ยอดชายากับองค์หนูน้อยแห่งจวนอ๋องอี้ บทที่ 187 ข้าอุ้มเจ้ากลับไปเอง
เมื่อได้ยินดังนั้น กู้โม่หานพลันขมวดคิ้วมุ่น “ที่ไหน?”
“ทะเลสาบจิ้งเจ้าค่ะ!”
เมื่อทั้งสองเดินตามกันมาถึงหน้าประตูเรือนเซียงหลิน ก็เห็นหยุนอี่ว์โหรวตะเกียกตะกายคลานขึ้นมาจากทะเลสาบจิ้งพอดี เปียกโชกไปทั้งตัว ดูกระเซอะกระเซิงอย่างสุดจะพรรณนา
เมื่อเห็นว่ากู้โม่หานกับเชี่ยนปี้มาแล้ว นางก็ส่งเสียงสะอื้นเบา ๆ ในดวงตาที่เป็นประกายดั่งดวงดาวยังคงมีน้ำตา ใบหน้าซีดเซียวดูอ่อนแอน่าสงสารอย่างยิ่ง
“ท่านอ๋อง…ในที่สุดท่านก็มาเสียที โหรวเอ๋อร์…โหรวเอ๋อร์ ทำให้พระชายาไม่พอใจอีกแล้วเจ้าค่ะ…”
กู้โม่หานเห็นหนานหว่านเยียนก้มลงมองหยุนอี่ว์โหรวด้วยสายตาของคนที่เหนือกว่า มองดูคนที่ต่ำกว่า บวกกับได้เห็นสภาพกระเซอะกระเซิงขนาดนั้นของหยุนอี่ว์โหรว ใบหน้าอันหล่อเหลาก็ดำคล้ำมืดทะมึนลงทันที
“หนานหว่านเยียน เจ้า —”
ยังพูดไม่ทันจบ หนานหว่านเยียนก็ตัดบทคำพูดของเขาอย่างเย็นชา
“เจ้า ๆ อะไรอยู่ได้! คิดจะด่าข้าอีกแล้วอย่างนั้นรึ? ข้าจะบอกเจ้าให้นะกู้โม่หาน ไอ้คนหลงเมียน้อยละเลยภรรยา สิทธิ์การดูแลจวนเป็นของพระชายาแท้ ๆ เจ้ากลับไม่ถามไม่ไถ่ข้าสักคำก็โยนมันไปให้เมียน้อยคนนึง หากว่าไทเฮาทรงทราบเข้า เจ้ากับเมียน้อยของเจ้า ใครก็แบกรับผลที่จะตามมาไม่ไหวหรอกนะ!”
ต้องอยู่กับอ๋องชาติหมาสารเลวพรรค์นี้ ยังไงนางก็ต้องหาทางหนีไปจากที่นี่ให้เร็วที่สุด!
สุดจะเหลือทนเลยจริง ๆ!
กู้โม่หานถูกหนานหว่านเยียนด่าแบบไม่ไว้หน้า จึงโกรธจนไฟแทบจะลุกท่วมหัวให้ได้แล้ว เขาเดินไปข้าง ๆ หยุนอี่ว์โหรว ถอดเสื้อคลุมของตัวเองออกมาคลุมให้นาง ก่อนจะหันไปจ้องมองหนานหว่านเยียนอย่างดุร้าย
“หนานหว่านเยียน! เพียงเพราะสิทธิ์ในการดูแลจวน เจ้าก็ถึงกับทำให้อี่ว์โหรวเป็นแบบนี้เลยรึ?”
“ผู้หญิงใจดำอำมหิตอย่างเจ้า ต่อให้ยกสิทธิ์การดูแลจวนให้ แค่คุณธรรมของเจ้าก็ไม่คู่ควรแล้ว!”
พูดพลาง เขาก็ช่วยพยุงหยุนอี่ว์โหรวให้ลุกขึ้น ตั้งใจว่าจะพานางกลับไปก่อน จากนั้นค่อยมาคิดบัญชีกับหนานหว่านเยียนทีหลัง!
พอหยุนอี่ว์โหรวเห็นว่ากู้โม่หานแม้จะด่าหนานหว่านเยียนก็จริง แต่กลับไม่ได้ลงโทษนาง ก็โกรธจนแทบจะเป็นบ้าให้ได้แล้ว
ถ้ากู้โม่หานยอมปล่อยหนานหว่านเยียนไปง่าย ๆ แบบนี้ ความทุกข์ยากลำบากที่นางได้รับเมื่อครู่นี้ จะไม่เท่ากับสูญเปล่าหรอกรึ?
นางชักมือออกจากการพยุง ดวงตากลมดั่งผลซิ่งอาบนองด้วยน้ำตาวาววับ
“ท่านอ๋อง ตอนแรก…ตอนแรกโหรวเอ๋อร์คิดว่าจะอย่างไรก็ดูไม่เหมาะ จึงคิดจะคืนสิทธิ์การดูแลจวนไปให้พระชายา แต่ทันทีที่พระชายาได้ยินโหรวเอ๋อร์พูดก็โกรธมาก เลยผลักโหรวเอ๋อร์จนข้อเท้าของโหรวเอ๋อร์แพลง จากนั้นเหมือนว่าพระชายาจะยังไม่หายโกรธ จึงถีบโหรวเอ๋อร์จนตกลงไปในทะเลสาบ….”
นางยิ่งพูด ก็ยิ่งสะอื้นหนักขึ้นเรื่อย ๆ ฝืนพูดด้วยน้ำเสียงสั่นเครือเบา ๆ ซุกซบอยู่ในอ้อมแขนของกู้โม่หานพลางแสดงท่าทางอ่อนแอไม่สู้คน
กู้โม่หานยังไม่ทันมีปฏิกิริยาโต้ตอบ เซียงอวี้ได้ยินก็พลันโทสะพวยพุ่ง “ท่านอ๋อง เป็นเพราะพระชายารองมายั่วยุพระชายาก่อน มันไม่ได้เป็นอย่างที่พระชายารองพูดเลยเจ้าค่ะ”
หนานหว่านเยียนยิ้มเย้ยหยัน “เซียงอวี้ เจ้าไม่จำเป็นต้องอธิบายให้เขาฟังหรอก ท่านอ๋องเป็นโรคตา เรียกว่าอาการตาบอดเข้าขั้นวิกฤติ ไม่ว่าเจ้าจะอธิบายให้เขาฟังมากแค่ไหน ก็ไม่มีประโยชน์หรอก”
กู้โม่หานโกรธจนไฟโทสะลุกท่วม “หนานหว่านเยียน! ถ้าเจ้าไม่อยากเก็บลิ้นของตัวเองไว้แล้วล่ะก็ ลองพูดจาดูถูกข้าต่ออีกซิ!”
ผู้หญิงน่าตายคนนี้ ทำไมปากคอถึงได้เราะร้ายขนาดนี้นะ ไม่ไว้หน้าใครเลยสักนิดจริง ๆ!
หนานหว่านเยียนหัวเราะเย้ยหยันเบา ๆ หรี่ตามองสองผัวเมียชาติหมา อยากจะรู้เหมือนกันว่าสองคนนี้จะสามารถทำลายขีดอดทนขั้นต่ำสุดของนางได้ไหม
นางพูดจนถึงขนาดนี้แล้วแท้ ๆ ทำไมกู้โม่หานถึงยังไม่ลงโทษหนานหว่านเยียนอีกล่ะ?
หยุนอี่ว์โหรวโกรธจนหัวใจแทบจะหยุดเต้นให้ได้แล้ว แต่นางยังอาละวาดไม่ได้
เชี่ยนปี้พูดอย่างเป็นกังวล: “พระชายารอง ท่านเป็นอะไรหรือไม่เจ้าคะ? สีหน้าของท่านดูไม่ดีมาก ๆ เลยเจ้าค่ะ”
ความสนใจของกู้โม่หานถูกดึงกลับไปทันที “โหรวเอ๋อร์….. ”
หยุนอี่ว์โหรวหลุดเสียง “ซื้ด” ขึ้นมาเสียงหนึ่ง จากนั้นตัวก็อ่อนยวบล้มเข้าไปซบเขาอย่างอ่อนระโหยเหมือนคนไม่มีกระดูก ทำท่าหนาวสั่นไปทั้งตัว
“ท่านอ๋อง เท้าของโหรวเอ๋อร์เจ็บมากเลยเจ้าค่ะ ทั้งตัวก็เจ็บไปหมดเลย….”
ยังพูดไม่ทันจบ จู่ ๆ นางก็รู้สึกปวดมวนที่ท้องส่วนล่างขึ้นมาอย่างกะทันหัน รู้สึกทรมานเหมือนท้องไส้โดนบิด
สีหน้าของหยุนอี่ว์โหรวซีดเผือด รู้สึกเหมือนว่ามีคลื่นอันท่วมท้นปะทุขึ้นภายในร่างกาย พร้อมจะระเบิดทะลักล้นออกมาได้ทุกเมื่อ
นางสีหน้าตื่นตระหนก รู้สึกสังหรณ์ไม่ดี ทำไมจู่ ๆ นางก็รู้สึกอยากเข้าห้องน้ำ…..
นางถึงกับหยุดร้องไห้ทันที “ช่าง… ช่างเถอะเจ้าค่ะ ท่านอ๋อง วันนี้ทั้งหมดล้วนเป็นความผิดของโหรวเอ๋อร์เอง โหรวเอ๋อร์ขอตัวกลับก่อนนะเจ้าคะ”
พูดจบ นางก็หันหลังเตรียมจะจากไป แต่กู้โม่หานกลับคว้าข้อมือของนางไว้ “ช้าก่อน ข้าจะอุ้มเจ้ากลับไปเอง”
ทันทีที่คำพูดนี้หลุดออกมา หยุนอี่ว์โหรวกลับไม่ได้รู้สึกยินดีความสุขเลย ท้องไส้ของนางตอนนี้ แทบจะกลับหัวกลับหางได้อยู่แล้ว
นางยกมือขึ้นกุมท้องจนแน่น ผลักมือของกู้โม่หานออกไปอย่างเขินอาย “ไม่…ไม่ต้องหรอกเจ้าค่ะ ล้วนเป็นความผิดของโหรวเอ๋อร์ทั้งหมด….. โหรวเอ๋อร์ไม่ควร ท่านอ๋องกับพระชายาคุยกันไปเถอะเจ้าค่ะ โหรวเอ๋อร์ขอตัวก่อนแล้ว”
ถ้ายังชักช้าอยู่อีกล่ะก็
เชี่ยนปี้ไม่เข้าใจว่าทำไมจู่ ๆ หยุนอี่ว์โหรวถึงเปลี่ยนท่าทีไปอย่างกะทันหัน ทั้ง ๆ ที่สถานการณ์ตอนนี้เป็นประโยชน์ต่อพวกนางมากแท้ ๆ
กู้โม่หานจับมือของหยุนอี่ว์โหรวแน่นยิ่งขึ้นแล้วตอนนี้
“มีข้าอยู่ เจ้าไม่จำเป็นต้องกลัวอะไรอีกแล้ว เจ้ายังมีอาการบาดเจ็บที่เท้า อย่าได้รอช้า!”
