ยอดชายากับองค์หนูน้อยแห่งจวนอ๋องอี้ – บทที่ 604 วิธีการของเขา

ยอดชายากับองค์หนูน้อยแห่งจวนอ๋องอี้

ยากับองค์หนูน้อยแห่งจวนอ๋องอี้ นิยาย บท 604

วันนี้กู้โม่หานสวมชุดคลุมมังกรสีเหลืองสดใส ปักลายมังกรด้วยด้ายสีทองเข้ม ราวกับว่ามังกรทองตัวนี้มีชีวิตชีวา หมอบอยู่เคียงข้างเขาด้วยความหยิ่งยโส ด้วยความเย่อหยิ่งครอบงำ

ผมสีดำขลับของเขาถูกรวบขึ้นสูงด้วยมงกุฎสีทอง ช่วยขับให้ใบหน้าที่ติดจะเย็นชาดูหล่อเหลามากยิ่งขึ้น กรามคมเป็นสันราวกับเทพสร้าง ทั้งหมดล้วนสมบูรณ์แบบจนน่าประหลาดใจ

ไม่ว่าใครก็ตามที่ได้เห็น จะต้องสยบแทบเท้าของเขาแม้ไม่ยินยอม

กู้โม่หานจ้องเขม็งไปที่หนานหว่านเยียน มองดูคิ้วเรียวสวยที่ขมวดเข้าหากันและใบหน้าที่ดูไม่มีความสุขเลยแม้แต่นิดเดียว

คิ้วของเขาแสดงให้เห็นถึงความสิ้นหวังและจนปัญญา โบกไม้โบกมือแล้วกล่าวว่า “พวกเจ้าออกไปก่อน”

“ค่ะ จักรพรรดิ” เซียงอวี้และเซียงเหลียนตอบรับออกมาพร้อมกันแล้วรีบร้อนออกจากตำหนักหยูซิน โดยปิดประตูให้แน่นหนา

กู้โม่หานถอดสีหน้าเย็นชาออก แล้วเดินเข้าไปประชิดตัวหนานหว่านเยียน “เป็นอะไรไป?”

“เป็นอะไรไปงั้นหรือ?” หนานหว่านเยียนเห็นกู้โม่หานถามคำถามนั้นออกมาทั้งที่รู้คำตอบอยู่แล้วแบบนี้ ในใจก็ร้อนรนจนทนไม่ไหว

“ประโยคนี้ไม่ใช่ว่าควรจะเป็นข้าที่ต้องถามหรือ? ว่ายังไง? เจ้าใช้หนูน้อยทั้งสองมาบังคับให้ข้าเข้าวัง แต่กลับไม่ให้ข้าพบกับหนูน้อยทั้งสอง เจ้าคิดว่ายังไงล่ะ?”

“เจ้ากลายเป็นจักรพรรดิไปแล้ว เก็บผู้หญิงไว้หนึ่งคนกับเด็กอีกสองคน แต่ทว่ายังต้องใช้วิธีการที่เลวทรามต่ำช้าเช่นนี้ ไม่รู้สึกว่ามันน่ารังเกียจหรือไง?”

ยิ่งพูด อารมณ์ของหนานหว่านเยียนก็ยิ่งประทุขึ้นมา อารมณ์ร้อนระอุที่นางพยายามข่มไว้ทั้งคืน ตอนนี้มันตีรวนขึ้นมาจนหมด รวมถึงความรู้สึกคลื่นไส้ก็พรั่งพรูขึ้นมาอีกครั้ง

นางฝืนค้ำยันโต๊ะเอาไว้ไม่ให้เสียมารยาท ดวงตาแดงก่ำสีเลือดคู่นั้นราวกับมีดที่กำลังคว้านหัวใจของกู้โม่หานออกมา

เสียงเยาะเย้ยเหล่านี้ทิ่มแทงไปถึงหัวใจเขาอย่างเจ็บปวด

มุมปากที่กำลังยกยิ้มของกู้โม่หานค่อยๆแข็งทื่อ แต่ทว่าก็ไม่ได้มีความรำคาญใจปรากฏออกมาแม้แต่น้อย

เขาพาหนูน้อยทั้งสองคนเข้าวังมาก่อน แท้ที่จริงเกิดจากความเห็นแก่ตัวของเขา เพราะว่าตอนนี้หนานหว่านเยียนฉลาดมากเกินไป เขากลัวว่าถ้าหากไม่ระวังนางจะพาเด็กๆหนีหายไปจากสายตาของเขา

