ยอดชายากับองค์หนูน้อยแห่งจวนอ๋องอี้ บทที่379 มอบของขวัญชิ้นใหญ่ให้ไท่จื่อ
ตำหนักหลวนเฟิ่งเต็มไปด้วยความอบอุ่น
และราชโองการที่ฮ่องเต้แต่งตั้งไท่จื่อ ก็ประกาศไปทั่วแล้ว
ทั้งเมืองก็เต็มไปด้วยเสียงจากหลายฝ่าย
ก่อนหน้าพวกคนที่บอกว่าเด็กสองคนของอ๋องอี้เป็นลูกคนอื่น ก็ถูกคนของอ๋องอี้กำจัดไปแล้ว แต่พวกนั้นก็ยังไม่พอใจอยู่ดี
แต่ตอนนี้ ทุกคนต่างก็อยู่ฝ่ายอ๋องอี้และกล่าวอวยพรอ๋องอี้กันทั้งหมด มีลูกสาวที่น่ารักสองคนยังไม่พอ ยังได้เป็นไท่จื่ออีก
และมีคนพูดอีกว่า หนานหว่านเยียนเป็นตัวนำโชคของเขา ในหมู่พระชายามากมาย มีเพียงนางที่ให้กำเนิดลูกสาว แถมยังมีสองคนอีก มีนางอยู่ เทพสงครามจะต้องโชคดี คิดสิ่งใดก็สมปรารถนาแน่นอน
นอกวังก็เป็นขนาดนี้แล้ว ในวังก็แอบเคลื่อนไหวเหมือนกัน
ชีกุ้ยเฟยนอนอยู่บนเก้าอี้นอนในตำหนักฉางอาน หลับตานวดขมับที่ปวดตุบตับ
ภายในตำหนัก เจิ่งกงกงคุกเข่าหน้าฟุบลงพื้น ไม่กล้าหายใจดัง
ชีกุ้ยเฟยหรี่ตาด้วยสายตาที่เย็นชา “เจ้าบอกว่า อ๋องอี้ทั้งครอบครัวอยู่ในตำหนักหลวนเฟิ่งอย่างปรองดองและมีความสุขงั้นเหรอ?”
เจิ่งกงกงกลืนน้ำลาย รีบพยักหน้า “ขอรับ กุ้ยเฟย บ่าวได้ยินมาว่าทางตำหนักหลวนเฟิ่งมีเสียงหัวเราะคิกคัก น่าจะกำลังฉลอง ฉลอง……”
ฉลองอะไร เขาไม่กล้าพูด
กุ้ยเฟยได้ยินข่าวที่อ๋องอี้ได้รับแต่งตั้งเป็นไท่จื่อก็โกรธมากอยู่แล้ว เขาไม่กล้าซ้ำเติมหรอกนะ
“ฉลอง?” ชีกุ้ยเฟยสายตาเย็นชาและแฝงไปด้วยความอิจฉา นางแสยะยิ้มเย็นชา “เหมือนกับแม่ไม่มีผิด ยโสโอหัง สายตาไร้ผู้คน”
ตอนนั้นหยีเฟยเด่นสง่ากว่าทุกคน ทำให้นางตกอับ ตอนนี้ลูกของหยีเฟยก็ยังกดลูกชายสองคนของนางไว้อีก!
แผนการที่นางวางไว้หลายปี กลับสลายหายไปในพริบตา แต่ยังดีที่หยีเฟยยังไม่ฟื้น ไม่งั้นละก็……
เจิ่งกงกงถามอย่างหวาดระแวง “กุ้ยเฟย ต่อไปพวกเราจะทำยังไงดี?”
ชีกุ้ยเฟยสายตาโหดเหี้ยม เต็มไปด้วยแรงอาฆาตที่น่ากลัว นางลูบเล็บมือที่เรียวยาวของตัวเอง
“ไม่เป็นไร พวกเขาโอหังได้ไม่นานหรอก”
นางไม่รู้ว่าฮ่องเต้ทรงคิดยังไง แต่นางก็รู้ว่า ท่านนั้นก็คิดไม่ต่างกันกับนาง
ไม่อยากให้กู้โม่หานได้รับตำแหน่งนี้ และไม่อยากให้เขาเป็นใหญ่เพียงคนเดียว
ในเมื่อเป็นเช่นนี้ งั้นก็ใช้โอกาสที่เขาป่วย ฆ่าเขาเสีย!
เจิ่งกงกงมองดูรอยยิ้มของชีกุ้ยเฟย ในใจก็รู้สึกกลัว รอยยิ้มของนางน่ากลัวมากจริงๆ
ต่อมา เขาก็ได้ยินชีกุ้ยเฟยออกคำสั่งอย่างเย็นชา: “ข้าจะมอบของขวัญชิ้นใหญ่ให้ไท่จื่อ ให้เขานอนตายตาหลับ เจ้าฟังนะ……”
เจิ่งกงกงยิ่งฟังก็ยิ่งกลัว
“ขอรับ กุ้ยเฟย บ่าวจะจัดการให้ดี ไม่ทำให้ท่านผิดหวังแน่นอน——”
ณ จวนอ๋องเฉิง
หนานชิงชิงมองดูประตูห้องที่ปิดแน่นของอ๋องเฉิง ก็รู้สึกโกรธมาก นัยน์ตาปะทุไปด้วยไฟ และก่นด่าเสียงเบา
“กลับจวนมาก็วิ่งเข้าห้องเป็นเต่าหัวหด กู้โม่เฟิง เจ้ามันคนขี้ขลาดตาขาว!”
