ยอดชายากับองค์หนูน้อยแห่งจวนอ๋องอี้ – บทที่ 426 เจ้าก็อยากถูกลงโทษด้วยหรือไร

ยอดชายากับองค์หนูน้อยแห่งจวนอ๋องอี้

ยอดชายากับองค์หนูน้อยแห่งจวนอ๋องอี้ ตอนที่ 426 เจ้าก็อยากถูกลงโทษด้วยหรือไร

สีหน้าดำทะมึนของหนานฉีซานเหมือนเมฆครึ้ม สองมือกำแน่นแต่ไม่กล้าหย่อนยานแม้แต่น้อย รีบลดตัวลงต่ำอีกหน่อย

“ทูลฝ่าบาท ความผิดนี้ กระหม่อมมิกล้ารับ! กระหม่อมปฏิบัติตามกฎหมายและภาระหน้าที่อย่างเคร่งครัดเสมอมา จะสัญญาเลื่อนตำแหน่งให้ใครได้อย่างไร อีกทั้งเงื่อนไขของสัญญาก็เป็นการทำให้พระชายาอี้แปดเปื้อน…นางคือบุตรีแท้ๆ ของกระหม่อมเสือแม้จะร้ายแต่ไม่กินลูกตัวเองนะพ่ะย่ะค่ะ กระหม่อมจะทำเรื่องเช่นนั้นออกมาได้อย่างไร!”

“นอกจากนี้ วาจาที่ท่านมหาบัณฑิตกล่าวอาจมิใช่ความจริง ถึงอย่างไรฮูหยินของกระหม่อมจะถูกบุตรชายของเขาทำให้แปดเปื้อนอย่างไม่มีสาเหตุ เขาอาจทำเพราะบุตรชายของเขาถูกล่วงเกิน จึงจงใจปั้นน้ำเป็นตัวขึ้นมา!”

ไม่ว่าหนานชิงชิงกับสตรีฟั่นเฟือนจะทำเรื่องนี้หรือไม่ เฉินเป่าฉวนก็ไม่ลังเลที่จะเผชิญหน้ากับเขาและทำเรื่องนี้ให้กลายเป็นเรื่องใหญ่ในวันนี้ ต้องมีผู้อยู่เบื้องหลังช่วยเหลือแน่!

และเป้าหมายก็ชัดเจนมาก ซึ่งก็คือจัดการกับเขา!

แล้วใครที่ต้องการจัดการเขา หรือว่า…

หนานเฉิงเซี่ยงเหลือบมองชีกุ้ยเฟยอย่างไม่มีพิรุธ

ชีกุ้ยเฟยกับเฉินเป่าฉวนเป็นลูกพี่ลูกน้องกัน

ตอนนี้บุตรีทั้งสองคนของเขาล้วนได้ดิบได้ดี และหนานหว่านเยียนก็กลายเป็นที่ว่าไท่จื่อเฟย

ชีกุ้ยเฟยก็มีองค์ชายสองพระองค์ในอาณัติ แต่กลับไม่มีประโยชน์ใดๆ ตอนนี้จึงนั่งไม่ติด ดังนั้นลงมือกับเขาใช่หรือไม่

ขณะนั้นเองชีกุ้ยเฟยเอ่ยอย่างประหลาดใจเล็กน้อย “กล่าวมาเช่นนี้ เฉิงเซี่ยงไม่เคยทำเรื่องเหล่านี้รึ”

“แต่ท่านมหาบัณฑิตเอาแต่พูดว่า ล้วนเป็นฮูหยินเฉิงเซี่ยงบงการ ทว่าข้าคิดว่าฮูหยินเฉิงเซี่ยงมีฐานะเป็นนายหญิง น่าจะไม่กล้าทำโดยพลการเอง”

นางยินดีที่ได้เห็นสถานการณ์ในวันนี้

ไม่ว่าจะโยงถึงหนานชิงชิงหนานหว่านเยียน หรือเฉิงเซี่ยงถูกนำมาจัดการ นางล้วนไม่สนใจ และเป็นที่ชอบใจของนางมาก

เมื่อได้ยิน ฮองเฮากวาดตามองชีกุ้ยเฟยอย่างดุดัน แต่กลับไม่พูดอะไร

แต่ใจนางตุ๊บๆ ต่อมๆ อยู่ตลอด ถึงอย่างไรหนานชิงชิงก็คือลูกสะใภ้ของนาง หากนางเป็นอะไรไป บุตรชายนางก็ต้องถูกดึงเข้ามาด้วยแน่

กู้จิ่งซานโกรธจัด สายตาดุจมีดพุ่งไปทางเฉิงเซี่ยงกับฮูหยินเฉิงเซี่ยง “ฮูหยินเฉิงเซี่ยงเจ้าพูดมา”

เฉินเป่าฉวนไม่มีความกล้ามากขนาดนั้น และทำใจใช้ชีวิตบุตรชายตนเองไม่ได้ จึงยื่นฟ้องเฉิงเซี่ยง

