ยอดชายากับองค์หนูน้อยแห่งจวนอ๋องอี้ บทที่223 ท่านอ๋อง ไม่เสียใจภายหลังจริงๆเหรอ
จวนเฉิงเซี่ยงในตอนนี้
หนานหว่านเยียนพาเสิ่นอี่ว์เดินเข้าไป
ฮูหยินของเฉิงเซี่ยงเห็นหนานหว่านเยียนเดินเข้ามาแต่ไกล ด้านหลังยังมีเสิ่นอี่ว์อีก
สายตาของนางมืดมน ความเกลียดชังปรากฏขึ้นในใจ
ภาพที่ก่อนหน้านั้นหนานหว่านเยียนบุกมาขอสินสอดถึงบ้านยังอยู่ในหัว ฮูหยินเฉิงเซี่ยงกัดฟันกรอด
หนานหว่านเยียนทำไมถึงยังไม่ตายนะ?!
หนานชิงชิงบอกว่าฆ่านางในวังแล้วไม่ใช่เหรอ?
ดูแล้ว ลูกสาวของนางคงจะใจอ่อนเกินไป ฆ่า ‘น้องสาว’ ไม่ลง
หนานหว่านเยียนเห็นฮูหยินมา สายตาเป็นประกาย นางพูดว่าด้วยรอยยิ้ม: “ท่านแม่ ท่านพ่อล่ะ?”
ฮูหยินได้สติ รีบแกล้งยิ้มแล้วพูดว่า “ท่านอ๋องยังไม่กลับจวน พระชายาจิ้งมาถึงบ้าน มีธุระอันใดมิทราบ?”
หนานหว่านเยียนแสยะยิ้มเบาๆ หนานฉีซานไม่อยู่ก็ดีเหมือนกัน
“ไม่ใช่เรื่องสำคัญอะไรหรอก ท่านอ๋องบอกว่า อยากให้ข้ารับน้าชายไปที่จวนอ๋องอี้ ข้าจะได้ดูแล”
จะรับตัวไร้ประโยชน์นั่นไปเหรอ?
อ๋องอี้ยังตกลงแล้วด้วย?!
งั้นข้าก็คงห้ามไม่ได้
ฮูหยินดีใจ รีบตอบตกลง: “คนบ้านเดียวกัน ดูแลอะไรกันล่ะ แต่ในเมื่อเจ้าจะรับเขาไปที่จวนของเจ้า งั้นข้าก็จะไม่ว่าอะไรมาก เพราะยังไงนั่นก็เป็นน้าชายของพระชายาเอง”
นางอยากจัดการโม่หวิ่นหมิงคนไร้ประโยชน์นั่นมานานแล้ว อยู่ในจวนต่อไปก็มีแต่จะเปลืองเงินและเสียแรงเปล่าๆ ไม่รู้ว่าครั้งก่อนทำไมหนานฉีซานต้องห้ามไม่ให้หนานหว่านหนิงพาเขาไปด้วย
เสิ่นอี่ว์กวาดตามองอยู่ข้างๆมานาน กลับขมวดคิ้วเป็นปม
ดูแล้วความสัมพันธ์ของหนานหว่านเยียนกับจวนเฉิงเซี่ยงจะไม่ค่อยดีเท่าไหร่นะ ในรอยยิ้มของฮูหยินเต็มไปด้วยเลศนัย คำพูดคำจาก็อ้อมค้อมไปมา ฟังแล้วไม่สบายใจเลย
หนานหว่านเยียนไม่พูดพล่ำทำเพลงกับฮูหยิน พยักหน้า แล้วเดินตรงไปที่เรือนโม่หวิ่นหมิงทันที
ภายในเรือน อาจี้กำลังรดน้ำดอกไม้ เห็นหนานหว่านเยียนใบหน้าอันงดงามนั้นเดินเข้ามาแต่ไกล
เขารีบเข้าไปต้อนรับ “พระชายา! พระชายามาสักที! เซียนเซิงเอาแต่พูดถึงท่านใหญ่เลย……”
ยังพูดไม่ทันจบ เขาก็ลื่นล้ม หนานหว่านเยียนยื่นมือไปประคองไว้ แต่ก็โดนบาดแผลของตัวเอง นางขมวดคิ้วเล็กน้อย “ไม่เป็นไรใช่ไหม?”
อาจี้รีบลุกขึ้นยืนให้ดี แล้วเกาหัวแกรกๆอย่างเขินอาย
“ไม่เป็นไรขอรับๆ ขอบพระคุณพระชายามาก ท่านนี้คือ?”
เสิ่นอี่ว์แนะนำตัว: “ข้าคือเสิ่นอี่ว์องครักษ์ประจำกายของอ๋องอี้ วันนี้มารับเซียนเซิงของเจ้ากับพระชายา”
อาจี้มองหนานหว่านเยียนอย่างไม่อยากจะเชื่อ “มารับเซียนเซิงเหรอ?”
“ใช่ มารับน้ากลับจวนของข้ากัน” หนานหว่านเยียนพูดด้วยรอยยิ้ม แล้วรีบเดินเข้าไปในเรือน
อาจี้ได้สติ ก็รีบวิ่งตามเข้าไป
เสิ่นอี่ว์ก็เดินตามหนานหว่านเยียนเข้าไปในเรือน
เขาเดินเข้าไป ตอนที่เห็นโม่หวิ่นหมิง ก็ตกตะลึงมาก ในหัวมีแต่คำว่า——
อึ้ง! ทึ่ง! ตะลึง!
นี่เป็นครั้งแรกที่เขาเจอโม่หวิ่นหมิง ชายหนุ่มตรงหน้ามีผิวพรรณที่เนียนขาว โครงหน้าคมสันได้รูป ริมฝีปากอมชมพู มีความแข็งแกร่งแฝงอยู่ภายใน และรอบกายแพร่ซ่านไปด้วยความหรูหราสง่างามของชนชั้นสูง
บุคลิกแบบนี้ ไม่มีทางเป็นชาวบ้านธรรมดาทั่วไปแน่นอน
เสิ่นอี่ว์ตกใจมาก
แม่ของโม่หวิ่นหมิงกับหนานหว่านเยียน เป็นใครกันแน่นะ?!
และหนานหว่านเยียนก็เดินเข้าไปหาโม่หวิ่นหมิงด้วยรอยยิ้ม “ท่านน้า”
ตอนนี้โม่หวิ่นหมิงกำลังอ่านหนังสือ ได้ยินเสียงของหนานหว่านเยียน เขาก็เงยหน้าขึ้น แล้วยิ้มอย่างตกตะลึง
“หว่านหว่านมาแล้วเหรอ?”
“ใช่” หนานหว่านเยียนเห็นเขาแล้วก็รู้สึกอบอุ่นหัวใจ นางเดินเข้าไปคล้องแขนโม่หวิ่นหมิงไว้ “มาดูว่าท่านน้าเป็นยังไงแล้วบ้าง”
โม่หวิ่นหมิงยิ้มอย่างอ่อนโยน แล้วยื่นมือไปลูบหัวของนางเบาๆ
“ช่วงนี้ ข้ากินยาตามที่เจ้าสั่ง ดีขึ้นมากแล้วล่ะ”
เสิ่นอี่ว์ตกตะลึงจนร่างกายแข็งทื่อ
กำหมัดแน่น
โม่หวิ่นหมิง แตะต้องตัวของพระชายา และพระชายายังไม่ปฏิเสธอีก?!
เรื่องนี้ ท่านอ๋องแพ้อย่างราบคาบเลยล่ะ
หนานหว่านเยียนวัดชีพจรอย่างละเอียด ต่อมาก็หัวเราะออกมา
“ดีขึ้นเยอะเลย ช่วงนี้จะต้องผ่าตัดแล้ว ท่านน้าเตรียมตัวหรือยัง?”
โม่หวิ่นหมิงหัวเราะ จ้องมองหนานหว่านเยียน
“ข้าบอกแล้ว ทุกอย่างเอาที่เจ้าว่าเลย เจ้าให้ข้าทำอะไร ข้าก็จะทำทั้งหมด”
โม่หวิ่นหมิงเอ็นดูนางอย่างเห็นได้ชัด
หนานหว่านเยียนรู้สึกเขิน นางไอกระแอม แล้วพูดว่า: “ท่านน้า วันนี้ข้าว่าจะรับท่านกับอาจี้ไปที่จวนอ๋องอี้ พักที่เรือนของข้า!”
“เช่นนี้ ก็ไม่ต้องให้อาจี้มารับยา ข้าก็จะได้ดูแลท่านอยู่ใกล้ๆด้วย และคอยสังเกตอาการของท่านอย่างใกล้ชิด”
อาจี้ยังเป็นเด็ก ได้ยินข่าวนี้ก็ดีใจมาก จับมือเสิ่นอี่ว์แล้วพูดว่า “จวนอ๋องอี้มีของกินไหม?”
เสิ่นอี่ว์อึ้ง แล้วตอบว่า: “มีสิ พวกเจ้าพักอยู่ที่เรือนเซียงหลิน มีคนดูแลพวกเจ้าโดยเฉพาะเลย”
โม่หวิ่นหมิงก็ถึงเห็นว่ามีเสิ่นอี่ว์อยู่ด้วย เขากะพริบตาเล็กน้อย “ท่านนี้คือ?”
