ยอดชายากับองค์หนูน้อยแห่งจวนอ๋องอี้ บทที่401 จะช่วยข้าไหม
เหลียงเยว่อึ้ง มองหยุนเหิงอย่างตกตะลึง
เมื่อก่อนคนที่ด่าหนานหว่านเยียนแรงที่สุดก็คือหยุนเหิงนะ?
วันนี้เขาเป็นอะไรไป ไม่ด่าหนานหว่านเยียน แต่กลับปกป้องนาง เขากินยาลืมเขย่าขวดหรือไง?!
หนานชิงชิงหรี่ตามองหนานหว่านเยียนกับหยุนเหิง นางเลิกคิ้วขึ้นอย่างสงสัยเช่นกัน
ต้องรู้ว่าหยุนเหิงเป็นคนพูดจาตรงไปตรงมา ดื้อรั้นไม่ฟังใคร อยากซื้อใจเขานั้นยากมาก หนานหว่านเยียนทำได้ยังไงกัน……
บนหอจูหยุน
กู้โม่หานได้ยินทุกคนด่าว่าหนานหว่านเยียน สีหน้าของเขามืดมน แก้วในมือกำลังจะฟาดลงไปที่เหลียงเยว่ในจวนกั๋วกง แต่หนานหว่านเยียนปรากฏตัวเสียก่อน
นางมาแล้ว สายตาของเขาอ่อนโยนขึ้นมาทันที แก้วก็ยังอยู่ในมือเหมือนเดิม
แต่พอเห็นหยุนเหิงกับหนานหว่านเยียนใกล้กันขนาดนั้น ‘เพี้ยง!’ เขาบีบแก้วในมือจนแตกละเอียด แล้วกลิ้งตกลงพื้น
อวี๋เฟิงที่เห็นแล้วก็ไม่กล้าหายใจแรงด้วยซ้ำ “ท่าน ท่านอ๋อง มือของท่าน……”
กู้โม่หานจ้องเขม็งหนานหว่านเยียน ใบหน้าเย็นชา อวี๋เหิงระมัดระวัง ไปเอาแก้วมาเทเหล้าให้เขาใหม่
ท่านอ๋องก็จริงๆเลย บอกแล้วให้บุกไปที่จวนกั๋วกงเลย แบบนี้พระชายาก็จะไม่โดนคนอื่นจับจ้องอีก ท่านอ๋องยังปกป้องพระชายาได้ด้วย……
ตอนนี้ ณ จวนกั๋วกง
ทุกคนอึ้งกันหมด หนานหว่านเยียนมองหยุนเหิง แล้วกวาดตามองไปยังเหลียงเยว่
เหลียงเยว่รู้สึกตัว ก็รีบคุกเข่าไปยังหนานหว่านเยียน
“ไม่ ไม่ใช่แบบนั้นนะเจ้าคะ หม่อมฉันไม่ได้ตั้งใจจะว่าร้ายพระชายาเลย เมื่อครู่หม่อมฉันพูดอะไรไม่คิด แม่ทัพน้อยหยุนกับพระชายา ได้โปรดอย่าถือสาข้าเลย”
หยุนเหิงไม่สนใจความเป็นความตายของเหลียงเยว่เลย เอาแต่มองหนานหว่านเยียน แล้วรอนางออกคำสั่ง
วันนี้หนานหว่านเยียนไม่ได้มาเบ่งอำนาจ นางมาร่วมงานเลี้ยง ฮูหยินกั๋วกงที่เป็นผู้จัดงานยังไม่ได้พูดอะไรเลย นางจะทำให้ฮูหยินกั๋วกงเสียหน้าไม่ได้ แต่ก็ต้องเชือดไก่ให้ลิงดู
หนานหว่านเยียนมองค้อนเหลียงเยว่ “วันนี้เป็นงานเลี้ยงน้ำชาของฮูหยินกั๋วกง เพื่อไม่เป็นการรบกวนฮูหยิน เจ้าก็คุกเข่าคำนับยอมรับผิดแล้วกัน แล้วข้าจะปล่อยเจ้าไป”
เหลียงเยว่กัดฟัน ในใจไม่พอใจ แต่ตอนนี้หนานหว่านเยียนเป็นถึงว่าที่ไท่จื่อเฟย นางมีเรื่องด้วยไม่ได้ จึงต้องคุกเข่าคำนับขอโทษแต่โดยดี
“หม่อมฉันพูดมากไปเอง ขอพระชายาโปรดให้อภัย”
เซียงอวี้เห็นเหลียงเยว่มีท่าทีไม่พอใจ ในใจก็แอบด่าไปสองคำ แต่หนานหว่านเยียนยังไม่ได้พูดอะไร นางก็เลยไม่ได้พูดอะไร
เพราะยังไงพระชายามางานเลี้ยงของฮูหยินกั๋วกงครั้งแรก ก็ต้องไว้หน้านางด้วย จะให้ฮูหยินมีภาพความทรงจำที่ไม่ดีต่อพระชายาไม่ได้
หยุนเหิงเห็นหนานหว่านเยียนไม่ถือสา เขาก็ยิ้มแล้วเอ่ยชมว่า: “สมแล้วที่เป็นถึงพี่นางฟ้า จิตใจยังดีมากอีกด้วย!”
ทุกคนก็ตกตะลึงตาค้าง มองดูหยุนเหิงด้วยความอึ้ง หนานหว่านเยียนไม่สนใจทุกคน เปลี่ยนจากใบหน้าเย็นชา แล้วยิ้มแย้มมองไปยังฮูหยินกั๋วกง
“ฮูหยิน ระหว่างทางช้าไปหน่อย ขอฮูหยินกั๋วกงให้อภัย นี่เป็นของขวัญที่ข้าเตรียมมา ฮูหยินเชิญดูเจ้าค่ะ”
ว่าแล้ว หนานหว่านเยียนก็ให้เซียงอวี้เอาของขวัญที่เตรียมไว้ออกมา เมื่อวานบอกว่าจะเข้าร่วมงานเลี้ยง นางก็ให้คนไปเตรียมของขวัญมา
ฮูหยินกั๋วกงกลับไม่มองของขวัญด้วยซ้ำ ให้คนรับไว้ แล้วทำความเคารพหนานหว่านเยียน น้ำเสียงเรียบเฉยไม่มีอารมณ์ใดๆ
“พระชายาตำแหน่งสูงศักดิ์ มาหรือไม่ก็ดูอารมณ์ท่าน แต่ในเมื่อมาแล้ว งานเลี้ยงน้ำชาวันนี้ก็เริ่มได้แล้วล่ะ”
“งานเลี้ยงน้ำชาครั้งนี้ ส่วนใหญ่ก็แต่งกลอนประชันกัน พวกเราใช้ ‘ลม’ เป็นโจทย์ดีไหม ว่ายังไง?”
ทุกคนได้ยินแล้ว ต่างก็พยักหน้าเห็นด้วย งานเลี้ยงแต่งกลอนทั่วไปก็เป็นแบบนี้ เลือกโจทย์แล้ว ก็มีผู้จัดงานเริ่ม……การแต่งกลอนประชันกัน
ยังมีรางวัลอีกด้วย
แต่เจียงหรูเยว่กลับส่ายหน้า “ฮูหยินกั๋วกง แต่งกลอนประชันกันก็ดีอยู่หรอก แต่ข้ารู้สึกว่า ในเมื่อวันนี้ท่านอ๋องเจ็ดก็อยู่ด้วย เพิ่มกิจกรรมหมากล้อมเข้าไปด้วยเป็นยังไง?”
ทุกคนรู้ว่า ถึงแม้ท่านอ๋องเจ็ดจะเป็นหนอนหนังสือ แต่ที่ถนัดที่สุดก็คือการเล่นหมากล้อม
เจียงหรูเยว่อยากแสดงตัวต่อหน้ากู้โม่หลิง สร้างความประทับใจให้เขา
“หมากล้อม?” ฮูหยินกั๋วกงขมวดคิ้วเล็กน้อย หันไปมองกู้โม่หลิง พยักหน้าแล้วพูดว่า “ก็ดีเหมือนกัน การประชันกันทางด้านวรรณศิลป์ก็ไม่ได้มีแค่กวีโคลงกลอนอยู่แล้ว ถ้าวันนี้ได้เห็นท่านอ๋องเจ็ดแสดงวิชาหมากล้อม ก็ดีเหมือนกัน”
“งั้นวันนี้เปลี่ยนเป็นการประชันหมากล้อมแล้วกัน แต่งกลอนด้วยโจทย์ ‘ลม’ ประชันหมากล้อม ใครเป็นคนสุดท้ายก็จะชนะไป บทกลอนเหมือนเดิม ใครทำได้มากและดีที่สุด ก็จะเป็นผู้ชนะไป รางวัลก็คือ เงินหนึ่งแสนตำลึง! พวกเจ้าเอาความสามารถออกมาทั้งหมด เงินหนึ่งแสนนี้จะได้แบ่งกัน หรือเอาไปคนเดียว ก็ดูที่ความสามารถของพวกเจ้าแล้วกัน”
รางวัลคือเงินหนึ่งแสนตำลึงเลยเหรอ?!
จวนกั๋วกงรวยจริงๆเลยนะ!
ทุกคนได้ยินแล้ว ต่างก็เคลื่อนไหวขึ้นมา
แต่พอเห็นกู้โม่หลิงที่ส่ายพัดแล้วยิ้มอ่อนๆ ทุกคนก็เริ่มถอยหลังกัน
ท่านอ๋องเจ็ดเก่งด้านหมากล้อม ทุกคนรู้ดีกันหมด คนที่ชนะเขาได้นั้นมีน้อยมาก ก็มีแต่เทพสงครามอ๋องอี้ที่พอจะเทียบกับเขาได้
หญิงผู้ดีชุดสีชมพูยิ้มอ่อนๆ “ถึงจะเล่นหมากล้อมได้ดี แต่เกรงว่า……”
หญิงผู้ดีชุดเขียวอีกคนหันไปมองหนานหว่านเยียน แล้วรีบพูดว่า “กลัวว่าจะมีใครบางคนไม่รู้กฎกติกาน่ะสิ เดี๋ยวจะได้เป็นตัวตลกกันพอดี”
พวกนางแอบหัวเราะกัน หนานชิงชิงกวาดตามองหนานหว่านเยียนด้วยสายตาดูถูก
ทุกคนต่างก็รู้กันดีว่า คนที่ไม่เข้าใจกฎกติกาก็คือหนานหว่านเยียน ตัวไร้ประโยชน์ที่ยังท่องบทกลอนไม่ได้ด้วยซ้ำ จะเล่นหมากล้อมได้ยังไง?
สายตาที่ดูถูก รอดูนางอับอายต่างก็มองไปยังหนานหว่านเยียนเป็นระยะ
เซียงอวี้โมโหมาก หนานหว่านเยียนกลับไม่สนใจ ดวงตาของนางเป็นประกายขึ้นมา
เงินหนึ่งแสนตำลึงนี้ นางจะต้องเอามาให้ได้
แบบนี้ตอนที่พาเด็กสองคนกับน้าชายออกไป ก็จะได้มีเงินสำรองก้อนหนึ่ง
และนางเห็นฮูหยินกั๋วกงชอบแต่งกลอน เพื่อนมิตรทางวรรณศิลป์ ถ้านางเข้าหาตามความชอบนั้น ไม่แน่อาจจะกระชับความสัมพันธ์กับฮูหยินได้ ยิงนกตัวเดียวได้สองตัว
เล่นหมากล้อม?
บนหอจูหยุน กู้โม่หานขมวดคิ้วอย่างกังวล
ตอนนี้หนานหว่านเยียนมีความสามารถก็จริง แต่เขายังไม่เคยเห็นนางเล่นหมากล้อมเลย
อวี๋เฟิงก็กังวลมาก “ท่านอ๋อง พระชายาเหมือนจะเล่นหมากล้อมไม่เป็นนะ ท่านลงไปช่วยพระชายาดีไหม?”
ท่านอ๋องฉลาด เก่งทั้งด้านบู๊และบุ๋น เล่นหมากล้อมก็เป็นที่หนึ่ง ถ้าท่านอ๋องสอนพระชายาเล่นหมากล้อม พระชายาจะต้องไม่แพ้แน่นอน——