ยอดชายากับองค์หนูน้อยแห่งจวนอ๋องอี้ บทที่ 417 เจ้าร่วมมือกับหยุนอี่ว์โหรวกันเถอะ
“เรื่องนี้ถือเป็นเรื่องภายในครอบครัวของจวนเฉิงเซี่ยง ดังนั้น จึงต้องจัดการโดยคุณพ่อข้าเอง”
ฮูหยินเฉิงเซี่ยงรู้สึกหมดหวังไป และนางมองดูลูกสาวของนางที่ดูเหมือนคนแปลกหน้าต่อหน้านาง “ชิงชิง! เจ้าไม่ยอมให้ข้าเป็นแม่ของเจ้าจริงหรือ!”
สายตาของหนานชิงชิงเหมือนภูเขาน้ำแข็ง ฮูหยินเฉิงเซี่ยงเห็นได้อย่างชัดเจน และหัวใจของนางเหมือนถูกปกคลุมด้วยน้ำแข็งหนา
นางไม่อยากยอมและเกลียดแค้นหนานหว่านเยียน แต่นางกลับยิ่งกลัวว่าหนานชิงชิงจะไม่สนใจนาง
หนานฉีซานเป็นคนแบบไหน นางไม่รู้ได้อย่างไรซึ่งนางอยู่กับเขามาหลายปีแล้ว?
ถ้าวันนี้เกิดเรื่องแบบนี้ขึ้น นางตายแน่!
นางคลานไปที่เท้าของหนานชิงชิงอย่างสิ้นหวัง คว้ากระโปรงของนาง
“ข้าขอร้อง พระชายาเฉิง ข้าขอร้องจริงๆ ได้โปรดช่วยชีวิตข้าไว้ อย่า อย่าส่งข้ากลับจวน อืม”
หนานชิงชิงขยำผ้าเช็ดหน้าอย่างไร้ความปราณี และยัดเข้าปากฮูหยินเฉิงเซี่ยงอย่างแรง ไม่เปิดโอกาสให้นางพูดอะไรอีกต่อไป
ยิ่งพูดเยอะยิ่งจะมีความผิดโผล่ออกมา นี่ไม่ใช่ความผิดของนางเองที่ทำแบบนี้กับคุณแม่เอง แต่ต้องกล่าวหาว่าคุณแม่ของนางน่าผิดหวังเกินไป แผนการที่รัดกุมเช่นนี้กลับทำไม่สำเร็จ และโดนไอ้หนานหว่านเยียนคืนกลับ!
หนานหว่านเยียนชมไปฉากนี้อย่างเย็นชา สีหน้าของนางสงบเฉย ดวงตาที่สดใสของนางเต็มไปด้วยความน่าสยดสยอง แต่ดูมีความชื่นใจ
เมื่อได้รับผลกรรมแล้ว แม่และลูกสาวทั้งสองจะต้องตกนรกในที่สุดด้วยผลกรรม
นางไม่กังวลเลยสักนิดว่าฮูหยินเฉิงเซี่ยงจะจบลงด้วยดี
มีเรื่องแบบนี้เกิดขึ้น ผู้ซึ่งรักษาหน้าและทรงพลังอย่างหนานฉีซาน จะทนได้อย่างไร?
เจียงหรูเยว่มองดูฮูหยินเฉิงเซี่ยงที่ว่ารู้สึกเจ็บแค้นใจแต่กลับไม่สามารถร้องไห้ออกมาได้แม้แต่เสียงเดียว ดวงตาของนางออกเป็นสีแดงก่ำ และนางถูกลากออกไปโดยองครักษ์หลายคน นางอดไม่ได้ที่จะมองอย่างย่านใจ
นางถอนหายใจยาวและพูดว่า “โอ้ ข้าไม่เคยคิดเลยว่าบางคนที่ชอบพูดอะไรไม่ดีต่อคนอื่น แต่ลับหลังคนดังกล่าวกลับเป็นคนประเภทที่พวกเขาว่านี่แหละ”
หายากที่ท่านพี่หยุนเหิงจะมีหัวข้อเดียวกับเจียงหรูเยว่”ใช่แล้ว คานบนไม่ตั้งตรงและคานล่างจึงจะเคี้ยว ถ้านายหญิงมีคุณธรรมเช่นนั้น ข้าก็ไม่รู้…”
เขายังพูดไม่จบแต่ทุกคนรู้ดี
ทันใดนั้นทุกคนหัวเราะเยาะและมองไปที่หนานชิงชิง มีความรู้สึกหลากหลายอยู่ในใจ
หนานชิงชิงรู้สึกละอายใจมาก นางรู้สึกหนาวเย็นเกือบทั้งตัวจนขนาดตัวสั่นไปเลย
วันนี้เป็นวันที่อัปยศที่สุดในชีวิตของนาง!
