บทที่ 628 ปฏิบัติภารกิจลุล่วง
บทที่ 628 ปฏิบัติภารกิจลุล่วง
ขุนนางคนนั้นชักสีหน้าเล็กน้อย “คุณหัวหน้าพรรค คุณต้องการประชดพวกผมหรือยังไง !” สิ้นเสียงนั้น หัวหน้าพรรคก็ตัวสั่นทันที !
ด้วยเขาไม่รู้จริง ๆ ว่าตัวเองพูดอะไรตรงไหนไม่ถูกต้อง ! ทำไมขุนนางคนนี้ถึงได้โกรธจนจะกินหัวแบบนี้ และเมื่อเขากลับมาคิดคำทบทวน มันก็ไม่เห็นว่ามีตรงไหนที่พูดผิดเลย ออกจะนอบน้อมต่ออีกฝ่ายเสียด้วยซ้ำ หรือว่าอีกฝ่ายต้องการให้ตัวเองก้มหัวกราบเขาเลยหรือยังไง !
คนในพรรควายุอัสนีที่ดูอยู่รอบข้างที่ได้ยินบทสนทนาของทั้งสองก็รู้สึกอึดอัดใจ เพราะมีเพียงหัวหน้าที่ยังไม่รู้สึกตัวอยู่คนเดียว ! แต่พวกเขาก็พอจะรู้สึกนิสัยขี้กลัวของหัวหน้าดี จึงทำให้บทสนทนากลายเป็นว่าเหมือนฝั่งของพวกเขาดูออกจะเกินจริงไปหน่อย
ยังไม่ทันที่หัวหน้าจะได้พูดอะไรออกมา ก็มีเสียงคำรามคล้ายกับเสียงมังกรดังขึ้น ทำให้ทุกคนเงยหน้าขึ้นมอง และก็ได้เห็นมังกรตัวใหญ่บินลอยมา ! ซึ่งในตอนที่มันกำลังจะร่อนลง พวกเขาถึงได้เห็นว่าคนที่นั่งอยู่บนมังกรก็คือศิษย์พี่หกแห่งบ้านวายุ และคนของบ้านวายุอีกจำนวนหนึ่ง ! ที่ตามมาด้วย ก่อนที่พวกเขาจะกระโดดลงมาด้านล่างพร้อมกัน
เมื่อหัวหน้าพรรคเห็นฉู่เหินใบหน้าก็ถอดสี และรีบก้าวไปข้างหน้าหนึ่งก้าว “แกยังกล้ามาที่นี่ทั้ง ๆ ที่ทำเรื่องผิดกับราชวงศ์อีกอย่างงั้นเหรอ ใจกล้าไม่เบานี้ ! ดูเหมือนว่าพรรควายุอัสนีคงต้องตัดเนื้อร้ายอย่างแกออกไปเสียแล้ว ไม่งั้นพวกเราคงได้เหนื่อยตายกับแกอีกแน่ !”
ทันทีที่ฉู่เหินมาถึง เขายังไม่ทันได้พูดอะไรด้วยซ้ำ คนอื่นก็ด่าว่าประณามเขาแล้ว ! แต่ชายหนุ่มเพียงปรายตามองคนพวกนั้นอย่างไม่สนใจ แล้วเดินมาหยุดที่ด้านหน้าของอาจารย์และผู้เฒ่าฮวา ! ก่อนที่เขาจะเอากำปั้นชนกันและพูดพร้อมรอยยิ้ม “คารวะท่านอาจารย์ ผู้เฒ่าฮวา ภารกิจในครั้งนี้สำเร็จลุล่วงด้วยดี !”
เมื่อได้ยินดังนั้น ใบหน้าของทั้งสองก็เผยรอยยิ้ม ! เพราะการที่ภารกิจสำเร็จด้วยดี นั่นก็แปลว่าสามารถช่วยชีวิตของเจ้าสามได้ ! ว่าแล้วจูเก๋อโยวหมิงก็ก้าวไปตบบ่าของฉู่เหินเบา ๆ
…ในเวลาเดียวกันนี้เอง พวกราชวงศ์ก็ก้าวมาทางพวกเขาทั้งสาม
“คุณชายฉู่ ได้โปรดหยุดก่อน พวกเรามาที่นี่เพื่อส่งตัวเจ้าของสร้อยเขี้ยวหมาป่าคนนั้น ดังนั้นคุณชายฉู่โปรดปล่อยตัวองค์ชายของพวกเราด้วย” ฉู่เหินที่เดิมทีกำลังจะกลับไปช่วยศิษย์พี่สามเป็นต้องหยุดชะงักเมื่อได้ยินประโยคนั้น แล้วจึงหันหลังกลับไปมองจนได้เห็นเข้ากับกู้เฟิงจือ
เมื่อเห็นหน้ากู้เฟิงจือ ชายหนุ่มก็ดีใจเป็นอันมาก รีบเดินปรี่เข้าไปหา โดยไม่หยุดพูดกับพวกราชวงศ์สักคำ ซึ่งพวกเขาก็คิดว่านี้เป็นเรื่องธรรมดาอยู่แล้ว เพราะขนาดตัวองค์ชายอีกฝ่ายยังไม่เห็นหัว แล้วจะนับประสาอะไรกับขุนนางอย่างพวกเขากันล่ะ ?
“พี่กู้ไม่ได้เจอกันนาน” เมื่อมาถึงตัวอีกฝ่าย ฉู่เหินก็ยึดสองมือของคนตรงหน้าแล้วพูดอย่างตื่นเต้น โดยทางด้านกูเฟิงจือเอง เขาก็ได้แต่มองหน้าฉู่เหินอย่างตกตะลึง เพราะคิดไม่ถึงว่าตัวเองจะถูกฉู่เหินช่วยเอาไว้แบบนี้ จนในใจตีกันวุ่นไปหมด ว่าทำไมภายในระยะเวลาสั้น ๆ อีกฝ่ายถึงมีอำนาจได้ถึงขนาดนี้ !
เมื่อเปรียบกับชีวิตของเขาที่เหมือนกับหมาข้างถนนแล้วช่างราวกับฟ้ากับเหว ! นั่นทำให้เขาอดที่จะถอนหายใจอย่างปลงตกไม่ได้ ! แต่การได้เจอเพื่อนเก่าแบบนี้ ก็ทำให้เขารู้สึกดีใจไม่น้อยเช่นกัน “คิดไม่ถึงว่าผ่านมาสองสามปีนี้ เราจะมีโอกาสได้พบกัน ถ้าไม่ได้นายช่วยไว้ น่ากลัวว่าฉัน…”
พูดถึงตรงนี้อยู่ ๆ เขาก็หยุดพูด เพราะนึกขึ้นมาได้ว่าตัวเองได้ให้สัญญากับพวกราชวงศ์ไว้ และเมื่อคิด ๆ ดู เขาก็ไม่อยากสร้างความวุ่นวายให้กับฉู่เหินด้วย ดังนั้นจึงตัดสินใจปิดปากเงียบ
กู้เฟิงจือก้าวไปสวมกอดฉู่เหินแล้วยิ้มหัวเราะออกมา ! ซึ่งอ้อมกอดของผู้ชายสองคนนี้ ไม่ได้มีความรู้สึกอะไรมากมาย มีเพียงแค่มิตรภาพเท่านั้น !!!
จากนั้นฉู่เหินก็ให้สัญญาณกับศิษย์พี่หกว่าให้ปล่อยตัวคน ! ต้องอย่าลืมว่าชายวัยกลางคนผู้นี้คือหนึ่งในเชื้อพระวงศ์คนหนึ่ง ดังนั้นช่วงเวลาที่เขาถูกฉู่เหินจับตัวมา ก็นับได้ว่านั่นเป็นเวลาที่หม่นหมองที่สุดในชีวิตเขาเลย
ต้องที่ฉู่เหินส่งคนคืน ใบหน้ายังเจือรอยยิ้มขณะพูด “ฉันคืนคนให้พวกนายแล้วนะ ! หวังว่าต่อไปพวกเราจะเป็นมิตรสหาย ไม่ใช่ศัตรู” เมื่อพวกราชวงศ์ได้ยินก็พยักหน้ารับ อีกทั้งปากยังพูดยินดีไม่หยุดปาก
แต่ด้านของหัวหน้าพรรควายุอัสนี มาตอนนี้เขาก็ได้แต่มองทั้งหมดอย่างโง่งมไปแล้ว เดิมทีเขานึกว่าพวกราชวงศ์จะมาหาเรื่องพวกเขาเสียอีก ทว่าคิดไม่ถึงว่าผลลัพธ์จะออกมาเป็นแบบนี้ และเมื่อเขาคิดแบบนั้น ในใจก็อยากจะตบปากตัวเอง ด้วยรู้อย่างนี้ไม่ต้องพูดอะไรเลยเสียยังจะดีกว่า ! เพราะมาตอนนี้ตัวเองก็ได้ทำผิดพลาดครั้งใหญ่ลงไปแล้ว
ก็ดูสิ ! ขนาดพวกราชวงศ์ยังก้มหัวขอโทษฉู่เหินเลย ! แล้วเกิดเด็กนี้ไม่พอใจขึ้นมา พรรคนี้อาจถึงคราวต้องเปลี่ยนมือผู้ครอบครองเลยก็ว่าได้ กล่าวได้ว่าชายคนนี้เขาคิดถึงแต่ผลประโยชน์ของตัวเอง ไม่เคยเรื่องถึงเรื่องอื่นเลย !
หลังจากที่ฉากนั้นจบไป เขาก็รีบพูดขึ้นพร้อมรอยยิ้มว่า “เพื่อนของหลานฉู่กลับมาแล้วเหรอ ? นายก็อย่าทำให้พวกเราอกสั่นขวัญนักสิ ดีใจด้วยนะที่หาเพื่อนเจอ ! เดี๋ยวสักพักฉันจะให้คนมอบของรับขวัญชุดใหญ่เลยเป็นไง”
ได้ยินประโยคนี้ ฉู่เหินก็อดไม่ได้ที่จะหันหน้าไปมองอีกฝ่าย พร้อมกับคิดในใจว่าชายผู้นี้หน้าหนาเกินไปหน่อยแล้ว ก่อนหน้านี้เขาเพิ่งพูดตัดขาดตัวเองอยู่เลยไม่ใช่หรือ มาตอนนี้กลับเปลี่ยนสีหน้าได้รวดเร็วจริงนะ
“หัวหน้า คุณแก่เกินไปแล้วหรือเปล่า เมื่อกี้ฉันจำได้ว่าคุณเพิ่งจะไล่ฉันออกไปเองนะ”
“ผิดแล้ว ๆ นั้นเป็นความเข้าใจผิดจริง ๆ ฉันไม่มีทางทำเรื่องไม่มีหัวคิดแบบนั้นอยู่แล้ว” พูดจบเขาก็พบว่าเสียงหัวเราะของตัวเองช่างเหือดแห้งเสียเหลือเกิน
ในตอนที่ทุกคนไม่ทันได้ตั้งตัว เขาก็รีบปลีกตัวจนไม่มีใครห้ามเขาทัน และในทันทีที่หัวหน้าพรรควายุอัสนีหายตัวจากไป จูเก๋อโยวหมิงก็กลายเป็นคนที่ต้องหาที่พักให้กับพวกของราชวงศ์แทน ด้วยไม่ว่ายังไงพวกเขาก็จะเสียมารยาทกับอีกฝ่ายไม่ได้
อีกทั้งคนพวกนี้ก็ทำท่าเหมือนยังไม่อยากกลับไปด้วย เพราะต้องเข้าใจว่าที่พวกขุนนางมาที่นี่ในครั้งนี้ไม่เพียงแค่มารับคนกลับ ด้วยพวกเขายังมีเรื่องอื่นให้ต้องทำ และหนึ่งในนั้นก็คือการเชิญฉู่เหินมาเป็นแขกขององค์จักรพรรดิ
ภารกิจของเขายังไม่ทันเสร็จลุล่วง แล้วเขาจะกลับไปได้ยังไง ? อีกทั้งเขาพบว่าตอนนี้ฉู่เหินก็ติดธุระอื่นอยู่เช่นกัน ดังนั้นเขาจึงคิดจะอยู่ที่นี่รอ…
ส่วนทางด้านชายหนุ่มนั้น เขาก็ไม่ได้สนใจอะไรกับอีกฝ่ายมากเท่าไรนัก จึงมุ่งหน้ากลับบ้านวายุทันที ด้วยบาดแผลของศิษย์พี่สามเป็นมานานเกินไปแล้ว ไม่อาจปล่อยให้มันนานไปมากกว่าได้อีก !!!
หลังจากที่กลับมา ฉู่เหินก็มอบของทั้งหมดให้กับผู้เฒ่าฮวา จนผู้เฒ่าฮวาถึงกับพูดไม่ออก เพราะทั้งหมดมันสามารถทำให้พี่สามกลับมาเป็นเหมือนเมื่อก่อนได้อย่างสมบูรณ์ และเมื่อผู้เฒ่าฮวาได้สติกลับมา ชายหนุ่มก็ได้หยิบเอาของวิเศษที่หาได้ออกมาอีก
“ท่านปู่ฮวา คุณลองดูนี้ ผมคิดว่านี้อาจจะเป็นประโยชน์กับงานนี้ไม่มากก็น้อย บางทีผลลัพธ์อาจจะดีกว่าด้วย” ผู้เฒ่าฮวาได้ยินดังนั้นก็เงยหน้าขึ้นมอง แล้วก็ต้องเบิกตากว้างอย่างตกใจ เมื่อเขาพบว่าของที่ฉู่เหินนำออกมาอย่างหลังสุด เป็นของวิเศษล้ำค่าหรือจะเรียกว่าวัตถุดิบขั้นเซียนเลยก็ว่าได้ !
ถ้าใช้ของพวกนี้รักษาพี่สามหรือตัวเองใช้เอง จะต้องทำให้เลื่อนขั้นได้มากกว่าหนึ่งขั้นขึ้นไปแน่ เช่นนี้ผู้เฒ่าฮวาจึงประคองมันด้วยมือที่สั่นเทา เพราะถ้าใช้มัน เขาก็เชื่อว่าจะทำให้พลังวรยุทธ์ของตัวเองเลื่อนขั้นเกินกว่าขั้นเทพดาราได้เลย !!!
เห็นท่าทางตื่นเต้นของผู้เฒ่าฮวา ฉู่เหินก็รู้ว่ามันใช้ได้ เขาจึงได้พูดไป “ผู้เฒ่าฮวา ในเมื่อมันใช้ได้ งั้นคุณก็เอาไปใช้เถอะ ! ด้วยถ้าอยู่ที่ผมก็ไม่มีประโยชน์มากเท่าไร”