ยากับองค์หนูน้อยแห่งจวนอ๋องอี้ นิยาย บท 648
การโจมตีที่รวดเร็วของอวี๋เฟิง ทำให้เจียงหรูเยว่ล้มลงกับพื้นอย่างรุนแรงจนเลือดกบปาก
ผู้คนตกใจ ผู้หญิงหลายคนปิดหน้าและหันหนีด้วยความตกใจ แต่ก็ยังฟังคำของอวี๋เฟิง สายตาหันไปเห็นผู้ที่ปรากฏตัวอยู่มิไกลจากอวี๋เฟิง ดวงตาก็เป็นประกายด้วยความตื่นเต้นขึ้นมา
ด้านหลัง มีคนตะโกนร้องเสียงดัง
“ฮ่อง ฮ่องเต้มาแล้ว! หม่อมฉัน ถวายบังคมฮ่องเต้!”
ดวงตาของหยุนอี่ว์โหรวเป็นประกาย เรียกปี้หยุนให้พยุงนางลุกขึ้นทันที หันไปโค้งคำนับให้กู้โม่หานอย่างสุภาพอ่อนโยน“หม่อมฉันถวายบังคมฮ่องเต้”
หนานหว่านเยียนตกใจอยู่ครู่หนึ่ง นิ้วเรียวโค้งงอโดยมิรู้ตัว เมื่อมองกลับไป ก็ได้สบตากับสายตาของกู้โม่หานที่เป็นดวงตาแห่งชีวิตอันมืดมน
แม้ว่ากู้โม่หานจะขึ้นครองราชย์ในฐานะฮ่องเต้ แต่เขาก็ยังคงสวมเสื้อคลุมสีดำ บนชายเสื้อของเขาสามารถมองเห็นลวดลายมังกรที่แกะสลักด้วยก้อนเมฆสีเงินได้อย่างจางๆ และพลังมังกรอันแรงกล้าที่เหมือนจะกลืนกินแผ่นดินได้
ชายปกเสื้อของเขาถูกเลิกขึ้นเล็กน้อย ทำให้คอเรียวยาวและสวยงามของเขาสวยงามตั้งตรงมากขึ้น ใบหน้าของเขาหล่อเหลามีเหลี่ยมมุมมากกว่าเดิมราวกับคมมีด โดยเฉพาะดวงตาที่ลึกล้ำและเย็นชาคู่นั้น
เพียงแค่มองปราดเดียว ก็ทำให้หญิงสาวพวกนั้นตกหลุมรักแต่มิกล้าเข้าใกล้
หนานหว่านเยียนคารวะกู้โม่หานตามผู้คนกลุ่มนั้น แต่เป็นเพราะร้อนตัว จึงก้มหน้าลงมิกล้าเงยขึ้น
ดูอย่างรวดเร็ว กู้โม่หานดูเหมือนจะผอมลง…
เฟิงยางที่อยู่ด้านข้างแอบปาดเหงื่อให้หนานหว่านเยียนอยู่ในใจ เพราะนางเห็นว่ากู้โม่หานมิสนใจคำเยินยอของสาวๆ นั่น แต่กลับเดินตรงไปหาหนานหว่านเยียน
เป็นเพราะอยู่ในถ้ำเสือ นางมิกล้าที่จะผลีผลาม แม้จะมีวิทยายุทธ์ก็ตาม
เกี๊ยวน้อยมอง“สาวใช้”ที่อยู่ด้านหน้าของนาง นัยน์ตารู้สึกสงสัย และหันไปมองกู้โม่หาน ใบหน้าน้อยก็เย็นชาขึ้นทันที
“เฮอะ”
กู้โม่หานตรงไปหยุดอยู่ด้านหน้าของหนานหว่านเยียน นิ่งเงียบมิพูดจา
เมื่อรู้สึกถึงแรงบีบบังคับที่มิอาจต่อสู้ได้จากด้านหน้า หัวใจของหนานหว่านเยียนเต้นมิเป็นจังหวะ ลมหายใจก็ดูจะรีบร้อน
กู้โม่หานกำลังทำสิ่งใด ทำไมยืนอยู่ด้านหน้าของนางมิขยับ?
หรือว่าเขาจำได้แล้ว? จะเป็นไปได้เยี่ยงไร ทักษะการแต่งหน้าเห็นได้ชัดว่าสำเร็จไปมาก มิมีใครที่จะจำนางได้
นางเม้มริมฝีปากสีแดงของนาง ความคิดของนางเริ่มวิ่งวนไปอย่างรวดเร็ว กลืนน้ำลายแล้วกลืนน้ำลายอีกอย่างมิรู้ตัว
มิเจอกันสองเดือน ทำไมกู้โม่หานถึงดูดุร้ายและร้ายกาจมากขึ้น?
