ยอดชายากับองค์หนูน้อยแห่งจวนอ๋องอี้ – บทที่ 605 ควบคุมอารมณ์ไม่อยู่

ยอดชายากับองค์หนูน้อยแห่งจวนอ๋องอี้

ยากับองค์หนูน้อยแห่งจวนอ๋องอี้ นิยาย บท 605

แต่นางยังคงเย็นชาและกล่าวออกมาอย่างไร้อารมณ์ใดๆทั้งสิ้น “เจ้ารัดแน่นเกินไปแล้ว ข้าอึดอัด ข้าจะวัดเอง”

ทันใดนั้นนางก็รู้ตัวว่ายิ่งนางพยายามปกปิดเท่าใด นางก็ยิ่งเผยไต๋ออกมามากเท่านั้น แต่ปฏิกิริยาที่ปกป้องท้องเมื่อครู่นี้ล้วนมาจากสัญชาตญาณทั้งสิ้น

ตอนนี้นางหวังเพียงแค่ว่า กู้โม่หานจะไม่มาถามซักไซ้นาง

กู้โม่หานมองสีหน้าที่แข็งกระด้างของหนานหว่านเยียน คิดว่านางคงกำลังจ้องจับผิดอีกเป็นแน่ จึงเม้มปากและเปิดปากพูดออกมา

“ได้”

พูดจบเขาก็ส่งสายวัดให้หนานหว่านเยียน

หนานหว่านเยียนวัดจนเสร็จเรียบร้อย ก็รีบโยนสายวัดไปให้กู้โม่หานและบอกตัวเลขที่วัดได้กับเขา “เสร็จแล้ว”

กู้โม่หานรับมา ถือโอกาสนั่งยองๆก้มลงไปยังท้องของหนานหว่านเยียน แววตาแสดงถึงความระมัดระวังและจริงจัง

หนานหว่านเยียนก้มลงจ้องมองกู้โม่หานอย่างยากจะสังเกต ใบหน้างดงามนั้นที่นางเคยรักมานานหลายปี อยู่ใกล้เพียงแค่นางเอื้อมมือออกไปก็สามารถสัมผัสได้แล้ว

ถ้าตัวนางคนเก่าได้รับความสนใจจากกู้โม่หานเช่นนี้ บางทีก็คงไม่ถึงกับจากไปอย่างไม่ลังเลขนาดนี้

ริมฝีปากแดงของนางเม้มเล็กน้อย “กู้โม่หาน ข้าอยากเจอท่านน้า”

มือของกู้โม่หานชะงักไปครู่หนึ่ง และปฏิเสธออกมาอย่างเด็ดขาด “ไม่ได้!”

ไม่ง่ายเลยกับการที่เขาจะรักษาหนานหว่านเยียนไว้ข้างกาย เขาไม่อยากให้มีใครมารบกวนไม่ว่าหน้าไหน

โดยเฉพาะอย่างยิ่งคนที่ปรารถนาอยากจะได้นาง

หนานหว่านเยียนไม่ทะเลาะกับเขาอีก แต่ทันใดนั้นนางก็หมุนตัวกลับไป คว้าถ้วยชามาทุบลงกับโต๊ะ หลังจากนั้นจับเอาเศษกระเบื้องแหลมคมที่แตกออกมาจ่อที่คอหอยตนเอง

“หนูน้อยข้าก็ไม่ได้พบ ตอนนี้ท่านน้าข้าก็ไม่ได้พบอีก ถ้าเจ้าจะกักขังข้าไว้ราวกับนกน้อยในกรงทองเช่นนี้ เจ้าก็คงจะได้ไปเพียงแค่ร่างไร้วิญญาณที่เย็นชืดของข้า!”

