ยอดชายากับองค์หนูน้อยแห่งจวนอ๋องอี้ – บทที่ 654 ทำทุกวิถีทาง

ยอดชายากับองค์หนูน้อยแห่งจวนอ๋องอี้

ยากับองค์หนูน้อยแห่งจวนอ๋องอี้ นิยาย บท 654

หลังจากที่กู้โม่หานส่งเกี๊ยวน้อยกลับไปที่ตำหนักบรรทม เปลี่ยนรองเท้าบู๊ทของวังก่อน จากนั้นจึงตรงกลับไปที่ห้องทรงพระอักษร

ในห้องทรงพระอักษร เสิ่นอี่ว์กำลังยืนด้วยความเคารพ สีหน้าค่อนข้างเคร่งขรึม

เขามองกู้โม่หานที่นอนหมอบอยู่บนโต๊ะ ใบหน้าหล่อเหลาสุขุมจริงจัง ดูเหมือนจะปฏิเสธผู้อื่นมาแต่ไกล คิ้วรูปดาบที่หล่อเหลาดูกลัดกลุ้มอย่างไม่ทราบสาเหตุ

เสิ่นอี่ว์เม้มปาก แต่ยังคงก้าวไปข้างหน้าแล้วก้มหัวกล่าวเสียงทุ้มต่ำ “ฝ่าบาท ข้าน้อยเพิ่งเข้าใจเงื่อนไขของแคว้นบางประการ จำเป็นต้องรายงานให้ท่านทราบ”

“ว่ามา” กู้โม่หานสีหน้านิ่งไม่ขยับ พลางกล่าวอย่างใจเย็น

เสิ่นอี่ว์กล่าว “ตอนแรกเมื่อแคว้นเทียนเซิ่งมาแคว้นซีเหย่เพื่อแต่งงานกระชับสัมพันธ์ สินสอดที่ขู่เข็ญเอาคือหวังว่าแคว้นซีเหย่จะสามารถส่งกองกำลังไปโจมตีแคว้นต้าเซี่ย แต่ตอนนี้ท่านได้ระงับเรื่องนี้ไว้ ทำให้แคว้นเทียนเซิ่งโกรธเคือง”

“สายรายงานว่า ฮ่องเต้แห่งแคว้นเทียนเซิ่งอาจจะทำการตอบโต้แคว้นซีเหย่ในเร็วๆ นี้ และดูเหมือนว่าพวกเขากำลังเตรียมที่จะโจมตีต้าเซี่ยเพียงลำพัง”

“ข้าไม่รู้อะไรมากนักเกี่ยวกับสถานการณ์ในแคว้นต้าเซี่ย แต่ดูเหมือนพร้อมที่จะเคลื่อนไหวเช่นกัน ยังไม่ชัดเจนว่าพวกเขาเป็นศัตรูหรือมิตร”

หากเกิดสงครามขึ้นจริงๆ แคว้นซีเหย่จะไม่โดดเดี่ยวอีกต่อไป

กู้โม่หานเพียงเลิกคิ้วขึ้นเล็กน้อย นิ้วเรียวยาวขาวเกลี้ยงเกลาหมุนแหวนนิ้วก้อยเบาๆ ดวงตาส่องประกายลึกล้ำ สีหน้าดูสงบนิ่งไม่แยแส

เขาแสยะยิ้มมุมปาก กระหายเลือดและหยิ่งผยอง มีแผนสูงและโอกาสชนะอยู่มากมาย

“ข้าไม่เคยกลัวสงคราม แต่หากมันเป็นอันตรายต่อราษฎรในแคว้นซีเหย่ของข้า ข้าจะไม่นิ่งเฉยอย่างแน่นอน เจ้าจงไปจัดการ ให้ทางค่ายเสินเชื่อและกองเกราะเสวียนเตรียมพร้อมสำหรับการต่อสู้ รอฟังคำสั่งเคลื่อนพลจากข้าตลอดเวลา”

เสิ่นอี่ว์เลือดร้อนพลุ่งพล่านทันที “พ่ะย่ะค่ะ ข้าน้อยจะไปจัดการเดี๋ยวนี้!”

นี่คือนายท่านที่เขายอมรับ ความรู้สึกรับผิดชอบและหัวใจรักประชาชนเข้ากระดูก มั่นคงไม่เปลี่ยนแปลงเสมอมา

ยิ่งไปกว่านั้น เมื่อแคว้นซีเหย่มีฮ่องเต้ผู้องอาจกล้าหาญเช่นนี้ ทุกพื้นที่ของแคว้นซีเหย่สามารถจัดการกองกำลังอย่างเป็นระเบียบ เผชิญหน้ากับสงครามที่มาถึงได้อย่างสงบ

ต้องกำชัยชนะได้อย่างแน่นอน!

