ยอดชายากับองค์หนูน้อยแห่งจวนอ๋องอี้ – บทที่ 583 พระชายาตั้งครรภ์

ยอดชายากับองค์หนูน้อยแห่งจวนอ๋องอี้

ยอดชายากับองค์หนูน้อยแห่งจวนอ๋องอี้ ตอนที่ 583 พระชายาตั้งครรภ์

หนานหว่านเยียนเป็นลมล้มลงกับพื้น เกี๊ยวน้อยเบิกตามกว้างทันที “ท่านแม่?!”

สีหน้าของซาลาเปาน้อยซีดเผือดด้วยความตกใจทันที

นางรีบดึงมืออันอ่อนนุ่มของหนานหว่านเยียนขึ้นมาแนบใบหน้าน้อยของตน “ท่านแม่เป็นอะไร อย่าทำให้พวกข้าตกใจสิท่านแม่…”

เกี๊ยวน้อยย่อตัวลงตะโกนเรียกหนานหว่านเยียน แต่หนานหว่านเยียนหมดสติไปแล้ว

ซาลาเปาน้อยหลั่งน้ำตาอย่างกลั้นไม่อยู่ “พี่หญิง ท่านแม่ ท่านแม่เป็นอะไรไป?”

เกี๊ยวน้อยร้อนใจจนเหงื่อแตกพลั่ก ตื่นตระหนกตกใจ “ข้าไม่รู้ ซาลาเปาน้อย เจ้าคอยดูแม่ให้ดี! ข้าจะไปเรียกพี่เซียงอวี้เข้ามาดู!”

พูดจบนางก็รีบวิ่งออกไป รองเท้าก็หลุดอยู่ข้างหนึ่ง

ตั้งแต่พวกนางจำความได้ หนานหว่านเยียนไม่เคยหมดสติต่อหน้าพวกนาง สองพี่น้องตื่นตระหนกสุดขีดจริงๆ

เซียงอวี้กำลังเก็บกวาดอยู่ในเรือน เกี๊ยวน้อยร้องไห้เข้ามาดึงแขนเสื้อของนาง พานางวิ่งเข้าไปในห้อง “พี่เซียงอวี้ ท่านแม่เกิดเรื่องแล้ว ไม่รู้ว่านางหมดสติไปได้ยังไง ท่านรีบไปตามหมอมาดูนางเถอะ!”

เกิดอะไรขึ้นกับพระชายาหรือ?

สีหน้าของเซียงอวี้เปลี่ยนไปโดยพลัน รีบส่งคนไปตามหมอประจำจวนทันที จากนั้นก็สั่งการว่าห้ามแพร่งพรายข่าวสู่ภายนอก รีบไปตามกู้โม่หานกลับมา ก่อนจะวางสิ่งของในมือลงแล้วตามไป ทันทีที่เข้าไปในห้อง ก็เห็นหนานหว่านเยียนนอนหมดสติอยู่ข้างเตียง ในหัวมีเสียงดัง “หึ่งๆ”

นางคุกเข่าลงข้างกายหนานหว่านเยียนทันที “พระชายา พระชายา?”

หนานหว่านเยียนยังคงไม่ตอบสนอง เด็กน้อยทั้งสองน้ำตาคลอเบ้า เกี๊ยวน้อยพูดอย่างร้อนใจ “พี่เซียงอวี้ ก่อนท่านแม่จะหมดสติไป นางบอกว่าปวดหัว ทำไมถึงปลุกไม่ตื่น…”

“เสี่ยวจวิ้นจู่ไม่ต้องกังวล หมอประจำจวนจะมาถึงในไม่ช้า” เซียงอวี้กัดริมฝีปากอย่างแรง พยายามประคองหนานหว่านเยียนขึ้นนอนบนเตียง

นางบังคับตัวเองให้สงบลง พลางปลอบเด็กน้อยทั้งสอง “เสี่ยวจวิ้นจู่ทั้งสอง บ่าวได้ส่งคนไปตามท่านอ๋องมาแล้ว ท่านอ๋องจะมาถึงในไม่ช้า!”

เด็กหญิงทั้งสองเช็ดน้ำตา พยักหน้าอย่างเชื่อฟัง

หลังจากนั้นสักพัก เด็กหญิงทั้งสองก็ได้ยินเสียงฝีเท้าที่เร่งรีบ เซียงอวี้รีบไปเปิดประตู เมื่อเห็นกู้โม่หานที่เหน็ดเหนื่อยจากการรีบรุดกลับมา ก็รีบบอกทันที “ท่านอ๋อง พระชายานาง…”

กู้โม่หานดูร้อนใจและเป็นกังวล ก้าวสวบๆ เข้าไปในห้อง เห็นเด็กหญิงทั้งสองกำลังร้องไห้ตาแดงและหนานหว่านเยียนที่นอนอยู่บนเตียง หัวใจเหมือนจะหยุดเต้นอย่างฉับพลันไปหลายวินาที “หว่านเยียน!”

เมื่อเกี๊ยวน้อยและซาลาเปาน้อยเห็นกู้โม่หานก็ทรุดลงทันที เด็กน้อยโผเข้ากอดกู้โม่หาน ร้องไห้โฮเสียงดัง

“เสด็จพ่อ…”

กู้โม่หานกำมือแน่น ลูบศีรษะปลอบประโลมเด็กหญิงทั้งสอง “ไม่ต้องกลัว พ่อมาแล้ว”

เกี๊ยวน้อยพูดสะอึกสะอื้น “ท่านแม่นาง นางหมดสติกะทันหัน! พวกข้าเรียกเท่าไหร่ก็ไม่ตอบ เสด็จพ่อ จะทำยังไงดีเพคะ!”

กู้โม่หานเป็นทุกข์และไม่สบายใจ แต่เขาพยายามข่มความสับสนในใจ “พ่อจะไม่ปล่อยให้แม่ของพวกเจ้าเป็นอะไร อวี๋เฟิงไปตามหมอหลวงแล้ว”

ระหว่างทางมาที่นี่ เขาได้ยินว่าหนานหว่านเยียนหมดสติไป จึงรีบส่งคนไปตามหมอหลวงทันที

เขาเดินเข้าไปหาหนานหว่านเยียน ตรวจสอบอาการเบื้องต้นของนาง ชีพจรผ่อนคลายลงแล้ว แต่เขายังเป็นกังวลอยู่ “หมอประจำจวนมาแล้วหรือ เขาว่ายังไงบ้าง?”

เซียงอวี้รู้สึกแปลกใจ เรียกหมอประจำจวนไปสักพักแล้ว แต่ยังไม่มา นางกำลังจะบอก

ในเวลานี้เอง เสียงร้อนใจเป็นที่สุดของหวางหมัวมัวได้ดังขึ้นที่ประตู

“พระชายา พระชายา ไม่ได้การแล้ว! เมื่อครู่จู่ๆ เหนียงเหนียงก็สลบไป เหมือนหมดสติไปแล้ว ตะโกนเรียกยังไงก็ไม่ตื่น ท่าน…”

หวางหมัวมัววิ่งเข้าไปในห้องอย่างร้อนรนเหมือนถูกไฟจี้ มองปราดเดียวก็เห็นกู้โม่หานที่มีใบหน้าอันหล่อเหลาและโหดเหี้ยม กำลังเฝ้าอยู่ข้างเตียงหนานหว่านเยียน

บนเตียง หนานหว่านเยียนหลับตาสนิท อยู่ในอาการสลบไสล

ทันใดนั้นนางก็ตกใจ เหงื่อเย็นเยียบแตกพลั่ก รีบคุกเข่าลงต่อหน้ากู้โม่หาน “ท่านอ๋อง! เกิดอะไรขึ้นกับพระชายา?”

