ยอดชายากับองค์หนูน้อยแห่งจวนอ๋องอี้ บทที่ 46 งานแต่งงาน
ทันใดนั้น ทุกคนก็เห็นหญิงสาวที่สวมชุดสีแดงกำลังเดินมาทางห้องโถงด้านหน้าในเวลานี้
เส้นผมของนางถูกม้วนเอาไว้แบบสบายๆ ใช้ปิ่นปักผมปักเอาไว้อย่างเรียบง่ายเท่านั้น ดวงตาคู่สวยหรี่ลงเล็กน้อย มุมปากแฝงไปด้วยรอยยิ้ม ชุดแดงหมุนเป็นเกลียวคลื่น อิริยาบถนุ่มนวลงดงาม
มีคนหนึ่งสายตาแหลมคม จำปิ่นปักผมที่อยู่บนศีรษะของหนานหว่านเยียนได้ ตะโกนกล่าวขึ้นมาทันที: “ปิ่นปักผมที่อยู่บนศีรษะของนาง คือ ‘โหย่วฟ่งไหลยี่’!”
ได้ยินคำพูด ทุกคนต่างก็ใช้มองไปที่หนานหว่านเยียนด้วยสายตาที่ประหลาดใจ
ถึงกับสามารถสวมใส่ “โหย่วฟ่งไหลยี่” ได้ ผู้หญิงคนนี้มีฐานะอะไรกันแน่? !
หนานหว่านเยียนมีชื่อเสียงฉาวโฉ่มาตลอด ชายาผู้ถูกทิ้งหน้าตาก็ขี้เหร่เช่นกัน ไม่ใช่นางอย่างแน่นอน!
ทุกคนยังคิดกันอยู่ หญิงสาวในชุดแดงก็เดินผ่านฝูงชน และเดินไปถึงข้างกายของกู้โม่หาน
“ท่านอ๋อง หม่อมฉันอยู่ในเรือนเซียงหลินดีๆ ทำไมจู่ๆถึงให้หม่อมฉันเข้ามา?”
สายตาดุร้ายของกู้โม่หานจ้องมองไปที่หนานหว่านเยียน เห็นนางทำหน้าไร้เดียงสา ในใจก็ยิ่งโกรธมากขึ้น
ทันทีที่เห็นนาง เขาก็รู้สึกว่าไม่มีเรื่องดีแน่!
ได้ยินคำพูก ทุกคนรู้สึกราวกับถูกฟ้าผ่า ตกใจจนลูกตาแทบจะถลนออกมาแล้ว!
นางแทนตัวเองว่าหม่อมฉัน พระชายาของกู้โม่หานมีคนเดียวเท่านั้น หยุนอี่ว์โหรวในตอนนี้ก็เป็นเพียงแค่พระชายารองเท่านั้น หรือว่านี่คือ……
คนที่งดงามราวกับนางฟ้าบนสวรรค์คนนี้ ก็คือหนานหว่านเยียน!!!
“ไหนบอกว่าพระชายาอี้คนนี้เจ้าเล่ห์เพทุบายท่าทางลับๆล่อๆไม่ใช่หรือ ทำไมถึงเป็นหญิงสาวที่มีท่วงท่าสง่างามเช่นนี้?”
“จึ๊ อ๋องอี้ช่างโชคดีจริงๆ เดิมทีคิดว่าคุณหนูอี่ว์โหรวก็งดงามมากพอแล้ว คิดไม่ถึงว่าพระชายาเอกคนนี้ต่างหากที่งดงามจนทำให้คนตกตะลึง!”
เดิมทีหยุนอี่ว์โหรวก็โกรธมากที่หลี่มามาปรากฏตัวขึ้น ตอนนี้คำพูดของคนพวกนี้ก็ยิ่งทำให้นางโกรธจนแทบหมดสติไป
หนานหว่านเยียน! เป็นคู่ปรับของนางจริงๆ!
หลี่มามาก้าวเข้ามา กล่าวอธิบายต่อหนานหว่านเยียนว่า: “บ่าวน้อมทักทายพระชายาอี้ อ๋องอี้แต่งงานในวันนี้ พูดกันตามหลักแล้ว พระชายารองที่เข้าจวนควรจะต้องยกน้ำชาแสดงความเคารพให้กับนายหญิง มิเช่นนั้นจะไม่ถูกหลักกฎเกณฑ์ ด้วยเหตุนี้บ่าวถึงได้ให้ท่านอ๋องเชิญท่านมารับผิดชอบดูแลงานแต่งงาน”
“โอ๊ะ——ที่แท้พระชายาแต่งเข้าจวนยังมีกฎเกณฑ์แบบนี้อยู่” หนานหว่านเยียนทำท่าทางเข้าใจในทันที เดินตรงไปนั่งลงบนตำแหน่งที่นั่งในห้องโถงใหญ่ กล่าวด้วยรอยยิ้มระรื่น: “เช่นนั้นหม่อมฉันก็ทำความเคารพไม่สู้ทำตามคำสั่งแล้ว”
กู้โม่หานเห็นหนานหว่านเยียนกับหลี่มามาเข้ากันเป็นปี่เป็นขลุ่ย ระงับความโกรธเอาไว้
เพื่อโหรวเอ๋อร์แล้ว เขาทำได้แค่อดทนเท่านั้น!
จากนั้น ชายหนุ่มก็เอ่ยปากอย่างขบเขี้ยวเคี้ยวฟัน: “เริ่มพิธีไหว้ฟ้าดินเถอะ”
กู้โม่หานจับผ้าไหมสีแดงของหยุนอี่ว์โหรวมาถึงตรงหน้าของหนานหว่านเยียน พวกเขากำลังจะทำความเคารพ จู่ๆหนานหว่านเยียนกลับเอ่ยปากขึ้นมา——
“ช้าก่อน ท่านอ๋องฐานะสูงศักดิ์ วันนี้ก็แค่รับสนมเท่านั้น พิธีไหว้ฟ้าดินแบบนี้ เกรงว่าคงจะไม่ค่อยถูกหลักกฎเกณฑ์เท่าไหร่ใช่ไหม?”
หลี่มามากล่าวคล้อยตาม: “พระชายากล่าวถูกต้องแล้ว พระชายารองไม่ว่าอย่างไรก็เป็นสนม เข้าจวนมายกน้ำชาแสดงความเคารพแก่นายหญิงก็ถือว่าจบเรื่อง พิธีแปดคนยกเกี้ยวเจ้าสาวกราบไหว้ฟ้าดิน นั่นคือพิธีแต่งงานของพระชายาเอก”
ทีนี้ ทุกคนถึงเพิ่งนึกขึ้นมาได้ วันนี้กู้โม่หานก็แค่รับสนมคนหนึ่งเท่านั้น แต่กลับจัดพิธีใหญ่โตขนาดนี้ ทำให้พวกเขานึกว่าเขากำลังแต่งงานรับภรรยาเอกโดยไม่รู้ตัว
กู้โม่หานโกรธจนยับยั้งอารมณ์เอาไว้ไม่อยู่ บริเวณโดยรอบแผ่ซ่านไปด้วยบรรยากาศที่น่าสะพรึงกลัว “หนานหว่านเยียน! เจ้าจงใจใช่ไหม!”
หนานหว่านเยียนกะพริบตา “นี่ไม่ใช่เรื่องที่ทุกคนก็รู้กันหมดหรือ ทำไมถึงกลายเป็นว่าข้าจงใจ? ข้าไม่ได้เป็นคนกำหนดธรรมเนียมปฏิบัติเสียหน่อย”
หยุนอี่ว์โหรวกัดริมฝีปากที่ซีดขาวเอาไว้แน่น มือข้างที่เล็บหักข้างนั้นกำเอาไว้แน่น มองดูหนานหว่านเยียนที่อยู่ในตำแหน่งสูงอย่างได้รับความอัปยศอดสู
เดิมทีนางก็ไม่มีสินสอดทองหมั้นอยู่แล้ว ยิ่งไม่มีขบวนรับเจ้าสาวที่ยิ่งใหญ่เกรียงไกร หากไม่ได้ทำพิธีไหว้ฟ้าดินกับกู้โม่หานอีก ก็จะต่ำต้อยยิ่งกว่าฝุ่นธุลี ให้คนดูถูกอย่างสิ้นเชิงจริงๆแล้ว!
หนานหว่านเยียน! จะให้นางเสียหน้าไปอย่างสิ้นเชิงจริงๆ!
“ท่านอ๋อง พระชายากล่าวถูกต้องแล้ว วันนี้ในจวนอ๋องแห่งนี้ ท่านกับพระชายาต่างหากที่เป็นนาย ล้วนสมควรนั่งในห้องโถงใหญ่ มองดูอนุภรรยายกน้ำชาแสดงความเคารพ หากท่านยังลังเลอยู่อีก เสียฤกษ์ไป มันจะไม่ดี” หลี่มามากดดันอยู่ด้านข้าง
ความหมายในคำพูดของหลี่มามา ล้วนไม่อนุญาตให้กู้โม่หานโต้แย้งและไม่เชื่อฟังแม้แต่น้อย
กู้โม่หานก็ยิ่งโกรธเป็นฟืนเป็นไฟ “นี่คืองานแต่งงานของข้า ใครกล้าไม่เห็นด้วย? !”
หยุนอี่ว์โหรวระงับเจตนาฆ่าที่โหดร้ายในดวงตาเอาไว้ บนใบหน้าที่งดงามอ่อนโยนมีสีหน้าลำบากใจ นางดึงมุมเสื้อของชายหนุ่มเอาไว้แล้วกล่าวเสียงเบา “ท่านอ๋อง ที่หลี่มามากับพระชายาพูดมาล้วนถูกต้องแล้ว ท่านไปนั่งกับพระชายาเถอะ ไม่ว่าด้วยอารมณ์หรือหลักเหตุผล โหรวเอ๋อร์ก็คือสนม เรื่องพวกนี้ล้วนเป็นสิ่งที่โหรวเอ๋อร์ควรทำทั้งนั้น”
นางไม่อยากเห็นกู้โม่หานอับอาย ยิ่งไม่อยากเสียโอกาสเช่นนี้ไป ถูกคนขัดขวางทำให้สูญเสียบุพเพสันนิวาสไป อย่างไรเสีย——เรื่องเล็กน้อยอดทนไม่ได้จะทำให้เสียการใหญ่
แขกเหรื่อพวกนั้นได้ยินแล้วล้วนรู้สึกเสียดาย คิดว่าหนานหว่านเยียนกลานเป็นพระชายาชั่วร้ายที่แสดงอำนาจบีบคั้นคน
ถึงแม้หยุนอี่ว์โหรวจะแต่งงานเข้าจวนอ๋องไป วันหน้าก็ไม่รู้ว่าจะมีชีวิตอย่างไร
กู้โม่หานขมวดคิ้ว “โหรวเอ๋อร์……”
หยุนอี่ว์โหรวยิ้มให้เขา ชายหนุ่มกำหมัดแน่น ท้ายที่สุดก็ไปนั่งลงด้านข้างของหนานหว่านเยียนด้วยใบหน้าเคร่งขรึม
หนานหว่านเยียนกล่าวชมอย่างใจกว้าง ความหมายในรอยยิ้มไม่ชัดเจน
“พระชายารองช่างสมกับที่เป็นกุลสตรีที่มาจากตระกูลใหญ่มีฐานะจริงๆ สุภาพอ่อนน้อม”
หยุนอี่ว์โหรวรับน้ำชาที่สาวใช้ส่งมา เดินทีละก้าว มาถึงหน้าหนานหว่านเยียนอย่างเคารพนบนอบ คุกเข่าลงไปต่อหน้าหนานหว่านเยียนกะทันหัน ท่วงท่านั่นอ่อนน้อมถ่อมตน ราวกับหญิงสาวแต่งงานใหม่ที่ได้รับความไม่เป็นธรรมสารพัด
กู้โม่หานมองดูอยู่ด้านข้าง เหมือนถูกกระชากหัวใจ รู้สึกเอ็นดูสงสารและจนใจอย่างสุดจะพรรณนา
แต่กลับไม่มีใครสังเกตเห็น ในตอนที่หยุนอี่ว์โหรวก้มหน้าลง ในดวงตามีประกายความชั่วร้ายแวบผ่านไป
อีกเดี๋ยวตอนที่ยกน้ำชาแสดงความเคารพ นางแกล้งทำน้ำชาสาดใส่ตัวเอง แล้วค่อยใส่ร้ายป้ายสีหนานหว่านเยียน ภายใต้สายตาคนมากมายนางไม่เชื่อหรอกว่า หนานหว่านเยียนจะสามารถพลิกสถานการณ์มาอยู่เหนือกว่าได้!
หยุนอี่ว์โหรวยกมือ ยื่นถ้วยชาให้กับหนานหว่านเยียน “ข้ายกน้ำชาแสดงความเคารพให้กับพระชายา……”
“ดี” หนานหว่านเยียนยื่นมือไปรับถ้วยชา ชั่วขณะที่นิ้วมือของทั้งสองสัมผัสกัน ถ้วยชาในมือของหยุนอี่ว์โหรวก็หลุดจากมือทันที น้ำชาสาดกระจายไปในชั่วพริบตา!
“อ๊า——เจ็บ!”