ในขณะที่นางกำลังคิดไปทั่วนั้น วินาทีต่อมา น้ำเสียงที่ต่ำและเย็นชาก็ถูกเอ่ยออกมาจากปากของเขา“ขอบคุณมาก”
เสียงช่างแผ่วเบา เพียงต้องการให้นางได้ยินเพียงผู้เดียว
หนานหว่านเยียนตื่นตระหนกไปชั่วขณะ อดมิได้ที่จะตกใจ
กู้โม่หานได้เป็นถึงฮ่องเต้แล้ว เป็นผู้เป็นใหญ่ในใต้หล้า จะมากล่าวขอบคุณนางที่เป็น“สาวใช้”เชียวหรือ?
เมื่อเอ่ยจบ กู้โม่หานก็หันไปอุ้มเกี๊ยวน้อยอย่างอ่อนโยน และตบไปที่หลังนางเบาๆ เพื่อปลอบโยน“เป็นเยี่ยงไรบ้าง บาดเจ็บหรือไม่?”
“เฮอะ”เกี๊ยวน้อยเม้มริมฝีปากด้วยความโกรธและหันไปทางอื่น มิต้องการพูดคุยกับกู้โม่หาน แต่ดวงตาสีเข้มนี้กลับเหลือบมองไปที่หนานหว่านเยียนเป็นครั้งคราว
นางยังคงคิดว่า คนผู้นี้ช่างเหมือนท่านแม่เสียจริง
หนานหว่านเยียนเงยหน้าขึ้นมองกู้โม่หานอย่างระมัดระวัง หัวใจเกิดความชะงักงัน
เขามองใบหน้าของเกี๊ยวน้อย ใบหน้าเต็มไปด้วยความตำหนิตนและความทุกข์ใจ
นางกำนิ้วแน่น และมิพอใจเขาอยู่เล็กน้อย
แม้ว่าเขาจะตำหนิตัวเอง แต่เกี๊ยวน้อยก็ยังได้รับความคับข้องใจ เป็นความคับข้องใจที่เขาจะเลือกนางสนม!
นอกจากกู้โม่หานที่เอ่ยวาจานั้น ทุกคนได้เงียบลง
กู้โม่หานมิรอให้เจ้าเด็กน้อยตอบเขา เมื่อเห็นดวงตาของนางแดง ดวงตาสีเข้มก็เยือกเย็นลง เขาลูบหัวเกี๊ยวน้อยเบาๆ อย่างอ่อนโยน และได้อุ้มเกี๊ยวน้อยเดินเข้าไปหาเจียงหรูเยว่ที่นอนอยู่บนพื้นทีละก้าวด้วยท่าทีที่อุกอาจ
ยิ่งเดินเข้าใกล้เจียงหรูเยว่ ดวงตาของกู้โม่หานก็ดูโหดเหี้ยมและแข็งกร้าวยิ่งกว่าเดิม ราวกับน้ำแข็ง
อวี๋เฟิงโค้งคำนับให้เขา เอ่ยด้วยน้ำเสียงที่เคารพ“ฮ่องเต้ จะจัดการกับหญิงผู้นี้เยี่ยงไรดี?”
มิต้องรอให้กู้โม่หานได้เอ่ยปาก เจียงหรูเยว่ก็ร้อนรนทันที นางรีบลุกไปคุกเข่าต่อหน้ากู้โม่หานด้วยความตื่นตระหนก อยากใช้สองมือจับไปที่รองเท้าของกู้โม่หาน ใบหน้าซีดเซียวเต็มไปด้วยความหวาดกลัว
“มิใช่เพคะ ฮ่องเต้ หม่อมฉัน หม่อมฉันมิได้อยากทำร้ายองค์หญิง เพียงแค่อยากสั่งสอนนังผู้หญิงนั้นให้หลาบจำ…!”
แต่นางยังมิทันที่จะเข้าใกล้กู้โม่หาน กู้โม่หานก็เหยียบลงไปบนหลังมือของนาง บดขยี้เข้าไปอย่างแรง
ขณะนั้น อุทยานหลวงก็เต็มไปด้วยเสียงกรีดร้องอันดังก้องของเจียงหรูเยว่
“ฮ่องเต้ ฮ่องเต้ไว้ชีวิต…อา!”