บทที่ 624 กิเลน
บทที่ 624 กิเลน
สภาพหลังแรงระเบิดทำให้ฉู่เหินดูน่าอนาถแบบสุด ๆ ซึ่งก็ไม่อยากจะคิดเลยว่าถ้าไปอยู่ตรงจุดศูนย์กลางของแรงระเบิดแล้วจะเป็นยังไง ชายหนุ่มถอนหายใจพลางพยายามลุกขึ้นมา แต่ยังไม่ทันที่เขาจะได้ตั้งตัวทัน ระลอกคลื่นจากด้านบนก็กลืนกินร่างของเขาเข้าไปเสียก่อน !
ฉากนี้ทำให้ฉู่เหินคำรามออกมาด้วยความโกรธ ! ต้องเข้าใจว่าก่อนหน้านี้เขาก็โดนระเบิดจะมีสภาพแบบนี้แล้ว ถ้าต้องเจอการโจมตีอีกละลอกคงไม่ไหวแน่ ! เพียงแต่ตอนนี้ไม่ว่าจะคิดยังไง ก็ถูกดึงเข้าไปในคลื่นนั้นแล้ว รอให้ลืมตาขึ้นมาอีกครั้ง เขาก็พบว่าตัวเองได้กลับมาแล้ว !
ศิษย์พี่ 4 ศิษย์พี่ 6 และคนอื่น ๆ พากันมารออย่างกระวนกระวาย ! ด้วยแต่ละครั้งที่มีคนเข้าไปก็ไม่เหมือนกันสักครั้ง อีกทั้งที่สำคัญที่สุดคือตอนที่ฉู่เหินกลับมาเวลาก็ใกล้จะหมดลงเต็มที่ แต่คนที่สามารถออกมาได้กลับมีเพียง 3 คนเท่านั้น !
ทั้ง 3 คนที่ออกมาก่อนหน้านี้ต่างก็มีสภาพสะบักสะบอมทั้งสิ้น มีคนหนึ่งที่หนักสุดคือร่างกายทั้งหมดของเขาไม่เหลืออยู่แล้ว กลับออกมาแค่เพียงวิญญาณ ไม่รู้เหมือนกันว่าเขาคนนั้นออกมาได้ยังไง ส่วนอีก 2 คนที่เหลือก็ไม่ได้มีสภาพดีกว่านั้นเท่าไร เพราะตอนที่ทั้งสองออกมา แขนและขาของพวกเขาหักทั้งหมด แต่ก็ยังดี ที่พวกเขามีชีวิตรอดออกมาได้
นอกจาก 3 คนนี้ พวกเขาก็ไม่เห็นใครออกมาเลยสักคนเดียว ! เช่นนี้ก็ทำให้ขุมอำนาจต่าง ๆ เริ่มกระวนกระวาย พอเห็นด้านบนมีระลอกคลื่นอันเป็นสัญญาณว่าจะมีออกมา พวกเขาจึงมารวมตัวกันที่นี่
…ขนาดตัวคนยังไม่ทันได้ออกมา พวกเขาก็เริ่มคิดมากไปต่าง ๆ นานาเสียแล้ว !
โดยเฉพาะศิษย์พี่ 4 และศิษย์พี่ 6 เพราะที่ฉู่เหินเข้าไปในสนามรบชิงคงในครั้งนี้ไม่เพียงเกี่ยวข้องกับตัวเขาเอง แต่ยังเกี่ยวข้องกับอีกหลายชีวิต ! อีกทั้งพวกเขาก็หวังไปอย่างยิ่งว่าศิษย์น้องคนนี้ของตนเองจะสามารถออกมาได้อย่างปลอดภัย เพราะจากความสามารถของอีกฝ่าย ถ้าให้เวลาเขาสักหน่อย ไม่ว่าเรื่องอะไรก็ไม่ถือว่าเป็นปัญหา !
ระลอกคลื่นยิ่งนานก็ยิ่งเล็ก ๆ ราวกับมันสามารถหายไปได้ทุกเมื่อ ทำให้เป็นตอนนี้เองที่นัยน์ตาของพวกเขาเริ่มฉายแววเศร้า ด้วยพวกเขาเริ่มใจเสีย กลัวว่าศิษย์น้องจะไม่ออกมาแล้ว
ขณะที่ระลอกคลื่นใกล้จะหายไป ทุกคนก็ได้ยินเสียงร้องโหยหวนดังมาจากข้างใน ไม่รอช้าพวกเขารีบมามุงดูตรงทางเข้าทันที ก่อนจะพบเข้ากับเงาร่างคนคนหนึ่งปรากฏตัวออกมาจากในระลอกคลื่นนั้น !
เสื้อผ้าของคนคนนั้นไม่เพียงขาดวิ่นไม่เหลือชิ้นดี และแม้แต่ร่างกายก็มีรอยดำไหม้เต็มไปหมด ! เช่นเดียวผมที่ถูกบางสิ่งบางอย่างไหม้จนเหลือเพียงไม่กี่เส้น อีกทั้งที่ผิวยังมีอีกหลายจุดที่ปรากฏรอยเลือดประปราย !
