ยอดชายากับองค์หนูน้อยแห่งจวนอ๋องอี้ บทที่ 533 ไม่มีใครสำคัญกว่านาง
องครักษ์ยิ่งก้มหน้าต่ำลง พร้อมพูดขึ้นว่า “ตามถนนหลายเส้นจากสนามแข่งไปถึงเรือนเซิง พวกเราต่างก็ค้นหาหมดแล้ว มีคนเคยเห็นองค์หญิงฮั่นเฉิงมายังเรือนเซิง แต่หลังจากนั้น ก็ไม่เห็นอีก”
“น้องหก ทำไมเจ้ายังนั่งใจเย็นอยู่ได้ ตอนนี้ตามหาคนสำคัญที่สุด” กู้โม่เฟิงกำหมัดแน่น หันกลับมาเห็นสีหน้ากู้โม่หานเป็นปกติ ก็พูดขึ้นมาอย่างร้อนใจว่า “คนที่หายไปไม่ใช่คนอื่น แต่นั่นคือฮั่นเฉิง”
“หากกลุ่มนักฆ่าของสำนักอู๋หยิ่ง ที่ลอบฆ่าพวกเจ้าในทะเลสาบเนี่ยที่ผ่านมา ปลอมตัวเข้ามาในวัง แล้วพวกเขาทำได้สำเร็จ ใครก็จะไม่สามารถช่วยเจ้าได้อีกแล้ว”
สายตากู้โม่หานมืดมนลง เรื่องในครั้งนี้น่าจะไม่ใช่ฝีมือของสำนักอู๋หยิ่ง นี่อยู่ในวัง และเมื่อวานเขาก็เพิ่มเวรยามคุ้มกันมากยิ่งขึ้น
คุ้มกันแน่นหนาขนาดนี้ หากยังมีนักฆ่าเข้ามาได้ ถือเป็นความอัปยศของพระราชวงศ์แคว้นซีเหย่
แต่ตอนนี้เขาสงสัยว่าคนที่พาตัวฉินมู่ไป๋ไป เพราะเรื่องแต่งงานเชื่อมสัมพันธ์ ดังนั้นฉินมู่ไป๋จะไม่มีอันตรายถึงชีวิต “ไป”
“ยังไม่รีบนำทาง” กู้โม่เฟิงเห็นกู้โม่หานลุกขึ้นมา ก็ยกเท้าเตะองครักษ์คนนั้นยังร้อนใจ พร้อมออกจากประตูไป
แต่ทั้งสามคนเพิ่งมาถึงหน้าประตู ก็เห็นนางกำนัลน้อยคนหนึ่งวิ่งหน้าตั้งตาตื่นเต้นมาหา
“ไท่จื่อเตี้ยนเซี่ย ไท่จื่อเตี้ยนเซี่ย ไท่จื่อเฟยหายไปแล้ว”
หนานหว่านเยียนหายตัวไป?
เดิมสีหน้ากู้โม่หานที่นิ่งเฉย เปลี่ยนแปลงไปทันที
มือทั้งคู่ที่ขาวผ่องนั้น ประสานกันไว้แน่น รัศมีรอบกายเยือกเย็นจนน่ากลัว
“หายไปได้อย่างไร?”
รัศมีแห่งสังหารของกู้โม่หานปะทุขึ้นมา กู้โม่เฟิงมองดูเขาแวบหนึ่ง ในสายตามีความหมายอย่างมัวๆ
สาวใช้ตกใจแทบแย่ ล้มคุกเข่าลงบนพื้น พร้อมพูดขึ้นว่า “บ่าว บ่าวก็ไม่รู้”
“เดิมไท่จื่อเฟยควรที่อาบน้ำอยู่ภายในห้องกลาง นางไม่ให้บ่าวเข้าไปปรนนิบัติ ให้บ่าวไปเตรียมเสื้อผ้ามาใหม่ บ่าวเพียงแค่จากไปแปบเดียว แล้วเมื่อเอาเสื้อผ้าไปให้ไท่จื่อเฟยอีกครั้ง ไท่จื่อเฟยก็หายไปแล้ว หายังไงก็หาไม่เจอ”
“ข้าจะไปตามหา” หัวใจกู้โม่หานเต้นแรงอย่างมาก แทบจะพูดออกมาอย่างคิดไม่ทัน
“ไม่ได้” กู้โม่เฟิงขวางเขาไว้ พร้อมขมวดคิ้วพูดขึ้นว่า “ในสถานการณ์แบบนี้ องค์หญิงฮั่นเฉิงสำคัญที่สุด”
“หนานหว่านเยียนฉลาดขนาดนี้ และก็ไม่ใช่ครั้งแรกที่เข้าวัง คงไม่เกิดอันตรายอะไรกับนาง แต่เจ้า ต้องคิดเผื่อตัวเองเยอะๆ หากองค์หญิงของแคว้นเทียนเซิ่งเป็นอะไรไปในวัง เมื่อต้องรับผิดชอบ เจ้าจะรับอย่างไรไว้?”
ใบหน้าหล่อเหลาของกู้โม่หานย่ำแย่อย่างมาก พร้อมพูดขึ้นว่า “ไม่มีใครสำคัญไปกว่าหนานหว่านเยียน”
แต่คำพูดของกู้โม่เฟิง ก็ทำให้เขาฉุกคิดขึ้นมาได้ องค์หญิงฮั่นเฉิงกับหนานหว่านเยียน หายตัวไปพร้อมกัน จะต้องไม่ใช่เรื่องบังเอิญแน่
เขารู้ว่าวันนี้จะต้องเกิดเรื่อง เพราะตราบที่ยังไม่ได้เลือกคู่แต่งงานเชื่อมสัมพันธ์ คนในวังก็จะต้องร้อนใจ แต่คิดไม่ถึงว่าจะเดือดร้อนไปถึงหนานหว่านเยียน
เห็นได้ว่า ความประสงค์ของคนนั้นจะยิ่งใหญ่มาก
“ไม่ต้องคิดแล้ว เชื่อฟังข้า ตามหาองค์หญิงฮั่นเฉิงสำคัญกว่า” กู้โม่เฟิงเห็นกู้โม่หานไม่ขยับ จึงร้อนใจอย่างมาก
กู้โม่หานกลับเงยขึ้นมามองเขา พร้อมพูดขึ้นว่า “ได้ ไปตามหาองค์หญิงก่อน”
กู้โม่เฟิงเห็นกู้โม่หานเปลี่ยนใจเร็วขนาดนี้ ก็อดไม่ได้ที่จะอึ้ง แต่ไม่ช้าก็ได้สติกลับมา พร้อมพูดขึ้นว่า “งั้นรีบไปเถอะ”
……
ทางด้านกู้โม่หาน เมื่อรู้ข่าวว่าฉินมู่ไป๋กับหนานหว่านเยียนหายสาบสูญไป ก็สั่งให้ทหารรักษาพระราชวังไปตามหาคน สักพัก ห้องทางตะวันตกด้านทิศเหนือของเรือนเซิง หนานชิงชิงก็ได้รับข่าวแล้ว
หนานชิงชิงได้อาบน้ำเสร็จแล้ว
ตอนนี้นางกำลังเอนพิงอยู่บนเก้าอี้กุ้ยเฟย ตรงหน้ามีนางกำนัลคนหนึ่งยืนอยู่ แม้ว่ารูปลักษณ์จะแตกต่างไปบ้าง แต่ก็มองเห็นได้ลางๆ คล้ายกับคนที่อยู่ข้างกายฉินมู่ไป๋เมื่อกี้คนนั้น ซึ่งก็คือชิวซวงที่แปลงโฉมไป
ชิวซวงพูดกับหนานชิงชิงอย่างเคารพนอบน้อมว่า “พระชายา ทุกอย่างเป็นไปอย่างราบรื่น เมื่อกี้ เมื่อกี้บ่าวเห็นไท่จื่อเตี้ยนเซี่ยด้วยตาตนเอง ไปทางด้านองค์หญิงฮั่นเฉิง”
หนานชิงชิงรู้สึกดีใจ กลับพูดถามย้ำว่า “เจ้ามั่นใจหรือ คนที่ไปคือไท่จื่อ?”
กู้โม่หานกับหนานหว่านเยียน เจ้าเล่ห์ไม่น้อยกว่านาง สองคนนี้เฉลียวฉลาดอย่างมาก สามารถเอาตัวรอดจากอันตรายได้ทุกครั้ง ครั้งนี้นางจะไม่ประมาทเด็ดขาด
ชิวซวงรีบผงกหัว พร้อมพูดขึ้นด้วยน้ำเสียงมั่นใจว่า
“เพคะ บ่าวเห็นด้วยตาตนเองจริงๆ ไท่จื่อไปตามหาองค์หญิงก่อน บ่าวไม่มีทางจำผิดแน่นอน….”
ถึงแม้…..นางจะมองเห็นแค่เงาหลัง
แต่คนคนนั้นไม่ว่าจะเป็นเสื้อผ้าหรือรูปร่าง เห็นได้ชัดว่าคือไท่จื่อเตี้ยนเซี่ย
หนานชิงชิงได้ยินแบบนี้ ในที่สุดก็โล่งอก สายตาเต็มไปด้วยความชั่วร้ายอำมหิต พร้อมพูดขึ้นว่า “ดีมาก ทำได้ไม่เลว”
“ยาภายในห้องของฮั่นเฉิง ข้าต้องลงทุนลงแรงอย่างมากกว่าจะได้มา ขอเพียงกู้โม่หานเข้าไป รับรองว่าเสร็จแน่”
ฤทธิ์ยานั้นสัมฤทธิผลทันที ต่อให้เป็นกู้โม่หาน ก็ยากที่จะเอาตัวรอดได้
“พระชายาทรงพระปรีชา” ชิวซวงรีบประจบขึ้นมาอย่างยิ้มแย้ม เดินไปข้างหน้าสองก้าว แล้วพูดขึ้นด้วยเสียงเบาว่า “ทางด้านท่านอ๋องเจ็ดกับไท่จื่อเฟย ก็เป็นไปอย่างราบรื่น”
“บ่าวคิดว่า ตอนนี้ ไท่จื่อเฟยกับท่านอ๋องเจ็ดน่าจะ….”
หนานชิงชิงยิ้มจนคิ้วโก่ง แต่ไร้ซึ่งความอยากยิ้ม ตรงกันข้าม กลับแฝงไปด้วยความเกลียดชังและโกรธแค้นอย่างไม่รู้จบ พร้อมพูดขึ้นว่า “สมน้ำหน้า”
ยาของกู้โม่หลิงก็ทวีคูณขึ้นเช่นกัน ต่อให้หนานหว่านเยียนมีความสามารถแค่ไหน แต่จะหลบหนีจากเงื้อมมือชายที่แข็งแกร่งคนหนึ่งได้อย่างไร
รอหนานหว่านเยียนกับกู้โม่หลิงมั่วกัน ส่วนกู้โม่หานก็มั่วกับฉินมู่ไป๋
นางจะคอยดู สองสามีภรรยาคู่นี้จะพร้อมใจกัน ฝ่าฟันอุปสรรคไปด้วยกันยังไง
ต่อให้ไม่รังเกียจซึ่งกันและกัน ฮ่องเต้ก็ไม่มีทางปล่อยพวกเขาไป
เห้อ รอรับความตายเถอะ…..