นางต้องการพบโม่หวิ่นหมิงและบอกสถานการณ์ของนางให้เขาทราบ นอกจากนี้ยังต้องวางแผนการหลบหนีอีกด้วย

กู้โม่หานจะเป็นบ้าก็เรื่องของเขา ยังไงจุดประสงค์ของนางก็จะไม่เปลี่ยนแปลง

กู้โม่หานหรี่ตาลง ฉับพลันนัยตาก็ฉายแววตื่นตระหนกขึ้นมาชั่วครู่ ทิ้งสายวัดในมือลงและตรงเข้ามาจับข้อมือของหญิงสาวเอาไว้

นัยตาของเขาดุดันและมีความโกรธอยู่ในนั้นเบาบาง “หนานหว่านเยียน ปล่อยมือ!”

เขาออกแรงที่ฝ่ามือเล็กน้อย กู้โม่หานขมวดคิ้วด้วยความเจ็บปวด จับเศษกระเบื้องแน่นมากยิ่งขึ้น

“รับปากข้ามาก่อน!”

นี่นางกำลังข่มขู่เขาอย่างนั้นหรือ?

ฝ่ามือของกู้โม่หานร้อนผ่าว เหนือคิ้วกักเก็บอารมณ์ฉุนเฉียวเอาไว้

เขารับรู้ถึงความเด็ดเดี่ยวและไม่ยอมแพ้ในสายตาของหนาหว่านเยียน ยิ่งถูกสายตาเช่นนี้มองมา ภายในอกก็ยิ่งแสบร้อน

ชั่วครู่ เขาค่อยๆปล่อยมือของหนานหว่านเยียนออก และเปิดริมผีปาก “ได้ ข้าจะให้เจ้าไปเจอเขา แต่ข้าต้องอยู่ด้วยเท่านั้น”

“เหอะ” หนานหว่านเยียนส่งเสียงเยาะเย้ยออกมา สายตาของนางดูถูกอย่างไม่ปิดบังแม้แต่นิด

“เจ้าว่างมากหรือไง? ตอนนี้เพิ่งจะได้เป็นจักรพรรดิ ก็ต้องมาพยายามอย่างเต็มที่เพื่อผู้หญิงคนหนึ่ง เจ้าจะทิ้งเรื่องทั้งหมดและประชาชนทั้งหมดไว้ด้านหลังอย่างนั้นหรือ?”

กู้โม่หานได้ยินคำประชดประชันเหล่านี้ก็เจ็บเหมือนโดนมีดกรีดลงกลางใจ

เขาว่างที่ไหนกัน ด้านร่างกายยังต้องแบกภาระแคว้นที่หนักหนา เมื่อคืนนี้ก็ยังไม่ได้นอนตลอดทั้งคืน เขาเพียรพยายามจัดการเรื่องทั้งหมดให้เสร็จเรียบร้อยก่อน ก็เพื่อที่วันนี้จะได้มีเวลาอยู่กับหนานหว่านเยียนและหนูน้อยทั้งสองคนเยอะๆ

แต่กู้โม่หานก็ไม่คิดจะตอบโต้คำประชดประชันของหนานหว่านเยียน นำขนาดที่วัดเสร็จแล้วมาจดลงไป

หลังจากนั้นเขาก็พูดออกไปนอกประตูด้วยเสียงติดจะเย็นชา “ส่งคนไปจวนอี้อ๋องแล้วพาโม่หวิ่นหมิงเข้ามาในวัง!”

ด้านนอกประตู องครักษ์ตอบรับด้วยความเคารพ “พ่ะย่ะค่ะ จักรพรรดิ”

“จัดคนไปรับมาแล้ว ไม่นานเจ้าก็คงจะได้พบท่านน้า” กู้โม่หานมองไปยังหนานหว่านเยียนอีกครั้ง นำเอาเศษถ้วยชาในมือของนางไปทิ้ง “ทานอาหารเช้าด้วยกันกับข้าไหม?”

ท่านน้าสามารถเข้ามาได้ก็ดีแล้ว ถึงตอนนั้นค่อยถือโอกาสปรึกษาหารือแผนการอีกครั้ง

หนานหว่านเยียนกดความคิดเห็นของกู้โม่หานลงไป และปฏิเสธออกไปตรงๆ “ข้ากินไปแล้ว”

เขามองหนานหว่านเยียนและก้มตัวลงไปประชิดนาง “แต่ว่าข้าหิวแล้ว ในฐานะฮองเฮา เจ้าไม่คิดว่าควรจะมาทานข้าวด้วยกันหรือ?”

พูดจบเขาก็ไม่สนใจสายตาแหลมคมราวกับมีดของหนานหว่านเยียน “เซียงอวี้ ไปเตรียมอาหารเช้ามา!”

หนานหว่านเยียนหัวเราะเยาะออกมา บอกแล้วว่าไม่กิน ก็ยังจะดันทุรังบังคับนาง

นางกำลังจะลุกขึ้นเพื่อหนีจากผู้ชายที่จงใจก่อกวนคนนี้ แต่ทว่าก็ถูกกู้โม่หานรั้งเอาไว้ให้อยู่ที่เดิมด้วยความแข็งกร้าว

หนานหว่านเยียนถูกกู้โม่หานยั่วยุให้โกรธจนกัดฟันกรอด

“กู้โม่หาน ข้าบอกแล้วว่าข้าไม่กิน ข้าไม่อยากกินข้าวร่วมกันกับเจ้า เจ้าควรจะเข้าใจได้แล้ว ข้าและเจ้ายังคุยดีกันได้ก็เพราะว่าข้ากำลังอดทนอดกลั้น เจ้ายังจะบังคับข้าอยู่อีกงั้นหรือ?”

กู้โม่หานฟังหนานหว่านเยียนระบายความไม่พอใจและความโกรธในใจออกมาอย่างเงียบๆ “พูดจบแล้วเหรอ”

หนานหว่านเยียนเกลียดความไม่พอใจและท่าทางทำอะไรไม่ถูกต่อกู้โม่หานของตนเอง

ในท้องรู้สึกปวดหน่วงๆ นางขมวดคิ้วเข้าหากันและลูบท้องเพื่อปลอบโยนตนเอง พูดออกมาด้วยน้ำเสียงเย็นชา “กู้โม่หาน ที่นี่ไม่ใช่ที่พักริมทางของเจ้า ถึงคิดอยากจะมาก็มาอยากจะไปก็ไป จะบอกให้อีกครั้งนะ นางสนมของเจ้าไม่ได้มีแค่ข้าคนเดียว!”

“ตอนนี้หยุนอี่ว์โหรวกำลังตั้งครรภ์อยู่ นางควรจะเป็นคนที่เจ้าให้ความสนใจมากที่สุด ภรรยาที่น่ารักของเจ้าต้องว่านอนสอนง่ายและเชื่อฟัง เจ้ามาที่นี่เพื่อให้ข้าปฏิเสธเจ้าอย่างเย็นชา เจ้าบ้าไปแล้วหรือ?”

พูดถึงหยุนอี่ว์โหรว หนานหว่านเยียนก็อดไม่ได้ที่จะโกรธ

เป็นเพราะความทรงจำของนางฟื้นตัวช้าเกินไป ก่อนหน้านี้ไม่ได้จัดการหยุนอี่ว์โหรวผู้เปรียบดั่งดอกบัวขาวที่ไม่มีใครสามารถเทียบได้ ช่วงเวลานั้น เป็นเรื่องที่โง่เขลาและผิดพลาดมากที่สุด

แต่ตอนนี้ แม้ว่านางจะจำทุกอย่างได้แล้ว นางก็ไม่มีเวลามาให้ความสนใจกับหยุนอี่ว์โหรวแล้ว ยิ่งกว่านั้นหยุนอี่ว์โหรวยังตั้งครรภ์อีกด้วย นางไม่สามารถจัดการหญิงตั้งครรภ์คนหนึ่งได้จริงๆ แต่ถ้าจะรอให้เด็กคลอดออกมา ก็ไม่รู้ว่าเวลานั้นจะมาถึงเมื่อไร

ตอนนี้สิ่งที่สำคัญที่สุดของนางคือการเผชิญหน้ากับกู้โม่หานผู้ชายที่มีเจตนาเยอะยิ่งกว่าถ่านรังผึ้ง นางต้องรวบรวมพลังงานทั้งหมดเพื่อคิดหาวิธีการออกจากเรื่องราวนี้

ก่อนหน้านี้นางและกู้โม่หานมีศัตรูคนเดียวกัน แม้ว่าจะเป็นจักรพรรดินางก็ไม่เคยกลัว ถึงอย่างไรก็มีหลายฝ่ายที่มีอำนาจสามารถควบคุมกู้จิ่งซานได้

แต่ตอนนี้สถานการณ์เปลี่ยนไปแล้ว ศัตรูที่ใหญ่ที่สุดของนางก็คือกู้โม่หาน

พอนึกย้อนไปถึงตนเองเมื่อก่อนเพื่อร่วมมือกับเขาไปเปลี่ยนกองกำลังศัตรูส่วนใหญ่ของกู้โม่หานให้กลายมาเป็นพันธมิตร หนานหว่านเยียนก็รู้สึกเจ็บปวดใจขึ้นมา นึกเสียใจกับการกระทำในอดีต

ตอนนี้นางกำลังต่อสู้เพียงลำพัง นางต้องทำอย่างไรถึงจะสามารถรอดพ้นจากเงื้อมมือเขาได้

ระดับออร์โมนโปรเจนเตอโรนที่เพิ่มขึ้น และร่างกายที่อ่อนแอลง ตอนนี้หนานหว่านเยียนอารมณ์แปรปรวนเป็นอย่างมาก รู้สึกเหมือนร่างกายไม่ตื่นตัว และนั่นส่งผลให้นางรู้สึกหงุดหงิดทุกครั้งที่ร่างกายอ่อนแอ ไม่มีเรี่ยวแรง

ก่อนหน้านี้ตอนท้องเจ้าเกี๊ยวน้อยและเจ้าซาลาเปาน้อย บางครั้งก็มีเหตุการณ์แบบนี้บ้าง แต่ตอนนั้นนางตัวคนเดียวค่อนข้างเป็นอิสระ อีกทั้งยังไม่ต้องวางแผนอะไรมากมายขนาดนั้น อดทนเอาหน่อยเดี๋ยวความทุกข์ก็ผ่านไป ตอนนี้นางเหนื่อยมากจริงๆ

กู้โม่หานได้ฟังคำพูดที่มีความหมายโดยนัยของหนานหว่านเยียน ดวงตาราวกับเหยี่ยวที่น่าเกรงขามก็เป็นประกายระยิบระยับ เขามองไปที่หนานหว่านเยียนอย่างจริงจัง และเสียงอันไพเราะก็เปล่งออกมาจากริมฝีปาก “หว่านเยียน ข้าไม่ได้พาหยุนอี่ว์โหรวเข้าวัง……”

ยอดชายากับองค์หนูน้อยแห่งจวนอ๋องอี้

ยอดชายากับองค์หนูน้อยแห่งจวนอ๋องอี้

Status: Ongoing
หนานหว่านเยียน อัจฉริยะแห่งวงการแพทย์ ข้ามภพมาเป็นพระชายาอัปลักษณ์ผู้ถูกทอดทิ้งแห่งจวนอ๋องอี้ แต่ด้วยมันสมองของอัจฉริยะ และความแข็งแกร่งฉบับสาวยุคใหม่ เธอจะพลิกเกมกลับมาแก้แค้นไอ้พวกเศษสวะให้สิ้นซาก!

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท
Close Ads ufanance
Click to Hide Advanced Floating Content สล็อตออนไลน์
Click to Hide Advanced Floating Content สมัคร ufabet
Click to Hide Advanced Floating Content สล็อตฟรีสปิน