ยอดชายากับองค์หนูน้อยแห่งจวนอ๋องอี้ บทที่ 50 พระชายาห้าวหาญเกินไปแล้ว
น้ำเสียงของกู้โม่หานกึกก้องทรงพลัง เต็มไปด้วยความโกรธ
“ขอรับ ท่านอ๋อง” พ่อบ้านกาวรับคำสั่งแล้วถอยออกไป
ภายในห้องหอ
ในดวงตาของหยุนอี่ว์โหรวมีการเยาะเย้นและโหดร้ายเล็กน้อยโฉบผ่านไป แต่บนใบหน้ากลับแสดงความกังวลและหวาดกลัว
“ท่านอ๋อง ท่านทำเช่นนี้ พระชายาจะ……คิดว่าโหรวเอ๋อร์พูดเรื่องไม่ดีอะไรข้างหูท่านอีกหรือไม่ และจะยิ่งโกรธโหรวเอ๋อร์มากขึ้นไปอีก?”
“เป็นเพราะโหรวเอ๋อร์ทำให้ท่านอ๋องลำบากใจแล้ว โหรวเอ๋อร์ไม่อยากสร้างปัญหา ยิ่งไม่อยากให้เพราะเรื่องพวกนี้ ทำลายความสัมพันธ์ของท่านอ๋องกับพระชายา”
หยุนอี่ว์โหรวที่อยู่ตรงหน้าช่างน่าสงสาร ราวกับกระต่ายน้อยที่ได้รับความตื่นตระหนกตกใจ กู้โม่หานรู้สึกบีบหัวใจ
“ข้าเคยบอกแล้วว่า ข้าไม่เคยรู้สึกหวั่นไหวต่อหนานหว่านเยียน ในอดีตเป็นเช่นนี้ อนาคตก็ยิ่งจะเป็นเช่นนี้!”
เขาโอบไหล่ของนางเอามา “เจ้าก็ไม่ต้องรู้สึกผิดเช่นกัน คืนนี้หนานว่านยียนอาศัยอำนาจข่มเหงรังแกเจ้าทำให้เจ้าอับอายเช่นนี้ ลงโทษนางก็เป็นเรื่องที่สมควรอยู่แล้ว! วันนี้ข้าจะให้นางชดใช้ในสิ่งที่ตัวเองเคยทำเอาไว้!”
หยุนอี่ว์โหรวถึงได้เม้มริมฝีปาก “เช่นนั้นท่านอ๋องห้ามลงโทษหนักเกินไปนะ…..”
ถึงแม้จะพูดเช่นนี้ แต่ในใจกลับแทบอยากจะให้หนานหว่านเยียนยิ่งอนาถมากเท่าไหร่ก็ยิ่งดี!
นางถึงขั้นเริ่มตั้งหน้าตั้งรอ ท่าทางที่หนานหว่านเยียนคุกเข่าอยู่หน้าประตูอย่างทุละทุเลน่าสมเพชต่อจากนี้แล้ว!
ทั้งสองคนในห้องหอจู๋จี๋อี๋อ๋อกัน และอีกด้านหนึ่ง พ่อบ้านกาวจัดการใช้ให้สาวใช้คนหนึ่ง ไปเชิญหนานหว่านเยียนมา
ในเมื่อเป็นคำพูดที่ล่วงเกินคน เขาไม่ทำมันหรอก
และสาวใช้คนนี้ ก็คือคนที่อยากจะทำร้ายหนานหว่านเยียน ในห้องขังวันนั้น ชื่อชิงหว่าน
“เจ้าค่ะ บ่าวจะจัดการเป็นอย่างดี” ชิงหว่านอดกลั้นความดีใจเอาไว้ รีบไปทางเรือนเซียงหลินอย่างเร่งรีบ
เดิมทีนางก็ไม่ชอบหนานหว่านเยียนอยู่แล้ว ไม่รู้ว่าผู้หญิงเช่นนั้นคู่ควรกับท่านอ๋องเทพสงครามได้อย่างไร
ในที่สุดตอนนี้คุณหนูอี่ว์โหรวก็แต่งเข้าจวนอ๋องแล้ว หนานหว่านเยียนยังไม่ยอมหยุด วางอุบายให้กับคุณหนูอี่ว์โหรวทุกที่ ช่างต่ำทรามจริงๆ!
อีกเดี๋ยว นางก็จะสั่งสอนหนานหว่านเยียนเป็นอย่างดีเลย!
ชั่วครู่หนึ่ง ชิงหว่านก็มาถึงเรือนเซียงหลินอย่างเร่งรีบ
อวี๋เฟิงขวางนางเอาไว้ด้านนอกประตู กล่าวด้วยเสียงเคร่งขรึม “มีธุระหรือ?”
“หลบไป! ข้ามาทำตามคำสั่ง!” ชิงหว่านไม่ได้สนใจเลย พุ่งเข้าไปในลานโดยไม่อนุญาตให้โต้แย้ง มองหาเงาร่างของหนานหว่านเยียนไปทั่วทุกที่
อวี๋เฟิงไม่ค่อยถนัดกับการคบค้าสมาคมกับผู้หญิงเท่าไหร่ และยิ่งหลีกเลี่ยงการปฏิสัมพันธ์กับผู้หญิง ตอนนี้ก็จำต้องตามเข้ามาเช่นกัน
เรือนเซียงหลินในเวลานี้เต็มไปด้วยควัน
เห็นเพียงเซียงอี่ว์และคนอื่นๆถือพัดเฝ้าอยู่ด้านข้างโครงเหล็กสองอัน หนานหว่านเยียนย่างเนื้ออย่างเอ้อระเหย ไม่มีวี่แววผิดหวังท้อใจที่ไม่เป็นที่ชื่นชอบอีกต่อไปเลยแม้แต่น้อย
ชิงหว่านเห็นดังนั้น ก็โกรธขึ้นมาอย่างมาก ปิดจมูกเอาไว้แล้วเดินไปทางนางด้วยลักษณะท่าทางที่ดุดัน “ท่าน! ท่านกำลังทำอะไรอยู่! ถึงกับกล้าวางเพลิงในจวนอ๋อง!”
หนานหว่านเยียนมองตามเสียงไป ก็มองเห็นสาวใช้ที่ร้องเอะอะว่าจะสั่งสอนตัวเอง กำลังคำรามใส่ตัวตัวเองอย่างโอหัง
ชิงหว่านไม่มีความเคารพต่อหนานหว่านเยียนเลยแม้แต่น้อย ยกตนข่มท่าน ถึงขั้นเรียกหยุนอี่ว์โหรวว่าพระชายาโดยไม่หลีกเลี่ยงเลยแม้แต่น้อย!
“ท่านกำลังได้ใจอยู่ใช่ไหม! วันนี้ทำลายงานแต่งงานของคุณหนูอี่ว์โหรว ก็รู้สึกว่าได้รับชัยชนะครั้งใหญ่แล้วหรือ? ! ชายาผู้ถูกทิ้งก็คือชายาผู้ถูกทิ้ง ตอนนี้คุณหนูอี่ว์โหรวแต่งงานเข้าจวนอ๋องแล้ว ท่านอ๋องจะต้องมอบอำนาจของพระชายาให้กับพระชายาหยุนอย่างแน่นอน ถึงเวลานั้น ดูสิว่าเจ้ายังจะสามารถโอหังอะไรได้อีก!”
“อีกอย่าง เมื่อครู่นี้ท่านอ๋องพูดแล้ว ให้ท่านไปคุกเข่าในเรือนซีเฟิง! สำนึกผิดในเรื่องแย่ๆที่ท่านทำลงไป”
ได้ยินคำพูด ดวงตาของหนานหว่านเยียนหรี่ขึ้นมาทันที!
ตอนนี้นางก็เหมือนหญ้ามิสแคนทัสที่ยืนตัวอยู่ท่ามกลางลมหนาว ไม่ทันได้ระวังก็จะมีจุดจบที่ไม่สามารถรับประกันชะตากรรมได้ ยิ่งไม่ต้องพูดถึงว่าตอนนี้ยังเกิดปัญหาขึ้นกับช่องว่างอีก อำนาจที่แท้จริงของพระชายานางจำเป็นต้องเอามาให้ได้ ถึงจะมีธรณีประตูที่สามารถปกป้องตัวเองได้
อีกอย่าง เดิมทีนั่นก็เป็นของของนางอยู่แล้ว เหตุใดนางจะเอามาไม่ได้?
แต่กู้โม่หานยังคิดจะมอบอำนาจของพระชายาให้แก่หยุนอี่ว์โหรวอีก? เฮอะ ดูท่าสิ่งที่นางทำในงานเลี้ยงมงคลสมรสยังไม่เจ๋งมากพอ!
เมื่อคิดเช่นนี้ จู๋ๆหนานหว่านเยียนก็เดินไปทางชิงหว่าน
ชิงหว่านไม่มีความเกรงกลัวเลยแม้แต่น้อย แต่กลับยิ่งเย้ยหยันมากขึ้น “ท่านอ๋องให้ท่านไปคุกเข่าที่เรือนซีเฟิง! ยึกยักอะไรอยู่! รีบไปเร็ว……อุ๊บ!”
คำพูดของนางยังไม่ทันได้พูดจบ ก็ถูกเข็มเงินที่เปล่งแสงเย็นซึ่งไม่รู้ว่าเพิ่มขึ้นมาในมือของหนานหว่านเยียนเมื่อไหร่ แทงเข้าไปในจุดใบ้กะทันหัน พูดไม่ออกมาในทันที
“เห่าเก่งใช้ได้เลยนิ เจ้านายของเจ้าให้เจ้ามาอาละวาดกับข้าหรือ?” หนานหว่านเยียนยิ้มเย้ยหยัน ในดวงตาสะท้อนสายตาหวาดกลัวสุดขีดของชิงหว่านที่กุมลำคอเอาไว้
หนานหว่านเยียนเหมือนมองไม่เห็นความกลัวของชิงหว่าน ดึงเข็มเงินที่ยาวหนึ่งนิ้วออกมาอย่างไม่แยแส ส่ายไปมาตรงหน้าชิงหว่าน “เจ้าพูดอีกทีสิ ข้าชื่ออะไร? เจ้าควรเรียกข้าอย่างไร?”
ในใจชิงหว่านร้องทุกข์ไม่จบสิ้น ดวงตาจ้องมองราวกับระฆังทองแดง มองดูปลายเข็มที่เปล่งแสงเย็นรู้สึกหวาดกลัวสุดขีด
นางไม่รู้ว่าหนานหว่านเยียนใช้วิธีอะไร ถึงกับทำให้ตัวเองไม่สามารถส่งเสียงออกมาได้แม้แต่น้อย
“ไม่พูดใช่ไหม? ดูท่ายังเจ็บไม่พอ!” พูดจบ หนานหว่านเยียนก็สอดเข็มเข้าไปในจุดเสินถิงของนางอย่างรวดเร็ว
ชิงหว่านรู้สึกเพียงแค่วิงเวียนในหัว เจ็บจนทรมานไปทั้งร่างกาย หน้ามืดกำลังจะยืนไม่ไหว
เวลานี้ หนานหว่านเยียนดึงเข็มเงินที่อยู่ในจุดใบ้ของชิงหว่านออกไป ใช้ปลายลิ้นแตะเพดานแสร้งทำเป็นขอโทษ “ไอ๊หยา ข้าลืมไปว่าเจ้าไม่สามารถพูดได้”
ชิงหว่านร้องออกมาด้วยความเจ็บปวดทันที เอ่ยปากก็อยากจะด่ากราด “ท่านนี่มัน……”
หนานหว่านเยียนไม่ให้โอกาสแก่นางเลย ดึงเข็มออกมาเล่มหนึ่งก็แทงลงไปบนจุดฝังเข็มของชิงหว่านกะทันหัน
“ข้าทำไม ข้าคือภรรยาเอกที่แต่งงานอย่างเป็นทางการของอ๋องอี้ และก็เป็นพระชายาเพียงหนึ่งเดียวในจวนอ๋องแห่งนี้ เจ้ากลับไม่เคารพข้าเช่นนี้! อาศัยแค่ข้อนี้ ข้าก็สามารถทำให้เจ้ารับผิดชอบผลที่ตามมาได้เลย!”
“อีกอย่าง กู้โม่หานกำลังคิดอะไรอยู่ข้าไม่รู้ แต่ตอนนี้ข้าสวมตำแหน่งพระชายาอยู่ เจ้ากลับเอาแต่พูดว่าหยุนอี่ว์โหรต่างหากที่เป็นนายหญิง ถึงจะเป็นคนที่ถืออำนาจในจวนอ๋อง กลับดำเป็นขาวกลางวันแสกๆ เจ้าอยากถูกเฆี่ยนขนาดนี้ ข้าย่อมต้องให้เจ้าได้สมปรารถนาอย่างแน่นอน!”
ทันทีหลังจากนั้น หนานหว่านเยียนก็ฝังเข็มลงไปอีกสองสามเข็ม ล้วนฝังลงไปในจุดสำคัญแต่ละจุดของชิงหว่าน จุดสำคัญพวกนี้ล้วนเป็นจุดฝังเข็มที่อันตรายถึงชีวิตในร่างกายมนุษย์ อย่างเบาคือทำให้คนเจ็บปวดจนไม่อยากมีชีวิตอีกต่อไป ในกรณีที่รุนแรงจะทำให้เสียชีวิตไปเลยโดยตรง
หนานหว่านเยียนย่อมเก็บแรงกำลังอยู่แล้ว ไม่ถึงกับฆ่าชิงหว่านให้ตาย ลงโทษอย่างหนักเพื่อเป็นการตักเตือนเท่านั้น!
“อ๊าก——“ ในเรือนเซียงหลิน เสียงกรีดร้องของชิงหว่านดังขึ้นมาอย่างต่อเนื่องเป็นระลอก
คนที่อยู่ในลานได้ยินเสียงนี้ต่างพากันตื่นตระหนก และเมื่อมองท่าทาง “ใครยังกล้ามายั่วยุข้าอีก” ของหนานหว่านเยียน มีคนไม่น้อยหดหัวลงโดยสัญชาตญาณ
พระชายาห้าวหาญเกินไปแล้ว ใครจะกล้าไปยั่วยุล่ะ? !
เมื่อเห็นว่าชิงหว่านกำลังจะหมดสติแล้ว คนทั้งคนทรุดตัวอยู่บนพื้น ใบหน้ามีอาการชักกระตุก มือและเท้ายังคงกระตุกไม่หยุด หนานหว่านเยียนถึงได้นั่งยองๆลงไปอย่างเอ้อระเหย ดึงเข็มเงินออกมาทีละเล่ม
“กู้โม่หานจะให้ข้าไปคุกเข่าไม่ใช่หรือ? ข้าจะไปเดี๋ยวนี้แหละ ส่วนเจ้า……” นางเงยหน้ามองไปทางเผ็ดไม่เผ็ดที่กำลังตื่นเต้นสุดขีด ยิ้มออกมาอย่างสวยงาม
“เผ็ดไม่เผ็ด ให้พวกเจ้าเล่นแล้ว จำไว้ว่าเวลาปฏิบัติต่อแขก ต้องกระตือรือร้นหน่อย อย่าลืม ‘วิถีแห่งการต้อนรับแขก’ ของเราล่ะ!”
หนานหว่านเยียนทำสัญญาณมือให้กับสุนัขตัวใหญ่สองตัว ได้รับคำสั่งของเจ้านาย เผ็ดไม่เผ็ดพุ่งเข้ามาอย่างกำเริบเสิบสาน กัดทึ้งไปที่ชิงหว่าน สะบัดลิ้นเลียไปบนใบหน้าของนาง เกากันอย่างเมามันด้วยท่าทางขี้เล่น
“อ๊า ไสหัวออกไป!” ชิงหว่านกลัวจนสั่นเทาไปทั้งตัว เป็นครั้งที่นางรู้ถึงความสามารถของหนานหว่านเยียน แต่นางกลับยิ่งโกรธมากขึ้น ชายาผู้ถูกทิ้งคนหนึ่งมีสิทธิอะไรทำกับนางเช่นนี้ นางเป็นถึงคนของคุณหนูอี่ว์โหรวเชียวนะ!
