ยอดชายากับองค์หนูน้อยแห่งจวนอ๋องอี้ ตอนที่ 412 สูญเสียฐานะและชื่อเสียง
ผ่านไปไม่นาน ฝูงชนก็ทยอยกลับไปนั่งประจำตำแหน่ง ฮูหยินกั๋วกงเรียกสาวมา ยกชาและขนมไปให้บรรดาแขกเหรื่อ
ฮูหยินกั๋วกงนั่งตำแหน่งประธาน เอ่ยกับทุกคนยิ้มๆ “แต่งบทกวีก็แล้ว เดินหมากก็แล้ว ต่อไป ทุกคนมารวมตัวกัน พูดคุยสังสรรค์ ที่จวนกั๋วกงของข้า ไม่ได้คึกคักเช่นนี้มานานแล้ว เพราะงั้นไม่ต้องเกรงใจไป”
หนานหว่านเยียนมองเงินขาวบริสุทธิ์ มีความสุขมากในใจ พยักหน้ายินยอม เจียงหรูเยว่เห็นเช่นนั้นก็เยินยอสารพัด “ทำให้ฮูหยินยินดีเช่นนี้ได้ พวกข้าก็เป็นเกียรติอย่างยิ่ง ทุกคนอย่าได้รอช้า รื่นเริงกันเถอะ”
ฮูหยินกั๋วกงยิ้มสดใสยิ่งขึ้น เบิกบานใจ
หนานชิงชิงกัดฟันกรอดด้วยความเกลียดชัง ส่งสายตาให้สาวใช้ที่รินชาอยู่ด้านข้าง
สาวใช้ก็เข้าใจ เดินไปข้างหน้าเตรียมยกชาให้หนานหว่านเยียน ไม่คิดว่าเซียงอวี้จะรับกาน้ำชาจากมือนางโดยตรง “ข้าทำเอง”
เรื่องยกน้ำชาให้พระชายา ไม่อาจมอบหมายให้ผู้อื่นทำ
สีหน้าสาวใช้คนนั้นพลันแข็งค้าง เหลือบมองหนานชิงชิงอย่างระมัดระวัง
หนานชิงชิงกัดฟันอย่างดุเดือด ทว่าพวกนางยังมีแผน ต่อให้ตอนนี้หนานหว่านเยียนไม่ติดกับ อีกเดี๋ยวก็หนีไม่รอดแล้ว!
ทันใดนั้น หยุนเหิงพุ่งเข้ามาจากด้านข้าง ต้องการคุยกับหนานหว่านเยียนแต่ไม่ระวังชนเข้ากับเซียงอวี้กาน้ำชาสาดใส่ร่างเซียงอวี้“อ๊ะ…”
เซียงอวี้ตกใจหน้าซีด พยายามทรงตัว แต่เสื้อผ้ากลับเปียกเป็นดวงใหญ่
หยุนเหิงลูบหัวทันที สีหน้าละอายใจ “นี่ แม่นางเซียงอวี้ไม่เป็นอะไรใช่ไหม ข้าไม่ได้ตั้งใจ…”
หนานหว่านเยียนมองทางเซียงอวี้ เซียงอวี้เหลือมองหยุนเหิงด้วยความไม่พอใจ แต่ไม่กล้าพูดอะไร “บ่าวไม่เป็นไรเจ้าค่ะ”
ฮูหยินกั๋วกงเห็นดังนั้น พลันเอ่ยว่า “สาวใช้ของพระชายาอี้ใส่เสื้อผ้าเปียกชื้นคงไม่ค่อยดีนัก พาแม่นางเซียงอวี้ผู้นี้ออกไป เปลี่ยนเป็นเสื้อผ้าสะอาดเถอะ”
เกิดความโกลาหลขึ้นท่ามกลางฝูงชนทันที
ฮูหยินกั๋วกงจะให้สาวใช้ของหนานหว่านเยียนเปลี่ยนเสื้อผ้าในจวนนางจริงหรือ!
ต้องรู้ว่า ไม่เคยมีแบบอย่างเช่นนี้มาก่อน จะมีเหตุผลที่ให้บ่าวใช้ของแขกมาเปลี่ยนเสื้อผ้าในจวนของเจ้านายได้อย่างไร!
ดูท่าตอนนี้ฮูหยินกั๋วกงชอบหนานหว่านเยียนมากจริงๆ
สายตาหนานหว่านเยียนสั่นไหวเล็กน้อย ขานรับทันที “ในเมื่อฮูหยินกั๋วกงกรุณาแล้ว เซียงอวี้ยังไม่รีบขอบคุณฮูหยินกั๋วกงอีก”
คนโบราณค่อนข้างอนุรักษนิยม แม้ว่าเสื้อผ้าจะเปียกเล็กน้อย แต่ถูกวิพากษ์วิจารณ์เสียหายได้ง่าย ที่สำคัญคืออากาศหนาว สวมใส่เสื้อผ้าเปียกจะทำให้ป่วยง่าย
นางยังคิดจะพาเซียงอวี้กลับจวนไปเปลี่ยนเสื้อผ้าอยู่เลย ถึงอย่างไรเงินกับความประทับใจของฮูหยินก็ได้หมดแล้ว ไม่จำเป็นต้องอยู่ต่อ
แต่เห็นชัดว่าฮูหยินกั๋วกงอยากพูดคุยอีก นางก็รั้งอยู่อีกเดี๋ยวละกัน
เซียงอวี้รีบเอ่ยว่า “ขอบพระคุณฮูหยิน บ่าวจะไปเปลี่ยนเสื้อผ้าเดี๋ยวนี้!”
สาวใช้ที่เพิ่งยกชาเมื่อครู่เอ่ยว่า “แม่นางตามข้ามา”
เซียงอวี้เดินตามไป
สีหน้าฮูหยินเฉิงเซี่ยงเขียวคล้ำหมดแล้ว คิดว่าแผนการไม่สำเร็จ แต่หนานชิงชิงกลับหยิกนางเงียบๆ โค้งริมฝีปากเยาะเย้ย “เป็นเช่นนี้ก็ดีกว่า”
ขอเพียงใช้ประโยชน์จากเซียงอวี้ทำให้หนานหว่านเยียนคิดออกไปเอง แผนการนั้นก็ยังคงดำเนินต่อไปได้เช่นกัน
และเรื่องทั้งหมดล้วนเป็น “ความบังเอิญ” ที่หยุนเหิงสร้างขึ้น จะไม่มีใครสงสัยมาถึงพวกนางได้
หยุนเหิงที่ก่อเรื่องขึ้นก็ไม่กล้าทำอะไรบุ่มบ่ามอีก นั่งข้างอ๋องเจ็ดอย่างเชื่อฟัง ฟังเขาถกเรื่องบทกวี ฟังไม่เข้าใจเลยทำได้แต่ยิ้มแห้ง
หนานหว่านเยียนก็พูดคุยกับฮูหยินกั๋วกง ขณะนั้น บรรยากาศกลมกลืนสนุกสนานมาก
ภายในหอจูหยุนเพียงลำพัง อวี๋เฟิงจ้องมองทางที่เซียงอวี้จากไป สายตาจับจ้อง “ทำไมยังไม่กลับมาอีก…”
หลังเซียงอวี้ตามสาวใช้เข้าไปในห้างทางทิศตะวันตก ก็ไม่ออกมาอีกเลย
อวี๋เฟิงเดินไปมาอย่างกระวนกระวาย เดิมกู้โม่หานรู้สึกไม่พอใจเพราะหยุนเหิงเข้าข้างหนานหว่านเยียนบ่อยๆ และตอนนี้อวี๋เฟิงเดินไปเดินมา เขาจึงขมวดคิ้ว จ้องมองอวี๋เฟิงอย่างเย็นชา “ไม่อยากมีขาแล้วรึ”
อวี๋เฟิงรู้สึกขมขื่น มองกู้โม่หานอย่างเสียใจ “ข้าน้อยเพียงแค่ แค่เป็นห่วงแม่นางเซียงอวี้…”
กู้โม่หานขมวดคิ้ว เมื่อครู่ใจเขาจดจ่ออยู่กับหนานหว่านเยียนทั้งหมด จึงไม่ได้สังเกตว่า เซียงอวี้ไปที่ไหน
พอได้ยินอวี๋เฟิงพูด เขาก็คิดว่าเรื่องนี้ไม่ธรรมดา มองทางจวนกั๋วกง “จับตาไว้ มีเรื่องอะไรก็ให้จัดการทันที”
อวี๋เฟิงจ้องมองอย่างใกล้ชิดมากขึ้นทันที “ขอรับ”
ภายในจวนกั๋วกง หนานหว่านเยียนก็สังเกตว่าเซียงอวี้ยังไม่กลับมาเช่นกัน
นางพยายามหาข้ออ้างไปดูหลายครั้ง แต่ฮูหยินกั๋วกงพูดคุยจนติดลม นางไม่มีโอกาสขัดจังหวะเลย
กระทั่ง…
สาวใช้ที่เพิ่งพาเซียงอวี้ไปเปลี่ยนเสื้อผ้า เดินเข้ามาหานางด้วยสีหน้าลำบากใจ
หนานหว่านเยียนขมวดคิ้ว “หรือเซียงอวี้เกิดเรื่องอะไรขึ้น”
สาวใช้คนนั้นรีบพยักหน้า กระซิบข้างหูนางว่า “พระชายา แม่นางเซียงอวี้มี มีระดูมาเพคะ แต่นางไม่กล้าบอกท่าน ผ้าขี่ม้าของจวนกั๋วกงไม่ได้ให้ข้าบ่าวใช้ แต่ก็ไม่อาจให้แม่นางเซียงอวี้เป็นอย่างนั้นตลอดไป บ่าวจึงตัดสินใจมาถามท่านเองเพคะ”
ในสมัยโบราณนั้น การที่มีระดูมากะทันหันไม่ใช่เรื่องง่ายที่จะจัดการเลยจริงๆ
ทว่าหนานหว่านเยียนมีห่วงเวลาอยู่ในมือ เมื่อมีข้ออ้างนี้ นางจิตใจเบิกบานทันที ลุกขึ้นโค้งคำนับฮูหยินกั๋วกงเอ่ยว่า “ฮูหยินกั๋วกงต้องขออภัยจริงๆ สาวใช้ของข้าดูเหมือนจะเวียนหัวไม่สบายนิดหน่อย รบกวนท่านเพิ่มแล้ว ข้าจะไปดูหน่อย”
“พระชายารีบไปเถอะ” ฮูหยินกั๋วกงพยักหน้า ให้หนานหว่านเยียนตามสาวใช้ไป
เมื่อเห็นดังนั้น หนานชิงชิงกับฮูหยินเฉิงเซี่ยงมองหน้ากันพลันยิ้ม สายตาเผยแรงพยาบาท
คราวนี้อยู่ภายใต้การควบคุมของพวกนาง ดูสิว่าหนานหว่านเยียนยังจะพลิกสถานการณ์กลับมาได้อย่างไร!
ต่อให้มีคนขัดขวาง ขอเพียงหนานหว่านเยียนเข้าห้องไปแล้ว คนคนนั้นก็จะบรรลุแผนการ ชื่อเสียงสตรีสำส่อนของหนานหว่านเยียน ก็ถูกกำหนดตายตัวไว้แน่นอน!
สาวใช้พาหนานหว่านเยียนไปยังเรือนหน้า นางเดินนำหน้าตลอดทาง และไม่พูดคุยกับหนานหว่านเยียน ก้มหน้าก้มตา ท่าทางอ่อนน้อมถ่อมตนมาก
หนานหว่านเยียนเห็นเดินมาตั้งนางยังไม่ถึงอีก จึงรู้สึกผิดแปลก จะเปลี่ยนเสื้อผ้าต้องไปที่ไกลขนาดนี้เลยรึ
“ยังไม่ถึงอีกหรือ”
สาวใช้คนนั้นใจจดใจจ่อเกินไป เมื่อได้ยินหนานหว่านเยียนเอ่ยปาก ก็ตัวสั่นเทาทันที รีบเอ่ยว่า “ใกล้แล้วเพคะ แม่นางเซียงอวี้รออยู่ที่ห้องปีกตะวันตกด้านหน้าเพคะ”
ขณะพูด ทั้งสองก็มาถึงหน้าประตูห้องปีกตะวันตก
สาวใช้ก้มหน้าไม่ได้มองตาหนานหว่านเยียน นางผลักประตู ทำมือ “เชิญ” ให้หนานหว่านเยียน “พระชายา ที่นี่แหละเพคะ”
หนานหว่านเยียนมองความเงียบเชียบในห้อง ทั้งแสงไฟก็สลัว มองไม่เห็นร่างเซียงอวี้เลยไม่ได้เข้าไปข้างใน “เซียงอวี้?”
ทันใดนั้น นางก็ได้กลิ่นหอมแปลกๆ ดวงตาสุกใสหรี่ลง พลันกลั้นหายใจทันที
น้ำหอมปลุกเซ็กส์!
สาวใช้คนนี้คิดทำร้ายนาง!
แต่นางไม่ทันจะได้โต้ตอบกลับ ก็ถูกคนผลักเข้ามาในห้องทันที
วินาทีต่อมา เสียง “ปึง” ดังขึ้น ประตูก็ถูกปิดลง….