บรรยากาศห้องโถงหน้าพิลึกสุดจะเปรียบ
สีหน้าเฉิงเซี่ยงดำอย่างกับก้นหม้อ ส่วนฮูหยินจะแสดงออกว่ากระหยิ่มใจมากเกินไปก็ไม่ได้
มีเพียงหนานหว่านเยียนกับกู้โม่หานเท่านั้นที่สบายใจเฉิบ นั่งอยู่กับโต๊ะ ที่ควรกินก็กิน ที่ควรดื่มก็ดื่ม ราวกับไม่มีอะไรเกิดขึ้น
หนานหว่านเยียนดื่มอย่างสบายอารมณ์ อี๋เหนียงสามกับลูกสาวของนางก็ไม่ใช่คนดีอะไร วันนี้ก่อเรื่องนี้ขึ้น น่ากลัวว่าอี๋เหนียงสามคงไม่ได้อยู่สงบแล้ว
แบบนี้ก็ถือว่าแก้แค้นที่พวกนางรังแกเจ้าของร่างแล้ว
เมื่อคิดอย่างนั้น จู่ๆ นางก็โยนเนื้อใส่ถ้วยของกู้โม่หาน “ท่านอ๋อง กินให้มากหน่อย ขอเพียงหน้าตาไม่เป็นดังปรารถนา ก็จะไม่มีปัญหามาก”
ผู้ชายคนนี้มีใบหน้าลวงให้คนทำผิดกฎหมายขนาดนี้ แล้วยังมีชาติตระกูลสูงส่งอีก ถ้าเป็นอย่างนี้ต่อไป ไม่รู้ว่าจะมี ‘หยุนอี่ว์โหรว’ กับ ‘หนานอี่ว์’ มุดออกมาอีกสักกี่คน
คิดๆ แล้วก็ปวดหัว ยังดีที่อีกครึ่งปีนางก็ไปได้แล้ว
กู้โม่หานยกคิ้วดาบ ในดวงตาเกิดความเย็นชา
ในที่สุดเขาก็รู้แล้วว่าทำไมหนานหว่านเยียนถึงช่วยเขา นางคนนี้ยังไม่เปลี่ยนสันดานแน่ ยังคงรักเขาหัวปักหัวปำ ไม่ยอมให้มีตัวมาขัดขวาง!
“เกี่ยวอะไรกับข้าด้วย หรือว่าปัญหามิใช่คนอย่างเจ้าหรือ เมื่อกี้ยังบุกรุกเข้า…”
“แค่กๆ!” ทันใดนั้นหนานหว่านเยียนก็เอามืออุดปากเขา ตวาดเสียงเบา “หุบปาก!”
นางไม่ได้ตั้งใจสักหน่อย เรียกเขาตั้งหลายทีแล้วก็ไม่ตอบ คิดจะทำให้นางลำบากชัดๆ นางก็ต้องบุกเข้าไปดูสิ
อีกอย่าง รูปร่างอย่างนั้น ในสายตาของนางก็แค่โครงร่างที่ดีหน่อยเท่านั้น นับเป็นอะไร
กู้โม่หานขมวดคิ้ว กวาดตามองนางด้วยความดุดัน ไม่เอ่ย
ทั้งสองอยู่ใกล้กันมาก แววตาโรมรันดุเดือดนั้น ในสายตาของหนานฉีซาน กลับเป็นการหยิกหยอก เล่นหูเล่นตากัน
ในดวงตาเขามีความคิดปราดผ่าน จากนั้นก็กลับมานั่งกับฮูหยินอีกครั้ง
หนานหว่านเยียนอารมณ์ดี เมินสายตาสังหารของเขา ดื่มกินตามอัธยาศัย
“มา ท่านพ่อ ท่านแม่ ข้าขอคารวะพวกท่านหนึ่งจอก”
ทำให้สุนัขกัดกันเอง แล้วยังทำให้อี๋เหนียงสามกับลูกสาวเกิดเรื่องงามหน้าอย่างนี้ เรื่องดีอย่างนี้สมควรดื่มฉลอง!
“เจ้าอย่าดื่มให้หนักนัก จะไม่ได้ทำให้คนอื่นเดือดร้อน” เมื่อกู้โม่หานเห็นหนานหว่านเยียนกลอกเหล้าจอกต่อจอกแล้ว จึงขมวดคิ้ว
หนานหว่านเยียนหน้าแดงชะโงกหน้าไปตรงหน้าเขา “ท่านอ๋องอย่าดูถูกข้านะ ข้าไม่เมาหรอก”
นางเป็นพวกพันแก้วไม่ล้มเชียวนะ พอคนในวงเหล้าได้ยินชื่อนางยังต้องกลัวกันทั้งนั้น!
กู้โม่หานขมวดคิ้วมุ่น มองหนานหว่านเยียนด้วยสายตาที่เต็มไปด้วยความดูถูก
นางคนนี้ เมาแล้ว!
