ยากับองค์หนูน้อยแห่งจวนอ๋องอี้ นิยาย บท 649
ทุกคนที่เห็นเยี่ยงนี้ อดมิได้ที่จะอ้าปากค้าง
นัยน์ตาของหนานหว่านเยียนเปลี่ยนไป แต่นางมิได้เห็นใจเจียงหรูเยว่เลยสักนิด
กล้ามารังแกลูกสาวของนาง เหตุการณ์เยี่ยงนี้ยังเบาไปนัก!
แต่นางได้เห็นท่าทางที่แสนเย็นชาของกู้โม่หาน ในใจยังเกิดอาการใจสั่น
เขา เปลี่ยนไปโหดร้ายเยี่ยงนี้เมื่อใด?
กู้โม่หานค่อยๆ ปิดตาของเกี๊ยวน้อยอย่างอ่อนโยน แต่กลับมองไปที่เจียงหรูเยว่ที่กำลังดิ้นและร้องไห้ด้วยสายตาที่เหยียดหยาม เขาหรี่ตาที่เต็มไปด้วยความโกรธและความขยะแขยงลง ทุกๆ ครั้งที่เอ่ยออกไปนั้น ก็ได้บดมือของเจียงหรูเยว่หนักขึ้นเช่นกัน น้ำเสียงของเขาราวกับกดทุกคนให้ลงไปในถ้ำน้ำแข็ง
“อานผิงเป็นองค์หญิงใหญ่ของข้า และเป็นลูกสาวของข้า ลูกสาวขุนนางได้รับอนุญาตให้มาเอ่ยเรื่องไร้สาระต่อหน้านางได้เมื่อใดกัน?”
“เจ้าคิดว่าตนเป็นผู้ใด ถึงได้กล้าที่จะมาแยกเขี้ยวยิงฟันอยู่ในวังของข้า แถมยังได้รังแกลูกสาวข้า?”
“ฮ่องเต้ ฮ่องเต้ หม่อมฉันมิกล้าแล้ว ขอ ขอฮ่องเต้ไว้ชีวิต…”เจียงหรูเยว่เจ็บจนหนังหัวรู้สึกชา มือที่โดนกู้โม่หานเหยียบนั้นเจ็บจนมีมีความรู้สึกแล้ว นางเอาแต่ร้องขอความเมตตา แต่กลับมิได้รับความเมตตาใดๆ จากกู้โม่หานเลย แต่กลับทำให้ตนสูญเสียเรี่ยวแรงมากกว่า
นางเสียใจแล้ว เสียใจที่มิควรพูดโอ้อวดต่อหน้าทุกคน เพื่อทำให้หยุนอี่ว์โหรวมองเห็นคุณค่าในตัวนาง แต่ควรที่จะให้คนไปสั่งสอนเด็กป่าเถื่อนนั่น!
แต่นางกลับเกลียดที่ท่าทางป่าเถื่อนของหนานหว่านเยียนกลับมีความสำคัญขึ้นมาในใจของกู้โม่หาน!
ผู้ที่ยืนดูอยู่รอบๆ กลับรู้สึกเสียวสันหลังขึ้นมา ฮ่องเต้โกรธขึ้นมาน่ากลัวเพียงใด ลมหายใจแห่งความตายวนอยู่รอบตัวของพวกนาง พวกนางมิกล้าที่จะหายใจแรง ยิ่งมิกล้าที่จะขอร้องแทนเจียงหรูเยว่ด้วยซ้ำ
พวกนางยังคงเตือนตัวเองในใจ แม้ว่าฮองเฮาเสียไปแล้ว แต่องค์หญิงก็มิควรที่จะถูกรังแก ฮ่องเต้นั้นรักองค์หญิงน้อยมาก!