และทั้งหมดนี้เกิดจากหนานหว่านเยียน ผู้ซึ่งสามารถหลบหนีทุกเรื่องได้!
นางกัดฟันและพูดด้วยน้ำเสียงแหบแห้งว่า “วันนี้ข้าเกิดเรื่องละอายใจขึ้นทำให้ทุกคนไม่สบายแล้ว ฮูหยินกั๋วกง ข้าขอลาไปก่อน”
ชีซวงจึงพยุงนางทันทีและเดินออกไป
แน่นอนแล้วฮูหยินกั๋วกงจะไม่ให้นางอยู่อีกต่อไป และก็ไม่ได้มองไปที่หนานชิงชิงด้วยซ้ำ แต่หันกลับมาและพูดกับทุกคนที่ยืนในที่เดิม
“วันนี้ฝ่ายเราไม่ได้ให้ทุกท่านเป็นไปตามสบายนะคะ โปรดยกโทษให้ข้าด้วย และต่อไป ข้าจะลืมตาดูให้ชัดเจนว่าคนประเภทใดสามารถเชิญให้มาได้ และสมควรที่จะได้การรับเชิญ และคนประเภทใดจะเปื้อนตาทุกท่าน ข้าจึงจะไม่เชิญโดยตลอดชีวิต!”
พอพูดจบ ฮูหยินกั๋วกงก็หันมามองที่หนานหว่านเยียนอีกที จับมือนางและพูดอย่างเคร่งขรึม: “แขกรับเชิญสูงส่งอย่างพระชายาอี้และอ๋องเจ็ด ต่อไปโปรดให้เกียรติมาที่จวนกั๋วกงได้ทุกเมื่อ ข้าจะยินดีต้อนรับเป็นอย่างดี ”
คำพูดเหล่านี้เป็นเหมือนการมีมีดมาแทงข้างหลังและหัวใจของหนานชิงชิงอย่างไร้ความปรานีและโหดเหี้ยม
นางรู้สึกเจ็บช้ำใจและอิจฉาเป็นอย่างมาก และยิ่งกว่านี้นางต้องการให้หนานหว่านเยียนตายไปเสีย!
แต่ฝีเท้ากลับไม่หยุดแม้แต่ชั่วขณะ เพราะต้องการหลีกหนีจากสายตาของทุกคนโดยด่วน
อ๋องเจ็ดโค้งคำนับต่อฮูหยินกั๋วกงด้วยท่าทางเฉยตามปกติ ราวกับว่าเขาไม่ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นระหว่างเฉินชิงเยี่ยนและฮูหยินเฉิงเซี่ยงเมื่อครู่นี้
“ถ้าอย่างนั้นข้าขอขอบท่านฮูหยินกั๋วกง เมื่อข้าว่าง ข้าจะต้องมากวนท่านอีกแน่นอน และปรึกษาเรื่องวรรณคดีกับท่านฮูหยินด้วยครับ”
หนานหว่านเยียนก็ยิ้มลเล็กน้อยด้วยสายตาที่อ่อนโยน “ข้าก็ต้องขอบคุณท่านฮูหยินสำหรับการชื่นชมของท่าน และจะต้องมาเยี่ยมที่จวนกั๋วกงในอนาคตอย่างแน่นอน”
“ถึงอย่างไรก็ตาม พระชายาเฉิงก็เป็นพี่สาวของข้าเอง นางคงต้องเสียใจมากที่ต้องเจอเรื่องเช่นนี้ ข้าจึงอยากส่งนางกลับไปก่อน แล้วเราค่อยพบกันใหม่ครั้งหน้า”
คราวนี้ นางถือว่าได้รับความชื่นชอบจากฮูหยินกั๋วกงแล้ว ถ้าหากวันหน้าอยากได้รับความช่วยเหลือจากจวนกั๋วกงเพื่อให้กู้โม่หานเข้ารับตำแหน่งสูงสุด คงจะได้ง่ายกว่าแล้ว
แต่สำหรับหนานชิงชิงนางยังมีอะไรอีกเยอะที่ไม่ได้ถามเลย
“ข้าเข้าใจ อย่างไรก็ตามท่านพระชายาต้องระวังให้ดีเจ้าค่ะ” ฮูหยินกั๋วกงรู้สึกไม่เต็มใจเล็กน้อย แต่ท้ายที่สุดเรื่องทุกอย่างก็ต้องถึงการสิ้นสุดและจบลงให้ได้ ยิ่งวันนี้เกิดเหตุการณ์ใหญ่เช่นนี้ขึ้น จึงไม่เหมาะสมที่จะคุยต่อแล้ว