กู้โม่หานผงกศีรษะเล็กน้อย ปิดหนังสือม้วน เอามือยันโต๊ะอย่างเหน็ดเหนื่อย พลางหลับตามลงนวดขมับเบาๆ

แขนเสื้อสีดำเลื่อนลงมา เผยให้เห็นรอยแผลเป็นที่น่าตกใจบนท่อนแขน ทำให้เสิ่นอี่ว์ขมวดคิ้วอย่างช่วยไม่ได้

กู้โม่หานเอ่ยปากถามเสียงเบาตามปกติ “ฮองเฮากับองค์หญิงอานเล่อ…”

เสิ่นอี่ว์สูดหายใจเข้าลึก ๆ ส่ายหน้าอย่างเสียใจ “ทูลฝ่าบาท ยังไม่มีข่าวเหมือนเดิมพ่ะย่ะค่ะ”

จากนั้น เขาก็นึกอะไรออกบางอย่าง พลางขมวดคิ้วและกล่าวเสริมว่า “ฝ่าบาท ได้โปรดเข้าร่วมงานเลี้ยงคืนนี้ด้วย”

“ก่อนหน้านี้ท่านได้ปฏิเสธผู้หญิงทุกคนที่เสด็จย่าทวดส่งมา หากคืนนี้ท่านยังไม่ไปอีก เกรงว่าจะชี้แจงกับเสด็จย่าทวดลำบาก นางอาจจะหาวิธีอื่นที่จะทำให้ท่านเหน็ดเหนื่อยที่จะรับมือมากขึ้น”

เขาก็ไม่รู้ว่ากู้โม่หานคิดอย่างไร แต่เขาก็เข้าใจความคิดของเสด็จย่าทวดเช่นกัน ถึงอย่างไรฮองเฮาเหนียงเหนียงก็เหมือนคนที่ตายแล้ว หากฮ่องเต้ไม่ดึงดันตามหาฮองเฮาเหนียงเหนียง แค่เพียงไม่ยอมรับชายา เสด็จย่าทวดอาจจะก็ไม่กังวลถึงเพียงนั้น คิดว่าฮ่องเต้ต้องการเวลาทำใจสักระยะหนึ่ง

ปัญหาอยู่ที่ฮ่องเต้ไม่รู้สึกว่าฮองเฮาเหนียงเหนียงจากไปแล้ว ต้องการตามหานางรอนางอยู่เสมอ เสด็จย่าทวดจึงอดกังวลไม่ได้…

ดวงตาที่ดำขลับของกู้โม่หานมองออกไปนอกหน้าต่าง ใบหน้าด้านข้างเมื่อต้องแสงอาทิตย์ยามอัสดงนั้นมีเสน่ห์เป็นพิเศษ

ริมฝีปากบางของเขาขยับ เสียงเยือกเย็นดังขึ้น “คืนนี้ข้าจะไป จะได้ใช้โอกาสนี้เตือนพวกที่จ้องเขมือบตำแหน่งวังหลังของข้า ฮองเฮา จะมีเพียงหนึ่งเดียวตลอดไป”

เสิ่นอี่ว์เป็นกังวลเมื่อได้ยินดังนั้น “แต่หากท่านพูดเช่นนี้ เสด็จย่าทวดนางอาจจะ…”

“ข้าไม่อยากทำให้เสด็จย่าโกรธ” ดวงตาที่เย็นชาและลึกล้ำของกู้โม่หานไม่แสดงอารมณ์ใดๆ ใบหน้าขาวบริสุทธิ์ของเขาองอาจผึ่งผายและหล่อเหลา” แต่มือของเสด็จย่าได้ยื่นเข้ามามากแล้ว ข้าแค่หงุดหงิด แต่อานผิงต้องเสียใจ”

“เรื่องตลกนี้ จะจบลงตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป”

“พ่ะย่ะค่ะ” เสิ่นอี่ว์พยักหน้าอย่างเงียบๆ กำลังจะออกไปเตรียมการเรื่องสงคราม แต่ก็ถูกกู้โม่หานเรียกไว้

“ฮ่องเต้ยังมีคำสั่งอะไรอีกหรือ?”

