ยอดชายากับองค์หนูน้อยแห่งจวนอ๋องอี้ บทที่ 504 ชายชู้คือใคร
“โม่หลีไม่ได้รับบาดเจ็บ สีหน้าก็ไม่ได้นับว่าไม่น่าดู น่าจะยังดีอยู่”
หนานหว่านเยียนคาดเดาเช่นนี้ ลุกขึ้นมาเพ่งมองเขา “ข้าไม่สนใจว่าท่านจะคุยอะไรกับเขา แต่ก็หวังว่าท่านจะไม่มาหาเรื่องคนในเรือนของข้าอีก เซียนเซิงคนนั้นมีความสามารถมาก มีเขาสั่งสอนชี้แนะยัยตัวเล็กทั้งสอง ข้าวางใจ”
“ท่านก็ทนอีกหน่อยเถอะ อีกไม่นานพวกเราก็จะออกไป จะไม่ขวางหูขวางตาท่านนานนักหรอก”
น้อยมากที่นางจะดื้อรั้นกับปัญหา แต่เกี่ยวกับลูกๆ ผู้ปกครองคนใดจะไม่หวังให้ลูกของตัวเองได้พบกับอาจารย์ที่เป็นทั้งครูที่ดีและเป็นทั้งเพื่อนที่ดีกัน?
ทันทีที่กู้โม่หานได้ยินว่านางจะจากไป บนใบหน้าอันสง่างามก็หมองลงเล็กน้อยโดยสังเกตไม่ได้
เขากำลังคิดอยากจะเอ่ยปากพูด
ทันใดนั้น เซียงอวี้ที่อยู่หน้าประตูก็รายงานด้วยเสียงแผ่วเบาว่า “ท่านอ๋อง พระชายา พ่อบ้านกาวขอเข้าพบเพคะ บอกว่ามีธุระต้องการพบท่าน เหมือนว่าหาผู้ใดพบแล้วเพคะ”
หาคนพบแล้ว? หรือจะเป็น…….
คิ้วของกู้โม่หานขมวดขึ้นทันที กลืนคำพูดที่มาถึงริมฝีปากลงไป
“รู้แล้ว”
เซียงอวี้เฝ้าอยู่ตรงหน้าประตู กู้โม่หานหมุนตัวสาวเท้าออกไป ฉับพลันนั้น ก็เหมือนว่านึกอะไรขึ้นได้อีก ชำเลืองมองหนานหว่านเยียนแวบหนึ่ง
“ตามมาเถอะ”
หนานหว่านเยียนขมวดคิ้ว แต่นางก็อยากรู้เหมือนกัน พ่อบ้านกาวหาผู้ใดพบ จึงตามออกไป
สรุปทันทีที่ออกจากประตู หนานหว่านเยียนก็เห็นข้างกายของพ่อบ้านกาว ติดตามอยู่ด้วยหยุนอี่ว์โหรวผู้อ่อนแอ ใบหน้าขาวๆแฝงด้วยความเขินอาย
“พระชายา” เมื่อเห็นหนานหว่านเยียน หยุนอี่ว์โหรวก็จงใจเดินขึ้นหน้าไปทำความเคารพ ขณะที่เดินกลับจงใจแสร้งทำเป็นยืนมั่นคง แค่เดินเซก้าวหนึ่งก็เผยกระดูกไหปลาร้าที่ถูกตัวเองข่วนจนบาดเจ็บด้วยความโหดเหี้ยม
“โอ้ย เป็นโหรวเอ๋อร์ที่เสียมารยาทแล้วเพคะ”
จากนั้น นางก็แสร้งทำเป็นตกใจและจัดเสื้อผ้าให้ดีๆ กล่าวอย่างอ่อนหวานว่า “โหรวเอ๋อร์คารวะท่านอ๋อง พระชายา”
ได้ยินมาว่าวันนี้มีบุคคลสำคัญที่ถูกพบเจอและพาตัวกลับมาแล้ว ที่นางมาก็เพราะอยากมาร่วมดูความสนุกด้วย และถือโอกาสหยั่งเชิงท่าทีของหนานหว่านเยียนด้วยสักหน่อย
ไม่ว่ายังไงก็ผ่านไปเกือบวันหนึ่งแล้ว แต่หนานหว่านเยียนกลับไม่ได้มาหาเรื่องนาง เปิดโปงคำโกหกของนาง นางรู้สึกว่าผิดปกติ
ภายหลังนางจึงได้สอบถามหมอประจำจวน พิษกู่ของกู้โม่หานไม่ใช่พิษกู่ธรรมดา
เขาได้รับพิษกู่ชนิดที่ร้ายแรงที่สุดชนิดหนึ่ง จำเป็นจะต้องหลับนอนกับผู้คน แถมสติสัมปชัญญะก็ยังค่อนข้างจะเลอะเลือน และจะไม่มีความปรานีความทะนุถนอมอีกด้วย
คนถอนพิษกู่ให้เขาก็จะเจ็บปวดเป็นอย่างมาก ทั้งยังจะสูญเสียความทรงจำอีก นี่ก็คือผลที่ตามมาของพิษกู่
นางอยากมาดู ว่าจะมหัศจรรย์ขนาดนั้นจริงหรือไม่……
หนานหว่านเยียนกวาดตามองหยุนอี่ว์โหรวแวบหนึ่ง ก็รู้ว่านางจงใจ จงใจเผยให้เห็นร่องรอยที่คลุมเครือเหล่านั้นออกมา ทิ่มแทงนาง
ดอกบัวขาวน้อยผู้นี้ ช่างทำให้คนรู้สึกสะอิดสะเอียนจริงๆ
จู่ๆ ทันทีที่นางนึกถึงร่องรอยแบบเดียวกันเหล่านั้นที่กู้โม่หานทิ้งไว้ก่อนหน้านี้ ก็ยังเกิดความรู้สึกไม่สบายใจขึ้นมาทันทีอย่างอธิบายไม่ได้
แถมยังเป็นครั้งแรกที่นางรู้สึกเช่นนี้อีกด้วย
เซียงอวี้ที่อยู่ข้างกายนางเห็นดังนั้น ทำแก้มตุ่ย บ่นพึมพำด้วยความไม่พอใจ
“ก็แค่เข้าหอกับท่านอ๋องเท่านั้น มีอะไรให้โอ้อวดนัก พระชายาของพวกข้าก็มีคุณหนูตัวน้อยตั้งสองพระองค์แล้ว”
ได้ยินดังนั้น หยุนอี่ว์โหรวไม่เพียงแค่ไม่โกรธ แต่ในตากลับยังรู้สึกตื่นเต้นอยู่รางๆอีกด้วย
แต่นางก็ระงับไว้ด้วยความรวดเร็ว จงใจกัดริมฝีปากด้วยความน้อยใจ “ใช่เพคะ หม่อมฉันจะเทียบกับพระชายาได้อย่างไร ไม่ว่ายังไงก็เป็นครั้งแรกของหม่อมฉัน ไม่เหมือนพระชายา ห้าปีก่อนที่เข้าหอกับท่านอ๋อง ก็ไม่ใช่ครั้งแรกแล้ว……”
สีหน้าของนางเปลี่ยนไปทันที ทันใดนั้นก็ปิดปากด้วยความตกใจเป็นที่สุด “อุ๊ย โหรวเอ๋อร์พลั้งปากไปแล้ว! เรื่องนี้โหรวเอ๋อร์ไม่ควรพูด”
ดูท่าหนานหว่านเยียนจะจำเรื่องเมื่อคืนไม่ได้แล้วจริงๆ!
สวรรค์ทรงโปรดนางโดยแท้!
สีหน้าของกู้โม่หานก็ดูไม่ดี หลังจากที่ได้ยินคำพูดของหยุนอี่ว์โหรว คิ้วก็ขมวดแน่นยิ่งขึ้น
สายตาของเขาเหมือนดั่งมีดเช่นนั้น เพ่งมองหยุนอี่ว์โหรว “ก่อนหน้านี้ไม่เคยเห็นมาก่อนว่าเจ้าจะเป็นหญิงที่ชอบพูดจานินทาว่าร้ายเช่นนี้”
สีหน้าของหยุนอี่ว์โหรวเปลี่ยนไปทันที ไม่มีอะไรจะพูดในพริบตา
แต่ในจิตใจของนางกลับมีความแค้นเคือง อัปยศ แต่นางปลอบใจตัวเอง ไม่เป็นไร ตอนนี้หนานหว่านเยียนได้รับความโปรดปราน เป็นธรรมดาที่ท่านอ๋องจะปกป้องนาง รอไม่นานหนานหว่านเยียนก็จะไม่เป็นที่โปรดปรานแล้ว!
เซียงอวี้เห็นกู้โม่หานออกหน้า รู้สึกว่าได้ชัยชนะกลับมารอบหนึ่ง สบายใจมากขึ้นแล้ว
ก็รู้ว่าท่านอ๋องยังใส่ใจพระชายาอยู่ หึ!
หนานหว่านเยียนขมวดคิ้ว ไม่รู้ทำไม เมื่อครู่หยุนอี่ว์โหรวถึงได้จงใจพูดจาเพื่อแสดงความในใจที่ปกปิดไว้เช่นนั้น ทำให้จิตใจของนางรู้สึกไม่สงบเล็กน้อยอย่างอธิบายไม่ถูก
พ่อบ้านกาวเห็นว่าบรรยากาศไม่ดี กระแอมเบาๆสองที กล่าวด้วยความเคารพว่า: “ท่านอ๋อง ครั้งก่อนคนที่ท่านรับสั่งให้บ่าวไปหา ได้หาพบแล้ว เวลานี้กำลังรออยู่ภายนอกของเรือนพ่ะย่ะค่ะ”
หาบ่าวของหนานหว่านเยียนพบแล้วจริงๆหรือ!
นางเป็นคนเดียวที่รู้ รู้ว่าครั้งแรกของหนานหว่านเยียนให้ผู้ใดไป
จิตใจของกู้โม่หาน เต้นระรัวอย่างบ้าคลั่งโดยไม่สามารถควบคุมได้ในพริบตา
“พาเข้ามา”
พ่อบ้านกาวรีบกล่าว: “ยังไม่รีบเข้ามาอีก!”
หนานหว่านเยียนงงงันนิดหน่อย เงยหน้าเหลือบมองไป เห็นเพียงแค่คนที่แต่งตัวเป็นบ่าวผู้หนึ่ง ก้มหน้าต้นแต่ต้นจนจบ สาวเท้ามาถึงเบื้องหน้าของกู้โม่หานด้วยความรวดเร็ว แล้วคุกเข่าลง
“บ่าวชื่อตงเสวี่ย คารวะท่านอ๋องและพระชายาเพคะ”
ตงเสวี่ย?
ม่านตาของหนานหว่านเยียนเปลี่ยนไปทันที ไม่เข้าใจเล็กน้อย นี่ไม่ใช่บ่าวข้างกายของเจ้าของร่างเดิมหรือ?
ในความทรงจำของเจ้าของร่างเดิม ตงเสวี่ยกับนางเป็นเงาติดตามกันตลอดไม่เคยห่างกัน แต่ที่นางจำได้ก่อนที่เจ้าของร่างเดิมจะแต่งงาน ตงเสวี่ยก็ถูกฮูหยินเฉิงเซี่ยงขายไปแล้ว กู้โม่หานตามหานางกลับมาทำไม?
กู้โม่หานมองดูตงเสวี่ย จึงเปิดปากถามขึ้นด้วยเสียงที่เย็นชา: “เจ้ารู้หรือไม่ว่า ข้าตามหาตัวเจ้ามาด้วยเรื่องอันใด?”
ตงเสวี่ยพยักหน้าด้วยความสั่นเทา “บ่าว บ่าวรู้……”
นางเงยหน้าขึ้น แค่อยากจะมองดูหนานหว่านเยียน แต่ก็กลับตะลึงอย่างรุนแรงในทันใด
ผู้หญิงที่รูปโฉมงดงามผู้นี้ ยังเป็นคุณหนูที่นางรับใช้ก่อนหน้านี้หรือ?
นางจำได้แม่น ก่อนที่นางจะถูกฮูหยินเฉิงเซี่ยงไล่ออกไป คุณหนูตกระกำลำบากจนแทบตาย ได้รับการด่าประณามจากคนนับหมื่น โฉมหน้าก็อัปลักษณ์เป็นพิเศษ แต่หนานหว่านเยียนในตอนนี้ เห็นได้ชัดว่ากินอยู่อย่างดี รูปโฉมงดงามเป็นเลิศ สูงศักดิ์เป็นอย่างยิ่ง!
ตงเสวี่ยแทบไม่อยากจะเชื่อ แถมยังจ้องมองหนานหว่านเยียนด้วยความรู้สึกละอายใจอีก “บ่าว บ่าวรู้ ท่านอ๋องอยากถามเรื่องเมื่อห้าปีก่อน เกี่ยวกับเรื่องการเสียความบริสุทธิ์ของพระชายา…….”
ทันใดนั้น หยุนอี่ว์โหรวก็เอ่ยปากขึ้นในเวลาที่ไม่เหมาะไม่ควร จงใจจุดไฟสงคราม ตะคอกด่าด้วยโทสะ
“ในเมื่อเจ้ารู้ทั้งหมด เช่นนั้นยังไม่รีบพูดอีก ห้าปีก่อนคนชั่วช้าที่บังอาจได้ขนาดนั้นเป็นใครกันแน่ คิดไม่ถึงว่าจะกล้าหลอกเอาร่างกายของพระชายาไปได้—“