เดิมกู้โม่หานคิดมากอยู่แล้ว ด้านหนึ่งเพราะหงุดหงิดเรื่องหยุนอี่ว์โหรวตั้งครรภ์ อีกด้านหนึ่งก็รู้สึกตื่นเต้นอยู่ไม่สุขเพราะการหมดสติอย่างกะทันหันของหนานหว่านเยียน

ตอนนี้เมื่อได้ยินหวางหมัวมัวบอกว่าเสด็จแม่ก็หมดสติไปพร้อมกัน เขาก็นั่งไม่ติดแล้ว ก่อนจะลุกพรวดขึ้นมา

“หมัวมัว เมื่อครู่พูดว่าอะไรนะ เกิดอะไรขึ้นกับเสด็จแม่?”

หวางหมัวมัวไม่ได้สนใจอะไรมากในตอนนี้ จึงตอบทันทีว่า “ทูลท่านอ๋อง เมื่อครู่บ่าวกำลังคุยกับเหนียงเหนียง ผลก็คือ จู่ๆ เหนียงเหนียงก็บอกว่าปวดหัว จากนั้นก็หลับตาลงไป

“บ่าวยังนึกว่าเหนียงเหนียงไม่สบายและต้องการพักผ่อน แต่ต่อมาเรียกยังไงเหนียงเหนียงก็ไม่ตื่น จึงคนไปตามหมอประจำจวนมาดูเหนียงเหนียงก่อน แต่หมอประจำจวนคิดว่าสถานการณ์ไม่สู้ดี บ่าวจึงรีบไปตามพระชายาทันที ไม่คิดว่าพระชายานางก็…”

ว่าแล้วหวางหมัวมัวก็มองไปที่หนานหว่านเยียนด้วยความกังวลอย่างมาก

“พระชายา นางไม่สบายหรือเปล่า?”

ที่หมอประจำจวนตั้งนานกว่าจะมา เพราะหยีเฟยเกิดเรื่องเช่นกันนี่เอง

ตอนนี้เซียงอวี้เข้าใจแล้ว แต่คิ้วกลับขมวดแน่น ทำไมจู่ๆ พระชายาและหยีเฟยเหนียงเหนียงถึงตกอยู่ในอาการสลบไสล?

เกี๊ยวน้อยและซาลาเปาน้อยได้ยินดังนั้นก็ขมวดคิ้วแน่นขึ้น

เกี๊ยวน้อยรีบพูดว่า “หมัวมัว เมื่อครู่ เมื่อครู่จู่ๆ เสด็จแม่ก็ร้องปวดหัว จากนั้นก็หมดสติไป พวกข้าเรียกยังไงก็ไม่ตื่น!”

“อะไรนะ พระชายาก็หมดสติไปเหมือนกันหรือ?!” หวางหมัวมัวตกใจทันที จิตใจของนางยิ่งไม่สงบสุข

นี่มันเรื่องอะไรกัน?

เหตุใดถึงบังเอิญเช่นนี้?

และเมื่อเทียบเวลากัน หนานหว่านเยียนและหยีเฟย หมดสติในเวลาไล่เลี่ยกัน…

ริมฝีปากบางของกู้โม่หานเม้มเป็นเส้นตรง กำหมัดแน่น “หมอประจำจวนทางเสด็จแม่ว่ายังไงบ้าง?”

ตอนนี้ไม่เพียงแต่หนานหว่านเยียนเท่านั้นที่เกิดเรื่อง แต่เสด็จแม่ก็ยังหมดสติไปด้วย บังเอิญเกิดขึ้นก่อนงานแต่งของกู้โม่หลิงเพียงสองวัน บังเอิญเกิดขึ้นในคืนก่อนวันทำการใหญ่ ทุกอย่างทยอยเกิดขึ้นอย่างไม่ขาดสาย มันทำให้จิตใจของเขายุ่งเหยิงไปหมด

หวางหมัวมัวกล่าวว่า “หมอประจำจวนบอกว่าเหนียงเหนียงดูเหมือนจะไม่เป็นอะไรมาก ทุกอย่างดูปกติดี แต่จู่ๆ ก็เข้าสู่สภาวะสลบไสล เรียกยังไงก็ไม่ตื่น เขาบอกว่าทักษะและความรู้ของเขาไม่เพียงพอ ไม่กล้าวินิจฉัย บ่าวจึงมาหาพระชายา”

มีอาการเดียวกันในเวลาเดียวกัน

แววตาของกู้โม่หานโหดเหี้ยมอำมหิต มองไปทางเซียงอวี้ “เซียงอวี้ ให้เซียงเหลียนไปตรวจสอบเดี๋ยวนี้ ดูว่าเสด็จแม่กับและพระชายากินอะไรเข้าไปหรือสัมผัสอะไรที่ผิดปกติหรือไม่ รีบไป”

เซียงอวี้สีหน้าเคร่งขรึม “บ่าวจะไปเดี๋ยวนี้”

“ช้าก่อน!” ใบหน้าหล่อเหลาของกู้โม่หานเคร่งขรึมเย็นชา “อย่าให้เรื่องแพร่งพรายออกไป กับทางโม่หวิ่นหมิงก็ห้ามพูดถึงเช่นกัน”

ก่อนที่จะตรวจสอบสถานการณ์ให้รู้แน่ชัด ยิ่งมีคนรู้ข้อมูลน้อยเท่าไหร่ก็ยิ่งดีเท่านั้น

โม่หวิ่นหมิงชอบแข่งขันกับเขา สงครามใหญ่กำลังจะมาถึง เขายุ่งมากพอแล้ว ไม่ต้องการมายุ่งกับปัญหาจากโม่หวิ่นหมิงอีก

เซียงอวี้หัวใจเต้นแรง “บ่าวเข้าใจแล้ว”

พูดจบนางก็ออกไปทันที

เซียงอวี้เพิ่งออกไป หมอหลวงเจียงก็ถูกอวี๋เฟิงดึงเข้าไปในห้องของหนานหว่านเยียน ทั้งคู่หอบหายใจคารวะกู้โม่หาน

กู้โม่หานรีบห้ามทันที “ไม่ต้องทำความเคารพ รีบมาดูอาการหว่านเยียนเร็วเข้า”

ระหว่างทางหมอหลวงเจียงก็รู้แล้วว่าหนานหว่านเยียนเกิดเรื่อง เขาไม่กล้าที่จะผ่อนคลาย “พ่ะย่ะค่ะ”

พูดจบ เขาจึงคุกเข่าลงตรวจอาการให้หนานหว่านเยียนข้างเตียง ตอนจับชีพจร คิ้วของหมอหลวงเจียงได้ขมวดแน่นขึ้น

ชีพจรเป็นปกติดี นอกจากอาการสลบไสลไม่ฟื้น ก็ไม่มีปัญหาร้ายแรงอะไร ไม่ถูกพิษด้วย แต่ว่า…

พระชายาดูเหมือนจะมีชีพจรลื่น

หรือว่า พระชายาจะตั้งครรภ์เช่นกัน?

ยอดชายากับองค์หนูน้อยแห่งจวนอ๋องอี้

ยอดชายากับองค์หนูน้อยแห่งจวนอ๋องอี้

Status: Ongoing
หนานหว่านเยียน อัจฉริยะแห่งวงการแพทย์ ข้ามภพมาเป็นพระชายาอัปลักษณ์ผู้ถูกทอดทิ้งแห่งจวนอ๋องอี้ แต่ด้วยมันสมองของอัจฉริยะ และความแข็งแกร่งฉบับสาวยุคใหม่ เธอจะพลิกเกมกลับมาแก้แค้นไอ้พวกเศษสวะให้สิ้นซาก!

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท