ยอดชายากับองค์หนูน้อยแห่งจวนอ๋องอี้ – บทที่ 4 แยกทาง เธอต้องการแยกทาง

ยอดชายากับองค์หนูน้อยแห่งจวนอ๋องอี้

ยอดชายากับองค์หนูน้อยแห่งจวนอ๋องอี้ บทที่ 4 แยกทาง เธอต้องการแยกทาง

ส่วนเสิ่นอี่ว์และกู้โม่หานที่หนีหัวซุกหัวซุนไป ทั้งสองคนกลับไปที่เรือนหน้า กู้โม่หานนั่งอยู่บนตั่ง ใบหน้าไม่มีจุดไหนดีเลย ท้ายทอยยังมีเลือดไหล

เสิ่นอี่ว์ตกใจจนไม่กล้าพูดอะไร

เขาเคยเจอท่านอ๋องอยู่ในสภาพเละเทะอนาถอย่างนี้ที่ไหนกัน ขนาดอยู่ในสนามรบยังไม่เคยอนาถขนาดนี้มาก่อน!

เสิ่นอี่ว์เอ่ยขึ้นอย่างระมัดระวัง “ท่านอ๋อง บัดนี้พระชายาต่างจากเมื่อก่อนมากนัก…”

กู้โม่หานมองเขาเขม็ง เข้าใจความหมายของเสิ่นอี่ว์ดี

เขาเดือดดาลนัก ดวงตาแดงก่ำคู่นั้นจนถึงตอนนี้ยังเคืองและเจ็บ

สตรีผู้นี้สมควรตายนัก!

ท่าทีท่านอ๋อง ราวกับแค้นจนอยากจะเอากระบี่ไปฟันคอหนานหว่านเยียนเลยทีเดียว

เสิ่นอี่ว์ใจสั่นเป็นกลองเพล เตือนอย่างระมัดระวังว่า “ท่านอ๋อง อีกสิบวันท่านก็จะแต่งงานแล้ว ชีวิตของพระชายาเกี่ยวพันกับการที่ท่านจะได้แต่งงานกับแม่นางหยุนอย่างราบรื่นหรือไม่ ท่านอดทนไปก่อนเถิด”

ทน?

เพื่ออี่ว์โหรว กู้โม่หานต้องทนจริงๆ! แต่ก่อนหน้านั้นเขายังมีเรื่องต้องทำ!

“รีบส่งคนไปล้อมเรือนเย็นเอาไว้ หากหนานหว่านเยียนหนีออกจากเรือนเย็นไปได้ครึ่งก้าว ข้าจะตัดหัวเจ้าซะ!”

“อีกอย่าง ให้พ่อบ้านกาวไปจับตาสังเกตความเคลื่อนไหวของเรือนเซียงหลิน ตอนนี้หนานหว่านเยียนเปลี่ยนไปแทบจะเป็นคนละคน ไม่เพียงงดงามแล้ว ยังมีอาวุธแปลกประหลาดมากมายในมืออีก ข้าจะดูสิว่า วันๆนางทำอะไรบ้าง! ทำไมถึงได้ร้ายกาจขึ้นอย่างนี้!”

“ขอรับ ท่านอ๋อง” เสิ่นอี่ว์ลังเลเล็กน้อย อยากจะพูดว่า ต้องสืบชาติกำเนิดเด็กสองคนนั่นหรือไม่ แต่พอเห็นสีหน้าดุดันของกู้โม่หาน เห็นได้ชัดว่าเดือดดาลมาก เลยไม่กล้าพูดอะไร ได้แต่รับคำสั่งจากไป

กู้โม่หานเปลี่ยนเสื้อผ้า กักเก็บอารมณ์โกรธเดือดดาลที่พ่ายแพ้ในเงื้อมมือหนานหว่านเยียนวันนี้ไป และเปิดประตูเดินมาถึงเรือน

ทันใดนั้น พลันมีนกพิราบขาวหลายตัวบินผ่านเหนือหัวเขา มีตัวหนึ่งในนั้นลวดลายเห็นได้ชัดว่าต่างจากตัวอื่น ที่ขาเหมือนมีอะไรผูกไว้

กู้โม่หานหรี่ตามอง สังหรณ์ว่าผิดปกติ เขากระโดดเหาะลอยขึ้นไปจับตัวนกพิราบขาวที่ต่างจากตัวอื่น นั่นไง ที่ขามันมีผูกกระดาษม้วนแผ่นเล็กไว้ เขาเปิดออกดู

คืนนี้ลอบฆ่าหนานหว่านเยียนสามคนแม่ลูก อย่าให้รอดชีวิตแม้แต่คนเดียว!

หลังจากกู้โม่หานเห็นตัวหนังสือบนกระดาษชัดๆ สีหน้าหล่อเหลาของเขาก็เปลี่ยนไปเล็กน้อย

ฆ่าสามคนแม่ลูก?

วันนี้เขาพึ่งจะได้รู้ว่าหนานหว่านเยียนมีลูกสาวสองคน ทำไมจะมีคนฆ่าพวกนางเสียเล่า?

ยิ่งไปกว่านั้น นกพิราบสื่อสารนี้บินมาจวนอ๋อง เห็นได้ชัดว่ามีคนจงใจนัดแนะกันไว้แล้ว!

กู้โม่หานรีบตะโกนเรียกเสิ่นอี่ว์ สั่งการเล็กน้อย ทั้งสองคนรีบมุ่งหน้าไปยังเรือนเซียงหลิน

ที่เรือนเซียงหลิน

หนานหว่านเยียนพาลูกสาวสองคนปีนกำแพงหนี แต่ยังไงก็เป็นสตรี กำแพงสูงของจวนอ๋องปีนขึ้นมานั้นทั้งยุ่งยากทั้งลำบาก ยังมีหมาอีกสองตัว ยังไม่ทันหลบหนีสำเร็จ ก็โดนองครักษ์กลุ่มหนึ่งจับตัวไว้

สามคนแม่ลูกรวมถึงหมาสองตัวโดนจับตัวกลับมายังเรือนเย็นอีกครั้ง

เด็กหญิงสองคนเห็นได้ชัดว่าเสียใจ หนานหว่านเยียนกลับเตรียมใจไว้ก่อนแล้ว

ถึงเธอจะไม่สนิทกับกู้โม่หาน แต่เธอเคยได้ยินเรื่องวิธีการดุจฟ้าผ่าของเขามาก่อน และเคยโดนมาแล้ว

ครอบครัวของเธอมากขนาดนี้ ถ้าไปเงียบเชียบอาจจะพอมีความหวัง นี่รุมทำร้ายผู้ชายสารเลวแล้ว อึกทึกครึกโครมอย่างนี้ มีหรือจะไปได้อีก….

หนานหว่านเยียนลูบเด็กหญิงสองคน “ไม่เป็นไร ต่อไปถ้ามีโอกาสอีก พวกเราจากไปอย่างสง่าผ่าเผย แต่วันนี้พวกเจ้าทำอะไรกันน่ะ ทำไมถึงได้ไปเจอกับหมา…ผู้ชายคนนั้นได้?”

วันต่อมาที่เธอโดนตีมาอยู่เรือนเย็นก็พบว่า ระบบการรักษาของห้องวิจัยในยุคปัจจุบันรวมถึงยาหายากบางอย่างก็ตามเธอมาที่นี่ด้วย

จากนั้นยังมีหมาอ้วนสองตัวที่เธอเลี้ยงไว้ ตัวหนึ่งชื่อเผ็ด ตัวหนึ่งชื่อไม่เผ็ด

ตอนนั้นร่างเดิมมีแต่บาดแผลเต็มตัว เธออาศัยระบบรักษานี้ช่วยตนเองที่นอนหายใจรวยริน และใช้ยาที่ห้องวิจัยคิดค้นออกมาชำระล้างพิษบนใบหน้า

แต่พิษบนหน้าเธอเข้ากระดูกไปแล้วสามส่วน ไม่เพียงเละอยู่บนหน้า ในตัวยังเหลือพิษ เมื่อวานถึงเป็นการชำระล้างพิษทั้งหมดออกไปอย่างสิ้นเชิง วันนี้เลยคิดจะจากไป แต่ไม่คิดว่าจะล้มเหลว

พอได้ยินอย่างนั้น เกี๊ยวน้อยก็เล่าเหตุการณ์อย่างละเอียดด้วยความรู้สึกผิด

สุดท้ายนางทำหน้าพองลมอย่างโมโห รู้สึกเสียใจหนักหนาว่า “ถ้ารู้แต่แรกว่าเขาเป็นคนเลว ข้าน่าจะอัดเขาก่อนเลย!”

ซาลาเปาขยี้ตา ดวงตาแดงเรื่อ ใบหน้าน่ารักเต็มไปด้วยความรู้สึกผิด

“ขออภัยเจ้าค่ะท่านแม่ ข้าไม่ดีเอง ถ้าข้าเร็วกว่านี้ บางทีพวกเราคงหนีไปสุดหล้าฟ้าเขียวแล้ว…”

หนานหว่านเยียนได้ยินอย่างนั้นก็ใจอ่อนยวบ ไหนเลยจะใจร้ายโทษพวกนางว่าปีนกำแพงโดยพลการ

อีกอย่างเด็กสองคนนี้รักเธอขนาดไหนกัน ยอมรุมอัดกู้โม่หานเพื่อเธอ พอคิดขึ้นมาเธอก็รู้สึกอบอุ่นใจมาก

หนานหว่านเยียนลูบผมอ่อนนุ่มของสองสาวพี่น้อง น้ำเสียงอ่อนลงไม่น้อย “แม่รู้ว่าพวกเจ้าทำเพื่อช่วยแม่ประหยัดเวลา แม่ดีใจมาก แต่พวกเจ้าเป็นเด็ก ไม่มีผู้ใหญ่ปกป้องคุ้มครอง ปีนกำแพงโดยลำพังมันอันตรายเกินไป รู้ไหม?”

“หากวันนี้ไอ้สารเลวนั่นทำอะไรกับพวกเจ้า แม่คงเสียใจไปชั่วชีวิตแน่”

สองสาวพี่น้องมองสบตา แลกเปลี่ยนความคิดกัน

เกี๊ยวน้อยพยักหน้าอย่างว่าง่าย มือน้อยยกขึ้นสูง พูดอย่างมั่นใจเต็มร้อยว่า “ท่านแม่วางใจได้ ต่อไปข้าจะไม่ทำอย่างวันนี้อีกแล้ว”

หนานหว่านเยียนใบหน้าเต็มไปด้วยรอยยิ้ม และหอมแก้มกับใบหน้าของเด็กสองคน “ถูกแล้ว นี่สิถึงจะเป็นลูกสาวสุดที่รักของแม่!”

พูดจบ ซาลาเปาพลันบิดตัวเล็กน้อย นางกัดนิ้วตนเองพลางมองหนานหว่านเยียน มีท่าทางอยากพูดแต่ไม่กล้า แต่สุดท้ายนางทำใจกล้า ดวงตากลมใสมีแววรอคอย

“ท่านแม่ คนเลวเมื่อครู่ เป็น…ท่านพ่อใช่หรือไม่…”

พอพูดจบ ก็โดนเกี๊ยวน้อยตัดบททันทีว่า “ท่านแม่! วันนี้หนีไม่ได้ ซาลาเปาก็เสียใจ พวกเราอยากได้ยินท่านแม่ร้อง 《เสือสองตัว》แล้วล่ะ ได้ไหมท่านแม่?”

นางเบ้ปากน้อยๆพลางโผเข้ากอดหนานหว่านเยียน มองนางสายตาละห้อย

หนานหว่านเยียนได้ยินไม่ชัดว่าเจ้าก้อนแป้งพูดว่าอะไร นางกอดเด็กน้อยสองคนอย่างรักใคร่พลางยิ้มบอก “ได้สิ แม่จะไปล้างมือก่อน เมื่อครู่ทุบตีคนเลวแล้วมือสกปรก จะทำสุดที่รักของแม่สกปรกไม่ได้!”

พูดจบ เธอลุกขึ้นเดินไปอีกทาง

พอเธอไป เกี๊ยวน้อยหันไปบอกเจ้าก้อนแป้งว่า “ซาลาเปา ผู้ชายเมื่อครู่เลวขนาดนั้น ยังรังแกท่านแม่ จะเป็นท่านพ่อได้อย่างไร ต่อไปเจ้าอย่าเอ่ยขึ้นกับท่านแม่อีกเลย ท่านแม่จะได้ไม่เสียใจ นะ~”

เจ้าก้อนแป้งสีหน้าผิดหวัง นางอยากได้ท่านพ่อมาก แต่นางเชื่อฟังคำพูดพี่สาว “อืม ข้าเชื่อพี่สาว จะไม่พูดอีกแล้ว…”

หนานหว่านเยียนเดินมาข้างสระน้ำ รอยยิ้มบนใบหน้าหายไป เธอมองฝุ่นบนมือ ดวงตาหรี่ลงเล็กน้อย สายตาเต็มไปด้วยอันตรายและความเคียดแค้น

ห้าปีมานี้ ถ้าไม่อาศัยสินสมรสเดิมที่ร่ำรวยของร่างเดิมและระบบนี้ เธอกับสองสาวพี่น้องไม่มีทางอยู่อย่างปกติสุขจนถึงตอนนี้!

ตอนนี้เจอแบบนี้เข้าไป ดูท่าชีวิตต่อจากนี้ของเธอคงไม่ดีละ!

เธอใช้แรงถูมือ อยากจะลอกผิวหนังที่โดนกู้โม่หานสัมผัสไปให้หมด

เธอพูดอย่างกัดเขี้ยวเคี้ยวฟันว่า “กู้โม่หาน ห้าปีมานี้นายไม่เคยสนใจความเป็นความตายของพวกเราแม่ลูก ฉันอยากไป ให้มันตัดขาดจากกันไปอย่างนี้ นายกลับเข้ามาหาเรื่องถึงที่ และยังคิดแตะต้องลูกสาวฉัน สมควรตายนัก!”

เธอไม่คิดมาก่อนว่า กู้โม่หานจะจำลูกสาวตัวเองไม่ได้ ยังด่าเธอว่าแพศยาต่อหน้าลูกอีก!

ไอ้เลวอย่างนี้ จะเอามาทำอะไร?

แยกทาง!

เธอต้องแยกทางกับผู้ชายสารเลวนี่ให้ได้!

ยอดชายากับองค์หนูน้อยแห่งจวนอ๋องอี้

ยอดชายากับองค์หนูน้อยแห่งจวนอ๋องอี้

Status: Ongoing
หนานหว่านเยียน อัจฉริยะแห่งวงการแพทย์ ข้ามภพมาเป็นพระชายาอัปลักษณ์ผู้ถูกทอดทิ้งแห่งจวนอ๋องอี้ แต่ด้วยมันสมองของอัจฉริยะ และความแข็งแกร่งฉบับสาวยุคใหม่ เธอจะพลิกเกมกลับมาแก้แค้นไอ้พวกเศษสวะให้สิ้นซาก!

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท