ยอดชายากับองค์หนูน้อยแห่งจวนอ๋องอี้ บทที่ 235 โบยให้ตาย
แววตาของกู้โม่หานซับซ้อนมาก เขาเม้มริมฝีปากบาง เอ่ยเสียงต่ำ “โหรวเอ๋อร์ ข้าผิดหวังในตัวเจ้ามาก…”
ถ้าเป็นคนอื่นคงจะง่ายกว่านี้ ถึงอยางไรเชี่ยนปี้ก็อยู่กับหยุนอี่ว์โหรวมานานหลายปี เชี่ยนปี้แอบทำเรื่องชั่วร้ายอย่างการลอบสังหาร หยุนอี่ว์โหรวจะไม่รู้อะไรเลยจริงหรือ?
ยิ่งไปกว่านั้น เขากลับมาที่จวนอ๋องก่อนเพราะอาการป่วยของนาง ในขณะที่หนานหว่านเยียนกลับจวนตามลำพัง แต่กลับถูกลอบสังหารกลางทาง หากตัดสินว่าเป็นความบังเอิญ มันก็ไม่สมเหตุสมผลเลยจริงๆ
“ท่านอ๋องทรงผิดหวังในตัวโหรวเอ๋อร์…” หยุนอี่ว์โหรวรู้สึกเหมือนอยู่ในถ้ำน้ำแข็งในทันใด ความหวาดกลัวพลุ่งพล่านขึ้นมา
กู้โม่หานจะผิดหวังในตัวนางได้อย่างไร?
นางคลายความสงสัยในตัวเองไปหมดแล้วมิใช่หรือ? กู้โม่หานเปลี่ยนไปแล้วจริงๆ ไม่เชื่อมั่นในคำพูดของนางอีกต่อไป
หยุนอี่ว์โหรวยืนโงนเงนไม่มั่นคง ต้องเอามือวางค้ำที่มุมโต๊ะถึงจะยืนอยู่นิ่งๆ นางพยายามสงบสติอารมณ์อันฟุ้งซ่าน มองกู้โม่หานด้วยใบหน้าซีดเซียว
“พูดเช่นนี้ ท่านอ๋องไม่เชื่อโหรวเอ๋อร์ คิดว่าโหรวเอ๋อร์จะทำเรื่องโหดเหี้ยมอำมหิตเช่นนี้ได้จริงหรือ? ในหัวใจของท่านอ๋อง โหรวเอ๋อร์เป็นหญิงชั่วเช่นนี้หรือ?”
เชี่ยนปี้มองกู้โม่หานอย่างตกตะลึงเช่นกัน “ท่านอ๋อง เรื่องนี้ไม่เกี่ยวกับพระชายารองจริงๆ ปกติพระชายารองไม่กล้าแม้แต่จะเข่นฆ่า นางอ่อนโยนมีใจเมตตา จะทำเรื่องฆ่าคนแบบนี้ได้อย่างไร บ่าวเป็นคนทำจริงๆ เพคะ…”
“เจ้านี่มีฝีมือจริงๆ เพื่อให้เจ้านายของเจ้าพ้นผิด จึงยอมเสียสละตัวเอง!” หนานหว่านเยียนตัดบทเชี่ยนปี้อย่างเย็นชา นางเบื่อกับภาพอันเสแสร้งเช่นนี้ กู้โม่หานไม่ทำอะไร เช่นนั้นให้เป็นหน้าที่นางเอง
“ข้าจะบอกพวกเจ้าให้ ยักยอกเงินเข้ากระเป๋าตัวเองห้าแสนตำลึง ลอบสังหารพระชายาองค์ปัจจุบัน ความผิดสองกระทงนี้ก็เพียงพอแล้วที่จะทำให้พวกเจ้าทั้งสองต้องโดนตัดหัว ไม่ว่าจะพยายามหนีความผิดยังไง จุดจบก็เหมือนกัน!”
“เสิ่นอี่ว์! ลากทั้งสองคนนี้ลงไป โบยให้ตาย!”
“พระชายา” พ่อบ้านกาวสะดุ้งตกใจ สีหน้าลำบากใจทันที “พระชายา ขอประทานอนุญาตให้กระหม่อมพูดอะไรหน่อยเถอะ ท่านคือพระชายา มีอำนาจจัดการทุกอย่างในจวนอ๋อง”
“แต่ท่านอ๋องทรงเคร่งครัดต่อกฎหมายเสมอมา บ่าวผู้นี้ยอมรับว่าเป็นผู้วางแผนลอบสังหารพระชายา พระชายารองอาจจะไม่รู้เรื่องจริงๆ ก็ได้ อีกอย่างหลักฐานของท่านก็ไม่เพียงพอที่จะพิสูจน์ว่าพระชายารองเป็นผู้ลงมือ พระชายารองแค่ยักยอกเงินไปห้าแสนตำลึง…ตามกฎหมายแคว้นซีเหย่ ยังไม่อาจเอาชีวิตของพระชายารองได้ หากท่านยังดึงดันจะประหารพระชายารอง เกรงว่าทางจวนแม่ทัพจะไม่…จะไม่ยอมจบเรื่องนี้ง่ายๆ แน่”
เขามองเห็นเหตุการณ์ทั้งหมด หลักฐานในมือของหนานหว่านเยียน อย่างมากก็ใช้ลงโทษหยุนอี่ว์โหรวในความผิดฐานยักยอกเงินเข้ากระเป๋าตัวเอง และบกพร่องในการอบรมสั่งสอน
ไม่มีหลักฐานโดยตรงที่จะพิสูจน์ว่าการลอบสังหารนั้นเป็นการบงการของหยุนอี่ว์โหรว
พยานหยุนโม่หรานและหยุนอี่ว์โหรวต่างก็ยืนกรานทั้งสองฝ่าย เป็นเรื่องยากสำหรับหนานหว่านเยียนที่คิดจะสังหารพระชายารอง
ที่สำคัญ ท่านอ๋องไม่แสดงท่าทีอะไรเลยตั้งแต่ต้นจนจบ…
เสิ่นอี่ว์ก็ไม่กล้าลงมือ เพราะสำหรับกู้โม่หานแล้วหยุนอี่ว์โหรวก็คือคนพิเศษ
เขามองไปทางกู้โม่หาน แต่กู้โม่หานไม่ได้ห้ามหนานหว่านเยียน และไม่ได้เอ่ยปากช่วยหยุนอี่ว์โหรว ใบหน้าอันหล่อเหลาเยือกเย็นจนถึงขีดสุด
คิดว่าท่านอ๋องต้องรู้สึกปั่นป่วนแน่…
หนานหว่านเยียนหัวเราะด้วยความโมโห น้ำเสียงอึมครึมเยือกเย็น
“พ่อบ้านกาว เงิน ร้านค้า รวมถึงพยานบุคคลและคำให้การต่างก็ชี้ไปที่พระชายารอง ทำไมข้าถึงลงโทษนางไม่ได้?! ต้องรอให้นางเอามีดมาจ่อคอข้า แทงข้า หรือถึงขนาดรอให้ข้าตายแล้วจึงจะถือว่ากระทำความผิดงั้นหรือ?!”
“ครั้งแรกที่ข้าช่วยเสิ่นอี่ว์ พวกเจ้ายังไม่เข้าใจแม้แต่สถานการณ์ของเสิ่นอี่ว์ ก็ยังจับข้าเข้าคุกทันทีโดยไม่ลังเล ตอนนี้ข้ามีหลักฐานกองโตอยู่ตรงหน้าพวกเจ้า พวกเจ้ายังมีหน้ามาพูดว่านางไม่มีความผิด!”
พ่อบ้านกาวยิ่งไม่สะดวกใจที่จะพูดออกมา “ตอนนั้นท่านกำลังถือมีด นี่…นี่…เลยทำให้คนอื่นเข้าใจผิด…แต่ต่อมาก็ได้พิสูจน์ความบริสุทธิ์ของท่านแล้วมิใช่หรือ?”
ที่สำคัญที่สุดคือ ตอนนั้นใครๆ ก็มองว่าหนานหว่านเยียนไม่ใช่คนดี ดังนั้นจึงเข้าใจผิด
“ไม่จำเป็นต้องโต้เถียงแล้ว เป็นความผิดของโหรวเอ๋อร์เอง โหรวเอ๋อร์รับสารภาพผิดทั้งหมด หากพระชายาต้องการประหาร ก็แล้วแต่พระชายา” หยุนอี่ว์โหรวจ้องกู้โม่หานเขม็ง ยิ้มมุมปากเยาะเย้ยตัวเอง กล่าวอย่างอ่อนแรง
“ท่านอ๋อง โหรวเอ๋อร์ไม่มีที่พึ่งพิงในจวนแห่งนี้ แต่ไหนแต่ไรก็ได้แต่ผิงไฟกับเชี่ยนปี้ โหรวเอ๋อร์เคยคิดว่า มีเพียงท่านอ๋องอยู่ข้างกายก็เพียงพอแล้ว”
“แต่โหรวเอ๋อร์รอท่านมาห้าปีแล้ว ไม่ใช่แค่งานแต่งใหญ่ที่เฝ้ารอคอยที่ถูกทำลาย แต่ท่านไม่เคยสัมผัสโหรวเอ๋อร์ด้วยซ้ำ พอเกิดเรื่อง ท่านก็ปกป้องเพียงพระชายา ตั้งแต่เมื่อครู่ ท่านก็ยืนอยู่ข้างพระชายาตลอด ปรักปรำโหรวเอ๋อร์ ผิดหวังในตัวโหรวเอ๋อร์ แม้ว่าโหรวเอ๋อร์จะไม่ได้ทำร้ายพระชายา จิตใจนั้นสิ้นหวังหมดแล้ว….โหรวเอ๋อร์ไม่มีอะไรจะพูด ทั้งหมดเป็นความผิดของโหรวเอ๋อร์เอง”
แม้ว่าจะพูดออกไปเช่นนี้ แต่นางก็ต้องก้าวไปข้างหน้าเพื่อปิดบังความตั้งใจไว้ นางจะทำให้กู้โม่หานผิดหวังในตัวนางไม่ได้ มิฉะนั้นนางจะพึ่งบารมีใครได้อีก?!
เมื่อได้ยินเช่นนี้ แววตาของหนานหว่านเยียนก็เย็นชาทันที
แม่ดอกบัวขาว! หงายไพ่รักอีกแล้ว!
“ดูท่าทางเจ้าไม่เห็นโลงศพก็ไม่หลั่งน้ำตา ถ้าอย่างนั้นก็อย่าพูดจาไร้สาระอีกเลย ข้าไม่เข้าใจกฎหมายของพวกเจ้าจริงๆ ให้ฝ่าบาทกับไทเฮาที่รู้กฎหมายตัดสินแทนข้าก็แล้วกัน อวี๋เฟิง มัดพระชายารอง สาวใช้ และพี่ชายของนางไว้!”
อวี๋เฟิงกลัวกู้โม่หาน แต่กลับสนใจหนานหว่านเยียนมากกว่า ในขณะที่เขากำลังจะลงมือ ก็มีคนตะโกนห้ามไว้
“พอแล้ว!” กู้โม่หานเม้มริมฝีปากบางแน่น มองไปทางหนานหว่านเยียน “หลักฐานของเจ้าไม่เพียงพอ จะเข้าเฝ้าไทเฮาหรือไม่ก็เหมือนกัน เรื่องนี้เจ้าได้รับความไม่เป็นธรรม ข้าจะทวงความยุติธรรมให้เจ้าเอง”
พูดจบ สายตาของเขาก็เลื่อนไปที่หยุนอี่ว์โหรวผู้น่าสงสารเป็นอันดับแรกด้วยความผิดหวัง
อันที่จริงก็ไม่มีหลักฐานพิสูจน์ว่านางมีความผิด แต่เขาก็รู้ว่า คนที่อยู่ตรงหน้าเริ่มแปลกหน้าขึ้นเรื่อยๆ ไม่จิตใจดีเหมือนเดิมอีกต่อไป
เขาชำเลืองมองเชี่ยนปี้และหยุนโม่หราน
“สาวใช้เชี่ยนปี้เหิมเกริมนัก กล้าสมรู้ร่วมคิดกับบุตรชายอนุของแม่ทัพสังหารพระชายา ลงโทษประหารชีวิตด้วยการโบย! พระชายารองยักยอกเงินเข้ากระเป๋าตัวเอง บกพร่องในการอมรมสั่งสอน ลงโทษด้วยการริบทรัพย์สิน เงินเดือน และรางวัลทั้งหมดเข้าหลวง จนกว่าจะครบห้าแสนตำลึง กักบริเวณเป็นเวลาสามปี!”
เชี่ยนปี้และหยุนโม่หรานทรุดตัวลงกับพื้นทันที
สีหน้าของหยุนอี่ว์โหรวเปลี่ยนไป ยังไม่ทันจะได้พูดอะไร หยุนโม่หรานก็ร่ำไห้คร่ำครวญอย่างน่าเวทนา “ท่านอ๋อง ท่านอ๋อง ได้โปรดไว้ชีวิตข้าด้วย ข้าแค่โลภในทรัพย์สมบัติเท่านั้น…”
เขายังพูดไม่ทันจบ ก็ถูกกู้โม่หานใช้ดาบปาดลำคอ
เพียงชั่วพริบตา เลือดสาดกระเซ็นไปทั่วพื้น
ทุกคนตกตะลึง เชี่ยนปี้กรีดร้อง ตกใจจนหน้าซีด
ในขณะนี้ หยุนอี่ว์โหรวรู้สึกว่าร่างกายเย็นยะเยือก
ราวกับดาบของกู้โม่หาน ทาบอยู่บนลำคอของนาง…