ยอดชายากับองค์หนูน้อยแห่งจวนอ๋องอี้ บทที่ 514 คุณหนูน้อย
หนานหว่านเยียนเงยหน้าขึ้นมอง มองไปทางกู้โม่หานที่กอดนางแน่นในอ้อมแขน แววตาสั่นไหว
“ข้าไม่เป็นไร”
“ดี” กู้โม่หานพาหนานหว่านเยียนลงมายังพื้นอย่างมั่นคง เขาสังเกตดูหนานหว่านเยียนเป็นอย่างแรก เมื่อมั่นใจว่านางไม่ได้เป็นอะไร เขาจึงมองไปทางพ่อบ้านกาว
แม้ว่าก่อนหน้านี้เขาจะเคยสงสัยพ่อบ้านกาว แต่เขาก็ยากที่จะเชื่อว่า พ่อบ้านกาวจะเป็นหนอนบ่อนไส้จริงๆ
พวกเขาอยู่ด้วยกันมากว่าสิบปี มีสัมพันธ์ภาพต่อกันมานาน เสด็จพ่อก็ยังไม่สนิทเท่ากับพ่อบ้านกาว เขาป่วยแล้ว บาดเจ็บแล้ว ก็เป็นพ่อบ้านกาวที่ดูแลเขาด้วยตัวเอง หาหมอหลวงมา ตอนที่เขาเสียใจเพราะเรื่องของเสด็จแม่ พ่อบ้านกาวก็เอ่ยปากปลอบใจ
ทำไมพ่อบ้านกาวถึงทรยศเขาอย่างฉับพลันได้?
และพ่อบ้านกาวกับเสิ่นอี่ว์ก็รู้จักมักจี่กันมาหลายปี เป็นปัญหามาถึงวันนี้ก็เพราะเห็นเสิ่นอี่ว์ขัดตา คิดต้องการจะฆ่าเขาปิดปาก
นั่นเป็นเรื่องที่น่าขันที่สุดในโลกโดยแท้จริง!
เขามองไปทางพ่อบ้านกาวที่สีหน้าซีดขาวโดยไม่กะพริบตา น้ำเสียงเต็มไปด้วยความสงสัยและไม่เข้าใจ ซึ่งซ่อนเร้นไปด้วยความผิดหวังยิ่งกว่า
“ข้ายังจำตอนที่พบเจ้าเป็นครั้งแรกได้ เจ้าเป็นคนมีเมตตาใจดีมีไมตรีจิต ยิ่งกว่านั้นคือซื่อสัตย์ภักดี ฐานะที่เป็นพ่อบ้านในจวนของข้า ช่วยดูแลจัดการปัญหาทุกอย่างให้ข้าได้เป็นอย่างดี”
“ตลอดเวลาที่ผ่านมา ข้าคิดไปเองว่าไม่เคยปฏิบัติอย่างไม่เป็นธรรมกับเจ้า เสิ่นอี่ว์ก็ให้ความเคารพต่อเจ้าเป็นที่สุด ไม่เคยมองว่าเจ้าเป็นคนรับใช้มาก่อน แต่ทำไมเจ้าถึงได้ทำต่อเสิ่นอี่ว์ จนกระทั่งลงมือสังหารพระชายาได้! พ่อบ้านกาว เพราะอะไรกันแน่? บอกข้ามา!”
พ่อบ้านกาวมองกู้โม่หานด้วยความประหลาดใจ
แล้วเขาก็มองไปยังหนานหว่านเยียนที่สงบนิ่งอีกครั้ง ในเวลานี้ เขายังมีอะไรที่ไม่เข้าใจอีก
หนานหว่านเยียนใช้ประโยชน์เรื่องการฟื้นของเสิ่นอี่ว์มาจัดการเขา ล่อให้เขามาฆ่าคน เปิดโปงโฉมหน้าที่แท้จริงของเขาทุกอย่าง และกู้โม่หานก็เป็นบรรดาผู้ชมที่ซ่อนตัวอยู่
ช่างเป็นแผนการที่ดี!
ทันใดนั้น ความชื่นชมและแรงสังหารในใจของเขามีต่อหนานหว่านเยียนก็แข็งแกร่งขึ้น
เขาชื่นชมความรอบคอบในการวางแผนของหนานหว่านเยียน แต่เกลียด ที่มีคนเช่นนี้มาขวางทางคุณหนูน้อย อนาคตหากว่าคุณหนูน้อยต้องการทำให้บรรลุตามความปรารถนา เกรงว่า ก็คงจะยากยิ่ง
พ่อบ้านกาวมองไปทางกู้โม่หาน เห็นดวงตาของเขาเต็มไปด้วยความเจ็บปวดใจ ในที่สุดก็เม้มปาก
คนไม่ใช่ต้นไม้ใบหญ้า ที่จะไร้ความรู้สึก หลายปีขนาดนี้ เขาและกู้โม่หานก็มีความสัมพันธ์ของนายและบ่าวจริงๆ ด้วยเหตุนี้ เขาจึงไม่เคยทำเรื่องที่จะทำร้ายกู้โม่หานมาก่อน
แต่สาบานให้ตายเขาก็จะไม่ขายคุณหนูน้อย ดังนั้น จึงทำได้เพียงทำผิดต่อกู้โม่หานแล้ว
แม้ว่าในใจของพ่อบ้านกาวจะเจ็บปวด ก็ยังต้องแสร้งทำสีหน้าท่าทางอันกระหายเลือดออกมา มองดูกู้โม่หานโดยไร้ความหวาดกลัวใดๆ
“ที่แท้ท่านอ๋องก็อยู่ด้วยมาตลอด เช่นนั้นข้าน้อยก็ไม่จำเป็นต้องแสดงแล้ว เมื่อครู่ท่านอ๋องน่าจะได้ยินหมดแล้ว ข้าน้อยก็เป็นคนที่ขี้อิจฉาริษยาเช่นนี้ จะไม่ยอมทนกับสิ่งที่ตัวเองรับไม่ได้ จะฆ่าจะแกง ก็เชิญได้เลยพ่ะย่ะค่ะ!”
หนานหว่านเยียนมองดูพ่อบ้านกาว เห็นว่าเขาตัดสินใจพุ่งเข้าสู่ความตายจากนัยน์ตาของเขา
นางขมวดคิ้วแน่น ออกมาจากในอ้อมแขนของกู้โม่หาน “พ่อบ้านกาว ข้าไม่เชื่อว่าเจ้าจะเป็นคนขี้อิจฉา ยิ่งไม่เชื่อว่าเจ้าจะทำลายตัวเองด้วยเรื่องเล็กน้อยแค่นี้ เจ้าและท่านอ๋องมีความผูกพันเป็นนายบ่าวมานานหลายปี หากว่ามีปัญหาเรื่องยากที่จะแก้ไข พูดออกมาท่านอ๋องก็จะจัดการให้เจ้า”
“ท่านอ๋องก็อยู่ตรงนี้ เจ้าแค่พูดออกมาว่าหยุนอี่ว์โหรวทำอะไรกับเจ้า หรือว่านางจับจุดอ่อนอะไรของเจ้าได้ บีบบังคับให้เจ้าจำเป็นต้องทำใช่หรือไม่?”
กู้โม่หานกำหมัดแน่น ใบหน้าอันสง่างามมีความซีดขาวเล็กน้อยมองไปยังพ่อบ้านกาว
แต่พ่อบ้านกาวกลับหัวเราะเสียงดังขึ้นมาอย่างกะทันหัน ท่าทางอันบ้าคลั่งทำให้ผู้คนรู้สึกหวาดกลัว “ท่านอ๋อง พระชายา ข้าน้อยก็เป็นเพียงแค่สุนัขเฝ้าบ้านของจวนอี้อ๋องผู้หนึ่ง ฐานะต่ำต้อย จะมีคนมาบีบบังคับข้าน้อยให้กระทำการใดได้อย่างไร อีกอย่าง เมื่อครู่ข้าน้อยก็พูดแล้ว ว่าไม่ได้เกี่ยวข้องกับพระชายารองหยุน เพราะข้าน้อยถูกพีสิงหลงไปชั่วขณะ เดินทางผิดไปแล้วก็เท่านั้น……”
เมื่อครู่หน้าอกของเขาถูกกู้โม่หานถีบเกิดอาการเจ็บปวด เวลานี้ขยับไม่ได้ ยิ่งไม่ต้องเอ่ยถึงการตอบโต้แล้ว
แต่เขาก็ไม่ได้คิดจะต่อสู้ดิ้นรน เพราะกู้โม่หานรู้ความจริงแล้ว เขาเดินออกไปจากห้องนี้ไม่ได้โดยสิ้นเชิง รีบๆตายไปยังจะดีซะกว่า
แบบนี้ ก็สามารถไปพบนายท่านได้เร็วขึ้นแล้ว
หนานหว่านเยียนมองดูพ่อบ้านกาวที่ดื้อรั้นมีทิฐิไม่ฟังสิ่งใด ดวงตาอันชัดเจนเคร่งขรึมขึ้นทันที
นางกวาดตามองไปที่กู้โม่หานแวบหนึ่ง เห็นเขาโศกเศร้าและเสียใจ ไม่รู้ว่าทำไม จึงรู้สึกโมโหขึ้นอย่างอดไม่ได้
การถูกคนอื่นหักหลังไม่ใช่ความรู้สึกที่ดี โดยเฉพาะเป็นคนที่ตัวเองคิดว่าเป็นเหมือนญาติผู้ใหญ่ นานวันไปตัวตนที่แท้จริงก็เปิดเผย เปลี่ยนเป็นใคร ผู้นั้นก็ยากที่จะรับได้
“หากว่าเจ้ายังดื้อรั้นดึงดัน เช่นนั้นพวกเราก็ไม่มีอะไรจะพูดแล้ว”
พูดพลาง นางก็หยิบหน้าไม้ออกมาจากหน้าอก แต่หยกห้อยเอวที่โม่หลีมอบให้ยัยตัวเล็กทั้งสองก็ตกออกมาด้วยแล้ว
หนานหว่านเยียนรีบเก็บหยกห้อยเอวที่ยัยตัวเล็กทั้งสองจะให้นางใส่ไว้ให้ได้ก่อนหน้านี้ขึ้นมาอย่างรวดเร็ว เล็งหน้าไม้ไปที่พ่อบ้านกาวอย่างแม่นยำ “ข้าให้โอกาสเจ้าอีกครั้ง พูดมาว่าคนที่อยู่เบื้องหลังเป็นใคร! ไม่เช่นนั้น เจ้าก็ไปตายแทนเจ้านายของเจ้าซะเถอะ!”
หลังจากที่พ่อบ้านกาวเห็นหยกห้อยเอวของนางแล้ว ทั้งคนกลับตะลึงอย่างรุนแรง ตื่นเต้นขึ้นมาอย่างฉับพลัน
“สิ่งนี้คือ……”
เขาเพ่งมองหยกห้อยเอวในมือของหนานหว่านเยียนด้วยความเหลือเชื่อ ไม่ผิดแน่ นี่คือหยกห้อยเอวของคุณหนูน้อย!
แต่เขาจำได้อย่างชัดเจน วันนั้นที่ฮูหยินเกิดเรื่อง เขาได้เอาหยกห้อยเอวชิ้นนี้วางไว้บนตัวของคุณหนูน้อยที่ยังเยาว์วัยอยู่ จากนั้นก็สับเปลี่ยนตัวตน ทั้งคนพร้อมทั้งสิ่งของ หลังจากนั้น เขาถึงได้มาเป็นพ่อบ้านที่จวนอี้อ๋อง แอบเฝ้าดูการเติบโตของคุณหนูน้อย
แต่หยกห้อยเอวที่คุณหนูน้อยเก็บไว้ ที่เป็นสิ่งของสำหรับเชื้อพระวงศ์เพียงเท่านั้น ทำไมถึงได้อยู่ที่หนานหว่านเยียนในตอนนี้ด้วยเช่นกันได้? !
หรือว่า? หรือว่า!
เป็นเขาที่จำคุณหนูน้อยผิดไป……