ยอดชายากับองค์หนูน้อยแห่งจวนอ๋องอี้ – บทที่ 406 เสียใจที่ไม่ได้ทำดีต่อนาง

ยอดชายากับองค์หนูน้อยแห่งจวนอ๋องอี้

ยอดชายากับองค์หนูน้อยแห่งจวนอ๋องอี้ ตอนที่ 406 เสียใจที่ไม่ได้ทำดีต่อนาง

หนานหว่านเยียนตรวจสอบลายมือของตนเอง ว่าไม่มีการเขียนผิด แล้วเงยหน้ามองซ้ายมองขวา กลับเห็นหมัวมัวที่ปรนนิบัติข้างกายฮูหยินกั๋วกง มือกุมหน้าอกซวนเซ เหมือนกำลังจะเป็นลม

สีหน้าหนานหว่านเยียนพลันเปลี่ยนไป ไม่ทันได้ตอบสนอง หมัวมัวนั้นก็ล้มลงไป ใบหน้าซีดเผือดผิวกายชุ่มเหงื่อ ดูท่า จะหมดสติไปในทันที

หนานหว่านเยียนลุกขึ้นไปข้างหน้าทันควัน “ทุกคนอย่ามุง!”

ทุกคนต่างไม่ทันได้ตอบสนอง ก็เห็นร่างสีแดงราวกับผีสาง วิ่งไปหาหมัวมัวอย่างรวดเร็ว

“หลินหมัวมัว! เจ้าเป็นอะไรไป” ฮูหยินกั๋วกงลุกขึ้นยืนฉับพลัน มองหมัวมัวล้มลงกับพื้น อึ้งไปทันที

หลินหมัวมัวคือแม่นมของนาง ซึ่งติดตามปรนนิบัติรับใช้นางมายี่สิบกว่าปี ความสัมพันธ์แน่นแฟ้น เมื่อเห็นเช่นนี้จึงอดลนลานไม่ได้

หนานหว่านเยียนเห็นหน้าผากหมัวมัวมีเหงื่อออก หน้าตาซีดเซียว ลมหายใจแผ่วลงตั้งนานแล้ว

นางพลันเอนตัวไปฟังการเต้นของหัวใจของหมัวมัว ดวงตาสุกใสเปลี่ยนเป็นเย็นชาทันที ตะโกนบอกผู้คนรอบข้างว่า “อย่ามุงกันเป็นกลุ่ม”

หนานหว่านเยียนพลันม้วนแขนเสื้อ วางมือสองมือบนหน้าอกด้านซ้ายของหมัวมัวเตรียมทำการปั๊มหัวใจให้นาง

เมื่อเรื่องราวเกิดขึ้นกะทันหันเช่นนี้ ผู้คนต่างตกใจจนสีหน้าถอดสี คนที่ไม่ได้แข่งขันก็อยากจะเข้าไปมองใกล้ๆ สตรีชนชั้นสูงสวมชุดสีชมพูตกใจกลัว ชี้หมัวมัวแล้วเอ่ยว่า “หมะ หมัวมัวผู้นี้ท่าทางไม่หายใจแล้ว หระ หรือว่า…”

คำพูดท้ายประโยคยังไม่ได้พูดออกมา แต่ทุกคนต่างเข้าใจว่าหมัวมัวอาจตายไปแล้ว

สตรีชนชั้นสูงสวมชุดเขียวก็กลัวจนไม่กล้ามองมาก “ดูท่านี้แล้ว เกรงว่าจะไม่รอด พระชายาอี้จะช่วยได้จริงหรือ ไม่เช่นนั้นรีบเรียกหมอ…”

ทั้งสองคนคุยกันยังไม่ทันจบ ก็ถูกหยุนเหิงตะคอกใส่ “กล่าวเหลวไหลอะไรกัน! พระชายาก็บอก ว่าห้ามมุง! อย่ารบกวนการรักษาของนาง!”

เซียงอวี้พูดอย่างกังวล “ทุกท่านฟังพระชายาเถอะ รีบถอยออกไป พระชายากู้ชีพได้เก่งกาจมาก! หมัวมัวจะต้องไม่เป็นไรแน่!”