ความเป็นไปได้ที่ใหญ่ที่สุดคือที่เฉินเป่าฉวนพูดคือเรื่องจริง เฉิงเซี่ยงหลอกใช้บุตรชายของเฉินเป่าฉวน คิดใช้ตำแหน่งขุนนางเอื้อผลประโยชน์ เพียงแต่ทำไม่สำเร็จ บุตรชายของเขาถูกทุบตีอย่างรุนแรง จึงเดือดดาลแล้วยื่นฟ้องเฉิงเซี่ยงเท่านั้น

แต่ถึงแม้หนานเฉิงเซี่ยงจะกล้าใช้ตำแหน่งขุนนางเอื้อผลประโยชน์ ก็เป็นการติดสินบนมิใช่หรือ

ต่อนี้ไป หนานฉีซานคงต้องการมากกว่านี้เดิม โลภตำแหน่งที่สูงขึ้นใช่หรือไม่!

เมื่อบทสนทนาเบนไปหาฮูหยินเฉิงเซี่ยงนางจะทนการเค้นถามเช่นนี้ได้อย่างไร ตกใจจนเสียขวัญไปนานแล้ว

หนานชิงชิงหยิกขานางหนึ่งที ฮูหยินเฉิงเซี่ยงถึงร้องตะโกนว่า “ทูลฝ่าบาท หมะ หม่อมฉันมิกล้าหรอกเพคะ!”

นางไม่อาจพูดได้ว่าตนเองถูกคนอื่นใส่ร้าย หากฝ่าบาทตรวจสอบลงลึก นั้นจะไม่ยืนยันข้อกล่าวหาที่ว่านางติดสินบนเฉินชิงเยี่ยนหรือ!

สถานการณ์กลืนไม่เข้าคายไม่ออก ฮูหยินเฉิงเซี่ยงรู้สึกสิ้นหวังใกล้ตายจริงๆ

ทันใดนั้นนางก็รู้สึกเสียใจ ทำไมถึงต้องการต่อกรกับหนานหว่านเยียน!

หากไม่คิดจะกำจัดหนานหว่านเยียน นางจะมีสภาพร่อแร่เช่นนี้ได้อย่างไร

เฉินเป่าฉวนเห็นฮูหยินเฉิงเซี่ยงกัดฟันไม่ยอมรับ แล้วนึกถึงคำขู่ที่กู้โม่หานส่งคนมาหา พลันเอ่ยอย่างฉุนเฉียวทันที “หากเฉิงเซี่ยงไม่ยอมรับผิด งั้นก็เป็นฮูหยินเฉิงเซี่ยงกระทำโดยพลการเอง!”

“ฮูหยินเฉิงเซี่ยงหลอกใช้ความปรารถนาที่จะเป็นขุนนางของบุตรชายข้า ให้คำมั่นสัญญาอนาคตอันสดใสกับเขา ให้บุตรชายข้าไปทำร้ายพระชายาอี้แต่กลับตาลปัตรเอาตนเองเข้าไปรับกรรมแทน เรื่องนี้ใครๆ ต่างก็รู้!”

“บรรดาสตรีชนชั้นสูงกับคุณชายที่อยู่ในสถานการณ์ของตอนนั้น ยังได้ยินว่าพระชายาเฉิงร่วมแสดงด้วยกันกับท่าน ให้คิดว่าคนที่อยู่ข้างในก็คือพระชายาอี้เจ้าจะมาพูดลอยๆ เพราะมีคนหนุนหลังได้อย่างไร ทำร้ายบุตรชายข้าเจ็บสาหัส จนชีวิตจะหาไม่แล้ว!”

เขาเอ่ยพร้อมน้ำตา ท่าทางเหมือนบิดาผู้เคร่งขรึมที่เคียดแค้นชิงชัง

หนานชิงชิงใจเต้นรุนแรง มองเฉินเป่าฉวนแทบไม่อยากเชื่อสายตา

คิดไม่ถึงว่าคนคนนี้จะเปิดโปงนางออกมาเยี่ยงสุนัขจนตรอก

นางเอ่ยอย่างร้อนรน “เสด็จพ่อ! หม่อมฉันมิเคยเอ่ยเยี่ยงนั้นมาก่อน ตอนนั้นหม่อมฉันเพียงไม่คาดคิดว่าจะมีใครทำเรื่องที่น่าอับอายเช่นนี้ที่จวนกั๋วกง หลังพบว่า เป็นฮูหยินเฉิงเซี่ยงก็ตระหนกตกใจเช่นกัน มิใช่การสมรู้ร่วมคิดอะไรทั้งนั้น หม่อมฉันไม่รู่เรื่องอะไรเลย ขอเสด็จพ่อโปรดกระจ่างแจ้งด้วยเพคะ!”

กู้จิ่งซานตบบัลลังก์มังกร เอ่ยตะคอก “พอแล้ว! มหาบัณฑิตไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น ล้วนเป็นเพราะบุตรชายเจ้าทำฮูหยินเฉิงเซี่ยงแปดเปื้อนก่อน เจ้าก็มีความผิดด้วย! ฮูหยินเฉิงเซี่ยงไร้ศีลธรรมจรรยา คบชู้สู่ชาย แอบอ้างชื่อเฉิงเซี่ยงด้วยการขายตำแหน่งขุนนาง ยุยงให้บุตรของขุนนางทำพระชายาอี้แปดเปื้อน ไท่จื่อเฟยในอนาคต ต้องโทษประหารชีวิต!”