เพื่อที่จะรักษานางเอาไว้ นี่คือวิธีการที่จำเป็นที่สุด

แต่ตอนนี้พาพวกนางเข้าวังมากันหมดแล้ว ทุกหนทุกแห่งที่นี่ล้วนเป็นคนของเขาทั้งหมด จัดการวางกับดักป้องกันไว้อย่างเข้มงวด พวกนางไม่อาจหนีเขาไปได้อีกแล้ว

คิ้วและดวงตาที่สวยงามของกู้โม่หานถูกวาดขึ้นด้วยแสงและเงาอย่างนุ่มนวล เขายื่นมือออกไปและโอบกอดรอบเอวของหนานหว่านเยียนอย่างแนบแน่น กอบกุมมือที่อ่อนนุ่มของนางเอาไว้

“เป็นความผิดของข้าเองที่ทำให้เจ้าไม่มีความสุขเช่นนี้ เพียงแต่ ข้าไม่ได้ขัดขวางไม่ให้เจ้าพบหนูน้อยทั้งสอง เจ้าหมดสติไปหนึ่งวันหนึ่งคืนเต็มๆ พวกนางดูแลเจ้าทั้งวันทั้งคืน ยังคงเหนื่อยอยู่บ้าง ตอนนี้ถึงยังไม่ตื่น”

“รอให้พวกนางตื่นก่อน ข้าจะให้คนพาพวกนางมาพบเจ้า ดีไหม?”

“พูดน่าฟังขึ้นมาหน่อย แล้วข้าจะรู้ได้อย่างไรว่าเจ้าพูดจริง?” หนานหว่านเยียนไม่ได้ยินน้ำเสียงที่อ่อนโยนใดๆจากเขา ในใจก็คิดจะผลักเขาออกไป แต่ทว่าฝ่ามือของกู้โม่หานราวกับโซ่ตรวนที่พันธนาการนางเอาไว้อย่างแน่นหนา

นางขมวดคิ้วและถลึงตามองเขา “ปล่อยมือ!”

“เรื่องนี้ข้าไม่มีอะไรต้องหลอกเจ้า ถ้าเจ้าเกี๊ยวน้อยและเจ้าซาลาเปาน้อยไม่มาหาเจ้า เจ้าก็แค่หาคนไปเรียกพวกนางมาที่นี่”

กู้โม่หานไม่เพียงแต่ไม่ยอมปล่อยนาง แต่ยังโอบกอดนางแน่นยิ่งขึ้น เขาพึงพอใจอย่างมากที่รู้สึกได้ถึงนางในอ้อมกอด ศีรษะถูไถไปกับใบหูของนางและดอมดมกลิ่นหอมสดชื่นบนร่างกายนาง ก่อนจะกล่าวออกมาด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน

“หลังจากนี้สามวันจะเป็นพิธีพระราชทานยศ ไม่กี่วันนี้เจ้าก็พักผ่อนในตำหนักหยูซินเถอะ เมื่อถึงเวลานั้นเจ้ากับข้าจะได้รับความเคารพจากขุนนางมากมายด้วยกัน”

หนานหว่านเยียนถูกเขากักขังไว้ในอ้อมกอดทั้งตัว พยายามจะหนีก็หนีไม่พ้น พยายามจะผลักก็ผลักไม่ได้ ใบหูของนางร้อนผ่าวราวกับถูกเผาจนไหม้เกรียม

“กู้โม่หาน ข้าบอกให้เจ้าปล่อย!”

ใครจะเป็นฮองเฮาของเขากัน นางบอกหลายครั้งแล้วว่านางไม่ยินยอม เขาหูหนวกหรือว่าความจำเสื่อมกันแน่!?

นัยตาสีดำของกู้โม่หานเย็นชาเล็กน้อย แต่ก็ไม่ได้สะเทือนจิตใจของนาง เขาค่อยๆปล่อยนางออก ทว่ายังคงจับมือนางเอาไว้

ข้อกำหนดของเขาคือไม่ทำร้ายนาง แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าจะไม่บังคับจิตใจนาง ถ้าหากว่าทำได้ เขาก็ไม่อยากจะผิดคำพูดและใช้วิธีที่แข็งกร้าวแบบนี้ในการรักษานางไว้ข้างกาย ทำให้นางไม่มีความสุข

แต่เขาค้นพบว่านอกเหนือจากนี้เขาก็ไม่มีวิธีที่จะรั้งนางไว้ได้อีกแล้ว

เหมือนกับที่นางได้ยินมา เมื่อก่อนเขาทำตัวไม่ดีกับนางเอาไส้มากมาก แล้วจะมีสิทธิ์อะไรมารั้งนางเอาไว้ แต่เขาปล่อยนางไปไม่ได้ ต่อให้มีโอกาสเลือกอีกครั้งหนึ่ง เขาก็ยังคงเลือกวิธีนี้อยู่ดี คือการบังคับและขู่เข็ญนาง