แต่หนานหว่านเยียนกลับไม่รู้ตัว ถือจอกเหล้าไม่ถึงใจ ดังนั้นจึงยกกาเหล้าขึ้นมาแหงนหน้าดื่มจนหมด ความองอาจห้าวหาญนั้น ทำให้กู้โม่หานเหม่อลอยชั่วขณะ
หนานหว่านเยียนหน้าแดงซ่าน ดวงตาหยียิ้มสดใส ยกกาเหล้าในมือขึ้นสูง
“ดื่ม! วันนี้ไม่เมาไม่เลิก!”
ครั้นหนานฉีซานเห็นดังนั้น จึงเอ่ยกับกู้โม่หาน “ท่านอ๋อง…แต่ไหนมาพระชายาก็ดื่มไม่ได้มาก ตอนนี้เกรงว่าจะ เมาแล้ว”
ถูกต้อง หนานหว่านเยียนเมาแล้ว แล้วยังเมาหนัก พูดจาเลอะเทอะอีกด้วย
เนื่องจากเจ้าของร่างไม่ดื่มเหล้า ดังนั้นจึงคออ่อนแบบหลุดโลก แต่หนานหว่านเยียนกลับไม่รู้สักนิด
กู้โม่หานอดกลั้นแต่ความไม่พอใจ ลุกขึ้นยืน แล้วอุ้มหนานหว่านเยียนขึ้นมาจากเก้าอี้ “ข้าจะพานางกลับไปที่ห้องก่อน”
เขาอุ้มหนานหว่านเยียนกลับห้อง ท่ามกลางสายตาของทุกคน
ฮูหยินและหนานฉีซานสบตากัน ตะลึงงัน
กู้โม่หานถึงกับอุ้มหนานหว่านเยียน?!
เมื่อก่อน แม้แต่จะมองหนานหว่านเยียนสักสายตายังรังเกียจ บัดนี้กลับ…
หรือว่าเขาจะหลงรักหนานหว่านเยียนแล้ว
กู้โม่หานอุ้มหนานหว่านเยียนกลับห้อง พอเซียงอวี้ที่เฝ้าอยู่นอกเรือนเห็นก็ตามไปทันที
ไม่รู้ว่าอย่างไร หนานหว่านเยียนจึงถูกเขาอุ้มไป นางหน้านิ่มคิ้วขมวด เบะปากเผยท่าทางเมามาย “เจ้าอุ้มข้าทำไม ข้าไม่ได้เมาสักหน่อย วางข้าลงเร็ว”
กู้โม่หานเย็นชาไร้หัวใจ “เจ้าเมาแล้ว”
“ข้า? ข้าหรือจะเมา!” จู่ๆ หนานหว่านเยียนก็หัวเราะเสียงดัง ชี้นิ้วที่จมูกตัวเอง “เจ้าล้อเล่นอะไร! ข้าพันแก้วก็ไม่ล้ม! ต่อให้มาอีกสิบคนข้าก็ชนได้!”
“เจ้าเนี่ยนะ” กู้โม่หานรู้สึกน่าขัน ยกมุมปาก “คอแข็งเท่าลูกเจี๊ยบจิกเม็ดข้าวเนี่ยนะ ไปแข่งดื่มกับเด็กยังไม่ชนะเลย”
เซียงอวี้ก้มหน้า ตามอยู่ข้างหลังเงียบๆ ได้ยินน้ำเสียงระคนหัวเราะของกู้โม่หานแล้วก็ขนลุกขนพอง
ท่านอ๋องถึงกับหัวเราะให้พระชายาด้วย!
ทำไมช่วงนี้เขาถึง…อ่อนโยนกับพระชายาขนาดนี้ได้
พิลึกจริงแฮะ
หนานหว่านเยียนไม่ยอม ทำแก้มป่องโหวกเหวกกับเขา “เจ้าดูถูกใคร! ข้าบอกแล้วว่าดื่มได้ก็คือดื่มได้! แหวะ…”
นางทำหน้าพะอืดพะอม อาเจียนแห้งในวงแขนของกู้โม่หาน เกือบอาเจียนใส่ตัวเขา
กู้โม่หานพลันเปลี่ยนสีหน้า ตวาด “หนานหว่านเยียน! ถ้าเจ้ากล้าอ้วก ข้าจะฆ่าเจ้า!”
หัวใจเซียงอวี้แทบจะกระเด้งขึ้นมาที่คอแล้ว ลุ้นแทนหนานหว่านเยียน
ตอนนี้หนานหว่านเยียนเริ่มทรมาน ลำคอปวดแสบปวดร้อน หน้ามืดตาลายไม่มีแรง ทิ้งตัวลงนอนอยู่ในอ้อมอกของกู้โม่หาน ไม่ส่งเสียงอีก
กู้โม่หานเห็นนางหยุดได้สักที จึงฮึเสียงเย็น แล้วเดินกลับห้องด้วยความอดทน
ทั้งสามกลับห้องของหนานหว่านเยียน
เซียงอวี้ถูกกักให้อยู่นอกประตู อนาทรร้อนใจ
ก็ไม่รู้ว่าถ้าพระชายาเมาแล้ว จะทำเรื่องน่ากลัวอะไรหรือไม่
อย่างเช่นเมาแล้วก็เข้าหาไปเรื่อย กระโจนใส่ท่านอ๋อง…