ทุกคนถอยห่างอย่างประหม่าและกังวล เว้นที่ว่างให้หนานหว่านเยียน

ฮูหยินกั๋วกงมองหนานหว่านเยียนอย่างเป็นกังวล แล้วมองหมัวมัวที่หมดสติอยู่บนพื้น กระวนกระวายใจ

ตอนอ๋องเจ็ดได้ยินการเคลื่อนไหว ก็โยนพู่กันทิ้งทันที ก้าวไปตรวจสอบแนวโน้มของหนานหว่านเยียน โดยพื้นฐานผู้คนที่ประพันธ์บทกวีจะไม่เคลื่อนไหว มีเพียงหนานชิงชิงราวกับว่าเรื่องนี้ไม่มีเกี่ยวข้องกับตน ทุ่มเทจิตใจลงไปในการประพันธ์บทกวี

นางอยากชนะ! และต้องชนะ นางต้องทำให้หนานหว่านเยียนเงยหน้าขึ้นมาไม่ได้อีก!

หนานหว่านเยียนสองมือทาบประสานทันที เริ่มกดหน้าอกให้หมัวมัว

ผู้คนมีสีหน้าตกตะลึง หลายคนไม่เคยเห็นความสามารถในการกู้ชีพของหนานหว่านเยียน เฝ้าดูการกระทำของหนานหว่านเยียนด้วยความฉงนสนเท่ห์

“พระชายาทำเช่นนี้ จะไม่กดหมัวมัวตายไปจริงๆ หรือ”

“คนที่กำลังจะหมดลมหายใจ ถูกกดเช่นนี้ จะไม่ยิ่งตายเร็วขึ้นหรอกหรือ”

หยุนเหิงพูดทันที “เงียบ! ข้าบอกพวกเจ้าเลยว่า ทักษะทางการแพทย์ของพระชายายอดเยี่ยมมาก อย่าได้สงสัยในความสามารถของพระชายา!”

เขารอดชีวิตมาด้วยเงื้อมมือพี่นางฟ้าเรื่องทักษะทางการแพทย์ของนาง เขาเชื่อถือสุดใจ

ฮูหยินกั๋วกงเห็นสถานการณ์นี้ ยิ่งร้อนรน กังวลมากขึ้น ซึ่งหนานหว่านเยียนกดแรงขนาดนั้น นางไม่กล้าขัดจังหวะมาก

นี่น่าจะ เป็นการช่วยชีวิตได้แน่ๆ ใช่ไหม

ตอนทำการกู้ชีพฉุกเฉิน หนานหว่านเยียนถามอย่างสุขุมว่า “ฮูหยิน หมัวมัวเจ็บหน้าอกบ่อยๆ ใช่หรือไม่ บางครั้งก็จะปวดไหล่ แขนซ้าย คอและฟันด้วยใช่ไหม”

เมื่อพิจารณาจากท่าทีของฮูหยินกั๋วกงที่มีต่อหมัวมัวแล้ว น่าจะมีความสัมพันธ์ไม่แย่ ต้องรู้กิจวัตรของหมัวมัวแน่นอน

ฮูหยินกั๋วกงรีบพยักหน้าด้วยความประหลาดใจ

“ใช่ๆๆๆ อาการที่พระชายาบอก หมัวมัวเป็นทั้งหมด แต่ทุกครั้งหมัวมัวล้วนอดทนไว้ ไม่ให้ข้ากังวลใจ พระชายา หมัวมัวนางเป็นอะไรหรือ”

หนานหว่านเยียนยังกำลังปั๊มหัวใจ จึงไม่ได้พูดอะไรมาก รักษาเรี่ยวแรง กระทั่งหมัวมัวกลับมาหายใจได้ นางถึงหายใจเฮือกใหญ่ หยิบน้ำมันไนโตรกลีเซอรีนออกมาจากแขนเสื้อ วางไว้ใต้ลิ้นหมัวมัว ให้นางอมใต้ลิ้นเช่นนี้

“น่าจะเป็นหลอดเลือดหัวใจเกิดการตีบตันฉับพลันกอปรกับภาวะหัวใจเต้นผิดจังหวะร้ายแรง จะเกิดการเสียชีวิตเฉียบพลันได้ง่าย ทุกวันให้ใส่ใจร่างกายเป็นพิเศษ พักผ่อนให้มาก อย่าโหมงานหนัก”