เขาพยายามควบคุมความใจร้อนของตนเองและพูดออกมาด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน “เสื้อคลุมลายหงส์ต้องสั่งตัด ข้าจะวัดตัวให้เจ้าเอง เรื่องนี้จะรอช้าไม่ได้ มิฉะนั้นจะไม่ทันพิธีการในอีกสามวันข้างหน้า”

แต่ทว่าหนานหว่านเยียนกลับแสดงการต่อต้านออกมาด้วยความรังเกียจ หัวคิ้วขมวดเข้าหากันแน่น

“ข้าบอกแล้วว่าข้าไม่ต้องการ! เจ้าฟังภาษาคนไม่รู้เรื่องหรืออย่างไร!?”

หากกู้โม่หานยังคงดื้อรั้น ก็มีแต่จะทำให้นางยิ่งโมโหและร้อนรน นางอดทนอดกลั้นมามากพอแล้ว จบกันด้วยดีไม่ได้ใช่ไหม? จะเล่นแบบนี้ใช่ไหม!?

คิ้วหนารูปดาบของกู้โม่หานขมวดเล็กน้อย ใบหน้าสวยงามที่แสดงความอ่อนโยนหายไปและในที่สุดก็เปิดปากพูดออกมาอย่างดื้อรั้นและเผด็จการ

“เจ้าไม่มีทางให้ปฏิเสธ หว่านเยียน เจ้าจะพูดหรือจะก่อเรื่องอะไรก็แล้วแต่เจ้า ข้าจะร่วมมือกับเจ้าและไม่ขัดขวางเจ้าเลยแม้แต่นิด แต่ไม่ว่ายังไงตำแหน่งฮองเฮาก็ต้องเป็นเจ้า ถ้าเจ้ายังทำเป็นเล่นอยู่ข้าจะ……”

หนานหว่านเยียนหัวเราะเยาะด้วยความโกรธ “จะทำไม? จะฆ่าข้าหรือ?”

“ข้าจะทำอย่างนั้นได้อย่างไร?” เขาบีบคางของนาง ก้นบึ้งหัวใจของเขาโศกเศร้าอย่างสุดจะพรรณนา แต่ทว่าน้ำเสียงกลับรุนแรงอย่างยิ่ง “อย่างมากที่สุดข้าก็แค่จัดการทรมานเจ้าบนเตียง เจ้ารู้ว่าข้าทำได้ แล้วก็ควรจะเข้าใจไว้ด้วยว่าข้ากำลังพยายามอย่างถึงที่สุดเพื่อควบคุมสถานการณ์ตอนนี้เอาไว้”

ตั้งแต่เมื่อไรไม่รู้ที่เขาเอาแต่คิดถึงนางทั้งวันทั้งคืน ไม่ว่าในฝันหรือลืมตาตื่น

อย่างไรเสียเขาก็เป็นผู้ชายที่เต็มไปด้วยพลัง ตอนนี้อำนาจทั้งหมดก็อยู่ในกำมือ ยังสามารถอดทนอดกลั้นไม่แตะต้องนางได้ แรงจูงใจเห็นจะมีเพียงแค่ไม่อยากยั่วยุให้นางโกรธ

แต่นั่นไม่ได้หมายความว่าเขาไม่ต้องการ ย่อมมีบางครั้งที่เขาไม่สามารถอดทนอดกลั้นได้

โดยไม่ต้องอธิบายอะไรให้มากความหนานหว่านเยียนก็เข้าใจความหมายในคำพูดของเขา นางหรี่ตาลงทันทีและใบหูของนางก็เปลี่ยนเป็นสีแดงอย่างฉับไว กัดฟันด่าออกไป “ไอ้คนลามก!”

“นี่มันเรื่องธรรมชาติของมนุษย์ ดังนั้นเจ้าอย่ายั่วโมโหข้าอย่างเต็มที่เลย” เขายกยิ้มบางๆ แต่ทว่าในน้ำเสียงก็ยังมีความขมขื่นอยู่เล็กน้อย “หว่านเยียน อยู่เป็นฮองเฮาเคียงข้างข้าไม่ดีหรือ ข้ารับรองกับเจ้าได้เลยว่าต่อไปนี้ข้าจะไม่มีทางทำให้เจ้าผิดหวัง และไม่มีทางทำให้เจ้าต้องเจ็บปวดอีก”

