บทที่ 599 หายไปไหนแล้ว ?
บทที่ 599 หายไปไหนแล้ว ?
“ในเมื่อกลายเป็นคนไร้ค่าไปแล้ว งั้นไม่สู้ทำประโยชน์ครั้งสุดท้าย ช่วยโดยอาวุโสคนนี้สิ !” ชายชราพูดด้วยดวงตาเป็นประกายจับจ้องไปที่บึงมังกรโลหิต ด้วยแม้ว่าจะไม่สามารถเอาโลหิตเหล่านี้เข้ามาในกายได้ แต่หลังจากรอมา 10 วันเต็ม เขาก็ไม่อาจอดกลั้นความต้องการของตัวเองได้อีกแล้ว
ก่อนหน้านี้เคยมีคนที่ลมปราณถูกทำลายมาลองแล้วคนหนึ่ง ซึ่งหลังจากที่อีกฝ่ายเข้าไปในบึงไม่ถึง 15 นาที ชายคนนั้นก็พลันร่างแหลกระเบิดทันที !
อาศัยเพียงจุดนี้จุดเดียวก็ทำให้รู้แล้วว่าร่างกายของชายตรงหน้าพิเศษมากแค่ไหน ! ดังนั้นเขาจึงรั้งตัวฉู่เหินเอาไว้ เพื่อดูว่าร่างกายของอีกฝ่ายพิเศษอย่างไร และสามารถขโมยมาเป็นของตัวเองได้ไหม
ได้ยินประโยคนั้น นัยน์ตาฉู่เหินก็ทอประกายเย็นวาบ เขาคิดไม่ถึงเลยว่าขนาดตัวเองอยู่ในสภาพนี้แล้ว คนตรงหน้ากลับไม่ปล่อยตนไป ! เพียงแต่หากจะสังหารอีกฝ่าย คงต้องพึ่งพาคนอื่น เพราะถ้าแค่ตัวเองคงจะไม่ไหว ดังนั้นชายหนุ่มจึงทำการติดต่อกับอัคคีสังสารวัฏ ทว่ามันก็กลับไม่มีเสียงใดตอบกลับมาเลยสักนิดเดียวเนี่ยสิ !
ผลลัพธ์นี้แม้ว่าเขาจะเดาได้อยู่แล้ว แต่เมื่อเห็นว่าอัคคีสังสารวัฏไม่เคยช่วยอะไรเลยแบบนี้ มันก็ทำให้ชายหนุ่มโกรธไม่น้อย ! ทว่าเขาก็ไม่มีวิธีที่จะบังคับมันได้เลย เนื่องจากอีกฝ่ายไม่ใช้สมบัติของตัวเอง !
เขาขยับถอยไปด้านหลังหนึ่งก้าว นัยน์ตาจับจ้องอย่างระมัดระวังและหวาดกลัว ! ในขณะเดียวกันในมือก็หยิบหม้อเซียนกู้ถือไว้ และเนื่องจากหม้อเซียนกู้มีขนาดเล็กมาก จึงทำให้อีกฝ่ายมองไม่เห็นว่าเขากำลังถือสิ่งใดอยู่ !
ตอนนี้หากอีกฝ่ายก้าวมาอีกก้าวแค่เดียว เขาก็ทำการสาดน้ำใส่และดึงอีกฝ่ายลงมาในบึงนี้ทันที !
ต้องเข้าใจว่าพลังในบึงไม่ได้รุนแรงมากเท่าก่อนหน้านี้แล้ว ดังนั้นกับผู้ที่อยู่ในขั้นเทพดาราตรงหน้า จะกำจัดอีกฝ่ายได้หรือไม่ก็ไม่อาจรู้ได้เลย !
ชายชราเห็นดวงตาที่เต็มไปด้วยความระมัดระวังของฉู่เหิน ก็ไม่ได้เก็บมาใส่ใจ ! ในสายตาของเขาตอนนี้ฉู่เหินก็เหมือนเนื้อที่วางอยู่บนเขียง ตัวเองอยากจะหั่นจะสับยังไงก็ได้ และไม่คิดว่าเนื้อชิ้นนี้จะกระโดดออกจากเขียงได้ เพราะว่ามันเป็นไม่ได้ยังไงล่ะ !
ว่าแล้วชายชราก็ยกยิ้มเจ้าเล่ห์ ค่อย ๆ เดินที่หาฉู่เหินอย่างช้า ๆ ขณะเดียวกันก็ยื่นมือออกไปข้างหนึ่ง การเคลื่อนไหวทั้งหมดเป็นไปอย่างเชื่องช้า แต่ฉู่เหินกลับมองแล้วช่างน่าประหวั่นพรั่นพรึง ! เขาสัมผัสได้ว่าทันทีที่อีกฝ่ายยื่นมือมา ตัวเองก็คล้ายจะไม่มีแรงขยับเขยื้อนได้เลย !
เท่านี้ก็รู้แล้วว่าชายชราน่ากลัวแค่ไหน ! เพราะจู่ ๆ ฉู่เหินก็รู้สึกว่าตัวเองไม่สามารถขยับร่างกายได้เลย ราวกับว่าถูกอะไรบางอย่างขัดขวางไว้ ฉากนี้ทำให้เขาตกใจสุดขีด จากนั้นชายหนุ่มก็เห็นร่างกายของตัวเองเดินเข้าไปหาชายชราเสียเอง !
ในขณะเดียวกันนั้น ชายชราก็พลันเข้าคว้าจุดตันเถียนของฉู่เหินอย่างรวดเร็วเพื่อตรวจดู ! เพราะอยากจะตรวจดูว่าจุดตันเถียนของฉู่เหินตอนนี้เป็นเหมือนคนธรรมดาหรือไม่ ! ซึ่งเมื่อเขาตรวจสอบลึกขึ้น ๆ ชายชราก็ต้องตื่นเต้น เมื่อเห็นเข้ากับเสือขาวที่เป็นสัตว์เซียนอยู่ในนั้น !
ในตอนที่ชายชรากำลังสัมผัสจุดตันเถียนของฉู่เหิน จู่ ๆ มันก็มีสิ่งมีชีวิตบางอย่างลอยออกมา ! ซึ่งชายชราก็ไม่อาจรู้ได้ว่ามันคืออะไรเพราะมองไม่ชัด ! ก่อนที่จู่ ๆ อีกฝ่ายจะกระโจนเข้ามาที่เบื้องหน้าเขาภายในเสี้ยววินาทีนั้น !
ชายชราถึงกับผงะเตรียมจะตอบโต้ ทว่าทันใดนั้นเขารู้สึกเหมือนถูกผนึก ไม่สามารถขยับเคลื่อนไหวได้ ! และเมื่อเหลือบสายตาไปมอง ชายชราก็เห็นเข้ากับเสือขาวตัวหนึ่งที่ยืนอยู่ตรงหน้าตัวเอง !
ยังไม่รอให้ชายชราได้ทันรู้เรื่องรู้ราวอะไร ชายหนุ่มก็เห็นว่าชายชราตรงหน้าอยู่ ๆ ก็หายไปอย่างกะทันหัน ! เช่นเดียวกับที่เสือขาวตัวนั้นกลับเข้ามาอยู่ในร่างกายของฉู่เหินแล้ว ก่อนที่ตรงหน้าชายหนุ่มจะปรากฏลูกบอลเรืองแสงขึ้น ! ซึ่งแสงที่ส่องออกมานั้น มันก็ช่างเต็มเปี่ยมไปด้วยพลังอำนาจเสียเหลือเกิน !!!
ฉู่เหินสัมผัสได้ว่า พลังในนี้เกรงว่าจะเป็นพลังทั้งหมดในร่างของชายชราเมื่อครู่ ! เพียงแต่ไม่รู้ว่าเสือขาวตนนี้ใช้วิธีอะไรถึงได้มา เพราะก้อนพลังนี้มันช่างบริสุทธิ์ยิ่งนัก !
ฉู่เหินยื่นมือออกไปรับลูกบอลแสงนี้ โดยที่เขาไม่รู้ว่าควรทำอย่างไรกับมัน ! ทว่าทันทีที่เขาสัมผัสลูกบอลแสง มันก็สั่นเล็กน้อยอยู่กลางฝ่ามือของเขา ก่อนจะทะลุเข้ามาในร่างกายของฉู่เหินแล้วมุ่งตรงไปยังจุดตันเถียนของชายหนุ่ม !
ลูกบอลแสงหมุนวนรอบจุดตันเถียนไม่หยุด พร้อม ๆ กันกับที่มันทำการถ่ายเทพลังงานเข้าใส่จุดตันเถียนของฉู่เหิน !
เพียงแต่การถ่ายเทนั้นไม่ได้เร็วเท่าไร ด้วยจุดตันเถียนของฉู่เหินนั้นเล็กเกินไป ! ซึ่งการที่เห็นจุดตันเถียนอัดแน่นไปด้วยพลังปราณแบบนี้ มันก็ทำเอาฉู่เหินอ้าปากค้าง เพราะต่อไปนี้เขาอาจไม่ต้องฝึกฝนให้เสียเวลาแล้ว แค่เพียงแค่ดึงพลังจากจุดตันเถียนมาก็พอ !
