บทที่ 625 อย่ามายุ่งกับฉัน
บทที่ 625 อย่ามายุ่งกับฉัน
แม้ว่าชายชราตรงหน้าจะเป็นขั้นเทพดารา แต่ก็ไม่สามารถใช้พลังเวทย์ธาตุได้ เช่นนี้เมื่อถูกสะเก็ดดาวเพลิงร่วงลงมา ชายชราคนนั้นก็ถึงกับจมหายไปในทันที ส่วนคนที่ยืนดูอยู่รอบนอก ก็เห็นเพียงชายชราถูกสะเก็ดหินนับไม่ถ้วนล่วงใส่ร่าง ! ก่อนตามมาด้วยเสียงร้องด้วยความเจ็บปวด !
ที่ทำให้ทุกคนจินตนาการไม่ถึงก็คือ ชายชราไม่มีแม้แต่แรงจะตอบโต้ ! ทำได้เพียงร้องอย่างเจ็บปวดเมื่อสะเก็ดดาวเพลิงล่วงลงมาใส่ ทว่าโชคยังดีที่ครั้งนี้ฉู่เหินยังพอจะยั้งมือไว้อยู่บ้าง ไม่งั้นชายชราคงไม่รอดแล้ว
ขณะที่ลงมืออย่างโหดเหี้ยม ฉู่เหินก็จ้องชายวัยกลางคนคนนั้นไปด้วย ! หรือจะให้พูดความจริงก็คือเขาจ้องสร้อยเขี้ยวหมาป่าที่อยู่บนคอของอีกฝ่ายมากกว่า ด้วยสร้อยเขี้ยวหมาป่าอันนี้เขายังจำได้ดี เพราะนี้เป็นสร้อยของกู้เฟิงจือแห่งนิกายหว่านเต้า ตอนที่ทั้งสองอยู่บนโลกเคยร่วมมือกันครั้งหนึ่ง …แม้ว่าจะไม่ได้สนิทสนมกันมาก แต่ก็ถือว่าเป็นเพื่อนที่ดีต่อกัน !
ที่สำคัญ ในดินแดนต่างถิ่นแบบนี้ ไม่เพียงแต่เพื่อนที่หากันยาก แม้แต่คนจากโลกเดียวกันยังแทบจะหากันไม่เจอ ! แต่เขาก็ยังจำได้ดีว่าสร้างเขี้ยวหมาป่านี้เป็นสมบัติติดตัวของกู้เฟิงจือแน่ ! เพราะกู้เฟิงจือเคยบอกว่าสร้างเขี้ยวหมาป่าเส้นนี้เป็นมรดกของตระกูลเขาสืบทอดต่อกันมา
แม้ว่าจะไม่รู้ว่าสร้อยนี้มีประโยชน์อะไร แต่อีกฝ่ายก็สวมใส่ติดกายไม่เคยห่าง ทำให้ชายหนุ่มคิดว่ามันต้องเป็นของสำคัญมากแน่ ! อย่างไรก็ตาม มาตอนนี้สร้อยเส้นนี้กลับมาอยู่บนคอของคนอื่น ถ้ากล่าวว่าชายคนนี้ได้รับมาอีกที ตีให้ตายฉู่เหินก็ไม่มีวันเชื่อ !
นี้คือสมบัติชิ้นสำคัญของกู้เฟิงจือ จะเป็นไปได้ยังไงที่เขาจะมอบมันให้กับคนอื่น ! อย่างไรก็ตามวันนี้เขากลับพบว่ามันอยู่บนตัวคนอื่น ทำให้ในใจของฉู่เหินเริ่มรู้สึกไม่ดี ! แต่เขาก็ไม่อาจทำอะไรได้ ไม่งั้นจะถือว่าเป็นการไม่ไว้หน้าคนของราชวงศ์ ! แน่นอนว่าสิ่งสำคัญที่สุดก็คือตัวของกู้เฟิงจือ ด้วยในเมื่อสร้อยของเขามาอยู่ที่ตัวคนอื่น งั้นแล้วตัวเจ้าของล่ะอยู่ที่ไหน ?
ในบรรดาทุกคนที่เขาเป็นห่วงที่สุด ก็เห็นจะเป็นน้องชายตัวเอง ฉู่ฉุน รวมทั้งตระกูลฉู่คนอื่น ๆ นี่แหละ ! ส่วนคนอื่น ๆ เขาไม่สนหรอก ถ้าไม่เจอเขาก็ยังพอจะหลับตาข้างเดียวได้ เพราะมันไม่มีทางเลือกบนโลกที่โหดร้ายแห่งนี้ ด้วยถ้าเขาสนไปหมดทุกเรื่อง ชีวิตของเขาก็คงจะรักษาไว้ไม่ได้ !
อย่างไรก็ตาม พอเห็นสร้อยของกู้เฟิงจืออยู่บนร่างกายอีกฝ่าย เขาก็ยังรู้สึกไม่ค่อยสบายใจนัก ! แต่ชายหนุ่มยังไม่อยากจะท้าทายราชวงศ์ขนาดนั้น ด้วยไม่แน่ บางทีกู้เฟิงจืออาจกลายเป็นคนของราชวงศ์ไปแล้วก็ได้ ! เพราะฉะนั้นตอนที่เขาประมือกับชายชราถึงได้ยั้งมือเอาไว้ ไม่งั้นคนผู้นี้ได้กลายเป็นศพไปแล้ว
หลังจากกลายร่างเป็นกิเลน ฉู่เหินก็ไร้ความรู้สึกกลัว ! แม้แต่บัญญัติสวรรค์เขายังกล้าที่จะต่อสู้ด้วย จนทำให้อีกฝ่ายถึงกับใช้แผนการสกปรกออกมา แล้วนับประสาอะไรกับขั้นเทพดาราธรรมดาคนหนึ่ง !
เมื่อฉู่เหินหันกลับไปมองชายวัยกลางคนนั้น อีกฝ่ายก็ถึงกับตัวสั่นเทาอย่างอดไม่ได้เลย ! เพราะแม้แต่ขั้นเทพดารายังไม่สามารถทำอะไรชายหนุ่มได้ แล้วเขาที่เป็นขั้นเซียนผู้หนึ่งล่ะ เท่านี้เขาก็พอจะรู้แล้วว่าทำไมฉู่เหินถึงไม่กลัวตัวเองเลย !!
ฉู่เหินไม่คิดจะพูดให้มากความกับอีกฝ่าย เพียงเดินเข้าไปหาทั้งอย่างนี้ ! ซึ่งในระหว่างนั้นชายหนุ่มก็ได้คืนร่างกลับมาเป็นมนุษย์ดังเดิมแล้ว แต่เหนือศีรษะของเขายังคงมีกิเลนตัวเดิมบินตามมา โดยกิเลนตัวนั้น ชายหนุ่มก็ได้ใช้พลังจากมิติเล็ก ๆ ของตัวเองทำออกมาเพื่อระวังหลัง เพราะพลังวรยุทธ์ที่แท้จริงของเขายังไม่สูงนัก !
ฉู่เหินก้าวเดินไปข้างหน้าไม่กี่ก้าวก็มาถึงด้านหลังของเป้าหมาย ก่อนที่เขาจะกระตุกสร้อยเขี้ยวหมาป่าอีกฝ่ายอย่างแรง “เอาสร้อยเส้นนี้มาจากไหน ? ถ้าคุณกล้าพูดปดแต่คำเดียว ฉันจะฆ่าคุณทิ้งทันที !”
นัยน์ตาของฉู่เหินจ้องอีกฝ่ายอย่างโหดเหี้ยม ทำให้ชายคนนั้นถึงตัวสั่นระริก ! ว่าแล้วก็ก้มลงมองสร้อยเขี้ยวหมาป่านั่น พร้อมกับรีบตอบคำถามไปอย่างลนลาน
“นี้เป็นของที่เพื่อนคนหนึ่งของฉันมอบให้ !” เขาเอ่ยด้วยน้ำเสียงที่สั่นเทาและนัยน์ที่สั่นไหว ด้วยเขาไม่รู้ว่าคนที่จ้องเขาอยู่อย่างโหดเหี้ยมตรงหน้ากับเจ้าของสร้อยเป็นอะไรกัน
พอฉู่เหินได้ยินคำตอบ เขาก็บิดยิ้มที่มุมปาก “คุณคิดว่าฉันเป็นเด็ก 3 ขวบหรือไง ? ดี ในเมื่อไม่พูด งั้นก็อย่าหาว่าฉันใจร้ายแล้วกัน” พอสิ้นเสียง กิเลนด้านบนศีรษะของฉู่เหินก็พุ่งเข้าโจมตีทันที !
กิเลนตัวใหญ่คำรามออกมาด้วยน้ำเสียงเกรี้ยวกราด และคว้าอีกฝ่ายไว้ด้วยอุ้งมือเพียงอุ้งมือเดียว ! อีกทั้งฉู่เหินยังอาศัยพลังของกิเลนขัดขวางพลังวรยุทธ์ของอีกฝ่ายไว้ !
เรื่องทั้งหมดเกิดขึ้นภายในเสี้ยววินาทีเดียวเท่านั้น ทำให้อีกฝ่ายไม่แม้แต่จะป้องกันตัวเองได้ทัน
ต่อมาฉู่เหินก็ลากอีกฝ่ายกลับเข้ามาในอาณาเขตของตัวเอง และปาลงกับพื้น ! และเมื่อเขาสะบัดมือครั้งหนึ่ง สะเก็ดดาวเพลิงก็ปรากฏ ! ทำให้ร่างกายของชายชราเต็มไปด้วยบาดแผล นอนร้องโอดโอยอยู่ที่พื้น !!
ตอนนี้ชายชราแทบไม่มีส่วนไหนของร่างกายที่สมบูรณ์อยู่เลย และพอหันไปเห็นฉู่เหินเท่านั้น เขาก็ตกใจราวกับพบเห็นตัวประหลาด ต้องเข้าใจว่าเขาถือได้ว่าเป็นผู้ไร้เทียมทานในดินแดนนี้ แต่กลับอยู่ในสภาพน่าสงสารเช่นนี้ได้เพราะเด็กหนุ่มคนหนึ่ง อีกทั้งที่เขารอดมาได้ ก็เป็นเพราะว่าเด็กหนุ่มตรงหน้ายั้งมือไว้ไมตรีอีกด้วย !
เพราะแบบนี้เขาถึงหวาดกลัวชายหนุ่มตรงหน้ายิ่ง ด้วยเขาไม่รู้จริงๆ ว่าเหตุใดคนตรงหน้าถึงยังอยู่แค่ขั้นจอมปราณ์เท่านั้น นี้มันไม่สมเหตุสมผลเอาเสียเลย ! ขั้นพลังของเด็กหนุ่มกับตัวเองต่างกันมากขนาดนั้น แต่กลับลงมือจนตัวเองสิ้นท่าถึงเพียงนี้ เขาจะกล้าพูดออกไปได้ยังไง !
“กลับไปบอกคนในราชวงศ์นะ ว่าคนบางคนไม่ใช่ว่าพวกเขาจะสามารถรังแกกันได้ และเอาตัวเจ้าของสร้อยเส้นนี้มาแลกกับชีวิตคนของพวกแก ฉันจะให้เวลา 7 วัน ถ้าหลังจาก 7 วันไม่มา งั้นก็เตรียมรับศพได้เลย”
พอได้ยินสิ่งที่ฉู่เหินพูด ชายชราก็ตัวสั่นอีกครั้ง ตอนไหนกันที่ราชวงศ์พวกเขาถูกท้าทายอำนาจแบบนี้ นี้ไม่ใช่เรื่องที่พวกเขาเคยนึกฝันมาก่อนเลย ! ต้องเข้าใจว่าคนในราชวงศ์ทุกคนเป็นคนมีเส้นสายใหญ่โต ไหนเลยจะเคยถูกหยามกันแบบนี้ มันทำให้พวกเขาไม่รู้เลยว่าควรจะรู้สึกยังไง
“เด็กน้อย ฉันยอมรับว่านายแข็งแกร่งจริง ๆ แต่อาศัยแค่นายคนเดียว คงสู้พวกราชวงศ์ไม่ไหวหรอกนะ หรือว่านายอยากจะให้ชีวิตของนายวุ่นวายกัน !” แม้ว่าตอนที่พูดน้ำเสียงของชายชราจะสั่นเทา แต่เรื่องนี้เขาจำเป็นต้องพูดออกไป เพราะคนของราชวงศ์ต้องไม่ยอมผ่อนผันให้กับเรื่องนี้แน่ !
“แม้เพียงพลังของมดตัวเดียวก็สามารถล้มช้างได้ คุณกลับไปบอกคนของราชวงศ์เถอะว่าถ้าไม่อยากให้เจอปัญหาก็จงเชื่อฟังคำพูดของฉันซะ ! ฉันว่านอกจากฉันแล้ว ยังมีคนอีกจำนวนไม่น้อยเลยที่กำลังจะออกมาจากสนามรบชิงคง คุณไปถามคนพวกนั้นก็ได้ว่าคนที่สร้างกลุ่มกิเลนขึ้นมาคือใคร แล้วคนแบบนั้นมีหรือที่จะกลัวราชวงศ์เล็ก ๆ อย่างพวกคุณ !”
“และก็ไม่ต้องนึกว่าฉันจะอยากเปลี่ยนแปลงอะไรโลกนี้หรอกนะ ของแบบนั้นมันน่าเบื่อเกินไป ! แต่ถ้าพวกคุณยังมายุ่งให้รกสายตาฉันอีก คุณเชื่อไหมว่าฉันสามารถทำให้ทั้งกลุ่มกิเลนออกมาได้เลย ! ไม่รู้ว่าถึงตอนนั้นราชวงศ์เล็ก ๆ ของคุณจะสามารถต่อสู้ด้วยได้หรือเปล่าเนี่ยสิ ? เอาละที่ฉันพูดทั้งหมดเป็นความจริง อยากจะลองก็ได้ แต่ต้องแลกกับชีวิตปลาเน่าในกองทัพพวกคุณเยอะหน่อยนะ !”
แน่นอนว่าชายหนุ่มต้องจ่ายให้กับคำพูดที่ตัวเองออกมาในวันนี้ แต่เขาก็คิดว่ามันคุ้ม ! เพียงแต่ตอนที่ฉู่เหินพูดถึงกลุ่มกิเลน ชายชรายังไม่เข้าใจนักว่ากลุ่มกิเลนคืออะไร ! ทว่าเขาก็ดีรู้ว่าในเมื่ออีกฝ่ายกล้าพูดมันออกมาแบบนี้ ก็ย่อมแสดงว่ามีความมั่นใจพอตัวทีเดียว !
ดังนั้นเขาจึงรับปากว่าจะนำข้อความนี้ไปบอกราชวงศ์ และก่อนที่จะไปก็ได้พาทั้ง 2 คนที่ออกมาก่อนหน้านี้กลับไปด้วย ! ด้วยมีหลายเรื่องที่เขาไม่แน่ใจ จึงจำเป็นต้องไต่สวนพยานบุคคลก่อน อีกทั้งหลังจากที่กลับมาถึง ยังไงเสียทางราชวงศ์ก็ต้องถามกับ 2 คนนี้แน่นอนอยู่แล้วด้วย !