ขอเพียงแค่หนานหว่านเยียนยอมตกลง เขาสามารถมอบทุกสิ่งทุกอย่างของเขาให้นางได้

กู้โม่หานเดี๋ยวก็บ้าอำนาจเดี๋ยวก็อ่อนโยนจนหนานหว่านเยียนรู้สึกลังเล

ตอนนี้เขาเป็นผู้มีอิทธิพล นางมักจะเผชิญหน้ากับเขาเสมอ และคนที่เสียเปรียบก็คือนาง นางหายใจเข้าลึกๆ ยอมถอยออกมาก่อนและพยักหน้าเล็กน้อยแสร้งทำเป็นยอมรับ

“ได้ ข้าจะวัดตัวก็ได้ แต่ก่อนอื่นเจ้าต้องปล่อยข้าก่อน ให้เซียงอวี้เข้ามาช่วยข้า”

กู้โม่หานได้ยินเช่นนั้นดวงตาก็เป็นประกายเล็กน้อย มุมปากของเขายกขึ้นอย่างอ่อนโยนด้วยความพึงพอใจ

“ข้าจะช่วยเจ้าวัดตัวเอง”

หนานหว่านเยียนถลึงตามองเขา “ย่าได้คืบจะเอาศอกนะ”

“ก็เจ้าปฏิเสธเซียงอวี้ไปแล้ว ตอนนี้มีแค่ข้าที่ช่วยเจ้าได้”

หนานหว่านเยียน “………”

สุดท้ายนางจึงปล่อยไปตามยถากรรม แล้วแต่เขาเถอะ! ยังไงการวัดตัวก็ไม่มีผลอะไรกับชีวิตนางอยู่แล้ว

กู้โม่หานเห็นว่านางน่าเอ็นดูก็เข้าใจว่านางคงยอมรับได้แล้ว เขาไม่เต็มใจที่จะปล่อยมือ แต่ก็จำต้องปล่อยและเดินไปหยิบเอาสายวัดตัวด้านข้างมา วัดจากด้านหลังไปจนถึงไหล่กว้างของหนานหว่านเยียน

ความรู้สึกของคนท้องนั้นค่อนข้างจะไว ร่างกายของหนานหว่านเยียนจึงถอยไปตามธรรมชาติอย่างไม่ตั้งใจ ดวงตาของกู้โม่หานครึ้มลงเล็กน้อย แต่ทว่าก็ไม่ได้พูดอะไรออกมา

มือของชายตัวสูงโอบล้อมตั้งแต่หน้าอกของหนานหว่านเยียนไปยังด้านหลัง หนานหว่านเยียนผิดปกติอย่างมาก ใบหน้าสวยของนางตึงเครียด

กู้โม่หานมองปราดไปที่นางครู่หนึ่งและถามออกมาด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน “อยากให้ชุดคลุมมีลวดลายอย่างไรดี?”

หนานหว่านเยียนตอบแบบขอไปที “แล้วแต่”

ยังไงนางก็คงไม่สวมใส่อยู่แล้ว

แต่เขาก็พูดขึ้นมาอีกครั้งอย่างจริงจัง “ถ้าอย่างนั้นข้าให้คนปักลายดอกไอริสแล้วกัน ข้าจำได้ว่าเจ้าชอบดอกไอริส”

นางมองเขาครู่หนึ่งและเม้มปากเข้าหากัน เขาเริ่มวัดเอวของนางแล้ว หนานหว่านเยียนไม่รู้ว่าทำไม แต่จิตสำนึกของนางบอกให้ปกป้องท้องของตนเอง

การกระทำของนางนั้นกะทันหันมาก กู้โม่หานจึงเลิกคิ้วอย่างสงสัย ถามออกมาด้วยน้ำเสียงกดต่ำ“เป็นอะไรไป?”

หนานหว่านเยียนยังไม่ทันได้ตอบโต้อะไร หัวใจก็เต้นแรงขึ้นมา ราวกับจะกระเด็นขึ้นไปถึงคอแล้ว……

ยอดชายากับองค์หนูน้อยแห่งจวนอ๋องอี้

ยอดชายากับองค์หนูน้อยแห่งจวนอ๋องอี้

Status: Ongoing
หนานหว่านเยียน อัจฉริยะแห่งวงการแพทย์ ข้ามภพมาเป็นพระชายาอัปลักษณ์ผู้ถูกทอดทิ้งแห่งจวนอ๋องอี้ แต่ด้วยมันสมองของอัจฉริยะ และความแข็งแกร่งฉบับสาวยุคใหม่ เธอจะพลิกเกมกลับมาแก้แค้นไอ้พวกเศษสวะให้สิ้นซาก!

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท