเสียดายที่เขาคงไม่ได้ใช้เอง แต่ถึงแม้จะเป็นอย่างนั้น สีหน้าที่แสดงออกของชายหนุ่มก็ยังแสดงให้เห็นถึงความตะลึง !
พอเห็นใบหน้าที่เปลี่ยนไปของฉู่เหิน สีหน้าของแม่ทัพหลิวก็ดูพึงพอใจมาก ! เพราะการเอาอกเอาใจคนใหญ่คนโตไว้ยังไงก็เป็นประโยชน์ต่อตนเอง กระทั่งในใจตนเองก็คิดไปถึงรางวัลที่จะได้ ! ด้วยถ้าได้คนตรงหน้าไปช่วยพูดกับแม่ทัพสูงสุดพูดให้เขาสัก 2-3 ประโยค ไม่แน่ว่าเขาอาจจะได้ขึ้นเป็นแม่ทัพใหญ่เลยก็ได้ ! ชักจะรอวันนั้นไม่ไหวแล้ว !
“ไม่ได้สิ ยังไงก็ไม่ได้ ! แม่ทัพหลิว แม้ว่าคุณจะบอกว่ากะยกบ้านนี้ให้ฉันอยู่แล้ว แต่ฉันก็ไม่ได้ต้องการเปล่า ๆ! เอาอย่างนี้ดีไหม ? เดี๋ยวฉันจะให้ของวิเศษสัก 2 ชิ้น และก็ให้อาวุธวิเศษกับคุณเพิ่มอีก 1 อย่างเป็นการแลกเปลี่ยน”
ข้อเสนอที่เขาเสนอไปนั้นไม่ใช่น้อย ๆ เลย ต้องเข้าใจว่าของวิเศษ 2 ชิ้นก็มีค่าหลายหมื่นแต้มผลงานแล้ว ไหนจะอาวุธวิเศษอีกหนึ่งชิ้นนั่น ! เกรงว่าจะคุ้มกว่าไข่มุกนำโชคสีขาวเสียอีก ! เพราะคุณคงใช้ไข่มุกนำโชคซื้อของวิเศษ 3 ชิ้นไม่ได้ ที่สำคัญคือในฐานะที่เป็นผู้ฝึกยุทธ์ ของเหล่านี้ไม่ใช่สิ่งที่พวกเขาต้องการหรอกหรือ ?!
โดยเฉพาะอาวุธที่มีจิตวิญญาณ ของพวกนี้เป็นของหายากโดยแท้ ขั้นเทพดาราคนหนึ่งยังหายากเลยที่จะมีอาวุธจิตวิญญาณมากกว่า 1 ชิ้น ! เพียงเท่านี้ก็รู้แล้วว่าอาวุธจิตวิญญาณนั้นหายากเพียงไหน ! ถ้าไม่ใช่เพราะมีบิดาเป็นท่านอ๋องแล้ว มีหรือที่เขาจะใจกว้างให้มากขนาดนี้ ?
ฉู่เหินได้รับของวิเศษมาถึง 8 ชิ้น บวกกับอาวุธจิตวิญญาณอีก 5 ชิ้น แล้วไหนจะไข่มุกนำโชคสีขาว 3 เม็ดที่อ๋องน้อยนั่นให้อีก ! ซึ่งก็แสดงให้เห็นเลยว่าถ้าเป็นเรื่องเงินทอง อ๋องน้อยคนนี้เท่าไหร่ก็จ่ายไหว !
ซึ่งสิ่งของที่แม่ทัพหลิวได้ไปก็คือของที่เขาได้มาจากอ๋องน้อยนั่นแหละ ! เรียกได้ว่าชายหนุ่มไม่ได้เสียอะไรของตัวเองไปเลยสักชิ้น
เขาต้องทำภารกิจที่กลุ่มเสือขาวให้เสร็จภายในไม่กี่วันนี้และรีบจากไปทันที แต่ก่อนจะจากไป เขาก็กะว่าจะทำเซอร์ไพรส์ใหญ่ทิ้งเอาไว้หน่อย ทว่าถ้าทำอย่างนั้นจริงล่ะก็ เขาก็ไม่อยากจะทำกรรมอะไรไว้กับแม่ทัพหลิวคนนี้ !
ก่อนหน้านี้ฉู่เหินไม่รู้ว่าอะไรคือกรรม ที่จริงตอนนี้เขาก็ยังไม่รู้เท่าไรเหมือนกัน ! แต่ชายหนุ่มรู้ว่าแม้แต่อัคคีสังสารวัฏเองก็ยังกลัวบาปกรรม ดังนั้นตัวเขาก็ไม่อยากจะลองเช่นกัน !
“ท่านองครักษ์ดูคุณพูดสิ ฉันจะไปรับของจากคุณได้ยังไงกัน” แม่ทัพหลิวรู้ว่าองครักษ์สูงสุดคนนี้ไม่มีอาวุธจิตวิญญาณสักชิ้นเดียว มาตอนนี้แค่เขาจะให้บ้านหลังหนึ่งถึงกับมอบอาวุธวิญญาณแลกกัน เห็นได้ชัดเลยว่าอีกฝ่ายได้ประโยชน์จากเรื่องนี้ไม่น้อย แล้วก็เพราะแบบนี้เขาถึงไม่กล้ารับของจากอีกฝ่าย !
“ฉันให้แล้ว งั้นก็รับไปเถอะ คิดหรือว่าฉันจะเอาอะไรไปจากแม่ทัพแบบฟรี ๆ เลยงั้นเหรอ ?” ฉู่เหินทำท่าทางส่งไปให้แบบไม่แยแสอย่างจงใจ
ของ 3 สิ่งนี้เป็นอาวุธที่ใช้โจมตีทั้งสิ้น ! ต้องเข้าใจว่าอาวุธโจมตีค่อนข้างหาได้ง่าย ผิดกับอาวุธที่ใช้ป้องกันและเสริมพลังธาตุต่างหากถึงจะหายาก !
ซึ่งตัวฉู่เหินก็มีชุดเกราะกระดองเต่าแล้วหนึ่งชุด กับของที่สามารถเหาะในอากาศได้อย่างรวดเร็ว ! เพียงแต่ของ 2 ชิ้นนี้เขาเก็บไว้เตรียมพร้อมกับตัวเอง จะเป็นไปได้ยังไงที่จะนำมันออกมา ? แต่ถึงจะเป็นอย่างนั้น หากแต่แม่ทัพหลิวก็ไม่ทราบสิ่งที่ชายตรงหน้าคิดแม้แต่น้อย ด้วยความมัวแต่ดีอกดีใจ
…หลังจากฉู่เหินเดินเล่นที่นี่รอบหนึ่ง เขาก็พบว่าที่นี่มันสวยมากจริง ๆ
คิด ๆ ดู ถ้าตนเองต้องกลับไปทั้งแบบนี้ไม่ใช่ว่าเป็นเรื่องที่ทำใจลำบากไปหน่อยหรือ ! ดังนั้นอย่างน้อยขอนอนในบ้านนี้สักงีบก็แล้วกัน !
รอจนกระทั่งเขาตื่นมาอีกครั้ง ท้องฟ้าก็เป็นสีดำแล้ว อ๋องน้อยที่รอเขาอยู่ในร้านสุราสวรรค์เองก็เริ่มกระวนกระวายนั่งไม่ติดเก้าอี้ เพียงแต่เขาไม่รู้ว่าฉู่เหินไปที่ไหน ไม่งั้นคงส่งคนไปตามแล้ว !
หลังจากนอนหลับไปพักใหญ่ ๆ ฉู่เหินก็ได้สติกลับมาพร้อมกับท้องที่ร้องขึ้นด้วยความหิว ! เขาเลยแวะซื้อของกินข้างทางเสียหน่อย เดินไปก็กินไป
ฉู่เหินบิดเอวอย่างเกียจคร้านจนพอใจ ก่อนจะตัดสินใจว่าได้เวลาไปหาอ๋องน้อยนั่นแล้ว เพราะปล่อยให้รอนานขนาดนั้นไม่รู้ว่าอีกฝ่ายกระวนกระวายใจขนาดไหน !
จากร้านที่เขาซื้ออาหารทานเล่นมา ฉู่เหินก็จงใจเอาน้ำมาพรมหัวตนเอง ทั้งยังทำทีวิ่งหน้าตาตื่นมาที่ร้านสุราสวรรค์ด้วยอาการหอบเหนื่อย !
วิ่งมาได้ไม่ไกลนัก ฉู่เหินก็เห็นเสี่ยวสุ่ยคนเดิมมาแต่ไกล ซึ่งเสี่ยวสุ่ยคนนั้นพอเห็นชายหนุ่มก็รีบวิ่งเข้ามาลากเขาทันที ! อีกทั้งพออีกฝ่ายเห็นหน้าฉู่เหินก็เป็นต้องถอนหายใจออกมาเฮือกหนึ่ง
…เห็นได้ชัดว่าเสี่ยวสุ่ยผู้นี้กำลังตามหาฉู่เหินอยู่
ค้นหาเนิ่นนานจนอ๋องน้อยหงุดหงิด เขาก็ยังไม่รู้ว่าฉู่เหินไปไหน ด้วยไม่เห็นแม้แต่เงา ได้แต่เดินตะโกนเรียกหาตลอดทาง !
“เสี่ยวสุ่ย ๆ รอเดี๋ยวสิ รอเดี๋ยวก่อน !” เสี่ยวสุ่ยคนนี้ทำเป็นไม่ได้ยินเสียงฉู่เหิน รีบวิ่งตามชายหนุ่มมาติด ๆ เปิดโอกาสให้ฉู่เหินแกล้งหันหน้าไปมองอย่างไม่เข้าใจ
“นายมาอยู่ที่นี่ได้ยังไง ทำไมไม่ไปอยู่กับอ๋องน้อยที่ร้านสุราสวรรค์ล่ะ ? ฉันไม่มีเวลาคุยเล่นกับนายหรอกนะ แค่นี้ฉันก็ยุ่งจะแย่แล้ว ! ฉันยังมีเรื่องต้องไปหาอ๋องน้อย นายพาฉันมาเล่นที่นี่เพื่ออะไรเนี่ย !” หลังพูดจบฉู่เหินก็วิ่งไกลออกไปแล้ว ไม่แม้แต่จะหันตัวกลับมาอีก
พอได้ยินอีกฝ่ายพูด เสี่ยวสุ่ยก็เกือบจะร้องไห้ออกมา ล้อเล่นหรือไง นี้เรียกว่าเล่นงั้นเหรอ เข้าใจบ้างไหมว่าฉันหานายมาตลอดทางเลยนะเฟ้ย ตั้งแต่ฟ้าสว่างจนฟ้ามืดเนี่ยเดินตลอดไม่ได้หยุดจนเท้าเจ็บไปหมดแล้ว ! แต่ไม่ว่าในใจเขาจะคิดอย่างไร ฉู่เหินก็ไม่มีท่าทีจะรอเขาเลย ทำให้พริบตาเดียวก็เดินหายไปอย่างรวดเร็ว !
พอเห็นฉากนี้เสี่ยวสุ่ยคนนี้ก็รีบเดินตามไปทันที ทว่าเรียกเท่าไรฉู่เหินก็ไม่หันกลับมา ซึ่งก็เห็นได้ชัดเลยว่าอีกฝ่ายได้ยินอย่างชัดเจน ! เมื่อชายหนุ่มเห็นท่าทางแบบนี้ของเสี่ยวสุ่ย ก็เกรงว่าอ๋องน้อยคงจะร้อนใจมากแล้ว และยิ่งอีกฝ่ายร้อนรนมากเท่าไรก็ยิ่งดี แบบนี้แผนต่อไปของเขาจะจัดการง่ายขึ้น !
เวลาผ่านไปไม่นานเขาก็มาถึงร้านสุราสวรรค์ อ๋องน้อยคนนั้นยังคงอยู่ในห้องเดิม เดินไปเดินมาเป็นหนูติดจั่นอยู่ในห้อง ! พอเห็นฉู่เหินกลับมาแล้ว เขาก็ดีใจรีบเดินมาจับแขนชายหนุ่มทันที