ยอดชายากับองค์หนูน้อยแห่งจวนอ๋องอี้ ตอนที่ 582 เริ่มต้นย้อนกลับ
นางเหลือบมองใบหน้าที่แดงก่ำของหยุนอี่ว์โหรว ชำเลืองมองหยุนอี่ว์โหรวสักครู่ แล้วหันหลังเดินไปที่อารามด้านหลังอันเงียบสงบ “ในเขตวัดวาอาราม ท่านโยมอย่าส่งเสียงดังเอะอะ”
หยุนอี่ว์โหรวสายตาเย็นชา แล้วเดินตามไป “พี่หญิงอย่าเพิ่งโกรธ โหรวเอ๋อร์แค่มาเยี่ยมท่านเท่านั้น เห็นท่านน้ำหนักลดลงมาก โหรวเอ๋อร์ก็ทุกข์ใจเช่นกัน”
หนานชิงชิงชะงักฝีเท้า พลันหันกลับมา มองหยุนอี่ว์โหรวที่ทำมารยาสาไถยลูบผมอยู่ตรงหน้า
“เจ้ามาหาข้ามีอะไรอยากพูดกับข้าก็พูดมาเถอะ เชิญเข้ามาเอง อย่ารบกวนคนอื่น ข้าเป็นคนบาป หากไปรบกวนความสงบสุขของคนอื่น ชีวิตจะไม่เป็นสุข”
พูดจบนางก็ก้าวเข้าไปในอารามด้านหลังก่อน
ปี้หยุนรู้สึกไม่ชอบมาพากล “พระชายารอง บ่าวขอตามท่านไปดีกว่า”
หยุนอี่ว์โหรวกลับไม่เป็นกังวล แต่ยิ้มอย่างเย็นชาในดวงตา “ไม่ต้องห่วง นางไม่กล้าทำอะไรข้าหรอก เจ้าเฝ้าอยู่ข้างนอกเถอะ”
หนานชิงชิงมีความผิดติดตัว นางเป็นพระชายารองของอี้อ๋อง หากหนานชิงชิงกล้าแตะต้องนางแม้แต่ปลายผม หนานชิงชิงต้องตาย
ในเมื่อหยุนอี่ว์โหรวเอ่ยปากเช่นนี้แล้ว ปี้หยุนจึงทำได้เพียงรับคำสั่ง
หยุนอี่ว์โหรวตามหนานชิงชิงเข้าไปในอาราม อารามไม่ถือว่าซอมซ่อ แต่ก็สร้างอย่างลวกๆ
ไม่มีใครอยู่รอบๆ หยุนอี่ว์โหรวเลิกแสร้งทำเป็นอ่อนแอ กล่าวด้วยรอยยิ้มเย้ยหยัน “อดีตสตรีผู้มีความสามารถอันดับหนึ่ง พระชายาเฉิงผู้สูงส่ง ปัจจุบันมีจุดจบเช่นนี้ ช่างน่าขันยิ่งนัก เมื่อก่อนท่านเคยบอกว่าข้าด้อยกว่าท่านทุกอย่าง ไม่คิดว่าตอนนี้ท่านจะน่าเวทนาเช่นนี้ แย่ยิ่งกว่าสาวใช้ผู้ต่ำต้อยเสียอีก”
หนานชิงชิงฟังคำดูถูกเหน็บแนมของหยุนอี่ว์โหรว กำหมัดแน่นอยู่นานแล้ว แต่ไม่ได้ทำกระโตกกระตาก
หยุนอี่ว์โหรวเห็นหนานชิงชิงไม่โต้ตอบ ยังนึกว่าหนานชิงชิงกลัว
ความคับข้องใจและการไร้ความสามารถในช่วงเวลานี้ นางได้ระบายทั้งหมดไปที่หนานชิงชิง
“ท่านบอกว่า ในอดีตพ่อของท่านเคยรักท่านมาก ทำไมตอนนี้ท่านเกิดเรื่อง กลับไม่มีใครสนใจท่านเลย”
เมื่อพูดถึงตรงนี้ สายตาของหยุนอี่ว์โหรวก็โหดเหี้ยมอำมหิตขึ้นมาก พลางเอ่ยเหน็บแนม
“ถ้าจะให้ข้าพูด ก็เป็นเพราะคนตระกูลหนานของพวกท่าน แต่เดิมล้วนเป็นคนเห็นแก่ได้ เพื่ออำนาจและหน้าตา สามารถแลกได้แม้แต่ชีวิตลูกสาวตัวเอง ท่านเคยหัวเราะเยาะและดูถูกข้า แล้วตอนนี้ล่ะ? โชคชะตาสับเปลี่ยนหมุนเวียนกันไป ท่านสู้หนานหว่านเยียนที่ถูกท่านเหยียบอยู่ใต้ฝ่าเท้ามาโดยตลอดยังไม่ได้เลย ที่ยังคุณค่าพอให้ใช้ประโยชน์ได้”
“พ่อไม่รัก แต่แม่ตายแล้ว มีชีวิตไม่ต่างจากสุนัข หนานชิงชิง หากข้าเป็นท่าน ข้าคงเอาหัวโขกกำแพงตายไปนานแล้ว”
แม้ว่าหนานชิงชิงจะเคยผ่านวิบากขวากหนามมาแล้ว แต่คำพูดของหยุนอี่ว์โหรวทุกคำทุกประโยคล้วนเหยียบย่ำจุดที่นางเจ็บปวด สีหน้ายังคงหม่นหมองเช่นเดิม
“พูดพอแล้วหรือยัง?”
หยุนอี่ว์โหรวยิ้มพลางมองหนานชิงชิงที่มีสีหน้ามืดมนมากขึ้นเรื่อยๆ รู้สึกสบายใจมาก
ชีวิตของนางถูกกดขี่ ถูกหนานหว่านเยียนโขกสับ ถูกกู้โม่หานทอดทิ้ง การจะพลิกตัวกลับมาได้ นางต้องอุทิศตัวเอง
วันนี้ ในที่สุดศักดิ์ศรีหน้าตาในอดีตก็ฟื้นคืนสู่สภาพเดิม
“ยังพูดไม่พอ ยังมีอีกเยอะ” หยุนอี่ว์โหรวยิ้มอย่างสบายใจ “ข้ารู้ว่า ท่านชอบกู้โม่หานมาตั้งแต่เด็ก แต่ท่านกลับเลือกกู้โม่เฟิง”
“ตอนนี้ กู้โม่หานต่างหากที่ควรเป็นไท่จื่อ ส่วนหนานหว่านเยียนกับข้าที่ท่านดูถูกมากที่สุด คนหนึ่งเป็นพระชายาหลวงของกู้โม่หาน อีกคนคือพระชายารองของเขา ความรู้สึกนี้แย่พอๆ กับถูกคนฉีกหน้าอย่างแรง แถมยังโยนลงพื้นเหยียบย่ำเป็นหมื่นเป็นพันครั้งหรือไม่?”
“หยุนอี่ว์โหรว เจ้าหุบปากนะ!” หนานชิงชิงกัดฟันแน่น ดวงตากระหายเลือดเต็มไปด้วยเจตนาฆ่าอย่างท่วมท้น อดเอื้อมมือไปหยิบกรรไกรที่อยู่ข้างหลังไม่ได้
ฮูหยินเฉิงเซี่ยงเคยบอกนางเมื่อนานมาแล้ว หยุนอี่ว์โหรวเป็นน้องสาวแท้ๆ ของนาง แต่เพราะมีฐานะต่ำต้อย จึงถูกบิดาส่งออกไปตั้งแต่เนิ่นๆ
ตลอดหลายปีที่ผ่านมา แม้ว่านางจะทนเห็นลูกสาวนอกสมรสที่งดงามเพริศพริ้งไม่ได้ แต่ท้ายที่สุดศักดิ์ศรีหน้าตาก็อยู่ภายใต้อำนาจนาง นางไม่เคยเห็นหยุนอี่ว์โหรวอยู่ในสายตาเลย
แต่นางกลับไม่เคยคิดว่า วันหนึ่งหยุนอี่ว์โหรวจะเหยียบนางอยู่แทบเท้า ย่ำยีอย่างรุนแรง
ในฐานะที่นางเป็นลูกสาวสายตรงแห่งจวนเฉิงเซี่ยง สูงส่งอย่างหาที่เปรียบมิได้ จะไม่ยอมให้คนชั้นต่ำเหยียบย่ำเด็ดขาด!
หยุนอี่ว์โหรวไหนเลยจะยอมแพ้ การโรยเกลือลงบนบาดแผลของศัตรู คือจุดแข็งของนาง
“อย่าเพิ่งเป็นกังวลไปเลยพี่หญิง วันนี้ที่ข้ามา ก็เพื่อแบ่งปันเรื่องดีๆ กับท่าน ข้าน่ะ ตั้งครรภ์เลือดเนื้อเชื้อไขของท่านอ๋องแล้ว ท่านอ๋องดีใจมาก รักและเอ็นดูข้าอย่างเต็มที่”
หยุนอี่ว์โหรวตั้งครรภ์?!
หนานชิงชิงตกตะลึงอย่างรุนแรง มือที่จับมือกรรไกรอยู่ชักกลับมาในที่สุด
ในเดือนนี้ นางพยายามต้อนรับขับสู้คนของชี่กุ้ยเฟยอย่างเต็มที่ เพราะเรื่องเนี่ยพานเกิดใหม่ที่พ่อบ้านกาวเคยพูดไว้
คนสายเลือดเดียวกันสามารถช่วยให้นางบรรลุเนี่ยพานได้ นางยังคิดอยู่ว่าทำอย่างไรถึงจะได้พบหนานหว่านเยียน แต่ไม่นึกว่าหยุนอี่ว์โหรวกลับมาหาถึงที่
แม้หยุนอี่ว์โหรวจะเป็นน้องสาวของนาง แต่นางก็ทนเห็นฐานะของหยุนอี่ว์โหรวไม่ได้ เดิมทีนางต้องการกำจัดหยุนอี่ว์โหรวเพื่อระบายอารมณ์ แต่ตอนนี้หยุนอี่ว์โหรวบอกว่ามีลูกกับกู้โม่หาน นางจึงล้มเลิกความคิดที่จะแทงหยุนอี่ว์โหรวให้ตาย
หยุนอี่ว์โหรวยังคงมีท่าทีภาคภูมิใจ หนานชิงชิงกลับบีบคอของหยุนอี่ว์โหรวอย่างฉับพลัน แววตาเย็นชาจนน่ากลัว “หยุนอี่ว์โหรว ท่านก็ไม่คู่ควรกับลูกของเขาเช่นกัน!”
หยุนอี่ว์โหรวกลัวจนหน้าซีด ต้องการส่งเสียงเพื่อขอความช่วยเหลือ แต่กลับร้องไม่ออก
นางดิ้นรนอย่างสุดชีวิต แต่ก็ไม่เป็นผล
นางไม่คาดคิดว่าหนานชิงชิงจะกล้าฆ่านาง หนานชิงชิงไม่อยากมีชีวิตอยู่แล้วหรือ?!
ไม่ มันไม่ง่ายเลยกว่านางจะมาถึงจุดนี้ นางจะตายไม่ได้ แต่เรื่องราวกลับตาลปัตร นางหน้ามืด หลับตาทั้งสองสนิท ล้มลงกับพื้น
หนานชิงชิงหายใจหอบ เมื่อแน่ใจว่าหยุนอี่ว์โหรวตายแล้ว นางจึงพยายามลุกขึ้นจากพื้น
นางหยิบจดหมายลาตายออกมาจากสาบเสื้อ แล้ววางไว้บนโต๊ะหินข้างๆ
จากนั้น นางถือเนี่ยพานไว้ในมืออย่างมั่นคง นัยน์ตาลุกเป็นไฟ “เมื่อเผชิญหน้ากับความตายจึงตะเกียกตะกายเอาชีวิตรอด เรื่องมาถึงขั้นนี้แล้ว ได้แต่ลองพนันดูสักตั้ง”
หนานชิงชิงนำแพรต่วนสีขาวผูกไว้กับต้นไม้ นางสูดหายใจเข้าลึกๆ มองลงไปที่เนี่ยพานที่เผาไหม้อยู่ในฝ่ามือ เอาลำคอวางลงบนแพรต่วนสีขาว แล้วออกแรงเตะม้านั่งหินให้ล้มลง…
ไม่นาน แสงสีแดงก็ปรากฏขึ้นที่ขอบฟ้า ฝูงนกกระจอกนับไม่ถ้วนตกใจ มีบางสิ่งกำลังเกิดการเปลี่ยนแปลงอย่างเงียบๆ
จวนอี้อ๋อง ในเรือนเซียงหลิน
เกี๊ยวน้อยและซาลาเปาน้อยกำลังเก็บข้าวของเตรียมออกเดินทางกับหนานหว่านเยียน
สองพี่น้องมองภายในห่อสัมภาระ เสื้อผ้าและของเล่นที่กู้โม่หานซื้อให้พวกนาง ดูท่าทางเหม่อลอย
เกี๊ยวน้อยบุ้ยปากอย่างเบื่อๆ เซ็งๆ ในขณะที่ซาลาเปาน้อยดูเป็นกังวล ไม่รู้ว่าเป็นเพราะกำลังต้องลาจากหรือเปล่า ทั้งสองดูเป็นกังวลขึ้นมาในเวลาเดียวกัน
และในเวลานี้เอง สองพี่น้องก็ได้ยินเสียง “ชู่ว์” เบาๆ จากหนานหว่านเยียนที่อยู่ข้างเตียง
เกี๊ยวน้อยและซาลาเปาน้อยรู้สึกตื่นเต้นขึ้นมาทันที พากันมองไปทางหนานหว่านเยียนอย่างรู้กัน แล้วพูดเป็นเสียงเดียวกันว่า “เกิดอะไรขึ้นกับท่านแม่?”
หนานหว่านเยียนกำลังพับเสื้อผ้าอยู่ข้างเตียง ทันใดนั้นก็รู้สึกเจ็บแปลบที่หว่างคิ้ว จากนั้นก็เริ่มปวดศีรษะ ปวดจนหัวแทบระเบิด
นางไม่อยากเป็นอะไรต่อหน้าลูกๆ จึงฝืนพูดว่า “ไม่เป็นไร แม่แค่ปวดหัวนิดหน่อย…”
ยังไม่ทันสิ้นเสียง หนานหว่านเยียนก็หน้ามืดล้มลงกับพื้นทันที…