ยอดชายากับองค์หนูน้อยแห่งจวนอ๋องอี้ บทที่257 หนานหว่านเยียน เจ้าบังอาจมาก
ว่าไงนะ?!
อ๋องเฉิงกับพระชายาเฉิงงั้นเหรอ?!
ทุกคนต่างก็ตกใจกันหมด
ถึงแม้ทุกคนจะรู้ว่าอ๋องเฉิงกับอ๋องอี้สองพี่น้องไม่ถูกกัน แต่ครั้งนี้กู้โม่เฟิงกลับใช้วิธีที่ต่ำทรามแบบนี้ โหดร้ายเกินไปแล้วล่ะ?
และเมื่อกี้กู้โม่เฟิงยังแย่งไปต้มยาให้หยีเฟยอีก? ที่แท้ก็เสแสร้งนี่เอง?
กู้โม่เฟิงก็ตกตะลึงเหมือนกัน พอได้สติก็เตะไปยังหมอหลวงหลี่อย่างแรง “บังอาจ ข้าจะยอมให้เจ้าใส่ร้ายงั้นเรอะ!”
หนานชิงชิงก็ใจเต้นเร็วตึกตัก ลนลานไม่ไหว สีหน้ากลับจริงจังขึ้นมา “เสด็จพ่อ หมอหลวงหลี่ใส่ร้ายพวกเรา ขอเสด็จพ่อได้โปรดตรวจสอบด้วย!”
หมอหลวงหลี่กลับสารภาพเร็วขนาดนั้น และยังลากกู้โม่เฟิงเข้าไปเกี่ยวด้วย น่าโมโหจริงๆ!
นางจะจัดการยังไงดีล่ะ?!
ใบหน้าสวยของหนานหว่านเยียนแปลกใจเล็กน้อย
นางเดาได้ว่าเป็นหนานชิงชิง แต่ไม่คิดว่ากู้โม่เฟิงจะเข้ามาเกี่ยวด้วย
แต่การกระทำเมื่อกี้ของกู้โม่เฟิง เห็นได้ชัดว่าไม่เกี่ยวข้องกับเรื่องนี้ หมอหลวงหลี่ทำไปก็เพื่อชี้ตัวเขางั้นเหรอ?
และ ทำไมนางถึงรู้สึกว่าหมอหลวงหลี่สารภาพมาไม่หมดล่ะ เรื่องราวชักจะราบรื่นเกินไปแล้ว……
กู้โม่หานมองกู้โม่เฟิงอย่างไม่อยากจะเชื่อ ในใจก็รู้สึกเย็นยะเยือกขึ้นมา
“ข้าไม่คิดเลยว่า เจ้าจะต่ำทรามขนาดนี้!”
กู้โม่เฟิงเกลียดเขา ต่อต้านเขา ถึงแม้จะไม่รู้ว่าเพราะอะไร แต่เขาก็ไม่คิดเลยว่า ครั้งนี้กู้โม่เฟิงจะลงมือกับแม่ของเขา!
กู้โม่เฟิงกำลังจะตอบโต้ แต่นึกถึงเรื่องที่ก่อนหน้านี้หนานชิงชิงบอกให้เขาลงมือกับหยีเฟย ในใจก็รู้สึกลังเล แต่ก็อดไม่ได้มองไปยังหนานชิงชิง
แต่เขาก็ขวางหน้าหนานชิงชิงอย่างเด็ดขาด น้ำเสียงไม่พอใจอย่างมาก “ข้าไม่ได้ทำ แล้วแต่จะตรวจเลย!”
ฮองเฮารีบพูดปกป้องกู้โม่เฟิง: “อ๋องอี้ ในนี้จะต้องมีเรื่องเข้าใจผิดแน่ ไม่ใช่ว่าหมอหลวงหลี่บอกใครก็ต้องเป็นใคร!”
นางกวาดตามองหมอหลวงหลี่อย่างเย็นชา “เจ้ากล้าใส่ร้ายอ๋องเฉิง ถ้าไม่มีหลักฐาน ข้าจะฟันหัวเจ้าเป็นคนแรก!”
หมอหลวงหลี่ตัวสั่นเทา ผู้คนที่อยู่ในสถานการณ์ ตำแหน่งสูงศักดิ์กันทุกคน เขาไม่กล้าเถียงกับใครหรอกนะ จึงต้องคุกเข่าขอร้อง
หนานหว่านเยียนกำลังจะบอกว่าให้ลองใช้ไป่จื่อเซียงกับหนานชิงชิง กู้โม่หานกลับมีสีหน้าเย็นชา ตะคอกด่ากู้โม่เฟิง “ทำหรือไม่เคยทำ แค่ตรวจก็รู้แล้ว!”
ระหว่างสองพี่น้องแทบจะตีกันอยู่แล้ว สายตาของฮ่องเต้มืดมน แต่ขณะเดียวกัน ก็มีความพึงพอใจและมั่นใจ
หนานชิงชิงก็ร้อนรนใจ รีบเดินไปข้างๆกู้โม่เฟิง “น้องหก นี่มันเป็นการใส่ร้ายจริงๆนะ ข้ากับอ๋องเฉิงไม่มีทางทำร้ายเสด็จแม่ของเจ้าแน่นอน!”
ต่อมา นางก็หันไปคุกเข่าต่อหน้าฮ่องเต้ “เสด็จพ่อ ขอทรงเชื่อใจลูกด้วยเถิด!”
ฮองเฮาก็พูดอย่างหนักแน่นว่า: “ฝ่าบาท หม่อมฉันเป็นพยานให้เขาได้ เฟิงเอ๋อร์มีนิสัยตรงไปตรงมาแต่เด็ก ไม่มีทางวางแผนชั่วร้ายแบบนั้นได้แน่นอน และไม่มีทางใช้วิธีที่สกปรกแบบนั้นแน่นอน”
“ชิงชิงเป็นเด็กที่หม่อมฉันเห็นมาตั้งแต่เล็กจนโต นางเป็นเด็กที่อ่อนโยนมีมารยาท ไม่มีทางทำเรื่องที่ร้ายแรงแบบนั้นได้ยังไง? หมอหลวงหลี่เห็นได้ชัดว่ามีคนบีบบังคับให้พูดแบบนี้ ฝ่าบาท หม่อมฉันขอร้อง ได้โปรดตรวจสอบให้ชัดเจนด้วยเถิด!”
อ่อนโยนมีมารยาทเหรอ?
หนานหว่านเยียนเกือบหัวเราะจนฟันหัก ถ้าหนานชิงชิงอ่อนโยน งั้นอี่ร์โหรวคงเป็นคนที่ ‘ดีมากๆ’ เลยล่ะ
คนหนึ่งยัยตอแหลอีกคนก็ยัยอำมหิต แต่ละคนไม่ใช่เล่นเลย ในมือแปดเปื้อนไปด้วยเลือดของคนมากมาย!
สายตาของนางเต็มไปด้วยแรงอาฆาต แล้วพูดออกไปว่า: “เสด็จพ่อ ให้ลูกตรวจสอบมือของพี่สามและพี่สะใภ้สามก่อนดีหรือไม่?”
ฮ่องเต้ไม่พูดอะไร ก็ถือว่าอนุญาตคำขอของหนานหว่านเยียน
หนานหว่านเยียนสบตาที่แดงเผือดของฮองเฮา น้ำเสียงเย็นยะเยือก “เสด็จแม่ มือสะอาดไม่จำเป็นต้องล้าง ขออย่าขัดขวางการทำงานของลูกเลย”
ฮองเฮากัดฟันสีหน้าลังเล กู้โม่เฟิงกลับเดินตรงไปข้างหน้า โบกมือให้กับหนานหว่านเยียน
“แล้วแต่เจ้าจะตรวจสอบเลย แต่ถ้าข้าบริสุทธิ์ พวกคนที่กล้าใส่ร้ายข้า ข้าจะไม่ปล่อยไปสักคนเลย!”
หนานหว่านเยียนมองไปยังหนานชิงชิงที่อยู่ด้านหลังเขา ที่จริงอยากตรวจสอบนาง แต่กลับทำได้แค่ใช้ไป่จื่อเซียงรมควันมือของกู้โม่เฟิง
สุดท้ายก็ไม่แปลกใจเลย มือของเขาสะอาดไร้ร่องรอย
กู้โม่เฟิงแสยะยิ้มเย็นชา “ดูให้ชัดเจนล่ะ ข้าไม่เคยแตะต้องยาพิษนั่นเลย และไม่มีทางทำร้ายหยีเฟยแน่!”
ฮองเฮากลับพูดขึ้นอย่างเย็นชาว่า: “ฝ่าบาท อ๋องเฉิงไม่มีทางทำเรื่องที่ต่ำทรามเช่นนั้นได้แน่นอน เขาเป็นผู้บริสุทธิ์ เรื่องนี้ หมอหลวงหลี่ใส่ร้าย!”
หนานหว่านเยียนมองไปยังหนานชิงชิง “เสด็จแม่ อ๋องเฉิงอาจจะไม่เคยแตะต้องยาพิษนี้ แต่ยังไม่ได้ตรวจสอบพระชายาเฉิงเลย”
นางเดาไว้ไม่มีผิด หนานชิงชิงไม่ใช่ผู้คิดเรื่องนี้แต่ต้องเกี่ยวข้องกับเรื่องนี้แน่ ในมือต้องมีสารพิษบัวแปดหัวใจหลงเหลืออยู่แน่นอน
ถ้าวันนี้จับตัวหนานชิงชิงไว้ได้ ต่อไปถ้านางพาเด็กๆหนีออกจากจวน ก็จะลดความเสี่ยงลงไปด้วย……
หนานชิงชิงซ่อนมือไว้ใต้แขนเสื้อ ไม่มีใครรู้ว่า ตอนนี้ฝ่ามือของนางมีเหงื่อแตกพลั่กไปหมด “น้องสาว พี่ไม่ได้ทำแน่นอน หมอหลวงหลี่โกหกต่างหาก!”
อ๋องเฉิงปกป้องนางไว้ มองค้อนหนานหว่านเยียน
“หนานหว่านเยียน เจ้าบังอาจนัก! ชิงชิงเป็นพระชายาของข้า ข้าบริสุทธิ์ นางก็ต้องบริสุทธิ์สิ พวกเราโดนหมอหลวงหลี่ใส่ร้ายนะ! เจ้าไม่ยอมปล่อยข้ากับชิงชิงไป เจ้าคิดจะใส่ร้ายพวกเราไปด้วยหรือไง?!”
ที่กู้โม่เฟิงไม่มียอมให้หนานหว่านเยียนตรวจสอบหนานชิงชิง มีเหตุผลสองข้อ
หนึ่งคือตรวจสอบเขาแล้ว ทั้งที่ถูกใส่ร้าย ถ้ายังตรวจสอบหนานชิงชิงอีก ก็แสดงว่าไม่ไว้หน้าเขาน่ะสิ!
สองคือ ถ้าหนานชิงชิงทำเรื่องนั้นจริง ก็ไม่เป็นผลดีต่อเขา เขาจะต้องปกป้องหนานชิงชิงไว้ให้ได้
หนานชิงชิงถูกอ๋องเฉิงปกป้องไว้ด้านหลัง ก็ถึงโล่งอก สายตาประกายไปด้วยความสะใจ
ยังดีที่มีอ๋องเฉิง ไม่งั้นความคงแตกแน่……
ฮองเฮามองไปยังหนานหว่านเยียน ตะคอกด่าว่า “พระชายาอี้ เป็นคนอย่าเหยียบเส้นตายคนอื่นสิ อ๋องเฉิงบอกว่าไม่มีปัญหา พระชายาเฉิงจะมีปัญหาได้ยังไง เจ้าคิดจะทำบ้าอะไรของเจ้ากันแน่!”
หนานหว่านเยียนกำลังจะพูดอะไร แต่ก็พูดไม่ออก จ้องมองหนานชิงชิงแล้วกำหมัดแน่น
หมอหลวงหลี่บอกว่าเป็นฝีมือของอ๋องเฉิงและพระชายาเฉิง ตอนนี้พิสูจน์แล้วว่ากู้โม่เฟิงไม่มีปัญหา หนานชิงชิงก็ต้องบริสุทธิ์แน่นอน ถ้าตรวจสอบต่อไปคงจะทำให้คนของฝ่ายอ๋องเฉิงไม่พอใจ……
“หมอหลวงหลี่! เสด็จพ่ออยู่นี่แล้ว เจ้ายังกล้าโกหกอีก! สมควรตายยิ่งนัก!” ทันใดนั้น กู้โม่หานก็ตะคอกด่า ชักดาบไปที่คอของหมอหลวงหลี่ “ถ้าไม่พูดความจริง ข้าจะฆ่าเจ้าซะ!”
หมอหลวงหลี่ร้อนรนใจมาก แก่แล้วยังโดนกู้โม่หานด่าจนฉี่ราด เขามองดูฮ่องเต้ แล้วคารวะด้วยเนื้อตัวสั่นเทา
“กระหม่อมสับสนไปเอง! เมื่อกี้กระหม่อมไม่ได้พูดความจริง ที่จริงผู้ที่สั่งการกระหม่อมทำร้ายหยีเฟยก็คือ——”