ฉับพลันกับตีบตันอะไร…มันคือโรคอะไร ยาวมาก จนไม่เข้าใจเลย

ทุกคนดูหนานหว่านเยียนปั๊มนั้นปั๊มนี่ แต่หมัวมัวยังคงไม่ฟื้น

ทว่าก็ไม่มีใครว่าหนานหว่านเยียนไม่ถูก เรื่องที่หมัวมัวสุขภาพไม่ได้ แพร่กระจายในแวดวงมานานแล้ว

หากไม่ได้ฮูหยินกั๋วกงจ่ายเงินจำนวนมากให้ตลอด ทั้งเอาของดีๆ บำรุงร่างกายยืดอายุเสมอ หมัวมัวคงตายนานแล้ว เมื่อเห็นสถานการณ์ของหมัวมัวในครานี้ เกรงว่าจะไม่รอดแล้ว

หากหนานหว่านเยียนช่วยไว้ไม่ได้ก็เป็นเรื่องปกติ สุดท้ายแล้ว จะมีใครแย่งชีวิตคนจากมือพญายมได้กัน

แต่จู่ๆ เซียงอวี้ก็ส่งเสียงตื่นตระหนกระคนดีใจ “ฟื้นแล้ว! นางฟื้นแล้ว!”

ทันใดนั้น ทุกคนมองไปที่หมัวมัวทันที เห็นนางเริ่มหายใจคงที่ ค่อยๆ ลืมตาขึ้น ราวกับว่าดีขึ้นมาก

ช่วยไว้ได้จริงหรือ!

ฉับพลัน ทุกคนต่างเบิกตากว้างอย่างนึกไม่ถึง!

ฮูหยินกั๋วกงแทบจะร้องไห้เพราะดีใจเกิน รีบเดินไปคุกเข่าตรงหน้าหมัวมัว มองนางอย่างคละเคล้าความประหม่า “หลินหมัวมัว หลินหมัวมัวเจ้าดีขึ้นบ้างหรือยัง”

หลินหมัวมัวลืมตา ขยับนิ้วมือ หนานหว่านเยียนเอ่ยเตือน “ฮูหยิน ตอนนี้หลินหมัวมัวเพิ่งรู้สึกตัว ยังไม่อาจพูดได้ ซึ่งเป็นปกติไม่ได้อันตราย ฮูหยินไม่ต้องกังวลมากเกินไป”

ฟื้นกลับมาได้ ก็หมายความว่าคราวนี้รู้สึกตัวกลับมาแล้ว

ฮูหยินกั๋วกงถึงได้ถอนหายใจยาวด้วยความโล่งอก มองหนานหว่านเยียนด้วยสีหน้าซาบซึ้ง ดึงมือของนางอย่างตื่นเต้น

“ขอบคุณพระชายาที่ยื่นมือออกมาช่วยมาก หลินหมัวมัวคือแม่นมของข้าสนิทสนมกับข้ามาก แต่หลายปีมานี้ นางอายุมากเจ็บป่วยบ่อยขึ้น ข้าหาหมอที่มีชื่อเสียงมาหลายคน ต่างพูดว่า…สถานการณ์ไม่สู้ดีแล้ว ทั้งบอกว่าหากอาการกำเริบอีก อาจจะ…”

“ทุกครั้งที่เห็นหลินหมัวมัวทนทรมาน ข้าล้วนเป็นทุกข์ยิ่ง ไม่คาดคิดว่าวันนี้หมัวมัวจะอาการกำเริบกะทันหัน ท่านกับหมัวมัวไม่เคยพบหน้ามาก่อนแต่กลับยื่นมือเข้ามาช่วย กู้ชีพหมัวมัวกลับมา บุญคุณนี้ ข้าจะจดจำสลักใจ!”

สตรีแปลกประหลาดเช่นหนานหว่านเยียน หาได้ยากยิ่ง ตอนนี้นางมีความรู้สึกดี ให้หนานหว่านเยียนมากขึ้นเรื่อยๆ ดูเหมือนว่าหลายสิ่งหลายอย่าง จะไม่อาจเชื่อข่าวลือไม่ลืมหูลืมตา

เดาว่าฮูหยินเฉิงเซี่ยงเป็นเพราะถือข้างพระชายาเฉิงถึงพูดเรื่องแย่ๆ มากมายของหนานหว่านเยียน

“ฮูหยินกล่าวหนักไปแล้ว ในฐานะหมอ เมื่อเห็นผู้ป่วยก็ไม่อาจนั่งดูอยู่เฉยๆ ได้” หนานหว่านเยียนสีหน้าอ่อนน้อมถ่อมตน ก่อนนางจะช่วยชีวิตคน ก็ไม่เคยคาดหวังว่าจะได้รับสิ่งจากฮูหยิน เพียงช่วยตามจิตใต้สำนึกเท่านั้น

ไม่ได้หวังให้ทำดีได้ดี นางยังกลุ้มอยู่ว่าจะกระชับความสัมพันธ์กับฮูหยินอย่างไร ตอนนี้โอกาสมาเยือนถึงที่แล้ว

“ฮูหยิน อาการป่วยของหลินหมัวมัวรักษาไม่หาย เดี๋ยวข้าจะจ่ายใบสั่งยาให้ ท่านก็ให้บ่าวไปซื้อยาตามใบสั่งยา แล้วให้หมัวมัวไปสักพักหนึ่ง น่าจะได้ผลบ้าง”

ฮูหยินกั๋วกงยิ่งรู้สึกขอบคุณมากขึ้น “ขอบคุณพระชายามาก”

หยุนเหิงเห็นแล้วยิ้ม “เห็นไหม ข้าบอกแล้วว่าพระชายาเก่งกาจ! ไม่มีโรคหายากที่พระชายารักษาไม่ได้!”

สายตาอ๋องเจ็ดเป็นประกายเล็กน้อย ทั้งยิ้มแย้ม “อันที่จริง ทักษะทางการแพทย์ของพี่สะใภ้หกยอดเยี่ยมมาก ข้าก็ได้รับประโยชน์มากมายเช่นกัน”

ด้วยคำชมของกู้โม่หลิงกับหยุนเหิงหลายคนอดไม่ได้ที่จะมองหนานหว่านเยียน สายตาตกตะลึงและไม่อยากเชื่อ

คาดไม่ถึงว่า คนไร้ประโยชน์ที่ไม่รู้อะไรเลยเมื่อห้าปีก่อน ตอนนี้ไม่เพียงงดงาม ฝีมือการเล่นหมากรุกยอดเยี่ยม ทั้งเป็นหมอเทวดากลับชาติมาเกิด ช่วยชีวิตผู้คนได้ง่ายดายราวพลิกฝ่ามือ!

ขณะนั้นเอง สตรีชนชั้นสูงมากมายในฝูงชนก็มีสีหน้าละอายใจ เสียใจอย่างสุดซึ้ง

ด้วยความสามารถและทักษะทางการแพทย์ ของหนานหว่านเยียนยอดเยี่ยมเช่นนี้ มีโรคอะไรไม่อาจรักบ้าง!

หากสานความสัมพันธ์กับนางเร็วหน่อย ชั่วชีวิตก็ไม่ต้องเป็นกังวลแล้วหรอกรึ

เซียงอวี้มองสีหน้าคนรอบข้าง แค่นเสียงเย็น

ตอนนี้รู้จักเสียใจที่ดูถูกพระชายาไปแล้วกระมัง อีกเดี๋ยวบทกวีของพระชายาออกมา ยิ่งทำให้พวกเราเสียใจกว่าเดิมอีก…

ยอดชายากับองค์หนูน้อยแห่งจวนอ๋องอี้

ยอดชายากับองค์หนูน้อยแห่งจวนอ๋องอี้

Status: Ongoing
หนานหว่านเยียน อัจฉริยะแห่งวงการแพทย์ ข้ามภพมาเป็นพระชายาอัปลักษณ์ผู้ถูกทอดทิ้งแห่งจวนอ๋องอี้ แต่ด้วยมันสมองของอัจฉริยะ และความแข็งแกร่งฉบับสาวยุคใหม่ เธอจะพลิกเกมกลับมาแก้แค้นไอ้พวกเศษสวะให้สิ้นซาก!

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท