ยอดชายากับองค์หนูน้อยแห่งจวนอ๋องอี้ – บทที่ 540 ไม่ผิด เป็นข้าเอง

ยอดชายากับองค์หนูน้อยแห่งจวนอ๋องอี้

ยอดชายากับองค์หนูน้อยแห่งจวนอ๋องอี้ ตอนที่ 540 ไม่ผิด เป็นข้าเอง

สายตาหนานชิงชิงพลันแข็งทื่อ ในใจตื่นตระหนกเล็กน้อย แต่กลับแสร้งทำเป็นสงบ “ไม่ผิด เป็นข้าเอง”

กู้โม่เฟิงเหลือบมองหนานชิงชิง สายตาเริ่มซับซ้อน

เขารู้ว่าหนานชิงชิงกระวนกระวายใจ แต่ไม่ว่านางจะเป็นอย่างไร ก็คงไม่มีทางทำเรื่องเลวร้ายเช่นนี้ออกได้กระมัง

อีกทั้ง นางไปเอาเส้นสายมาจากไหน

หนานหว่านเยียนหรี่ตามองหนานชิงชิง คิดไม่ถึงว่าจะเป็นหนานชิงชิงที่พบเจอก่อนอีกแล้ว

“งั้นขอพี่สาวยื่นมือออกมา กุมซองหอมนี่เอาไว้”

หนานชิงชิงบังคับตัวเองให้สงบ ใช้สองมือรับแล้วกุมซองหอมเอาไว้ จากนั้นก็ปล่อยออก

ฝ่ามือของนางไม่ปรากฏสิ่งผิดปกติอะไร สายตาเย็นชาทิ่มแทงหนานหว่านเยียน เอ่ยน้ำเสียงยั่วยุ “เสร็จแล้วรึ”

ดวงตาหนานหว่านเยียนสั่นไหว กวาดตามองนาง “ใช่แล้ว”

จากนั้น หนานชิงชิงก็ถอยกลับไปข้างกายกู้โม่เฟิงเหงื่อเย็นบนฝ่ามือไหลออกมา แล้วกัดฟัน

กู้โม่เฟิงไม่ได้พูดอะไร แต่มองสีหน้าหนานชิงชิง สีหน้าค่อยๆ จริงจังขึ้นมา

นางคือมารดาบังเกิดเกล้าของหลินเอ๋อร์ หากนางพัวพันเรื่องโง่เง่าเช่นนี้เข้า เขาควรจะจัดการอย่างไร…

หลังตรวจสอบหนานชิงชิงเสร็จ หนานหว่านเยียนก็มองทางพวกองครักษ์แถวหนึ่ง เอ่ยถามเสียงดังว่า “คนที่พังประตูเมื่อครู่ เป็นพวกเจ้าเหล่านี้หรือ”

องครักษ์ที่อยู่ข้างหน้าพยักหน้าด้วยความนอบน้อมทันที “พ่ะย่ะค่ะ ไท่จื่อเฟย”

“งั้นก็ดี” หนานหว่านเยียนโยนซองหอมให้องครักษ์ที่อยู่ข้างหน้า “เริ่มตั้งแต่เจ้า ไปทีละคน”

ซึ่งคนสุดท้ายของแถว องครักษ์ข้างกายหนานชิงชิงคนนั้น ก็ร่างสั่นเทาอย่างเห็นได้ชัด

ในใจหนานชิงชิงกับชิวซวงก็อกสั่นขวัญแขวนตามเช่นกัน

ทุกคนกลั้นหายใจมองดูอย่างตั้งมั่น กู้โม่หานติดตามข้างกายหนานหว่านเยียน ดวงตาหงส์เฉียบคมจับจ้องที่องครักษ์ตรงหน้าพวกนี้

