ยอดชายากับองค์หนูน้อยแห่งจวนอ๋องอี้ บทที่ 515 ตัวการก่อกรรมทำชั่ว
นี่จะเป็นไปได้อย่างไร? !
พ่อบ้านกาวจับพลัดจับผลูพุ่งเข้าไปหาหนานหว่านเยียน “ให้ข้าดูหน่อย……” ดูหยกห้อยเอวหน่อย!
สี่คำสุดท้ายยังพูดไม่จบ ดาบคมกริบที่มีแสงเย็นยะเยือกแผ่ออกมาก็แทงทะลุร่างกายของเขาโดยตรงทันที และในขณะเดียวกัน ธนูหน้าไม้อันหนึ่งก็ยิงเข้าไปที่ไหล่ของเขา
พ่อบ้านกาวกระอักเลือดในพริบตา ดวงตาเพ่งมองที่หยกห้อยเอวติดๆ สุดท้ายก็ล้มลงกับพื้น ปิดตาลงและไร้ซึ่งความเคลื่อนไหว
ดาบยาวในมือของกู้โม่หานยังคงมีเลือดหยดอยู่ ดวงตาดุดันเฉียบคม แต่บนใบหน้าอันสง่างามเป็นความเศร้าโศกซีดขาวแบบที่ไม่เคยมีมาก่อน
หนานหว่านเยียนหันหน้าไปมองผู้ชายตัวใหญ่ด้านข้าง เก็บดาบในมือกลับมา สีหน้าเป็นความซับซ้อนอย่างบอกไม่ถูก
เช่นพ่อบ้านกาวคนที่ไม่กลัวตายเช่นนี้ จุดจบเช่นนี้ก็เป็นธรรมดา
เพียงแต่นางไม่เข้าใจ พ่อบ้านกาวที่หน้าซีดเป็นไก่ต้ม ทำไมจู่ๆถึงได้เปลี่ยนเป็นฮึกเหิมและตกใจขึ้นมา ดูท่าทางของเขา เหมือนว่าจะไม่ได้อยากจะทำร้ายนาง…….
กู้โม่หานมองดูพ่อบ้านกาวที่นอนนิ่งอยู่บนพื้นอย่างลึกซึ้ง จากนั้นเขาก็ปิดตาอย่างแน่นสนิท
เขาระงับความรู้สึกซับซ้อนสับสนในใจไว้ กล่าวด้วยเสียงเย็นชาไปทางด้านนอกหน้าต่าง “อวี๋เฟิง พาคนไปจัดการซะ”
วันนี้เพื่อเห็นแก่ความปลอดภัย ด้านนอกเรือนซีเฟิงจัดคนสอดแนมไว้เต็มไปหมดล่วงหน้านานแล้ว อวี๋เฟิงจึงเฝ้ารออยู่ด้านนอกมาตลอด
อวี๋เฟิงได้ยินกู้โม่หานเรียกเขา รีบข้ามเข้ามาจากด้านนอก! อดกลั้นไฟโทสะในจิตใจ “พ่ะย่ะค่ะ! ข้าน้อยจะไปจัดการเดี๋ยวนี้!”
เมื่อครู่ได้ยินคำพูดของพ่อบ้านกาว ในจิตใจก็รู้สึกเกลียดแค้นจนกัดฟันกรอด! มีหลายครั้งที่แทบจะพุ่งเข้ามาอย่างอดไม่ได้
อวี๋เฟิงถลกแขนเสื้อขึ้น แบกศพขึ้นด้วยความโกรธแค้นเต็มหัวอก ใส่ด้วยกระสอบป่านแล้วรีบเอาออกไปทางนอกเมือง
พ่อบ้านกาวคนทรยศเช่นนี้ ใช้กระสอบป่านเก็บศพให้เขาก็เป็นการสิ้นเปลือง!
เขาควบม้าไปถึงสถานที่ฝังศพที่ไม่มีคนดูแล เอาศพของพ่อบ้านกาวโยนเข้าไปในกองศพ ในตาเป็นความเกลียดแค้นความซับซ้อนที่อธิบายไม่ได้
“พ่อบ้านกาว แม้ว่าข้าจะเข้ามาอยู่ในจวนทีหลัง แต่ก็คิดว่าท่านเป็นคนซื่อตรงเอาการเอางานและสุขุมมั่นคง หลายปีมานี้ ข้ารู้ว่าท่านอ๋องดีกับท่านมากเพียงใด ไม่ว่าจะเป็นอาหารเสื้อผ้าข้าวของเครื่องใช้ แต่ละอย่างล้วนเอาสิ่งที่ดีที่สุดให้”
“แต่ท่านอ๋องดีกับท่านเพียงนี้ ท่านก็ยังใจดำไปจนถึงกระดูกได้! ทั้งยังจะฆ่าองครักษ์เสิ่นให้ตายอีกหลายครั้ง ท่านมันช่าง—อย่างไรซะ พวกเราก็จะไม่อภัยให้ท่าน สุดท้ายเรียก “ท่าน” ด้วยความเคารพคำหนึ่ง ก็เพราะเห็นแก่ที่ท่านได้ดูแลข้าช่วยข้าเลื่อนชั้นในตอนนั้น”
เขาทำสีหน้าจริงจัง เด็ดดอกไม้สองสามดอกจากบนถนน วางไว้บนหน้าอกของพ่อบ้านกาว “ขอให้ท่านเป็นคนดีมีเมตตาในชาติหน้า อย่าได้เป็นคนขาดสติเป็นคนเลวอีกเลย”
อวี๋เฟิงยิ่งพูด ก็ยิ่งรู้สึกว่าจิตใจเป็นทุกข์
ถึงแม้ว่าเขาจะโกรธ โกรธเคืองการกระทำของพ่อบ้านกาว แต่เขากลับรู้สึกกังวลใจยิ่งกว่า เขาก็แค่คนหนึ่งที่มีสัมพันธภาพกับพ่อบ้านกาวมาไม่กี่ปี ยังรู้สึกยากที่จะรับได้ หากว่าเปลี่ยนเป็นท่านอ๋องและองครักษ์เสิ่น นั้นควรจะต้องเจ็บปวดใจมากเพียงใด?
อวี๋เฟิงหันหลังขึ้นม้า จากไปไกลโดยไม่ลังเลอีก
ไม่รู้ว่าผ่านไปนานเพียงใด ดอกไม้ไม่กี่ดอกนั่นที่วางอยู่ที่พ่อบ้านกาว กลิ้งตกลงกองศพ เพราะหน้าอกที่เคลื่อนไหวขึ้นลง……
ในขณะเดียวกัน ในเรือนซีเฟิงจวนอี้อ๋อง
ในห้องของเสิ่นอี่ว์ รอยเลือดถูกคนรับใช้จัดการทำความสะอาด
เสิ่นอี่ว์ที่อยู่บนเตียงยังคงแสร้งทำเป็นสลบไม่ได้สติอยู่ แต่ในใจกลับกระพื่อมเป็นคลื่นที่โหมซัดสาดอย่างบ้าคลั่งเป็นระยะๆ
สถานการณ์เร่งด่วนเมื่อครู่ หากว่าท่านอ๋องไม่ได้ออกมาช่วย เกรงว่าพระชายาก็คงยากที่จะรอดได้
แม้ว่าเขาจะประหลาดใจในความไม่ซื่อสัตย์ของพ่อบ้านกาว แต่เขาเลื่อมใสในแผนการที่ไร้ช่องโหว่ของหนานหว่านเยียนยิ่งกว่า เพียงแต่น่าเสียดายเป็นอย่างมาก ที่ยังไม่สามารถทำให้พ่อบ้านกาวเปิดโปงทุกการกระทำของหยุนอี่ว์โหรวออกมาได้
แต่ เพียงแค่เท่านี้ ท่านอ๋องก็น่าจะเป็นทุกข์ใจเป็นอย่างมากแล้วน่ะสิ……
หนานหว่านเยียนแสร้งทำเป็นจับชีพจรให้เสิ่นอี่ว์ หันกลับไปมองกู้โม่หานที่นิ่งเงียบไม่พูดจาด้านข้าง เอ่ยปากกล่าวว่า “ร่างกายของเสิ่นอี่ว์ยังไม่ฟื้นตัว เมื่อครู่ได้รับความกระทบกระเทือนจึงทำให้สลบไป แต่ไม่ได้เป็นอะไรมาก เพียงแค่พักผ่อนให้ดีก็จะฟื้น”
“อืม” กู้โม่หานมองไปที่เสิ่นอี่ว์ด้วยสีหน้าท่าทางซับซ้อน แต่จากนั้น ก็ขมวดคิ้วแล้วกล่าว “เจ้าตามข้าออกมาหน่อย”
พูดจบ เขาก็หมุนตัวเดินออกไปนอกห้อง
มีสายลมอ่อนๆพัดผ่าน พาให้ชายเสื้อสีแดงสีดำสองชิ้นประสานกันไม่กี่วินาทีก็กลับคืนสู่ความสงบอีกครั้ง
กู้โม่หานเพ่งมองหนานหว่านเยียนโดยไม่ละสายตา ริมฝีปากบางๆเปิดและปิด
“ความทรงจำของเสิ่นอี่ว์ก็ยังไม่ได้ฟื้นคืนมา เจ้ารู้ได้อย่างไรว่า พ่อบ้านกาวคือตัวการกระทำความผิด?”