เสิ่นอี่ว์รีบยกมือคารวะ “ข้าน้อยคือองครักษ์ส่วนตัวของท่านอ๋อง เสิ่นอี่ว์”
โม่หวิ่นหมิงได้ยินว่า ‘ท่านอ๋อง’ สองคำ ก็ขมวดคิ้วเป็นปมอย่างไม่สบอารมณ์ทันที
ครั้งก่อนหนานหว่านเยียนกลับบ้าน เขาก็ไม่ค่อยประทับใจกู้โม่หานสักเท่าไหร่ แต่แค่ไม่ชอบสิ่งที่เขาทำ ไม่ได้ไม่ชอบตัวเขา
“พ่อหนุ่มคนนี้ไม่เลวเลย ไม่หยิ่งผยองจองหอง ไม่เหมือนอ๋องอี้ หยิ่งผยองจองหอง สายตาไร้ผู้ใหญ่”
เสิ่นอี่ว์อึ้ง
นี่เป็นคนแรกนอกจากพระชายากับคุณหนูสองท่าน ที่กล้าว่ากู้โม่หานโต้งๆแบบนี้
สมแล้วที่เป็นคนบ้านเดียวกัน
แต่จะว่าไป อายุของโม่หวิ่นหมิง น่าจะไม่ต่างกับพวกเขาเท่าไหร่นะ……
หนานหว่านเยียนขี้เกียจพูดถึงกู้โม่หาน นางรีบพูดว่า “พูดเขาทำไม ท่านให้อาจี้เก็บของเร็ว เดี๋ยวพวกเราจะออกเดินทางแล้ว”
โม่หวิ่นหมิงกำลังจะบอกว่าได้ แต่กลับนึกถึงอะไรได้ สีหน้าลำบากใจมาก
“ถึงแม้ข้าจะเป็นน้าชายของเจ้า แต่ยังไงก็เป็นผู้ชายอยู่ดี เข้าจวนอ๋องอี้ไปแบบนี้ จะไม่สร้างความเดือดร้อนให้เจ้าเหรอ?”
น้าชายคิดแทนนางตลอดจริงๆเลยนะ
หนานหว่านเยียนอกผายไหล่ผึ่ง พูดอย่างมั่นใจว่า “วางใจได้ท่านน้า เรื่องนี้กู้……ท่านอ๋องตกลงเองกับปาก ท่านเข้าไปกับข้า เขาไม่กล้าพูดอะไรแน่นอน”
“เขาตอบตกลงเองงั้นเหรอ?” โม่หวิ่นหมิงแปลกใจ
“ในเมื่อเช่นนี้ อาจี้ เจ้าไปเก็บข้าวของ ไม่ต้องเอาไปมาก เอาแค่ของพวกนั้นไปก็พอ พวกเรากลับบ้านไปกับหว่านหว่านกัน”
ที่จริงเขาดีใจมาก ได้อยู่ใกล้หนานหว่านเยียน ได้ปกป้องนางใกล้ๆ
แต่เขาไม่ค่อยเชื่อว่ากู้โม่หานจะใจดีขนาดนั้น ทั้งที่ครั้งก่อนกู้โม่หานยังไม่ดีต่อหว่านหว่านขนาดนั้น
แต่ว่า ไม่ว่ายังไง ขอแค่กู้โม่หานกล้าทำร้ายหว่านหว่าน เขาจะไม่ปล่อยกู้โม่หานไปแน่!
ว่าแล้ว สายตาของเขาก็ประกายไปด้วยความเย็นชา
“ขอรับ เซียนเซิง” อาจี้ตอบรับอย่างดีใจ แล้วรีบไปเก็บข้าวของ
“ดีจัง ต่อไปจะได้เจอกับน้าทุกวันแล้ว” หนานหว่านเยียนยิ้มหน้าบาน ใบหน้าเต็มไปด้วยความเป็นห่วงโม่หวิ่นหมิง
เห็นเช่นนั้น เสิ่นอี่ว์ก็รู้สึกได้ถึงความอันตราย
หนานหว่านเยียนดีกับโม่หวิ่นหมิงมากกว่าที่ดีกับกู้โม่หานเสียอีก
และหน้าตาบุคลิกของโม่หวิ่นหมิง ก็เทียบได้กับท่านอ๋องเลยก็ว่าได้ ไม่ใช่น้าชายแท้ๆของพระชายา อายุห่างกันไม่เท่าไหร่ ไม่เพียงเท่านี้ เขาพูดจาอ่อนโยน แถมยังเอ็นดูพระชายามากด้วย
คนแบบนี้รับไปอยู่ใกล้พระชายา ท่านอ๋องจะไม่เสียใจจริงเหรอ……