ในตอนที่ชายหนุ่มกำลังกังวลกับสถานการณ์ตรงหน้าอยู่นั้น เขาก็รู้สึกว่าพลังธาตุของตัวเองบรรลุขึ้นไปอีกขั้น ! จนทำให้ฉู่เหินอดไม่ได้ที่จะคิดว่า ตัวเองช่างโชคดีอะไรแบบนี้ !
ต้องเข้าใจว่าเขายังมีชิ้นส่วนพลังที่ปล้นมาจากกลุ่มเสือขาวนั่นอีก ! เพียงแต่ต้องต้องหาโอกาสเข้าฌานเสียหน่อย ไม่งั้นก็คงไม่ได้ดูสักทีว่าได้ชิ้นส่วนพลังธาตุอะไรมาบ้าง !
จากผลลัพธ์ที่เกิดขึ้น ก็เห็นได้อย่างชัดเจนแล้วว่าเสือขาวมีพลังมากขนาดไหน ! ซึ่งตัวเขาเองก็รู้อยู่แก่ใจดี ว่าเหตุที่มันออกมา ไม่ใช่เพื่อป้องกันตัวเขา แต่เป็นเพราะชายชรามุ่งโจมตีที่จุดเถียนที่อยู่ใกล้กับมัน จนทำให้เจ้าเสือขาวรู้สึกถึงอันตรายแล้วออกมาต่างหาก !
คิดมาถึงตรงนี้ไม่ทันไร ก็มีเงาร่างปรากฏขึ้นตรงหน้าตัวเอง ! ซึ่งคนตรงหน้าก็ไม่ใช่ใครอื่น เขาก็คือผู้อาวุโสหนึ่งในสองคนนั้นนั่นเอง !
เดิมทีเขาเฝ้าดูสถานการณ์อยู่ข้างนอกอย่างเงียบ ๆ แต่จู่ ๆ ก็สัมผัสได้ถึงเคลื่อนพลังทั้ง ๆ ที่ไม่มีเสียงอะไรออกมาจากภายใน และด้วยความสงสัย เขาก็เลยเข้ามาข้างในอย่างที่เห็น !
เมื่อฉู่เหินเห็นอีกฝ่าย เขาก็ไม่ได้รู้สึกกลัวอะไร ทำการก้าวไปข้างหน้าหนึ่งก้าวแล้วเอามือผสานกันข้างหน้าคารวะอีกฝ่าย ส่วนปากก็พูดยกย่องเชิดชูและขอบคุณที่มาช่วยตน !
“ทำไมที่นี่ถึงเหลือนายอยู่คนเดียว แล้วผู้อาวุโสอีกคนละ เห็นบ้างไหม ?” คนคนนี้เมื่อปรากฏตัวก็ไม่ได้สนใจฉู่เหิน กลับถามสิ่งที่สงสัยอยู่ในใจออกไป เพราะตอนที่เขามาถึง ก็ไม่พบร่องรอยของชายชราคนนั่นเลย ! จนทำให้รู้สึกแปลกใจไม่น้อย
“ผู้อาวุโส… ผมไม่เห็นเลย !” เมื่อพูดจบ ฉู่เหินก็ไม่ลืมเผยสายตาแสดงความประหลาดใจ ราวกับว่าไม่เข้าใจความหมายที่อีกฝ่ายต้องการจะถาม ! ก่อนที่จะคิดในใจ ว่าตัวเองจะแถต่อไปยังไงให้เนียนดี !!!!
เพราะมาตอนนี้ เขาก็ไม่รู้ว่าเสือขาวจะสามารถรับมือกับอีกคนไหวไหม และถ้าเกิดเสือขาวไม่ลงมือช่วย งั้นก็เกรงว่าเขาได้จบสิ้นแน่แล้ว
นัยน์ตาของชายชราเจือแววสงสัย แต่ก็ไม่ได้พูดอะไรอีก กลับโบกมือให้ฉู่เหินออกไป ! และเมื่อร่างของฉู่เหินหายไปแล้ว หูของเขาก็ได้ยินเสียงหนึ่งดังขึ้น
“เด็กน้อย จำไว้ว่านายติดหนี้ฉัน ! อย่าทำให้ตัวเองได้รับบาดเจ็บหนักอีก ฉันไม่รู้ว่าวันนี้เกิดอะไรขึ้นก็จริง แต่วันนี้ในฐานะครอบครัวเดียวกัน ต่อไปนายจะต้องใช้หนี้คืนฉัน ! สนามรบชิงคงไม่ใช่สถานที่ที่มีความเมตตาขนาดนั้น ! เมื่อเสร็จสงครามกลุ่มเสือขาวแล้วก็รีบกลับไปเถอะ !”
“จำไว้ว่าต้องหมั่นฝึกฝนตัวเอง เอาละ ไปแสดงความสามารถของตัวเองให้เต็มที่เถอะ !”