นางไม่มีเวลามาคำนึงถึงความชาและความเจ็บปวดทั้งร่างกาย จ้องมองดูหนานหว่านเยียนอย่างดุดัน “ชายาที่ไม่ได้รับความโปรดปราน! ท่านอ๋องไม่ปล่อยเจ้าไปแน่——อ๊า!”
ยังไม่ทันได้พูดจบ ชิงหว่านก็ถูกสุนัขตัวใหญ่สองตัวกัดขาทั้งสองข้างเอาไว้ ลากไปทางลานหลังอย่างแข็งกร้าว ท่าทางนั้นทุลักทุเลสุดขีด
หนานหว่านเยียนยิ้มเย้ยหยัน หยุนอี่ว์โหรวยังเอาชนะนางไม่ได้ สาวใช้คนนี้ถือเป็นตัวอะไร? ยังกล้ามาข่มขู่นาง?
ขี้เกียจจะไปสนใจอีก หนานหว่านเยียนเรียกอวี๋เฟิง แล้วก็สั่งให้สาวใช้สองสามคนทำความสะอาดเตาย่างหนึ่งในนั้น
อวี๋เฟิงไม่เข้าใจ “พระชายากำลังจะทำอะไร?”
หนานหว่านเยียนฮึเย็นชาออกมาคำหนึ่ง: “ย่อมต้องทำตามคำสั่งของท่านอ๋อง ทำการ ‘สำนึกผิด’ เป็นอย่างดีอยู่แล้ว”
ได้ยินคำพูด มุมปากของอวี๋เฟิงก็กระตุกขึ้นมา
ลักษณะท่าทางของหนานหว่านเยียน ไม่เหมือนจะไปสำนึกผิด แต่เหมือนจะไปเสวยสุขมากกว่า
หลังจากที่หนานหว่านเยียนสั่งการให้สองพี่น้องเซียงอี่ว์ทำปิ้งย่างไม้เสียบให้กับเจ้าตัวเล็กสองคน ดูแลเจ้าตัวเล็กสองคนนั้นให้ดี อย่าให้พวกนางออกจากลาน ก็ห่อเนื้อย่างไม้เสียบกับผักเล็กน้อย
จากนั้น นางเอาเตาย่างมอบให้กับอวี๋เฟิง พาเขาเชิดหน้าเดินจากไปพร้อมกัน
เวลานี้ บรรดาบ่าวรับใช้ที่อยู่ในเรือนเซียงหลินล้วนตัวสั่นงันงก หลังจากที่ได้เห็นวิธีการของหนานหว่านเยียน และฟังเสียงคร่ำควรญกรีดร้องเป็นระลอกๆของชิงหว่านจากลานหลัง ก็ยิ่งเชื่อฟังและระมัดระวังมากขึ้น
เวลานี้ ในลานหลังมีเงาร่างเล็กๆสองเงาปรากฏขึ้นมา
ไม่รู้ว่าเกี๊ยวน้อยกับซาลาเปาวิ่งออกมาจากห้องเมื่อไหร่ เวลานี้มองดูชิงหว่านที่ถูกเผ็ดไม่เผ็ดทรมานจนเหลือทน ก็ยังรู้สึกไม่คลายความโกรธ!
เมื่อครู่นี้พวกนางก็อยู่ในเรือน คำพูดที่คนคนนี้ด่าท่านแม่ พวกนางล้วนได้ยินหมดแล้ว ท่านแม่ยังไม่ได้รังแกนาง นางจะมาทำร้ายท่านแม่ได้อย่างไร? !
สองมือเล็กของเกี๊ยวน้อยทำท่าคันไม้คันมืออยากจะต่อยตี เดินไปทางชิงหว่าน “ผู้หญิงชั่ว กล้ารังแกท่านแม่ ดูสิว่าข้าจะสั่งสอนเจ้าอย่างไร!”