เขามองดูคนแรกคลายมือ ไม่มีอะไรผิดปกติ

คนที่สองเหมือนกัน

คนที่สามก็แล้ว คนที่สี่…

จนกระทั่งคนสุดท้ายของแถว องครักษ์ข้างกายหนานชิงชิงคนนั้นยื่นมือออกมาอย่างประหม่า แต่กลับเห็นฝ่ามือขวาของเขา มีรอยขีดชัดเจน

สายตาหนานหว่านเยียนเย้ยหยัน กู้โม่หานขมวดคิ้วอย่างนิ่งเงียบ “ตาเจ้าแล้ว”

“พ่ะย่ะค่ะ…” องครักษ์คนนั้นรับซองหอมมา กุมไว้ในฝ่ามือ จากนั้นส่งคืนให้หนานหว่านเยียนอย่างไว “บนมือข้าน้อยมีบาดแผล เกรงว่าจะทำให้ซองหอมของไท่จื่อเฟยแปดเปื้อนพ่ะย่ะค่ะ”

หนานหว่านเยียนชำเลืองมองที่ฝ่ามือของชายคนนั้นอย่างเฉยเมย “อืม ไม่มีอะไรผิดปกติ”

เมื่อพูดจบ นางก็หันกายจากไป

หนานชิงชิงกับชิวซวงที่อกสั่นขวัญหายเมื่อครู่ ก็ผ่อนคลายความระมัดระวังลงทันที

ยังดีที่ หนานหว่านเยียนเป็นคนโง่เขลา แค่ต้องการอวดฉลาด แต่ค้นหาความจริงอะไรไม่ได้เลย

อีกเดี๋ยว นางจะรอดูหนานหว่านเยียนถูกกู้จิ่งซานลงโทษอย่างรุนแรง!

องครักษ์คนนั้นยิ่งถอนหายใจด้วยความโล่งอกอย่างเงียบๆ ในใจ แต่พอเงยหน้าขึ้น เขาก็เห็นกู้โม่หานจ้องมองเขาไม่วางตา ด้วยความเย็นชา “จับตัวมา!”

“พ่ะย่ะค่ะ ไท่จื่อเตี้ยนเซี่ย!” ทันใดนั้น ทหารสี่ห้านายจากค่ายเสินเชื่อก็ปรากฏตัวขึ้นจากด้านข้าง คุมตัวองครักษ์คนนั้นเอาไว้

ทุกคนตกใจอยู่กับที่ ทยอยแสดงความไม่เข้าใจ

“นี่ นี่มันตรวจอย่างไร”

สีหน้าหนานชิงชิงกับชิวซวงซีดลงทันที

อารมณ์ของทั้งคู่เหมือนขึ้นรถไฟเหาะ กระชากขึ้นมา จุดที่สูงชะลูด

องครักษ์คนนั้นตื่นตระหนกทันที เหลือบมองหนานชิงชิงก่อนโดยสัญชาตญาณ แล้วมองกู้โม่หานอย่างงงงวย “ไท่จื่อเตี้ยนเซี่ย! เมื่อครู่ไท่จื่อเฟยบอกแล้ว ข้าน้อยไม่มีอะไรผิดปกติ ท่านจับข้าน้อยทำไม”

กู้โม่หานยิ้มอย่างเย็นชา “เมื่อครู่คือเมื่อครู่ ตอนนี้คือตอนนี้ มือของเจ้าเปิดโปงเจ้าเองแล้ว เจ้าคือคนที่จับตัวไท่จื่อเฟยไป!”

สีหน้าองครักษ์เปลี่ยนเป็นฉับพลัน แบฝ่ามือออกดูทันที

เห็นเพียงรอบนอกบาดแผลเดิมของเขา ปรากฏรอยสีม่วงคล้ำนับไม่ถ้วนขึ้นมา รอยพวกนั้นราวกับมีชีวิต แผ่กระจายไปตามฝ่ามือของเขา

“ไม่ นะ นี่มันเป็นไปไม่ได้..”

เขาส่ายหน้า น้ำเสียงและแววตาเต็มไปด้วยความหวาดกลัว

หนานหว่านเยียนกลับเย้ยหยัน “มีอะไรที่เป็นไปไม่ได้กัน”

“เจ้าฉลาดจริงๆ รู้จักใช้บาดแผลอำพรางรอยรูเข็มที่ข้าแทง แต่พิษของข้า ไม่เกี่ยวกับบาดแผล เมื่อถูกซองหอมกระตุ้น ซึมเข้าสู่ร่างกาย ก็จะแผ่กระจายอย่างรวดเร็ว”

กู้โม่หานกวาดตามององครักษ์น้ำเสียงเย็นชา “กล้าหัวใสต่อหน้าข้า ช่างไม่รักตัวอยากตายเสียจริง”

“แต่เจ้าเป็นเพียงองครักษ์เล็กๆ ไม่มีความสามารถวางแผนใส่ชนชั้นสูงมากมายขนาดนี้ได้ ใครเป็นคนสั่งการเจ้ามา”

ทุกคนราวกับได้ตรัสรู้ ทยอยเอ่ยพ้องตาม “ไท่จื่อเตี้ยนเซี่ยกล่าวได้ไม่ผิด! องครักษ์คนเดียว จะทำเรื่องสะเทือนฟ้าสะเทือนดินเช่นนี้ออกมาได้อย่างไร!”

“คาดไม่ถึงว่า ไท่จื่อเฟยจะหาตัวคนผู้นี้ออกมาจริงๆ ได้! อย่าปล่อยให้หลุดไปได้เด็ดขาด!”

เมื่อฉินอี้หรานเห็นหลักฐานที่ทาบอยู่บนมือองครักษ์ ใบหน้าหล่อเหลาก็อึมครึมขึ้นมาหลายส่วน แต่กลับไม่พูดอะไร รอให้เรื่องดำเนินไปอย่างเงียบๆ

คาดไม่ถึงว่า หนานหว่านเยียนจะหาคนร้ายออกมาได้จริงๆ ตอนนั้นนางก็ถูกจับตัวใช่ไหม แต่กลับยังซ่อนไผ่ลับเอาไว้ได้ สตรีบอบบางมีเล่ห์เพทุบายเช่นนี้ ไม่อาจมองข้ามได้จริงๆ

กู้จิ่งซานกับชี่กุ้ยเฟยยืนมองดูอยู่ไกลๆ สีหน้าของทั้งสองคนเย็นยะเยือก

ฉินมู่ไป๋กลับตื่นเต้นมาก กระชับผ้าพยายามจะทุบตีองครักษ์คนนั้น “กล้าทำร้ายข้า เจ้ามันไม่อยากมีชีวิตต่อแล้วหรือไร! รีบบอกว่าใครสั่งการเจ้ามา ข้าจะฉีกมันชิ้นๆ!”

“ฮั่นเฉิง! เงียบ!” ฉินอี้หรานรีบหยุดนางอย่างว่องไว ไม่ให้ฉินมู่ไป๋ทำร้ายองครักษ์คนนั้นได้

องครักษ์คนนั้นเผชิญหน้ากับการโจมตีและการโอบล้อมของหนานหว่านเยียนและคนอื่นๆ พลันรู้สึกมืดมนทันที

เขาขยับลูกกระเดือก เหงื่อเย็นไหลท่วมกาย

“ปะ เป็น…”

ยอดชายากับองค์หนูน้อยแห่งจวนอ๋องอี้

ยอดชายากับองค์หนูน้อยแห่งจวนอ๋องอี้

Status: Ongoing
หนานหว่านเยียน อัจฉริยะแห่งวงการแพทย์ ข้ามภพมาเป็นพระชายาอัปลักษณ์ผู้ถูกทอดทิ้งแห่งจวนอ๋องอี้ แต่ด้วยมันสมองของอัจฉริยะ และความแข็งแกร่งฉบับสาวยุคใหม่ เธอจะพลิกเกมกลับมาแก้แค้นไอ้พวกเศษสวะให้สิ้นซาก!

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท