ยอดชายากับองค์หนูน้อยแห่งจวนอ๋องอี้ ตอนที่ 76 ใครจะอยู่กับท่าน,หน้าไม่อาย
หนานหว่านเยียนยิ้มเยาะ แววตาลึกลับคาดเดาไม่ได้
นางไม่รู้สึกเสียดายที่กู้โม่หานไม่กลับไปกับนางด้วยเลยสักนิด ไปแล้วมีแต่ปัญหา
นางเดินออกมาอย่างไม่สนใจ และเตรียมจะขึ้นรถม้า แต่จู่ๆ ก็ได้ยินเสียงคนเรียกนางไว้ “พระชายา โปรดรอสักครู่”
หนานหว่านเยียนหันกลับไปมอง และเห็นหลี่หมัวมัวเดินมาหานางพร้อมกับเจ้าหน้าที่พิธีการ
“บ่าวขอคารวะพระชายา คารวะท่านอ๋องเพคะ!” หลี่หมัวมัวยกยิ้มและโค้งคำนับให้หนานหว่านเยียนกับกู้โม่หาน แต่หยุนอี่ว์โหรวกลับถูกมองข้ามไม่สนใจ
พอเห็นว่าหลี่หมัวมัวปฏิบัติต่อนางเหมือนไม่มีตัวตน หยุนอี่ว์โหรวก็จิกผ้าเช็ดหน้าของนางแน่น ดวงตาของนางเต็มไปด้วยความแค้นเคือง
กู้โม่หานขมวดคิ้วเล็กน้อย ไม่รู้ว่าเหตุใดหลี่หมัวมัวมาที่นี่กะทันหันเช่นนี้
หนานหว่านเยียนยกยิ้มบาง และเอ่ยพูดด้วยน้ำเสียงที่คุ้นเคย “ไม่ทราบว่าวันนี้หลี่หมัวมัวมาที่นี่เพราะเรื่องใด?หรือวจะมีเรื่องให้ข้าทำ”
พอเห็น “โหย่วฟ่งไหลยี่(ปิ่นหงส์)” ในมือของหนานหว่านเยียนแววตาของหลี่หมัวมัวก็ดูโล่งอกเล็กน้อย
“เรียนพระชายา ไทเฮาทราบว่าวันนี้พระชายาจะกลับจวนเฉิงเซี่ยง ดังนั้นพระนางจึงส่งบ่าวมาที่นี่เพื่อมอบของขวัญที่ต้องนำกลับไปด้วยเพคะ!”
“ยกของขวัญทั้งหมดมา!” นางตบมือ ขันทีที่ยืนอยู่ข้างหลังนางยืนเรียงแถวกันอย่างเรียบร้อย แต่ละคนถือกล่องผ้าที่วิจิตรงดงาม เป็นขบวนที่ยิ่งใหญ่และงดงามเป็นพิเศษ!
ทุกคนตกตะลึง!
หลี่หมัวมัวพูดต่อ “ไทเฮาบอกว่าสิ่งเหล่านี้เป็นของขวัญให้พระชายานำกลับไปจวนเฉิงเซี่ยงถึงแม้จะไม่ล้ำค่าเท่าของพระชายา แต่ไทเฮาก็เลือกทุกอย่างด้วยใจเพคะ”
ในงานแต่งงานของกู้โม่หานวันนั้น หลี่หมัวมัวเห็นว่าหนานหว่านเยียนถูกรังแก จึงเลิกคิ้วอย่างขุ่นเคือง
หลังจากที่นางกลับวัง นางก็บอกไทเฮาเกี่ยวกับเรื่องที่ท่านอ๋องโปรดปรานหยุนอี่ว์โหรวเป็นพิเศษ ไทเฮาจึงบอกให้นางมาวันนี้เพื่อเป็นอำนาจสนับสนุนให้หนานหว่านเยียนในวันนี้โดยเฉพาะ
หนานหว่านเยียนรู้สึกตกใจเล็กน้อย นางคิดไม่ถึงเลยว่าของขวัญวันเกิดจะมีของขวัญตอบแทนกลับมาด้วย ไทเฮาใจดียิ่งนัก
มุมปากของนางอดที่จะยกยิ้มกว้างไม่ได้ “ของขวัญจากไทเฮา เยียนเอ๋อร์จะดูแลทะนุถนอมอย่างดีแน่นอนเพคะ รบกวนหลี่หมัวมัวบอกพระนางด้วย เยียนเอ๋อร์ขอบพระทัยไทเฮายิ่งนัก”
พอเห็นเช่นนี้ หยุนอี่ว์โหรวโมโหจนแทบบ้า นางคิดไม่ถึงเลยว่าไทเฮานางหญิงชรานั่นถึงเวลานี้แล้วยังเข้าข้างหนานหว่านเยียน อยู่อีก!