นัยน์ตาของกู้โม่หานเจือความอาฆาตแค้นและพลังอันชั่วร้าย

“เจียงไท่ฟู่ เจ้าส่งคนไปสอบสวนเขาอย่างละเอียด ข้าจะสั่งสอนบทเรียนเขาให้สาสม”

เลี้ยงลูกไม่ดีเป็นความผิดของพ่อแม่ เจียงหรูเยว่กล้าหมิ่นประมาทแม้แต่องค์หญิงใหญ่ ใครกันแน่ที่ทำให้นางกล้าได้ถึงเพียงนี้?

เสิ่นอี่ว์รู้สึกสับสนเล็กน้อย “เจียงไท่ฟู่ผู้อาวุโสสองรัชสมัยได้สั่งสอนอบรมขุนนางน้ำดีไว้มากมาย ขุนนางหนึ่งในห้าอันดับแรกของราชสำนักล้วนเป็นนักเรียนของเขา เหตุใดจู่ๆ ฮ่องเต้ถึงต้องการสอบสวนเขา?”

ริมฝีปากบางของกู้โม่หานเผยรอยยิ้มเยาะ บอกเสิ่นอี่ว์ว่าเกิดอะไรขึ้นในสระบัว

แววตาของเสิ่นอี่ว์เปลี่ยนจากจริงจังเป็นตกใจ สุดท้ายก็เปลี่ยนเป็นความโกรธ

“กล้าดียังไงมาหมิ่นประมาทองค์หญิง! ช่างไม่เจียมตัว!”

เมื่อได้ยินว่าเกี๊ยวน้อยถูกรังแก เสิ่นอี่ว์ก็โกรธหัวฟัดหัวเหวี่ยง เขาก็เลี้ยงเกี๊ยวน้อยมาจนโตเหมือนกัน ในใจทั้งรักและเคารพ

ยิ่งกว่านั้นทั้งในและนอกวัง มีใครบ้างที่ไม่รู้ว่าองค์หญิงน้อยทั้งสองคือแก้วตาดวงใจของฮ่องเต้ ตอนนี้เหลืออยู่เพียงองค์เดียว องค์หญิงใหญ่อานผิงเป็นสมบัติที่ทุกคนในวังอุ้มชู

กล้าดีอย่างไรมาดูหมิ่นองค์หญิงอานผิง! สมควรตาย!

ไม่น่าแปลกใจที่ฮ่องเต้ต้องการสอบสวนเจียงไท่ฟู่อย่างละเอียด ถ้าไม่เชือดไก่ให้ลิงดูสักคน บางคนก็จะรู้สึกว่าชีวิตยังอีกยาวไกล!

เสิ่นอี่ว์มีสีหน้าอาฆาตแค้น โค้งคำนับกู้โม่หานด้วยความเคารพ “ฝ่าบาทโปรดวางใจ ข้าน้อยจะไปสอบสวนเดี๋ยวนี้!”

“อืม”

เสิ่นอี่ว์หันหลังเดินออกจากห้องทรงพระอักษรไปด้วยความโมโห

ท่ามกลางสาส์นกราบทูลเป็นกอง กู้โม่หานหันมองออกไปนอกหน้าต่าง ดวงตาอันลุ่มลึกจับจ้องไปยังพระอาทิตย์ที่กำลังตกดิน นิ้วเรียวยาวขาวเย็นหมุนแหวนนิ้วก้อย

ใบหน้าที่หล่อเหลานั้น ในขณะนี้ดูโดดเดี่ยวและมืดมน แฝงไปด้วยความเย็นชาที่กดอยู่ในส่วนลึก

เขาพึมพำกับตัวเองเบาๆ “หว่านเยียน รีบกลับมานะ…”

หากยังไม่กลับมาอีก เขาจะทำทุกวิถีทางเพื่อบังคับให้นางกลับมา…

ยอดชายากับองค์หนูน้อยแห่งจวนอ๋องอี้

ยอดชายากับองค์หนูน้อยแห่งจวนอ๋องอี้

Status: Ongoing
หนานหว่านเยียน อัจฉริยะแห่งวงการแพทย์ ข้ามภพมาเป็นพระชายาอัปลักษณ์ผู้ถูกทอดทิ้งแห่งจวนอ๋องอี้ แต่ด้วยมันสมองของอัจฉริยะ และความแข็งแกร่งฉบับสาวยุคใหม่ เธอจะพลิกเกมกลับมาแก้แค้นไอ้พวกเศษสวะให้สิ้นซาก!

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท
Close Ads ufanance
Click to Hide Advanced Floating Content สล็อตออนไลน์
Click to Hide Advanced Floating Content สมัคร ufabet
Click to Hide Advanced Floating Content สล็อตฟรีสปิน