ยอดชายากับองค์หนูน้อยแห่งจวนอ๋องอี้ ตอนที่ 414 เสื่อมเสียทำนองคลองธรรม
ทว่า เขาไม่อาจซักไซ้เอาความโดยตรง เพื่อไม่ให้พังแผนของหนานหว่านเยียน แล้วทำให้สงสัยแผนโต้กลับของนาง
แต่ เขาไม่มีวันปล่อยคนที่ทำร้ายนางแน่!
แค่คนเดียว ก็ไม่มีทางปล่อย!
อวี๋เฟิงขณะนั้นก็ไม่กล้าชักช้า เอ่ยด้วยท่าทางโกรธจัดเหมือนกัน “ขอรับ!”
ถึงกับกล้าวางแผนใส่พระชายาเช่นนี้ ฮูหยินเฉิงเซี่ยงผู้นี้ช่างเบื่อชีวิตแล้วเสียจริง!
หลังท่านอ๋องรู้ว่าเซียงอวี้หายไปตอนนั้น ก็จับตาดูความเคลื่อนไหวที่เรือนหน้าตลอด และเห็นร่างลับๆ ล่อๆ เข้าไปในห้องข้างๆ เซียงอวี้จากนั้นพระชายาก็ถูกคนพามา
ยังดีที่พระชายาระมัดระวังตัว ไม่ตกหลุมพราง รวมทั้งท่านอ๋องช่วยเหลือ พระชายาถึงมีเวลาควักกระทะสีดำทรงกลมออกมาจัดการกับสาวใช้ มิฉะนั้นผลที่ตาม ไม่อยากจะคาดคิด
และพระชายาก็วางอุบายหลอกล่อฮูหยินเฉิงเซี่ยงมา ท่านอ๋องยื่นมือเข้าช่วย ซึ่งตอนนี้ ท่านอ๋องโกรธมาก
ใครที่ทำชั่ว แม้แต่คนเดียวก็หนีไม่พ้น!
เรือนหลังจวนกั๋วกง หนานชิงชิงเห็นฮูหยินเฉิงเซี่ยงไม่กลับมาเสียที ก็อดขมวดคิ้วไม่ได้ เริ่มเป็นกังวล
แต่เวลาก็ประมาณหนึ่งแล้ว หากรอต่อไปอีกเกรงว่าหนานหว่านเยียนจะตื่นขึ้นแล้ว
นางลุกขึ้น ยิ้มร่าให้ฮูหยินกั๋วกง
“ฮูหยินกั๋วกง ได้ยินว่าที่จวนท่าน มีบัวแฝดหายากที่กำลังบานพอดี ที่สระบัวตรงเรือนหน้า ไม่รู้ว่าวันนี้จะให้พวกเราเปิดหูเปิดตาได้หรือไม่”
เมื่อได้ยินว่ามีเรื่องดีๆ เช่นนี้ เจียงหรูเยว่ก็ยืนขึ้นทันที “ใช้แล้วฮูหยิน ข้าก็อยากเปิดหูเปิดตาสักหน่อย!”
พูดจบ หลายคนก็เริ่มสนใจ สอบถามความเห็นของฮูหยินกั๋วกงขึ้นมา
แม้แต่กู้โม่หลิงที่ไม่ค่อยอยากรู้อยากเห็น “บัวแฝดมีความหมายที่ดี หากได้เห็นสักครา ข้าก็จะยินดีมากเช่น”
แต่จริงๆ แล้ว เขาสนใจว่า หนานหว่านเยียนไปไหนมากกว่า
เหตุใดยังไม่กลับเสียที
เดิมฮูหยินกั๋วกงไม่อยากสนใจหนานชิงชิงแต่เห็นกู้โม่หลิงก็สนใจเช่นกัน จึงพยักหน้า “ในเมื่อทุกท่านสนใจ งั้นขอเชิญทุกท่านตามข้า ไปชมดอกไม้บานกัน”
ดอกไม้อยู่ที่เรือนหน้า หนานหว่านเยียนก็น่าจะไปเรือนหน้าแล้ว จะได้เชื้อเชิญนางชมดอกไม้ด้วยกันพอดี
แต่สาวใช้ทีเรียกฮูหยินเฉิงเซี่ยงไปตาเป็นประกาย เดินตามกลุ่มคนไป
กลุ่มคนมาที่เรือนหน้าอย่างยิ่งใหญ่เกรียงไกร กำลังจะเดินไปยังสระบัวที่อยู่ติดกับห้องปีกตะวันตก หยุนเหิงกลับหยุดเท้ากะทันหัน ฉงนสนเท่ห์อย่างมา
“ฮูหยินกั๋วกง ขอถามว่าที่จวนท่านเลี้ยงไก่ไว้หรือ ทำไมถึงมีเสียงขันเป็นพักๆ ฟังดูเหมือนหายใจไม่ทัน”
ทันทีที่คำพูดออกมา ทุกคนต่างตั้งใจฟังขึ้นมา
ฮูหยินกั๋วกงก็เต็มไปด้วยความสงสัยเช่นกัน “ที่จวนข้าจะไปมีไก่ได้อย่างไร แต่เสียงนี้ฟังดู…”
เรียวคิ้วกู้โม่หลิงกดลง แววตาประกายทะมึน
เห็นชัดว่ามีคนทำเรื่องอย่างว่า หรือว่าหนานหว่านเยียนนาง…
เจียงหรูเยว่ฟังอย่างกระตือรือร้น แววตาเป็นประกาย เอ่ยขันอาสา “ไปดูว่าเสียงนี่มาจากไหนก็ได้แล้วนี่”
มุมปากหนานชิงชิงโค้งขึ้นคล้ายตั้งใจและไม่ตั้งใจ รู้สึกได้ใจ
หนานหว่านเยียน ถึงคราวตกนรกแล้ว!