นางซ่อนมือไว้ในแขนเสื้อ สองมือกำหมัดแน่นอย่างโมโห ในขณะนี้ บาดแผลบนฝ่ามือของนางเปิดออกมาอีกครั้ง และเลือดก็ไหลออกมาอย่างน่าตกใจ
คิ้วเข้มของกู้โม่หานเย็นชา คมกริบราวกับว่าใบมีดน้ำแข็ง ฝ่ามือใหญ่ลูบหลังหยุนอี่ว์โหรว เป็นการปลอบโยน
หนานหว่านเยียนแสร้งทำเป็นไม่เห็นความขุ่นเคืองใจของสองชายหญิงที่อยู่ข้างๆ นาง อารมณ์ของนางดีเอามากๆ
ในเวลานี้เอง หลี่หมัวมัวมองมาที่หยุนอี่ว์โหรวด้วยสายตาเหยียดหยาม จากนั้นก็เปลี่ยนเป็นท่าทีนอบน้อมและพูดกับหนานหว่านเยียน “ไทเฮายังตรัสไว้ด้วยว่า ใบ ‘ผูหย่า(ชาจีน)’ ที่พระชายาทำขึ้นมานำมาชงชา พระนางดื่มแล้วนอนหลับสบายมากเพคะ ช่วงนี้แม้แต่สภาพจิตใจก็ดีขึ้น ไทเฮาจึงชื่นชมมากเพคะ”
ตอนนี้หลี่หมัวมัวไม่ชอบหยุนอี่ว์โหรวจากก้นบึ้งของหัวใจ นางเป็นคนเจ้าเล่ห์และเรียกร้องความเห็นใจเก่ง ซึ่งแตกต่างจากหนานหว่านเยียน ซึ่งเป็นคนที่น่าสงสารจริงๆ!
แม้ว่าไทเฮาจะไม่ได้พูด วันนี้นางก็จะไม่ปล่อยให้หยุนอี่ว์โหรวกลับบ้านด้วยท่าทีอวดดีแน่นอน!
หนานหว่านเยียนอดที่จะอุทานออกมาไม่ได้ คิดไม่ถึงเลยคิดไม่ถึงเลยจริงๆ ดอกไม้ที่แสนธรรมดาในวันนั้นจะกลายเป็นดอกไม้ที่ดีที่สุด! นางเกือบจะพลาดโอกาสนี้ไปเสียแล้ว!
พอพูดถึงเรื่องนี้แล้ว นางต้อง “ขอบคุณ” หยุนอี่ว์โหรวที่วันนั้นทำให้นางได้โอกาสนี้
หนานหว่านเยียนพูดอย่างถ่อมตนว่า “ไทเฮากล่าวชมเกินไป เป็นเกียรติของเยียนเอ๋อร์ที่ได้รับความเอ็นดูจากไทเฮา และหวังว่าฉันจะมีชีวิตที่ยืนยาวและมีสุขภาพที่แข็งแรง!”
หลี่หมัวมัวพยักหน้า จากนั้นนางก็มองไปที่กู้โม่หาน ที่โมโหจนแทบระงับไว้ไม่ได้ “ท่านอ๋องอี้ ที่บ่าวมาในวันนี้ เพราะไทเฮาเชิญท่านเข้าวังเพื่อหารือเรื่องสำคัญเพคะ”
ทันทีที่คำพูดนี้หลุดออกมา ก็เหมือนสายฟ้าฟาดลงมาจากท้องฟ้าตอนเที่ยงวัน ความหึงหวงและความโกรธในดวงตาของหยุนอี่ว์โหรวไม่สามารถปกปิดไส้ได้อีกต่อไป!
“แต่หมัวหมัว วันนี้เป็นตกใจวันกลับบ้านของโหรวเอ๋อร์…”
กู้โม่หานขมวดคิ้วและพูด “ข้าจะกลับจวนแม่ทัพเป็นเพื่อนโหรวเอ๋อร์ หมัวหมัวกลับไปรายงานไทเฮา รอข้ากลับมา จะเข้าวังเพื่อเข้าเฝ้าไทเฮา”
หลี่หมัวมัวยังคงไม่ยอม น้ำเสียงของนางหนักแน่น “ไทเฮาตรัสแล้ว ตอนนี้เลยเพคะ จะช้าแม้แต่เล็กน้อยก็ไม่ได้!ไทเฮามีเรื่องสำคัญจะตรัสกับท่านอ๋องเพคะ”
เรื่องสำคัญอะไร ถึงต้องเลือกที่จะคุยวันนี้? !
เห็นได้ชัดว่านี่เป็นการตั้งใจหาเรื่อง! จะต้องเป็นหนานหว่านเยียนไปฟ้องไทเฮาแน่ๆ ไม่เช่นนั้นจะเกิดเรื่องเช่นนี้ขึ้นได้อย่างไร!
หยุนอี่ว์โหรวโมโหจนแทบจะเป็นลม ฟันสีขาวกัดแน่นจนมีเสียง “เอี๊ยด” ดังออกมา
หนานหว่านเยียนได้ยินแล้วรู้สึกสะใจ ก่อนจะหันไปพูดกับหลี่หมัวมัว “หลี่หมัวมัว ถ้าไม่มีเรื่องอื่น ข้าขอกลับจวนเฉิงเซี่ยงก่อน ต้องรบกวนท่านกล่าวขอบคุณไทเฮา แทนข้าด้วย! “
“เชิญพระชายาไปได้เลยเพคะ” หลี่หมัวมัวโค้งคำนับอย่างนอบน้อม หนานหว่านเยียนก็ขึ้นรถม้าโดยมีเซียงอวี้คอยประคอง และเดินทางจากจวนอ๋องอี้ไป
ทุกคนมีความคิดที่แตกต่างกันไป พวกเขาทั้งหมดต่างก็รู้สึกว่าพระชายามีอำนาจแล้ว ถึงจะไม่ได้รับความโปรดปรานจากท่านอ๋อง แต่นางก็ได้รับการปกป้องจากไทเฮา
ในเวลาเดียวกัน อวี๋เฟิงเซียงอวี้ไม่รู้ว่าเพราะอะไร ถึงรู้สึกภาคภูมิใจมาก โดยเฉพาะอย่างยิ่งอวี๋เฟิงที่ยังคงมีความชื่นชมและรอยยิ้มบนใบหน้า
“ดูสิ ข้าบอกแล้วว่าพระชายาของเราเก่งมาก เจ้าจะไม่เข้าร่วมกับข้าจริงหรือ”
เขาโน้มตัวเข้าไปใกล้หูของเซียงอวี้ และพูดอย่างตื่นเต้น
ลืมไปเลยว่าชายหญิงมิควรเข้าใกล้กันเกินไป
เซียงอวี้นึกขึ้นได้ จึงรีบถอยห่างออกไปมาด้วยความตกใจ จากนั้นก็เดินตามหนานหว่านเยียนไปที่รถม้าด้วยสีหน้าแดงก่ำ และพูดอย่างเขินอาย “ใครบอกว่าข้าจะอยู่กับเจ้า! หน้าไม่อาย!”
จากนั้นอวี๋เฟิงก็รู้สึกตัวว่าตนเองเสียมารยาท จึงยกมือเกาท้ายทอยอย่างเขินอาย และยืนส่ง
ในรถม้า รอยยิ้มของหนานหว่านเยียนเกือบจะขยายกว้างไปถึงใบหู
มีไทเฮาคอยสนับสนุน แต่ยังมีสองพี่น้องที่เกลียดชังเหมือนเป็นศัตรูกัน นางเป็นผู้ชนะในชีวิตที่แท้จริง! นางจะคอยดูว่าชายหญิงคู่นี้จะทำตัวอวดดีได้แค่ไหน!
กู้โม่หานรู้สึกว่าอึดอัดใจมาก แต่พอเห็นแววตาที่แน่วแน่ของหลี่หมัวมัว เขาก็ไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากระงับความโกรธ แล้วหันไปพูดกับหยุนอี่ว์โหรวอย่างอ่อนโยน “โหรวเอ๋อร์ ข้าจะรีบไปรีบกลีบ เจ้าคงต้องกลับไปคนเดียวก่อน”
หยุนอี่ว์โหรวส่ายหน้า แม้ว่านางจะรู้สึกน้อยใจมาก แต่นางยังคงยกยิ้มหวาน “โหรวเอ๋อร์ไม่เป็นไรเพคะ แต่ท่านอ๋องเถอะ รีบตามหลี่หมัวมัวเถอะเพคะ ถ้าเสียเวลาไปมากกว่านี้ คงเป็นความผิดของโหรวเอ๋อร์”
กู้โม่หานมองไปที่หยุนอี่ว์โหรว รู้สึกสงสารและโทษตัวเอง
สุดท้าย หลี่หมัวมัวผายมือเพื่อเป็นการเชื้อเชิญกู้โม่หานก็ขึ้นรถม้าเข้าวังไป
หยุนอี่ว์โหรว และพวกเชี่ยนปี้ยืนอยู่ที่เดิม มองดูรถม้าสองคันวิ่งจากไป
เชี่ยนปี้พยายามปลอบโยน “พระชายา ถ้ายังไม่ออกเดินทาง จะสายเอาได้นะเพคะ”
แน่นอนหยุนอี่ว์โหรวรู้เรื่องนี้ดร แต่ความโกรธและความไม่พอใจของนางมันอัดแน่นมาก รอจนกระทั่งรถม้าของกู้โม่หานหายลับสายตาไป นางก็เข้าไปในรถม้าด้วยความโกรธ โดยมีเชี่ยนปี้ตามไปด้วย
ในรถม้า สีหน้าของหยุนอี่ว์โหรวแย่มาก นางกัดฟันกรอด “หนานหว่านเยียน นางสารเลวนั่น! ใช้อำนาจของไทเฮามาข่มข้า!”
จากนั้น นางเหมือนนึกอะไรขึ้นมาได้ จึงพูดด้วยน้ำเสียงเร่งรีบ “เชี่ยนปี้ เจ้าจัดการตามที่ข้าบอกแล้วหรือยัง”
เชี่ยนปี้ยกยิ้มชั่วร้าย “วางใจได้เพคะ ทุกอย่างจัดการเรียบร้อยแล้ว บ่าวรับประกันว่าจะไม่มีใครจับได้ รอหนานหว่านเยียนกลับมา ก็สายเกินไปแล้ว— “