ยอดชายากับองค์หนูน้อยแห่งจวนอ๋องอี้ บทที่ 149 เวลาที่จะหย่าใกล้เข้ามาเรื่อยๆแล้ว
ในจวนอ๋องอี้ก็คือลูกของเขากู้โม่หานหรือ?
เป็นเรื่องตลกที่สุดเท่าที่นางฟังมา!
หนานหว่านเยียนยิ้มมุมปากอย่างไร้ร่องรอย น้ำเสียงเย็นชามาก”ถึงแม้ตอนนี้เราอยู่ในจวนอ๋อง แต่เป็นแค่สักครู่หนึ่งเอง ไม่นานพวกเราก็จะไป”
“ข้าขอเตือนท่านอ๋องอย่างหนึ่ง ความคิดที่ไม่ควรจะมีก็อย่ามีเลย”
อีกครึ่งปีหย่ากัน ไม่สนว่ากู้โม่หานจะปล่อยหรือเปล่า!พอถึงเวลานั้นแผ่นดินกว้างใหญ่ จะไปไหนก็ได้ พวกนางสามแม่ลูกก็สามารถมีชีวิตอย่างสุขสบาย!
พอคิดอยู่เช่นนี้ หนานหว่านเยียนก็มองกู้โม่หานทีหนึ่ง พาเด็กสองคนนี้แล้วคิดจะไป
เกี๊ยวน้อยครุ่นคิดอย่างหนัก อยู่ๆก็จับมือซาลาเปาเดินมาถึงหน้ากู้โม่หาน
พี่น้องใจตรงกัน ซาลาเปาเข้าใจความคิดทันที
กู้โม่หานไม่เข้าใจ และก็ได้ยินพี่น้องสองคนพูดว่า”ถึงแม้ที่เจ้าร้องและเต้นมานั้นไม่เท่าไหร่ แต่ท่านแม่บอกว่า โลกนี้ไม่มีอาหารฟรีๆ การที่เจ้าเต้นและร้องเพลงให้พวกเราก็ไม่ใช่หน้าที่ของเจ้า ดังนั้น”
“ขอบคุณลุงร้าย!”
กู้โม่หานรู้สึกตกใจ เพิ่งคิดจะพูด พี่น้องสองคนก็เดินตามหลังหนานหว่านเยียน ออกไปจากที่นี่
หนานหว่านเยียนรู้สึกปลื้มใจมาก ถึงแม้นางรู้สึกว่ากู้โม่หานไม่คู่ควร แต่การแสดงออกของเด็กๆทำให้นางรู้สึกว่ามีมารยาทและมีการสั่งสอน
ยืดได้หดได้ หยิบขึ้นได้วางลงได้
ตอนนี้นางมีความสุขมาก ตอนที่เดินออกจากเรือนจู๋หลานได้เจอเสิ่นอี่ว์และเซียงเหลียนสองคนที่กลับมาพอดี
เซียงเหลียนยังคงไม่ปรากฏอารมณ์ในสีหน้า ทำความเคารพต่อนางอย่างเคารพ แต่ใบหน้าของเสิ่นอี่ว์มีคสามแดงก่ำที่น่าสงสัย
เสิ่นอี่ว์ก้มคำนับต่อหนานหว่านเยียน หนานหว่านเยียน พยักหน้าเบาๆและพูดว่า”ท่านอ๋องของเจ้ายังอยู่ข้างในเลย เซียงเหลียน ข้าไปก่อนนะ”
เมื่อได้ยินชื่อของเซียงเหลียน ร่างกายของสวีอี่ว์สั่นเล็กน้อย”พระชายาเดินทางปลอดภัยพ่ะย่ะค่ะ ข้าน้อยจะหาโอกาสไปขอบพระทัยที่เรือนเซียงหลิน!”
หนานหว่านเยียนโบกมือ แต่กลับเต็มไปด้วยรอยยิ้ม
อุ้ย เซียงอวี้และเซียงเหลียนสองพี่น้องนี้ ง่ายที่จะทำให้ผู้ชายหน้าแดงเลยนะ
เสิ่นอี่ว์ส่งผู้หญิงหลายคนนี้จากไปด้วยสายตา จากนั้นแตะท้ายทอยของตัวเอง สายตาอึ้งอยู่เหมือนยังตกหลุมอยู่กับความทรงจำบางอย่าง
เขาเพิ่งก้าวเข้ามาประตู ก็เห็นกู้โม่หานที่ขมวดคิ้วอยู่เหมือนกัน
เมื่อกี้กู้โม่หานซาบซึ้งใจอยู่กับคำขอบคุณของเด็กๆ ยังไม่ทันได้ระลึกนานเลย ก็นึกถึงคำพูดที่หนานหว่านเยียนพูดในเมื่อกี้นี้ ยิ่งทำให้เขาโมโหเข้าไปใหญ่
เขากัดริมฝีปาก เหล่ตาครึ่งหนึ่ง รู้สึกชอบเด็กสองคนนี้มากขึ้นเรื่อยๆ
แต่ก็ยิ่งใกล้วันที่หนานหว่านเยียนจะออกจากจวนแล้ว
ตกลงหนานหว่านเยียนกินยาอะไรผิดหรือ!
วันๆพึมพำว่าจะหย่ากัน เขาแย่ขนาดนี้เลยหรือ?
ทำให้ผู้หญิงคนนี้รังเกียจอยู่ตลอด อยากจะซ่อนตัวไปไกลๆเลย?!
ต้องรู้นะว่า บรรดาท่านอ๋องทั้งหลายของซีเหย่ คนที่นิสัยดีที่สุดก็คือเขาแล้ว!
หนานหว่านเยียนผู้หญิงคนนี้มีสิทธิ์อะไรดูถูกเขา?
จริงๆแล้วแม้กระทั่งกู้โม่หานก็ไม่รู้ว่า เหตุใดถึงใส่ใจท่าทีและความคิดที่หนานหว่านเยียนมีต่อเขาขนาดนั้น
อยู่ๆกู้โม่หานก็จับไหล่ของเสิ่นอี่ว์อย่างกะทันหัน สายตาเร่งรีบมาก”เสิ่นอี่ว์ เจ้าพูดความจริงสิ เจ้ารู้สึกว่าข้าแย่หรือเปล่า?แย่ตรงไหน?”
เสิ่นสี่ว์ถูกถามอย่างกะทันหัน และกู้โม่หานก็ใช้แรงมาก ตบจนร่างกายของเขาอึ้งไปเลย เกือบจะยืนไม่สนิท
ดูเหมือนว่า ท่านอ๋องไม่ได้ดีจากพระชายาและคุณหนูสองคนแน่เลย เริ่มไม่เชื่อใจตัวเองแล้ว?!
เสิ่นอี่ว์ขยับคอ หลังจากครุ่นคิดอย่างลึกซึ้งแล้วอ้าปากพูดว่า”ท่านอ๋อง งั้นข้าน้อยขอพูดความจริงเลยนะพ่ะย่ะค่ะ?”
กู้โม่หานปล่อยเขาออกไป มือวางอยู่ข้างหลัง สีหน้าจริงจังมาก”ว่ามาเถอะ”
ถ้าหากเขาไม่ดีจริง อย่างน้อยก็แก้ไขได้
เสิ่นอี่ว์หายใจเข้าลึกๆ นับขึ้นมาทีละเรื่อง”ท่านอ๋อง ท่านเป็นคนที่กล้าหาญ ทำสงครามเก่ง ความคิดละเอียดอ่อน ปฏิบัติต่อลูกน้องและแม่ทัพในกองทัพอย่างเต็มที่ ข้อแรกก็คือปฏิบัติต่อลูกน้องเสมือนพี่น้อง หายากพ่ะย่ะค่ะ”
“สองคือท่านเป็นผู้ชายที่หล่อเหลา หน้าตาถือเป็นที่หนึ่งของซีเหย่ ส่วนภรรยา……”
นั่นก็คือพระชายาสวยที่สุด
เสิ่นอี่ว์ไอออกมาเสียงหนึ่ง พูดต่อว่า”สามคือตอนที่ท่านอยู่กับเจ้านายน้อย อ่อนโยน ใกล้ชิด และสนิทสนมมาก สิ่งนี้ยิ่งไม่มีใครเทียบเท่าได้……”
จริงๆแล้วเขาอยากจะพูดว่า เขาอยู่กับกู้โม่หานมาหลายปีนี้ ช่วงนี้เป็นครั้งแรกที่เห็นกู้โม่หานรู้สึกมีความสุขและผ่อนคลายจากใจ
คนที่สามารถทำให้กู้โม่หานเกิดความคิดแบบนี้ มีแต่จะเป็นหนานหว่านเยียนและเด็กสองคน
ความรู้สึกแบบนี้ แตกต่างกับตอนที่กู้โม่หานอยู่กับหยุนอี่ว์โหรว ความอ่อนโยนแบบนั้นคือตั้งใจแกล้งทำออกมา
ความชอบที่แท้จริงคือความชอบจากใจ
วันนี้กู้โม่หานก็เพื่อจะทำให้เด็กสองคนดีใจ แม้กระทั่งร้องเพลงและเต้นล้วนทำออกมาได้ ถึงแม้เขาชอบหยุนอี่ว์โหรว แต่เขาสามารถทำเรื่องแบบนี้ให้หยุนอี่ว์โหรวได้หรือ?
คำตอบเสิ่นอี่ว์รู้อยู่แก่ใจ
เขาสงบสติ ในที่สุดพูดอย่างจริงจัง”โดยรวมคือ ท่านอ๋องเป็นผู้ชายที่ดีเลิศที่สุดแบบครบวงจรในซีเหย่เพียงคนเดียว!”
เขาหวังว่า กู้โม่หานจะสามารถอยู่กับหนานหว่านเยียน
แต่คำพูดนี้ เขาไม่กล้าพูด
สีหน้าของกู้โม่หานค่อยๆผ่อนคลายลง ความเศร้าโศกหายไปหมด มุมปากก็เงยขึ้นถึงจุดที่พอใจ
“ข้าไม่ใช่ผู้ชายที่แย่เลย!หนานหว่านเยียนตาบอดเอง!”
เขาต้องรีบได้กระดาษทดลอง ขอให้ตรวจสอบได้ว่าเด็กๆเป็นลูกสาวแท้ๆของเขา เขาจะลองดูว่าหนานหว่านเยียนจะปากแข็งยังไงได้อีก!