เมื่อถึงประตูห้องปีกตะวันตก เสียงก็ดังขึ้นเรื่อยๆ
เสียงที่ดังผ่านหน้าต่างออกมาทำให้ผู้คนหน้าแดงหูแดง ทุกคนเข้าใจในทันที สีหน้าฮูหยินกั๋วกงพลันน่าเกลียด สตรีชนชั้นสูงก็ต่างเขินอายหน้าแดง
หนึ่งในนั้นหันหน้าไป
“นะ นี่มันกลางวันแสกๆ มีคนทำเรื่องสกปรกเช่นนี้ที่จวนกั๋วกงได้อย่างไร”
หนานชิงชิงก็หันหน้าไปแสร้งทำเป็นเขินอาย “จริงด้วย แต่เสียงนี่ฟังแล้ว ดูคุ้นๆ…บางทีข้าอาจฟังผิด จะเป็นไปได้อย่างไร”
ทุกคนกำลังครุ่นคิดถึงความนัยของหนานชิงชิงก็มีคุณชายคนหนึ่งตบหัวพลางเอ่ยว่า “จะว่าไปแล้ว หนึ่งก้านธูปก่อนพระชายาอี้ก็ไม่ได้อยู่ที่เรือนหลังใช่ไหม นางไปที่ใดแล้ว”
ทุกคนพลันตกใจ แล้วมองสีหน้าหนานชิงชิงที่น่าเกลียดมากอีกครั้ง เม้มริมฝีปากด้วยความลำบากใจ แล้วถอนหายใจ
ท่าทางเหนียมอายนี่ เหมือนกำลังบอกว่า “คนที่อยู่ข้างในห้อง ก็คือหนานหว่านเยียนกับบุรุษคนอื่น”
ทุกคนต่างเข้าใจ ถอนหายใจขึ้นมาด้วยความดูถูก
คิ้วกู้โม่หลิงขมวดเล็กน้อย รู้สึกไม่พอใจอย่างบอกไม่ถูก
ฮูหยินกั๋วกงย่อมไม่เชื่อ ในฐานะเจ้าภาพ สีหน้าของนางเดี๋ยวคล้ำเดี๋ยวซีด โกรธจนมือสั่นเทาไปหมด
สีหน้าหยุนเหิงเปลี่ยนไป สายตาพลันดุร้ายขึ้นมา “พวกเจ้าพูดอะไรน่ะ! ฮูหยินเฉิงเซี่ยงนั้นก็หายไปนานเหมือนกัน ทำไมไม่ถามว่านางไปไหนเล่า”
เขาไม่ยอมให้ใครมาใส่ร้ายพี่นางฟ้าของเขาแน่!
พี่นางฟ้าคงมีเรื่องต้องไปจัดการแน่ เลยไม่ได้กลับมา คนในนั้นไม่ใช่นางแน่นอน!
หนานชิงชิงกลับขมวดคิ้ว มองหยุนเหิงด้วยความโมโห
“แม่ทัพน้อยหยุน กินข้าวส่งเดชได้ แต่วาจาไม่อาจพูดส่งเดชนะ มารดาข้าไปเข้าห้องน้ำ จึงไม่อยู่ อีกอย่าง ข้าก็ไม่ได้พูดว่า พระชายาอี้อยู่ข้างใน เจ้าร้อนรนทำไม”
เจียงหรูเยว่มักขี้นินทา เมื่อเห็นหยุนเหิงกับหนานชิงชิงถกเถียงไม่หยุด เริ่มรำคาญ “ไม่จะเป็นใคร แค่ไปดูก็รู้แล้ว!”
พูดจบ นางก็ก้าวไปผลักประตู
หนานชิงชิงหันกายไปแสร้งทำเป็นลำบากใจเล็กน้อย ความปีติยินดีในดวงตาแทบปิดเอาไว้ไม่มิด แต่น้ำเสียงกลับเวทนาและเกลียดชังเป็นอย่างยิ่ง
“นี่ ไม่รู้จักยางอายเช่นนี้ได้อย่างไร ที่นี่ทั้งไม่ใช่ที่จวนของตนเอง และยิ่งไม่ใช่สามีของตนเองด้วย ช่างเสื่อมเสียทำนองคลองธรรมจริงๆ ไม่รู้จักยางอาย…”
เสียง “เอี๊ยด” ดังขึ้น เจียงหรูเยว่ผลักประตูเปิดออก
ในชั่วพริบตา ทุกคนมองเข้าไป พลันเบิกตากว้างด้วยความหวาดผวา…