หนานหว่านเยียนก็สังเกตเห็นแล้วว่า สีหน้าของหยุนอี่ว์โหรวดูจะไม่ถูกต้อง น่าจะไม่ใช่การเสแสร้ง นางกวาดตามองสุนัขตัวใหญ่สองตัวที่กระดิกหางอยู่ข้าง ๆ แวบหนึ่ง พลันเข้าใจอะไรบางอย่างขึ้นมาได้ทันที
ที่แท้สองหนูน้อยก็จัดการเติม “อาหารเสริมสูตรพิเศษ” ให้หยุนอี่ว์โหรวขนานใหญ่นี่เอง มิน่าล่ะพวกนางถึงได้ยอมยุติข้อพิพาทลงง่าย ๆ แบบนั้น
หนานหว่านเยียนหัวเราะเยาะ ก่อนจะหันไปพูดประชดประชันกู้โม่หานว่า “กู้โม่หาน ข้าว่าดวงตาของเจ้ามันใช้การไม่ได้แล้วจริง ๆ นั่นแหล่ะ ท่าทางแบบนั้นของชายารอง มันดูเหมือนคนได้รับบาดเจ็บตรงไหนงั้นรึ?”
กู้โม่หานดึงหยุนอี่ว์โหรวเข้ามาในอ้อมแขนของตัวเอง หันไปจ้องหนานหว่านเยียนแล้วพูดอย่างดุดันว่า: “หนานหว่านเยียน เจ้าช่างหยิ่งยโสไร้จรรยาสิ้นดี ทำร้ายโหรวเอ๋อร์จนเป็นขนาดนี้ เดี๋ยวข้าจะมาจัดการกับเจ้าทีหลัง!”
หยุนอี่ว์โหรวอยู่ ๆ ก็ถูกดึงอย่างไม่ทันตั้งตัว รู้สึกแค่ว่ามีของบางอย่างไหลปราดแล่นฉิวอย่างราบรื่น เริ่มมุ่งหน้าจากสมองตรงดิ่งไปยังสถานที่แห่งหนึ่ง ชั่วขณะนั้นนางโกรธจนหน้ามืดตาลาย คล้ายจะเห็นดาวลอยระยิบระยับตรงหน้าเลยทีเดียว
ทำไมเวลาปกติกู้โม่หานถึงไม่เป็นแบบนี้นะ มาตอนนี้สถานการณ์เร่งด่วนสุดขีดแล้ว ถ้าเขายังไม่ปล่อยมืออีก ชื่อเสียงของนางตลอดชีวิตที่เหลือจากนี้ คงได้พังพินาศป่นปี้หมดไม่มีเหลือแน่!
หยุนอี่ว์โหรวกัดฟันกลั้นหายใจอดทนจนสุดชีวิต เหงื่อเย็น ๆ ไหลอาบท่วมร่าง กู้โม่หานยังคิดจะอุ้มนางกลับไปให้ได้
“ท่านอ๋อง โหรวเอ๋อร์ไม่ได้ถูกพระชายาทำให้บาดเจ็บอะไรมากมาย ขาก็ไม่เจ็บแล้วด้วย ท่านไม่ต้องอุ้มหรอกเจ้าค่ะ โหรวเอ๋อร์ขอกลับไปที่เรือนก่อน….. ”
นาทีนี้หยุนอี่ว์โหรวเสแสร้งต่อไปไม่ไหวแล้ว ผลักเขาออกไปอย่างแรง แล้ววิ่งไปห้องน้ำราวกับผู้ประสบภัยที่วิ่งหนีตายก็ไม่ปาน
ทุกฝีก้าวที่วิ่งไป จะมีเสียงระเบิดปะทุตามออกมาเป็นระลอก ๆ หยุนอี่ว์โหรวทั้งโกรธทั้งอายจนหน้าแดงเถือกทั้งหน้า!
หนานหว่านเยียน! ถึงกับเล่นงานนางขนาดนี้ ทำให้นางเกือบต้องอับอายต่อหน้ากู้โม่หาน สมควรตายนัก!
เชี่ยนปี้ตกใจจนเซ่อไปเลย รีบวิ่งตามไปพลางร้องเรียก “พระชายารองเจ้าคะ พระชายารอง….”
กู้โม่หานถึงกับยืนอึ้งอยู่กับที่ ตกตะลึงไปครู่ใหญ่ …..