“ท่านพระชายา เงินสองแสนตำลึงนี้ ข้าจะให้คนส่งไปที่จวนของท่าน เมื่อถึงแล้วอย่าลืมตรวจดูด้วยค่ะ”
หนานหว่านเยียนยิ้มแล้วตอบว่า “ดีค่ะ ขอบคุณท่านฮูหยิน”
นางส่งสายตาให้เซียงอวี้ และหลังจากอำลาฮูหยินกั๋วกงแล้ว ทั้งสองก็หันหลังและจากไป
ขาของหนานชิงชิงอ่อนแรงและเดินเร็วไม่น่าจะได้ ถ้าชีวซวงไม่พยุงนาง นางคงล้มลงไปนานแล้ว
นางเพิ่งเดินไปถึงประตูจวนกั๋วกง ก็มีเสียงดังขึ้นจากข้างหลังนางซึ่งทำให้นางเกลียดแค้นเข้ากระดูก “พระชายาเฉิง”
สายตาของหนานชิงชิงเต็มไปด้วยความเกลียดชัง และอีกอย่างไม่มีใครคนอื่นอยู่ระหว่างทาง ดังนั้นนางจึงหยุดการแสร้งทำ และหันมามองหนานหว่านเยียนด้วยสีหน้าอาฆาต “หนานหว่านเยียน แกมาที่นี่เพื่อเยาะเย้ยข้าหรือ ?”
หนานหว่านเยียนเลิกคิ้ว ดวงตาคู่สวยของนางเต็มไปด้วยความเย็นชา “ถ้าข้าอยากเยาะเย้ยเจ้า ข้าจะไม่เลือกตอนที่ไม่มีใครอยู่”
“อย่างไรก็ตาม เจ้ายังเป็นพี่สาวของข้าอยู่ ดังนั้นข้าจะไม่ให้หน้าเจ้าได้อย่างไร”
นางรู้ว่าหนานชิงชิงเป็นผู้บงการที่อยู่เบื้องหลังหลายเรื่อง
ก็เหมือนครั้งที่แล้วหยีเฟยโดนยาพิษในวังอย่างไม่ทราบสาเหตุ ระหว่างการทดสอบพิษ หนานชิงชิงได้รับการคุ้มครองจากกู้โม่เฟิง และหลบหนีไปได้โดยบังเอิญ แต่ตอนนั้นสีหน้าหนานชิงชิงดูแย่มาก เห็นได้ชัดเจนเลยว่ามีส่วนเกี่ยวข้องเรื่องหยีเฟยโดนยาพิษ
นอกจากนี้แล้ว ก่อนที่เด็กหญิงตัวน้อยทั้งสองจะถูกเปิดโปงในครั้งนี้ ฮวงเฮาก็สั่งให้นางเข้ามาในพระราชวัง และต่อมา กู้โม่หานโมฮันก็ถูกเรียกตามไปด้วยความวุ่นวายที่ก่อโดยลูกน้องของอ๋องเฉิง
แต่อ๋องเฉิงไม่รู้อะไรเลย คนที่สามารถควบคุมลูกน้องของอ๋องเฉิง ก็คงมีแค่พระชายาเฉิงหนานชิงชิงคนเดียว
เห็นได้ชัดเลยว่า หนานชิงชิงแทรกแซงและมีส่วนที่เกี่ยวข้องกับทุกสิ่งทุกอย่างที่เกิดขึ้น แต่น่าเสียดายที่นางทำเรื่องต่าง ๆ อย่างระมัดระวังเกินไป และมีคนมากมายที่อยู่เบื้องหลังเพื่อปกป้องนาง ดังนั้นส่วนใหญ่จึงไม่สามารถหาหลักฐานได้
หนานชิงชิงมองไปที่ใบหน้าอย่างสวยงามของหนานหว่านเยียน ซึ่งเห็นความสดชื่นได้ชัดเจน และสีหน้าของนางดูไร้ความปรานี “หนานหว่านเยียน มันไม่มีประโยชน์ที่แกมาแกล้งทำเป็นมิตรกับข้า”
“ข้าขอบอกแก อย่าคิดว่าเป็นไท่จื่อเฟยในอนาคตและวันนี้แกก็ได้รับความสนใจจากทุกคนแล้ว แกก็จะดำเนินต่อไปได้อย่างราบรื่น ข้าบอกแกว่ามีคนมากมายทั้งในและนอกวังที่ต้องการให้แกตาย! ฝันร้ายของแกยังไม่ได้เริ่มต้นเลย!”
คราวนี้ คือเพราะว่านางมั่นใจเกินไปสำหรับแม่นางเอง และประเมินหนานหว่านเยียนผิดไป ทำให้หนานหว่านเยียนได้ชนะ แต่ครั้งต่อไป นางจะไม่ปล่อยให้หนานหว่านเยียนได้เปรียบอีกต่อไป!
ก่อนที่หนานหว่านเยียนจะกลายเป็นไท่จื่อเฟยที่แท้จริง จะถูกปลดออกจากตำแหน่งอันสูงส่ง!
มีคนมากมายทั้งในและนอกวังที่ต้องการให้นางตายหรอ?
สายตาของหนานหว่านเยียนเปลี่ยนและส่องความเย็นชาออกมา แต่นางกลับยิ้มขึ้น
“ดูเหมือนว่าเจ้าจะเข้าใจสถานการณ์ของข้าเป็นอย่างดี เจ้ามีสอดแนมอยู่ในวังใช่ไหม? หยุนอี่ว์โหรวหรือเปล่า ลูกสองคนของข้ามีข่าวลือว่าเป็นลูกนอกสมรส และแพร่ไปทั่วที่ ในที่สุดเรื่องก็ถูกส่งไปถึงที่เสร็จพ่อ เปิดเผยความเป็นพ่อแม่ที่แท้จริงของลูกข้า เรื่องราวทุกอย่างที่เกิดขึ้น เจ้ากับหยุนอี่ว์โหรวทำร่วมกัน ใช่ไหม”
นี่ก็คือเรื่องที่นางต้องการถาม นางได้คิดเสมอว่าเป็นไปไม่ได้ที่หยุนอี่ว์โหรวจะทำหลายเรื่องไปด้วยตัวเอง หยุนอี่ว์โหรว เป็นเพียงผู้หญิงที่เกิดมากำพร้า เลวก็จริง แต่นางก็ไม่ได้มีอิทธิพลมากขนาดนั้น
แต่มันจะต่างออกไปหากมีหนานชิงชิงคอยช่วย
คนนอกวังน่าจะเป็นหยุนอี่ว์โหรวกับนาง แต่ว่าคนในวัง…
อันที่จริง นางไม่แน่ใจว่ามีใครอื่นอีกนอกจากฮ่องเต้ เพราะตอนนี้กู้โม่หานเป็นไท่จื่อในอนาคตที่แน่ชัด ซึ่งมีสายตานับไม่ถ้วนจ้องมองมาที่พวกเขา
นางไม่สามารถรอช้าได้อีกต่อไป นางต้องช่วยกู้โม่หานขึ้นตำแหน่งสูงสุดให้เร็วที่สุดเท่าที่จะทำได้ มิฉะนั้นนางก็ไม่ทราบว่าจะมีอะไรเกิดขึ้น…
เซียงอวี้ตกใจเมื่อได้ยินเช่นนั้นและจ้องมองที่หนานชิงชิงเพื่อรอคำตอบของนาง
แต่หนานชิงชิงกลับไม่ได้ให้คำตอบ นางยิ้มอย่างเย็นชาที่หนานหว่านเยียน และด้วยการพยุงของชีวซวง นางจึงพาฮูหยินเฉิงเซี่ยงออกจากจวนกั๋วกง
แต่พวกเขาไม่รู้ว่ากู้โม่หานซึ่งมารับหนานหว่านเยียนได้ยินบทสนทนาทั้งหมดของพวกเขาแล้ว…