พอเห็นอาการบาดเจ็บของคนตรงหน้า ก็ทำเอาพวกเขาอดที่จะตกตะลึงไม่ได้ ด้วยพวกเขาจินตนาการไม่ออกเลยว่าภายในสนามรบชิงคงเกิดเรื่องอะไรขึ้นกันแน่ ทำไมคนที่ออกมาจึงได้รับบาดเจ็บกันหมดทุกคนแบบนี้ !
หลังจากที่ฉู่เหินออกมา เขาก็คิดไม่ถึงว่ามันจะปล่อยเขากลางอากาศเช่นนี้ ! ซึ่งมันก็เหมือนกับตอนที่เขาเข้าไปในสนามรบชิงคงตอนแรกไม่มีผิด นั่นคือตกลงมาจากฟ้า ! แต่เพียงครั้งนี้ไม่มีหวังซานเหนียง ดังนั้นเขาจึงต้องรับแรงกระแทกเข้าไปเต็ม ๆ!
หลังจากที่ตกลงมา ชายหนุ่มก็ต้องร้องด้วยความเจ็บปวด ก่อนจะพบว่าตัวเองโป๊ จึงรีบหยิบเสื้อผ้าออกมาจากในแหวนมิติหนึ่งชุดและสวมใส่มัน ! โดยในตอนที่เขากำลังสวมเสื้อนี่เอง ชายหนุ่มก็จำต้องกัดฟันแน่นเพื่อฝืนทนความเจ็บปวดจากบาดแผลเอาไว้ !
ต้องเข้าใจว่าเขาพึ่งจะต่อสู้กับบัญญัติสวรรค์มา ก่อนจะร่วงลงมาทั้งอย่างนี้เลย ! แล้วเช่นนี้เขาจะเอาเวลาที่ไหนไปรักษาแผลกัน !
ในขณะที่เขากำลังสวมเสื้อผ้าด้วยความเจ็บปวด ก็เป็นศิษย์พี่ 6 และ 4 ที่รีบปรี่เข้ามาเมื่อพบว่าคนคนนั้นก็คือฉู่เหิน !
“น้องเก้าไม่เป็นไรใช่ไหม !” พี่หกวิ่งมาหาฉู่เหินด้วยความรู้สึกที่ผสมปนเปทั้งดีใจและตกใจ ด้วยเขารู้สึกโล่งใจมากที่ศิษย์น้องออกมาได้ และแม้ว่าร่างกายของอีกฝ่ายจะเต็มไปด้วยบาดแผล แต่ขอแค่ยังมีชีวิตรอดกลับมาได้ก็พอแล้ว ! พี่หญิงสี่เองก็ดีใจมากเช่นกัน จึงรีบมาตรวจบาดแผลของฉู่เหินอย่างละเอียด ถ้าเห็นข้อความนี้จากที่อื่นโปรดกลับมาเยี่ยมเราบ้างนะ ขอบคุนจ้า
เมื่อตรวจเสร็จ พวกเขาก็วางใจเล็กน้อย ด้วยพบว่าอาการบาดเจ็บของฉู่เหินไม่ได้หนักหนาอะไร ! พักฟื้นสักเดือนก็หายขาดแล้ว ซึ่งก็แน่นอนว่าเป็นเพราะร่างกายของฉู่เหินแข็งแรงกว่าคนปกติ จึงทำให้ใช้เพียงไม่กี่วันเขาก็สามารถกลับมาเป็นเหมือนเดิมได้แล้ว !
จากนั้นทั้งพี่หกและพี่สี่ก็เข้ารุมล้อมพาฉู่เหินกลับพรรควายุอัสนี ! อย่างไรก็ตาม ฉู่เหินที่เพิ่งจะยืนได้มั่นคง ก็พลันได้ยินเสียงไม่เป็นมิตรดังขึ้นมาจากด้านหลัง
“กลับมาจากสนามรบชิงคงได้ก็ดีแล้ว แต่ห้ามลืมกฎที่ตกลงกันไว้ ! รีบไสหัวมาให้ค้นตัวเดี๋ยวนี้ เอาสิ่งล้ำค่าของแกออกมาก่อนแล้วค่อยว่ากัน !!” เสียงนี้ทำให้ฉู่เหินที่เดินอยู่หยุดชะงักไปในทันที ! จากนั้นก็หันหลังกลับไปมองคนที่เพิ่งเอ่ยออกมาเมื่อครู่ !
คนคนนี้เป็นชายวัยกลางคน แต่ถึงอย่างนั้นตั้งแต่ที่ฉู่เหินมาที่นี่เขาก็ไม่เคยสังเกตเห็นอีกฝ่ายมาก่อน ซึ่งชุดที่ชายคนนี้สวมนั้น มันก็เป็นชุดขุนนางแบบจีน และเมื่อผนวกเข้ากับท่าทางที่ดูทรงองอาจน่าเกรงขาม ไม่ต้องถามก็รู้ได้ว่าอีกฝ่ายเป็นคนของราชวงศ์ ! แต่คนของราชวงศ์แล้วยังไง เขาไม่กลัวหรอก !
“ไม่มีหรอกนะของล้ำค่าน่ะ หรือต่อให้มีก็ไม่ให้ ! อีกอย่างฉันขอเตือนนายอย่าง หลังจากวันนี้ไปกฎของสนามรบชิงคงได้เปลี่ยนไปแล้ว ! ถ้านายกล้าขัดขวางใครก็ตามที่อยากเข้าไปในนั้น ไม่แน่ว่านายอาจโดนสวรรค์ลงโทษก็ได้นะ ไม่เชื่อก็ลองดูสิ !”
พอฉู่เหินพูดจบก็ตกเป็นเป้าสายตาของคนที่อยู่ในบริเวณนั้นทันที พวกเขาไม่รู้ว่าเรื่องนี้เป็นความจริงหรือไม่ แต่พวกเขาก็พอจะเดาได้ว่าสนามรบชิงคงได้เปลี่ยนไปแล้ว ! ไม่ต้องพูดถึงสามคนที่ออกมาก่อนหน้านี้มีสภาพสะบักสะบอมขนาดไหน ฉู่เหินที่ออกมาเป็นคนที่4 ที่ถือว่ามาสภาพดีที่สุดแล้ว !
“เด็กน้อย แกไม่รู้ว่าตัวเองกำลังพูดอยู่กับใคร ! คนที่กล้าพูดแบบนั้นกับฉันมีก็แต่คนตายเท่านั้น” สายตาของเขาสว่างวาบ จ้องมองมาที่ฉู่เหิน และขอเพียงชายหนุ่มพูดออกมาอีกประโยคเดียว ชายวัยกลางคนก็เข้าสังหารในทันที ! แต่น่าเสียดาย ที่ชายหนุ่มที่อยู่ตรงหน้าเขานี้ไม่ใช่แค่เด็กปากไม่สิ้นกลิ่นน้ำนมแต่อย่างใด !!!
คนที่เพิ่งสู้กับบัญญัติสวรรค์มาอย่างฉู่เหิน ไหนเลยจะกลัวชายวัยกลางคนตรงหน้า ! แม้ว่าพลังวรยุทธ์ของอีกฝ่ายจะไม่เลว แต่ก็เป็นเพียงขั้นเซียนเท่านั้น ! พลังเท่านี้ถ้าเป็นก่อนที่ฉู่เหินจะเข้าสนามรบชิงคงล่ะก็ แน่นอนว่าย่อมไม่ใช่คู่ต่อสู้ ! แต่กลับกัน มาตอนนี้เขาไม่เห็นชายคนนี้อยู่ในสายตาด้วยซ้ำ !!!
“ขั้นเซียนธรรมดา ๆ คนหนึ่ง กล้าดียังไงมาเห่าต่อหน้าฉันแบบนี้ ! หรือต่อให้เป็นขั้นเทพดารา คิดหรือว่าฉันไม่เคยฆ่า ! อย่ามาขวางทาง ตอนนี้ฉันยิ่งอารมณ์ไม่ดี !” ไม่มีใครคาดคิดมาก่อนว่าฉู่เหินจะกล้าพูดแบบนี้ ! เพราะต้องเข้าใจว่าราชวงศ์เป็นคนที่พวกเขาต้องเชื่อฟังที่สุด ทำให้แต่ไหนแต่ไรมาไม่เคยมีใครกล้าพูดกับพวกเขาแบบนี้ !
ชายวัยกลางคนเปลี่ยนสีหน้าเป็นดุดันอย่างฉับพลัน จากนั้นก็หันมองชายชราที่อยู่ข้างตน เมื่อพวกเขาส่งสายตาหากันและพยักหน้าเสร็จสรรพ ก็พากันเข้าล้อมตัวฉู่เหินทันที ! ราวกับต้องการจะซ้อมฉู่เหินก่อนค่อยสังหารทีหลัง !
ในมือของฉู่เหินกำป้ายอาญาสิทธิ์กิเลนแน่น ด้วยป้ายอาญาสิทธิ์กิเลนอันนี้เขาสามารถนำมันออกมาภายนอกได้ และทันทีที่ชายชราเห็นก็พลันมีปฏิกิริยาทันที ซึ่งฉู่เหินก็ไม่ลังเลอีก ทำการหลอมรวมกับป้าย และกลายร่างเป็นกิเลนต่อหน้าทุกคน !
คนที่อยู่ใกล้ที่สุดในตอนนี้ก็คือชายชราคนนั้น ! ดังนั้นยังไม่ทันที่เขาจะลงมือ ฉู่เหินก็กลายร่างเป็นกิเลนเสียแล้ว ! จากนั้นชายหนุ่มก็พลันปล่อยสะเก็ดดาวเพลิงและผลึกน้ำแข็งพันปีทันทีอย่างไม่ลังเล ! จนเป็นผลให้ชายชราจมหายไปในพริบตา เพราะต้องอย่าลืมว่าในกายของฉู่เหินยังมีต้มไม้พลังธาตุอยู่ !