ยอดชายากับองค์หนูน้อยแห่งจวนอ๋องอี้ – บทที่ 630 นางหนีไปแล้ว

ยอดชายากับองค์หนูน้อยแห่งจวนอ๋องอี้

ยากับองค์หนูน้อยแห่งจวนอ๋องอี้ นิยาย บท 630

อะไรนะ?!

ความวัวยังไม่ทันหายความควายก็เข้ามาแทรก ข่าวการหายตัวไปของหนูน้อยทั้งสองคน ไม่ต้องสงสัยเลยว่าจะทำให้กู้โม่หานที่เดิมทีจิตใจกระวนกระวายไม่เป็นสุขจะยิ่งหวาดกลัวมากขึ้นเท่าไหร่

เขาเพียงรู้สึกว่าอากาศรอบๆ ตัวบางเบาลง เสียงร้องที่โมโหเดือดดาลอย่างยิ่งก็ดังขึ้นมาทันที “เซียงอวี้!”

เดิมทีเซียงอวี้รออยู่ด้านนอกตำหนัก เพลานี้ได้ยินเสียงตะโกนลั่นของกู้โม่หาน ขาก็อ่อนระทวยไปหมด นางรีบเข้าไปในตำหนักแล้วหมอบอยู่ข้างเตียง ตาทั้งคู่แดงก่ำเพราะร้องไห้

“ฝ่าบาท เป็นเพราะบ่าวปฏิบัติหน้าที่บกพร่อง!

กู้โม่หานไม่อยากฟังคำแก้ตัว นัยน์ตาดำมืดราวกับยามค่ำคืนเพลานี้แดงก่ำ “พวกนางหายตัวไปได้อย่างไร?”

เซียงอวี้ระงับความกลัวเอาไว้ แล้วเอ่ยอย่างรีบร้อน “วันนี้ตอนพิธีเซ่นไหว้สวรรค์ องค์หญิงน้อยทั้งสองอยากไปปลดทุกข์ บ่าวจึงพาพวกนางไป แล้วเฝ้าอยู่ด้านนอก”

“แต่ทันใดนั้น ก็ได้ยินเสียงเอะอะโวยวายดังไปทั่วจากด้านข้างแท่นบูชา ภายในใจของบ่าวรู้สึกกระวนกระวาย จึงรับวิ่งเข้าไปหาองค์หญิงน้อยทั้งสอง แต่หลังเข้าไปแล้วจึงพบว่า องค์หญิงน้อยทั้งสองหายไปตั้งแต่เมื่อไหร่ก็ไม่รู้ หาอย่างไรก็หาไม่เจอ……”

นางหาองค์หญิงทั้งสองไม่พบ ดังนั้นจึงกลับมายังแท่นบูชา เพื่อขอความช่วยเหลือ แต่พบว่าสถานการณ์ที่แท่นบูชานั้นแย่ยิ่งกว่า ฮองเฮาติดอยู่ในกองไฟ ฝ่าบาทพุ่งเข้าไปช่วยฮองเฮาราวกับคนบ้า แต่กลับช่วยออกมาไม่ได้……

น้ำตาของเซียงอวี้รินไหลลงมา เงยหน้ามองกู้โม่หาน แล้วเอ่ยอย่างโศกเศร้า: “ฝ่าบาท หลายวันมานี้ฮองเฮาเหนียงเหนียงใช้ชีวิตอย่างเจ็บปวดทรมานอย่างยิ่ง นางเคยพูดกับบ่าว ว่าไม่อยากอยู่เคียงข้างท่านแล้ว ตอนนี้ไปแล้ว บางที……บางทีอาจเป็นสิ่งที่เหนียงเหนียงต้องการ……” เป็นความตั้งใจของเหนียงเหนียงเหนียงเหนียงไม่อยากมีชีวิตต่อไปแล้ว

นางรู้สึกเสียใจ ตำหนิตัวเอง และโศกเศร้ายิ่งนัก

หากรู้ว่าจะเป็นเช่นนี้ นางจักไม่ห่างจากฮองเฮาเหนียงเหนียงเป็นแน่ และองค์หญิงน้อยทั้งสองด้วย!

ได้ยินเซียงอวี้พูดเช่นนี้ นัยน์ตาทั้งคู่ของกู้โม่หานก็แน่นิ่ง เพียงรู้สึกว่าฟ้าจะถล่มลงมาแล้ว มือที่บาดเจ็บกำเสื้อตรงอกแน่น เจ็บปวดจนแทบหยุดหายใจ

ทันใดนั้นเขาก็นึกถึงสายตาเย็นชาและไม่เป็นมิตร และคำพูดไร้น้ำใจของนางเมื่อวานนี้ ——

“หากท่านยังบีบบังคับให้ทำต่อไปอยู่เช่นนี้ ยังนำหนูน้อยทั้งสองคน หรือท่านน้าของข้ามาบีบบังคับข้าต่อไป สุดท้าย จักได้รับเพียงศพของข้าเท่านั้น!”

หรือว่า เป็นเพราะนางเกลียดชังเขามากจริงๆ ถึงได้ยอมตายดีกว่ายอมเป็นฮองเฮาของเขา?

ความเย็นในร่างกายของเขาพรั่งพรูออกมาไม่หยุด เจ็บปวดราวกับมีดกรีดใจ ใบหน้าหล่อเหลาขาวซีด

หว่านเยียน นางต้องลงโทษเขาถึงเพียงนี้เลยหรือ……

ทุกคนไม่กล้าแม้แต่จะหายใจแรง เฝ้ามองการเปลี่ยนแปลงอากัปกิริยาของกู้โม่หานกันอย่างระมัดระวัง

ต้องรู้ว่า ฝ่าบาทรักใคร่เอ็นดูองค์หญิงน้อยทั้งสองและฮองเฮาเหนียงเหนียงเป็นที่สุด เพลานี้ไม่เพียงแต่ฮองเฮาเหนียงเหนียงตายแล้วเท่านั้น แต่องค์หญิงน้อยเองก็ไม่มีข่าวคราวเช่นกัน

การโจมตีเช่นนี้ ผู้ใดจะทนได้กัน!

เป็นวันที่ดีแท้ๆ แต่กลับกลายเป็นเหตุการณ์โศกนาฏกรรม……

กู้โม่หานนั่งก้มหน้าอยู่บนเตียง มือขวากำปิ่นระย้าที่แตกหักไว้แน่น เลือดสีแดงสดไหลย้อยลงมาจากฝ่ามือ ความรู้สึกเจ็บปวดที่รุนแรงไม่ด้อยไปกว่าความเจ็บปวดจากก้นบึ้งหัวใจของเขาเลย

แต่อย่างไรเขาก็ไม่อาจเชื่อ ว่าหว่านเยียนของเขาจะปลิดชีพตัวเองง่ายๆ เช่นนี้

“เป็นไปไม่ได้ นางเคยบอกไว้ ว่าในฐานะแม่ นางต้องปกป้องลูก จักไม่ล้มตายง่ายๆ เด็ดขาด……”

ยิ่งไปกว่านั้น นางที่มีจิตใจดีงามเช่นนั้น ไม่มีทางทำร้ายคนจำนวนมากถึงเพียงนั้นดอก แม้ว่าจะตายจริงๆ นางก็ไม่มีทางให้หนูน้อยทั้งสองคนอยู่ในอันตราย นางจักต้องใช้วิธีอะไรสักอย่าง ให้โม่หวิ่นหมิงพาลูกทั้งสองคนของนางหนีไปเป็นแน่

ทันใดนั้นกู้โม่หานก็นึกถึงรอยยิ้มของนางที่เขาเห็น ในตอนที่เขาเดินไปทางหนานหว่านเยียนก่อนที่จะระเบิด มันอ่อนโยน ผ่อนคลายถึงเพียงนั้น ไม่เหมือนว่าจะตายจาก แต่เหมือนบอกลาเขามากกว่า

มือของเขาสั่นเทาเล็กน้อย แต่ทันใดนั้นก็มองไปยังกู้โม่เฟิง ในที่สุดดวงตาก็เปล่งประกายเล็กน้อย “จำนวนผู้คนที่ได้รับบาดเจ็บล้มตายในที่เกิดเหตุเป็นอย่างไรบ้าง?”

กู้โม่หานเปลี่ยนเรื่องกะทันหัน กู้โม่เฟิงถึงกับขมวดคิ้ว

“พูดแล้วก็แปลกนัก ไม่มีคนตายในเหตุระเบิด และไม่มีผู้ใดได้รับบาดเจ็บเพราะการระเบิดเลย กระหม่อมส่งคนไปตรวจสอบแล้ว ปริมาณของดินระเบิดไม่เพียงพอที่จะทำให้ถึงแก่ความตายได้ ดินระเบิดทั้งหมดฝังไว้ที่ขั้นบันไดหิน และกระจายไปจนถึงตำหนัก ราวกับว่าต้องการตัดขาดความสัมพันธ์ของท่านกับฮองเฮาเหนียงเหนียง ซึ่งไม่ได้ส่งผลกระทบไปยังฝูงชน แต่ถึงอย่างไรการระเบิดกะทันหัน ก็ทำให้ผู้คนจำนวนไม่น้อยขวัญหนีดีฝ่อ ด้วยเหตุนี้จึงทำให้ล้มจนบาดเจ็บ เพียงแต่การบาดเจ็บไม่ได้รุนแรงนัก”

อุบัติเหตุครั้งนี้ คนที่ตายคือฮองเฮากับท่านน้าหลวงองค์ปัจจุบัน คนที่ได้รับบาดเจ็บสาหัส คือฮ่องเต้องค์ปัจจุบัน และที่หายสาบสูญคือองค์หญิงน้อยทั้งสองคน……

ดูเหมือนว่าจะวางแผนมาเป็นอย่างดีเลยทีเดียว! แต่ก็ไม่รู้ว่าเป็นผู้ใด ที่มีความชำนาญอันยอดเยี่ยมสามารถทำให้นายท่านผู้สูงศักดิ์แห่งแคว้นซีเหย่ ระทมทุกข์เช่นนี้ได้ โดยเฉพาะวิธีการที่ทำให้ผู้คนอยู่ไม่เป็นสุข หวาดกลัวอย่างยิ่งเช่นนี้!

ไม่มีผู้ใดบาดเจ็บล้มตายเพราะระเบิด!

กู้โม่หานยิ้มขึ้นมาทันที ใบหน้าซีดเซียวผ่อนคลายเล็กน้อย เขารู้ ว่าเป็นไปไม่ได้เพราะหนานหว่านเยียนจิตใจดีถึงเพียงนั้น ไม่มีทางเอาชีวิตคนมาเป็นเรื่องล้อเล่นเป็นแน่!

ยิ่งไปกว่านั้น ไม่มีทางที่จะบังเอิญถึงเพียงนั้นดอก ที่นางกับโม่หวิ่นหมิงจะ ‘ตาย’ พร้อมกันพอดี และหนูน้อยทั้งสองคนก็หายตัวไปเช่นนี้

“นางยังไม่ตาย! นางยังไม่ตายเป็นแน่ เพื่อที่จะหนีข้า นางถึงได้ไม่เสียดายที่ใช้กลอุบายเช่นนี้ ไม่ผิดแน่ ทั้งหมดนี้ต้องเป็นแผนของนาง”

“ตอนนี้ นางคงจะอยู่ด้วยกันกับหนูน้อยทั้งสองคน……”

กู้โม่หานลุกขึ้นมาทันที แล้วคว้าปกเสื้อของกู้โม่หานเอาไว้ ดีใจเป็นล้นพ้น

“รีบส่งกำลังทหารไปปิดล้อมทางเข้าออกวังทุกทาง! และด้านในด้านนอกเมืองหลวง เพิ่มกำลังทหาร——ไปตรวจสอบ!”

“ทุกคนที่ไปมาหาสู่ จักต้องตรวจสอบกันอย่างเข้มงวด! จนกว่าจะหาฮองเฮากับองค์หญิงน้อยทั้งสองคนพบ!”

แม้ว่าวันนี้จะต้องค้นหาทุกแห่ง เขาก็จักต้องหาหนานหว่านเยียนให้พบให้ได้!

ยอดชายากับองค์หนูน้อยแห่งจวนอ๋องอี้

ยอดชายากับองค์หนูน้อยแห่งจวนอ๋องอี้

Status: Ongoing
หนานหว่านเยียน อัจฉริยะแห่งวงการแพทย์ ข้ามภพมาเป็นพระชายาอัปลักษณ์ผู้ถูกทอดทิ้งแห่งจวนอ๋องอี้ แต่ด้วยมันสมองของอัจฉริยะ และความแข็งแกร่งฉบับสาวยุคใหม่ เธอจะพลิกเกมกลับมาแก้แค้นไอ้พวกเศษสวะให้สิ้นซาก!

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท