ยอดชายากับองค์หนูน้อยแห่งจวนอ๋องอี้ บทที่ 555 ท่านอ๋องเชื่อฟังพระชายา
“เสิ่นอี่ว์เขาจะสามารถ นึกขึ้นได้เร็วกว่านี้หรือไม่?”
คําพูดนี้ของกู้โม่หาน ความจริงแล้วไม่ได้เร่งรีบ กลับเป็นการอ้อนวอนให้ระมัดระวังมากขึ้นอีก
หนานหว่านเยียนถูกเขาจับตามองจึงรู้สึกอึกอัดเล็กน้อย นางหลีกเลี่ยงสายตาของเขาโดยไม่รู้ตัว “ข้าจะพยายาม เจ้าก็รู้ว่าการสูญเสียความทรงจำรักษายาก ข้าจะไปเดี๋ยวนี้”
พูดจบ นางก็หันหลังแล้วจากไป
แต่ทันทีที่เขาก้าวออกไป แขนกลับหนักขึ้นมา หนานหว่านเยียนหันศีรษะไปด้านข้าง สบตากับเขา
กู้โม่หานเม้มริมฝีปากบาง “หว่านเยียน นอกจากพูดเรื่องเสิ่นอี่ว์แล้ว ช่วงนี้…ช่วงนี้ข้า อาจจะไม่ได้กลับจวนบ่อยๆ”
“เมื่อครู่ข้าไปค่ายเสินเชื่อมาแล้ว ได้เรียกเหล่าพวกพ้องมาอารักขาที่จวนอ๋องเพิ่มอีก โดยเฉพาะเรือนของเจ้าและเสด็จแม่”
หนานหว่านเยียนมองไปที่เขา “อืม ข้ารู้แล้วเห็น”
นางเข้าใจว่า ต่อไปกู้โม่หานมีแต่จะยุ่งขึ้นเรื่อยๆ เมื่อถึงเทศกาลหยวนเซียว ได้แต่งตั้งเป็นไท่จื่อ ยัยลูกสาวสองคนก็จะเข้าไปอยู่ในลำดับวงศ์ตระกูล ช่วงเวลานี้เขาก็จะจัดการงานราชการไม่เรียบร้อย
ประกอบกับสิ่งที่ฉินอี้หรานพูด หากแคว้นซีเหย่ยกทัพโจมตีแคว้นต้าเซี่ย ผู้นำทักจะต้องเป็นกู้โม่หานที่ได้ชื่อว่าเป็นเทพสงครามอย่างแน่นอน
ก่อนหน้านั้น นางต้องรีบเป็นอิสระให้เร็วที่สุด ต้องจัดการหยุนอี่ว์โหรวที่ชอบสร้างปัญหาและมีผู้หนุนหลังคนนี้
“ข้าจะไปดูเสิ่นอี่วิ์หน่อย เจ้าทำธุระไปเถิด” หนานหว่านเยียนพูดจบ ก็สะบัดมือเขาออก และไปยังเรือนซีเฟิง
นิ้วเรียวยาวของกู้โม่หานยังคงค้างแข็งในอากาศ เขามองเงาด้านหลังของหนานหว่านเยียนอย่างไม่ละสายตา ด้วยดวงตาที่มืดมนที่ล้ำลึกของเขา พร้อมกล่าวพึมพำ
“ข้าพูดกับเจ้าตั้งเยอะ เจ้ากลับไม่มีอะไรจะพูดข้า…”
เขาเข้าหานางแล้ว เมื่อไหร่เขาถึงจะได้รับการตอบกลับจากนางหรือ?
แต่กู้โม่หานไม่รู้ว่าจุดจบของพวกเขาได้ถูกตัดสินไว้นานแล้ว ไม่มีใครจะรออยู่ที่เดิมได้ตลอดไป…
ในเรือนซีเฟิง
เสิ่นอี่ว์เพิ่งดื่มยาเสร็จ หนานหว่านเยียนก็มา ในใจของเขาก็รู้สึกโล่งอกอย่างบอกไม่ถูก
ช่วงนี้ท่านอ๋องมาเยี่ยมเขาบ่อย ถามเข้าว่าความจำฟื้นคืนแล้วยัง เป็นแบบนี้อีกต่อไป เขากลัวว่าจะทนไม่ไหว วันไหนจะหลุดปากพูดออกไป
เขาลุกขึ้นด้วยรอยยิ้ม ทำความเคารพไปทางหนานหว่านเยียน “พระชายา”
หนานหว่านเยียนปิดประตู และนั่งลงบนเก้าอี้ “นั่งเถิด ไม่ต้องเกร็ง”
เสิ่นอี่ว์นั่งลง นางเห็นสีหน้าเสิ่นอี่ว์ดูดีขึ้นไม่น้อย และรอยแผลเป็นบนศีรษะก็สมานกันดี นางยิ้มบางๆ ด้วยความดีใจ “ดูเหมือนว่าจะฟื้นตัวได้ดี ร่างกายเจ้าก็จะกลับมาฟันแทงไม่เจ้าอีกครั้งแล้ว”
ทันใดนั้นเสิ่นอี่ว์ก็ยิ้มขมขื่นเล็กน้อย “พระชายา ท่านอย่าล้อเล่นข้าน้อยเลยขอรับ ท่านมาวันนี้ มีเรื่องอยากถามใช่หรือไม่ขอครับ? ”
หนานหว่านเยียนไม่อ้อมค้อมอีกต่อไป สีหน้าจริงจังขึ้นเล็กน้อย “ข้ามีบางอย่างอยากถาม ข้าอยากรู้ว่า วันนั้นที่เจ้าสืบได้ว่าหยุนอี่ว์โหรวเป็นคนปล่อยข่าวลือเรื่องที่เด็กทั้งสองเป็นลูกชู้ หลักฐานเหล่านั้นยังมีเหลืออีกหรือไม่?”
เมื่อได้ยินเช่นนี้ สีหน้าของ เสิ่นอี่ว์ก็เย็นชาขึ้นเล็กน้อย
เขากําผ้าห่มในมือแน่น และน้ำเสียงก็ยังคงมีความโกรธแค้นอยู่
“ข้าน้อยไร้ความสามารถ ตอนนั้นข้าน้อยหูเบาเชื่อคนปลิ้นปล้อน ค่อยๆ นำหลักฐานให้พ่อบ้านกาวทีละชิ้นๆ ร่องรอยแม้แต่นิดเดียวก็ไม่เหลือแล้วขอรับ”
หากเขาไม่ได้ขอให้พ่อบ้านกาวไปส่งจดหมายให้ท่านอ๋อง หากเขาสามารถส่งจดหมายถึงมือของท่านอ๋องด้วยมือของตัวเองได้ เรื่องราวก็คงจะไม่ซับซ้อนเหมือนตอนนี้!
มอบหลักฐานให้พ่อบ้านกาวแล้วหรือ?
หนานหว่านเยียนย่นคิ้วขมวด หมกมุ่นอยู่กับการใคร่ครวญว่า “หากเป็นเช่นนี้ หลักฐานเหล่านั้นอีกไม่นานก็จะถูกพ่อบ้านกาวทำลายทิ้งอย่างแน่นอน”
นางมองไปที่ยังเสิ่นอี่ว์ “หากตอนนี้หาหลักฐานใหม่ เจ้าคิดว่าจะใช้เวลานานเท่าไหร่?”
เสิ่นอี่ว์ส่ายหัวอย่างลำบากใจ “ไม่ใช่ว่าข้าน้อยไม่เคยคิดเรื่องนี้ แต่หากสืบใหม่ขึ้นมาจะต้องไปทางใต้ของเมืองอีกครั้ง หาขอทานผู้นั้นให้เจอ ยังมีผู้ให้เบาะแสที่รับผิดชอบการเชื่อมต่อ”
“ท่านไม่รู้ว่า พ่อบ้านกาวเวลาทำอะไรมีความพิถีพิถันมาโดยตลอด สิบปีมานี้จัดการจวนอ๋องอย่างเป็นระเบียบก็เพียงพอแล้วที่จะพิสูจน์แล้วว่า เมื่อเกิดเรื่องที่ไม่เป็นผลดีต่อเขาเช่นนี้ คาดว่าเข้าน่าจะซื้อตัวหรือลอบฆ่าให้ไม่มีวิธีตรวจสอบ”
หนานหว่านเยียนกำลังครุ่นคิด
“เจ้าพูดถูก แม้ว่าเขาจะปกป้องหยุนอี่ว์โหรวถึงเพียงนี้ ไม่ยอมพูดความจริง เขาจะต้องจัดการกับสิ่งที่จะตามมาอย่างเรียบร้อยแน่นอน”
แม้ว่านางจะไม่เคยรู้สึกว่า พ่อบ้านกาวจะเสียสละขนาดนี้เพื่อหยุนอี่ว์โหรว
ถึงอย่างไรก็เป็นคนต้าเซี่ย พ่อบ้านกาวจะมีความเกี่ยวข้องกับหยุนอี่ว์โหรวได้อย่างไร
พ่อบ้านกาวเป็นคนของนายท่าน จะต้องไม่ใช่หยุนอี่ว์โหรวแน่นอน อย่างนั้น…อย่างนั้นเป็นใครบางคนที่สมรู้ร่วมคิดหยุนอี่ว์โหรว ถึงจะเป็นนายท่านที่อยู่เบื้องหลังของพ่อบ้านกาวหรือ?
หนานหว่านเยียนขมวดคิ้วแน่น และกล่าวว่า “ใช่แล้ว ตอนนี้พ่อบ้านกาวตายแล้ว ถ้าอย่างนั้นหยุนอี่ว์โหรวจะต้องตื่นตระหนกอย่างแน่นอน”
“หลังจากนั้น นางอาจจะทนไม่ไหวลงมือกับเจ้า ช่วงนี้เจ้าจะต้องระวังตัว ข้าก็จะบอกอวี๋เฟิงไว้ ให้เขามาคุ้มกันที่นี่เพิ่มด้วย”
เสิ่นอี่ว์มองไปยังหนานหว่านเยียนที่กำลังครุ่นคิดแทนเขา ก็อดไม่ได้ที่จะซาบซึ้งใจ น้ำเสียงมีความสะอื้นเล็กน้อย “ขอรับ ข้าน้อยจะระวังตัว”
ตั้งแต่เด็กจนโต คนที่ดีกับเขาขนาดนี้ ก็มีเพียงท่านอ๋องกับพระชายาเท่านั้น หากพ่อบ้านกาวยังอยู่ ความจริงแล้วเขาก็นับว่าเป็นอีกคน…
เขาถามเบาๆ ว่า “พระชายา ตอนนี้ท่านคิดว่าเรื่องนี้ควรทำอย่างไร คงให้ท่านอ๋องตาบอดอยู่ในกลองไม่ได้ เช่นนั้นให้ข้าน้อยไปพูดตรงๆ ดีหรือไม่ขอรับ?”
“ข้าน้อยเห็นท่านอ๋องเสียใจ ทนไม่ไหวจริงๆ ขอรับ ข้าน้อย…”
“ไม่ได้!” หนานหว่านเยียนขัดจังหวะเขาอย่างกะทันหัน นางนึกถึงความจริงที่ว่ากู้โม่กานและหยุนอี่ว์โหรวร่วมห้องกัน ยังมีเรื่องพฤติกรรมผิดปกติที่มีต่อนางของกู้โม่หาน ก็เลยรู้สึกว่าเรื่องนี้ไม่สามารถพูดได้
“เสิ่นอี่ว์ ข้าต้องการให้เจ้ารักษาความจริงให้ข้าต่อไป หากมีโอกาส เจ้าสามารถแอบหาคนที่น่าเชื่อถือ ค้นหาความจริงเรื่องที่หยุนอี่ว์โหรวปล่อยข่าวลืออีกครั้ง เจ้าตรวจสอบแล้วครั้งหนึ่ง มีเป้าหมาย อย่างน้อยก็มีประสิทธิภาพระดับหนึ่ง”
“ก่อนที่เรื่องนี้จะกระจ่าง อย่าให้กู้โม่หานรู้เรื่องนี้ ถือว่าข้าขอร้องเจ้า”
เสิ่นอี่ว์มีเรื่องในใจเต็มไปหมด หนานหว่านเยียนกัดฟันวางยาขนานแรง
“เสิ่นอี่ว์ เจ้าจำเป็นต้องปิดบังเรื่องนี้ไว้ หากบอกเรื่องนี้ออกไปก่อน ก็จะทำลายแผนการของข้า หรือเจ้าไม่อยากดูข้ารับมือกับหยุนอี่ว์โหรวงั้นหรือ? หรือเจ้ารู้สึกว่า ข้าจะต้องคืนสู่ฐานะของผู้มีพระคุณที่ช่วยชีวิตไว้ ท่านอ๋องของเจ้าจะเชื่อคำพูดของข้าหรือ? ”
“ไม่อย่างแน่นอน! ตราบใดที่เป็นคำพูดของท่าน ความจริงแล้วท่านอ๋องก็เชื่อ!”
เสิ่นอี่ว์ตอบด้วยร้ำเสียงที่ดังกึกก้องและมีพลังของ ทําให้หนานหว่านเยียนตกใจนิดหน่อย
ทำไมนางถึงไม่รู้วากู้โม่หานจะเชื่อฟังขนาดนั้น ถือซะว่าเสิ่นอี่ว์กำลังปกป้องนายท่านแล้ว “ถ้าอย่างนั้นเจ้าก็จะฟังข้า”
เสิ่นอี่ว์พยักหน้าอย่างหนักแน่น “ขอรับ ข้าน้อยเชื่อฟังพระชายา เรื่องนี้จะไม่พูด และข้าน้อยก็จะรีบมอบหลักฐานของพระชายารอให้ท่านโดยเร็วที่สุดขอรับ!”
เขาจะตรวจสอบหลักฐานอีกครั้ง แต่วาจาเขาก็ต้องพูดด้วย
แม้ว่าจะผิดต่อพระชายา แต่รอถึงวันนั้นที่พระชายาลงโทษหยุนอี่ว์โหรวได้แล้ว เขาจะต้องอธิบายกับท่านอ๋องอย่างแน่นอน พระชายาจึงจะเป็นผู้มีพระคุณที่ช่วยชีวิตท่านอ๋องไว้!
วิธีนี้ ท่านอ๋องก็จะไม่ไว้เชื่อใจผู้หญิงสองหน้าใจดำอำมหิตผู้นั้นอีกต่อไป!
ยิ่งไปกว่านั้น เขาหวังเป็นอย่างยิ่งว่า เขาจะได้เห็นท่านอ๋องและพระชายา แล้วก็คุณหนูทั้งสอง กำจัดความบาดหมางของครอบครัวนี้ มีความสุขกลมเกลียวกัน…