นางโกรธมากเตรียมกลับห้อง ก็ได้ยินข้ารับใช้เข้ามารายการเรื่องที่กู้โม่หานได้รับแต่งตั้งเป็นไท่จื่อ ก็โกรธมากขึ้นกว่าเดิม
นางข่มความโกรธไว้ แล้วปัดกระถางดอกไม้ข้างๆตกแตก
ทันใดนั้น ภายในเรือนก็เต็มไปด้วยเศษซากดอกไม้และกระถางที่แตกกระจาย
ข้ารับใช้ชิวซวงเห็นแล้วก็ไม่กล้าพูดอะไรมาก ยืนเฝ้าอยู่ข้างๆ
ตอนนี้เอง หลินเอ๋อร์ที่ได้ยินเสียงก็รู้สึกกลัวขยี้ดวงตาที่แดงก่ำวิ่งเข้ามา ดอกขาหนานชิงชิงไว้แน่น “ท่านแม่ ท่านแม่ ฮื่อๆๆ……”
เห็นลูกชายตัวเองเอาแต่ร้องไห้ ไม่น่ารักและเป็นที่รักเหมือนเด็กหญิงสองคนนั้น หนานชิงชิงก็โกรธมากขึ้น และตะคอกเสียงดังให้หลินเอ๋อร์
“เอาแต่ร้องไห้อยู่นั่น! ทำไมเจ้าไร้ประโยชน์เช่นนี้! ลูกสาวสองคนของหนานหว่านเยียนเก่งกว่าเจ้าเยอะ!”
ตอนนี้เอง หลินเอ๋อร์ก็กลัวจนเบิกตาโพลง แล้วตะโกนร้องไห้เสียงดังกว่าเดิม
ชิวซวงรีบเข้าไปปลอบหลินเอ๋อร์ “นายน้อยอย่าร้องไห้เลย”
จากนั้น นางก็ขมวดคิ้วมองหนานชิงชิง “พระชายาอย่าโกรธไปเลย ตอนนี้นายน้อยยังเด็ก บ่าวเชื่อว่าสักวัน นายน้อยจะต้องกลายเป็นคนเก่งแน่นอน!”
“คนเก่งเหรอ?” หนานชิงชิงมองหลินเอ๋อร์ด้วยสายตารังเกียจ
“เก่งแล้วยังไง ถ้าข้าไม่มีลูกสาว มีแต่ลูกชาย ก็เทียบกับหนานหว่านเยียนที่มีลูกสาวสองคนไม่ได้หรอก!”
เมื่อวานตอนที่นางได้เห็นเด็กสองคนในวัง ก็อึ้งมาก
หนานหว่านเยียนคนไร้ประโยชน์นั่น กลับสอนลูกสาวได้ดีขนาดนี้ ถ้าเป็นแบบนี้ต่อไป ถ้าเสด็จพ่อหลงเสน่ห์ลูกสาวของหนานหว่านเยียนอีก ยังจะมีตำแหน่งของนางอยู่ไหม?!
ชิวซวงปลอบใจหลินเอ๋อร์ แล้วส่งเขาให้หมัวมัว
นางเดินไปตรงหน้าหนานชิงชิง “พระชายา ถึงแม้พระชายาอี้จะมีลูกสาวสองคน แต่อ๋องอี้ก็ยังไม่ได้แต่งตั้งเป็นไท่จื่ออย่างเป็นทางการ ท่านสอนบ่าวบ่อยครั้ง ขอแค่เรื่องนี้ยังไม่กำหนด ก็จะต้องมีโอกาสพลิกสถานการณ์แน่นอน”
ได้ยินคำนี้ หนานชิงชิงก็ใจเย็นลงมาก
นางมองชิวซวง แสยะยิ้มเย็นชา “เจ้าอยู่กับข้ามานาน พัฒนาขึ้นเยอะเลยนะ”
พอพูดจบ นางก็มองไปยังห้องของกู้โม่เฟิง ยังคงไร้วี่แววใดๆ
ตอนนี้สถานการณ์ไม่เป็นผลดีต่อนางมาก ถึงนางจะอยากได้กู้โม่หาน แต่นางมีลูกชายแล้ว กู้โม่หานก็คงไม่อยากได้นาง
หนานชิงชิงเสียใจที่ตอนนั้นไม่ได้แต่งงานกับกู้โม่หาน เลือกไปเลือกมาก็เลือกกู้โม่เฟิง กู้โม่เฟิงกลับเป็นตัวไร้ประโยชน์เอามากๆ
แต่นางก็กลับหลังไม่ได้แล้ว มีเพียงต้องเดินหน้าต่อไปในอนาคตที่มืดมน
“ชิวซวง เตรียมรถม้า! ข้าจะไปที่จวนเฉิงเซี่ยง!”
ตอนนี้ ท่านพ่อเป็นที่พึ่งพาเดียวของนาง
“เจ้าค่ะ พระชายา” ชิวซวงเดินออกไป
สักพักหลังจากนั้น หนานชิงชิงก็รีบกลับไปที่จวนเฉิงเซี่ยงอย่างรีบร้อน
พอเปิดประตูเข้าไป นางก็เห็นหนานฉีซานยิ้มแย้มแจ่มใส
ฮูหยินเฉิงเซี่ยงที่อยู่ข้างๆเขากลับโมโหมาก
หนานชิงชิงไม่ได้คิดอะไรมาก รีบเดินไปหาหนานฉีซาน
“ท่านพ่อ ท่านต้องช่วยข้านะ ตอนนี้อ๋องอี้เหมือนจะได้เป็นไท่จื่อแล้ว อ๋องเฉิงก็ไม่ทำอะไรเลย ลูกไม่รู้แล้วว่าควรจะทำยังไงดี!”
ห้าปีมานี้ หนานฉีซานก็สนับสนุนให้นางเป็นไท่จื่อเฟยมาโดยตลอด……