หยุนอี่ว์โหรวเห็นกู้โม่หานปกป้องเกี๊ยวน้อยไว้ในอ้อมกอด ดวงตาของนางแทบจะเอ่อล้นไปด้วยความหึงหวงและมิพอใจ
แต่นางก็อดทนไว้ มิได้เอ่ยสิ่งใดออกมา และมิได้ทำสิ่งใดทั้งนั้น มองดูกู้โม่หานว่าเขาจะจัดการเยี่ยงไรต่อไปอย่างเงียบๆ
กู้โม่หานขยับเท้าออกจากหลังมือของเจียงหรูเยว่ ใช้สายตาที่เต็มไปด้วยความรังเกียจมองไปที่รองเท้าที่เลอะฝุ่น เอ่ยอย่างเยือกเย็นว่า“สกปรก”
อวี๋เฟิงหยักหน้ารับคำสั่งทันที“ข้าน้อยจะรีบให้คนไปนำรองเท้าคู่ใหม่มาให้พะยะค่ะ”
เกี๊ยวน้อยอยู่ในอ้อมกอดของกู้โม่หาน และยังถูกเขาปิดตาไว้ แม้ว่าจะมิรู้ว่าเกิดสิ่งใดขึ้น แต่เมื่อได้ยินแล้ว เหมือนกับว่าพ่อที่แย่ได้ช่วยนางจัดการผู้หญิงเลวนั่น
เฮอะ ถึงแม้จะเป็นเช่นนี้ นางก็จะมิยอมให้อภัยเขาง่ายๆ แน่!
นางโมโหแล้ว เฮอะ!
เจียงหรูเยว่นอนสั่นอยู่บนพื้น มองดูมือที่ผิดรูปของตนเอง เสียใจอย่างถึงที่สุดแต่ก็ยังกลัว
บัดนี้กู้โม่หานน่ากลัวเหลือเกิน ผิดกับเมื่อก่อนเหมือนเป็นคนละคน
นางในวันนี้ ยังจะมีชีวิตรอดกลับไปหรือไม่?
ในขณะที่เจียงหรูเยว่ยังคงตกตะลึงนั้น กู้โม่หานจู่ๆ ก็หรี่ตาลง มองไปที่พวกผู้หญิงสวยที่กำลังสั่นเทารอบๆ ตัวเขา
น้ำเสียงที่เย็นชาของเขา เหมือนกับไม้ที่ฟาดลงมาที่หัวของทุกคน“ในเมื่อเจียงไท่ฟู่สั่งสอนลูกสาวตนมิได้ วันนี้ข้าก็จะสั่งสอนนางแทนเอง ลากเจียงหรูเยว่ไป โบยนางร้อยไม้ จากนั้นนำไปขังคุกไว้ และค่อยนำไปให้ศาลต้าหลี่จัดการ!”
“แล้วยังมีหญิงพวกนี้อีก และคนแต่งตัวสวยงาม แต่กลับยืนดูแม่นางนี่และลูกสาวข้าถูกรังแกอย่างเย็นชา นำทุกคนไปโบยสิบไม้ มาจากไหนก็ไสหัวกลับไปทางนั้น เพื่อให้เป็นตัวอย่าง!”
“วันหน้าหากยังมีใครที่กล้าให้หญิงที่เลวร้ายพวกนี้เข้าวัง มิต้องรอให้ข้าบอก ฆ่าได้ทันที!”
“พะยะค่ะ ฮ่องเต้!”อวี๋เฟิงรีบตอบรับทันทีด้วยใบหน้าที่จริงจัง“เข้ามา!”
เมื่อครู่เขาเห็นเจียงหรูเยว่ลบหลู่องค์หญิงอานผิง ก็โกรธเสียจนจะบ้าตาย!
ทุกคนรู้ ฮองเฮาเหนียงเหนียงพึ่งจากไปมินาน ผู้หญิงพวกนี้กล้าที่จะมารังแกองค์หญิงน้อยที่น่าสงสารได้เยี่ยงไร!
สมควรตายจริงๆ!
เมื่อเอ่ยจบ ทุกคนก็ตื่นตระหนกกันหมด
พวกผู้หญิงเหล่านั้นมิได้สนใจการแข่งประชันความงามอีกต่อไป ทุกคนล้วนร้องไห้ออกมาด้วยสีหน้าที่ถอดสี
“ฮ่องเต้ ฮ่องเต้ทรงละโทษ! หม่อมฉัน หม่อมฉันก็เข้าไปแทรกมิได้!”
“ฮ่องเต้ ขอท่านอย่าไล่พวกหม่อมฉันออกจากวังเยี่ยงนี้!”
“ฮ่องเต้…”
ในนั้น เสียงร้องไห้ของเจียงหรูเยว่ดูจะใจสลายเป็นพิเศษ
เดิมทีนางก็โดนเหยียบจนมือบาดเจ็บแล้ว บัดนี้ยังได้ยินว่าจะโดนโบยอีกร้อยไม้ แถมยังต้องเข้าศาลต้าหลี่ ช่างเป็นการเจ็บมิรู้จบเสียจริง น้ำมูกน้ำตาไหลอาบใบหน้า บัดนี้มิเหลือท่าทีของหญิงสาวไปโดยสิ้นเชิง
มิต้องพูดถึงว่านางโดนโบยร้อยไม้แล้วยังจะมีชีวิตรอดหรือไม่ ต่อให้มี เมื่อเข้าไปในศาลต้าหลี่ นางก็ต้องตายอยู่ดี!
ต้องโทษนางสาวใช้นั่น หากว่านางมิได้ยั่วโมโหตน ตนจะตกต่ำถึงเพียงนี้ได้เยี่ยงไร!
“ฮ่องเต้ไว้ชีวิตฮ่องเต้โปรดไว้ชีวิต! หม่อมฉัน หม่อมฉันมิกล้าแล้ว หม่อมฉันมิได้ตั้งใจจะทำให้องค์หญิงใหญ่อานผิงขุ่นเคือง!”
แต่กู้โม่หานมิได้รับฟังเลยสักนิด อวี๋เฟิงนำคนมาพาพวกผู้หญิงนั่นไปรับโทษ และเจียงหรูเยว่ก็ถูกลากไปรับโทษด้วยเช่นกัน
เสียงกรีดร้องของนางยังคงดังมิหยุดหย่อน ดีที่ผ่านไปสักพักเสียงนั้นจึงจะค่อยๆ หายไป
ผู้ที่รังแกลูกของนาง แน่นอนว่าสมควรต้องถูกลงโทษ ด้วยสิ่งที่กู้โม่หานได้ปกป้องลูกสาวนั้น การลงโทษเยี่ยงนี้มิถือว่าหนัก
หนานหว่านเยียนมิได้สนใจเหตุการณ์ยุ่งเหยิงรอบตัวนาง สีหน้ายังคงมิเปลี่ยน
แต่ว่า สิ่งที่นางคิดมิถึงก็คือ กู้โม่หานจะรังเกียจพวกหญิงสาวที่มาเลือกนางสนมจนหมดความอดทนยิ่งนี้…
หยุนอี่ว์โหรวที่อยู่ด้านข้างมิได้รับผลกระทบใดๆ จากเหตุการณ์นี้ ยืนจ้องมองไปโดยมิพูดจา แต่เมื่อดูไปที่สิ่งที่กู้โม่หานทำ กลับดูเหมือนเชือดไก่ให้ลิงดูเสียนั่น
นางกำมือแน่น และเอ่ยด้วยเสียงที่อ่อนโยนว่า“ฮ่องเต้ งานเลี้ยงชมดอกไม้ในวันนี้ เป็นเพราะหม่อมฉันจัดงานได้มิดี เจียงหรูเยว่จึงได้เข้ามาทำความผิดครั้งใหญ่นี้ ขอให้ท่านโปรด…”
หยุนอี่ว์โหรวยังพูดมิทันจบ กู้โม่หานก็เหลือบมองไปทางนาง ดวงตาที่เย็นชานั้น ทำให้หยุนอี่ว์โหรวตกตะลึงจนมิกล้าเอ่ยสิ่งใดอีก
ใบหน้าขาวใสและแสนเย็นชาของเขาเย็นยะเยือกเหมือนฤดูหนาว ตะคอกเสียงดังออกไปว่า“ใครให้เจ้าตัดสินใจเอาเอง ว่าข้าจะเลือกนางสนม?”
“หยุนอี่ว์โหรว เจ้ามีสิทธิ์อันใด มาตัดสินใจแทนข้า?”