มหาบัณฑิตยังคิดจะพูดอะไรอีกหน่อย แต่พอได้ยินคำนี้ก็หุบปากรู้สถานการณ์

เขาทำตามทุกเรื่องที่กู้โม่หานบอกแล้ว ความคิดของโอรสสวรรค์มิอาจคาดเดาได้ เขาก็ไม่กล้าเสี่ยงชีวิตตนเองพูดมากไป

ถึงอย่างไร เท่านี้ก็เพียงพอที่จะทำให้สถานการณ์ยุ่งเหยิงแล้ว

ฝ่าบาทต้องการสั่งฆ่านาง?

ฮูหยินเฉิงเซี่ยงตกใจแทบเป็นลมไป

สายตาหนานชิงชิงแข็งทื่อทันที ตื่นตระหนกเล็กน้อย

ท่านแม่ของนางไม่อาจตายได้ มิฉะนั้นด้วยนิสัยของท่านพ่อ ต้องแต่งงานใหม่อีกแน่ เมื่อถึงตอนนั้น นางก็จะกลายเป็นคนอย่างหนานหว่านเยียน มีแม่เลี้ยง ถูกกดขี่ข่มเหง

ยอมไม่ได้เด็ดขาด!

นางฝืนเอาไว้ “เสด็จพ่อ! ขอพระองค์ทรงไว้ชีวิตฮูหยินเฉิงเซี่ยงด้วยเถอะเพคะ! นางเพียงเลอะเลือนไปชั่วขณะ ไม่กล้าอีกต่อไปแล้วเพคะ!”

ชีกุ้ยเฟยส่งเสียงเฉยเมย

“พระชายาเฉิงตอนนั้นเจ้าก็อยู่จวนกั๋วกง หากอยู่กับฮูหยินเฉิงเซี่ยงก็คงไม่มีทางมีเหตุเช่นนี้”

สายตาฮองเฮาสั่นไหว กำหมัดแน่น

คนอื่นในจวนเฉิงเซี่ยงนางไม่สนใจ แต่หนานชิงชิงคือลูกสะใภ้ของนาง นางไม่อาจนั่งนิ่งดูดายได้

“ฝ่าบาทโปรดทรงบรรเทาโทสะ ชิงชิงเพียงอยากปกป้องมารดาเท่านั้น มิได้ตั้งใจยั่วโทสะพระองค์ นิสัยเด็กคนนี้จิตใจดีอ่อนโยน ขอพระองค์…”

“หุบปาก!” กู้จิ่งซานจ้องมองฮองเฮาอย่างเย็นชา น้ำเสียงน่ากลัวอึมครึม “ฮองเฮา เจ้าก็อยากถูกลงโทษด้วยรึไร!”

เมื่อได้ยิน ฮองเฮาเงียบปากทันที ในใจหนาวเหน็บ

ชีกุ้ยเฟยโค้งริมฝีปากอย่างนิ่งเงียบ แล้วใบหน้าเหมือนปกติทันที

แต่ความโกรธมหาศาลที่หนานฉีซานอัดอั้นมานานก็ปะทุออกในที่สุด เขาหันหน้าจ้องมองหนานชิงชิงด้วยความโกรธ จากนั้นพูดกับกู้จิ่งซาน“ฝ่าบาท! เป็นความโชคร้ายของตระกูลที่มีฮูหยินเช่นนี้! ขอพระองค์โปรดทรงมอบเรื่องนี้ ให้กระหม่อมจัดการเองด้วยพ่ะย่ะค่ะ!”

ท่านพ่อของนางหมายความว่าอย่างไร

หนานชิงชิงผงะทันที นังไม่ทันตอบสนองกลับมา ใบหน้าที่ก้มอยู่ก็โดนของเหลวร้อนชื้นเปรอะเปื้อน

หลังจากนั้น ที่มือ ที่เท้า ก็เต็มไปด้วยเลือดสีแดงสด

นางยกมือขึ้นอย่างโง่เขลา มองเลือดที่เปียกชุ่มบนหลังมือ หันหน้าไปอย่างตะลึงงัน ตัวแข็งไปชั่วครู่

ครู่ต่อมา หนานชิงชิงระเบิดร้องตะโกนออกมาอย่างใจแทบขาด “ท่านแม่…”

ยอดชายากับองค์หนูน้อยแห่งจวนอ๋องอี้

ยอดชายากับองค์หนูน้อยแห่งจวนอ๋องอี้

Status: Ongoing
หนานหว่านเยียน อัจฉริยะแห่งวงการแพทย์ ข้ามภพมาเป็นพระชายาอัปลักษณ์ผู้ถูกทอดทิ้งแห่งจวนอ๋องอี้ แต่ด้วยมันสมองของอัจฉริยะ และความแข็งแกร่งฉบับสาวยุคใหม่ เธอจะพลิกเกมกลับมาแก้แค้นไอ้พวกเศษสวะให้สิ้นซาก!

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท