ยากับองค์หนูน้อยแห่งจวนอ๋องอี้ นิยาย บท 681
ในตอนแรกนักฆ่ากลุ่มนั้นต้องเป็นคนสำนักอู๋หยิ่ง แต่นางไม่มีความเกี่ยวพันใดๆ กับสำนักอู๋หยิ่ง
หรือว่า… เวลาการลอบสังหารที่ทะเลสาบนั้นมันไม่ธรรมดา ยังปะปนไปสู่กองกำลังอื่นอีกเหรอ?
ส่วนกองกำลังนี้ … นางไม่สามารถสะบัดความสัมพันธ์นี้หลุด
นัยน์ตาอันลึกซึ้งกู้โม่หานเย็นเฉียบ พลันก้มหน้าคอยมองสตรีที่ทำหน้าหวาดหวั่นอยู่ในอ้อมกอดของตนเอง คิ้วโก่งคมเลิกขึ้นอย่างไม่รู้ตัว
จวนเฉิงเซี่ยงไม่ได้มีความสามารถมากมายขนาดนั้น และหนานฉีซานถูกปลดออกจากอำนาจ ก่อนที่เขาจะขึ้นมาครองบัลลังก์
สามารถหนีเตลิดออกจากวังหลวง แถมยังมีกองกำลังลับๆ ที่เขาไม่สามารถตรวจสอบได้ บนตัวของนาง ตกลงว่ายังซ่อนความลับอีกกี่มากน้อย…
นับวันเขามีคำถามมากมายที่ต้องการจะถามนางจริงๆ
หนานหว่านเยียนมองเห็นเฟิงยางกับพวกโดนพวกกลุ่มเสิ่นอี่ว์บังคับให้ถอนกำลังด้วยความพ่ายแพ้ พลันใช้สายตาแสดงความหมายให้พวกเขาออกไปทันควัน
เฟิงยางย่อมรู้วิธีการบีบบังคับจู่โจมแบบนี้มันไม่ได้วิธีดีแน่ กู้โม่หานเตรียมความพร้อมมาก่อนเรียบร้อยแล้ว นางแสดงสัญลักษณ์ทางมือให้กับผู้นำหลายคน พริบตาเดียว เหล่าองครักษ์ลับเข้าใจได้ พลันค่อยๆ ปล่อยความยุ่งเหยิงจากสำนักแชนหยิ่ง และแยกย้ายกันหนี
เสิ่นอี่ว์หน้าถอดสีทันที พลันพูดกับคนที่อยู่รอบข้าง “ตาม!”
“ช้าก่อน” กู้โม่หานปล่อยมือของหนานหว่านเยียนอย่างปกติ “ศัตรูที่อับจนไม่ต้องตาม”
เสิ่นอี่ว์มองมาทางกู้โม่หานอย่างสับสน “แต่ฝ่าบาท….”
กู้โม่หานใช้แววตาดั่งคมมีดจดจ้องทางเขา เสิ่นอี่ว์ยอมทำตามโดยดี พลันดีดนิ้วให้กลุ่มสำนักแชนหยิ่งถอยออกไป
ภายในศาลากลับคืนสู่ความสงบ หนานหว่านเยียนรีบถอยหลังไปสองก้าวเมื่อถูกกู้โม่หานปล่อยตัว หยุนเหิงเห็นเหตุการณ์จึงรีบเข้ามารับ “ไป๋จื่อ เจ้าเป็นอะไรหรือเปล่า มีตรงไหนบาดเจ็บหรือไม่”
หนานหว่านเยียนเม้มริมฝีปากบาง “ข้าไม่เป็นไร แม่ทัพน้อยไม่ต้องกังวลไป”
กู้โม่หานหรี่ดวงตาหงส์ครึ่งหนึ่งคอยจับจ้องลักษณะท่าทางประหม่าของหยุนเหิง เมื่อครู่ไม่ง่ายเลยที่จะโล่งใจ พลันยุ่งเหยิงอีกแล้ว
ส่วนหยุนเหิงจับสัมผัสได้ถึงแววตาอันสยดสยองนี้ ในทางกลับกันหลังได้สติกลับมา พลันนั่งคุกเข่าให้แก่กู้โม่หานด้วยหน้าตาหวั่นสะพรึง “ฝ่าบาท กระหม่อมไร้ความสามารถในการคุ้มกัน คิดไม่ถึงนักฆ่าจะปรากฏตัวในจวนของข้าน้อย จนเกือบทำร้ายการเสด็จมาของฝ่าบาท!”
“ฝ่าบาทประทานอภัยโทษให้กระหม่อมด้วย ข้าน้อยสมควรตาย กับการเลินเล่อเช่นนี้ จนไร้คำพูดให้หลุดพ้นจากความผิด”
กู้โม่หานพิงเก้าอี้ยาวในศาลา ขาเรียวยาวทั้งสองข้างนั่งไขว่ห้าง นิ้วมืออันเย็นและข้อต่อเด่นชัดพลันลูบตรงแหวนที่นิ้วก้อย
“ข้านึกคิดว่าเจ้าดีทุกอย่าง แค่อารมณ์ฉุนเฉียวกับคนจนไร้การยับยั้งชั่งใจ วันนี้ดูเหมือนว่า เมื่อพานพบอันตราย องครักษ์ในจวนของเจ้าก็หงุดหงิดจนทำอะไรไม่ถูกเฉกเช่นเดียวกับเจ้า”
“ทั้งที่สาวงามอยู่ข้างกาย เจ้ากลับไปรักษาไว้ไม่ได้ จึงต้องให้ข้าลงมือด้วยตนเอง”
หนานหว่านเยียน “…”
นางไม่ต้องการให้เขามาคอยคุ้มกัน หากไม่ใช่ร้อยแปดพันเก้าวิธีการในการยับยั้งของเขา นางกับเด็กน้อยสองคนอาจจะจากไปเรียบร้อยแล้ว
หยุนเหิงก้มศีรษะลงตัวสั่นงก เหงื่อเย็นเปียกโชกเต็มแผ่นหลัง
“กระหม่อมผิดไปแล้ว”
กู้โม่หานกลับไร้ท่าทางโกรธเคือง “ข้าไม่ตำหนิเจ้า แค่รู้สึกนิสัยความหงุดหงิดของเจ้า ไม่เหมาะกับหญิงสาวที่ใจร้อน ต้องตบแต่งกับผู้หญิงที่อ่อนโยน ถึงสามารถระงับเจ้าเอาไว้ได้”
“สู้ให้ข้าพระราชทานการแต่งงานให้เจ้า เลือกสถานะทรงเกียรติให้แก่เจ้า สตรีจากตระกูลจิตใจสูงส่ง ต่อแต่นี้จะได้ผูกสมัครรักใคร่ สมัครสมานสามัคคีกับครอบครัวอย่างเจ้า”
หนานหว่านเยียนหัวใจเต้นโครมคราม พลางขมวดคิ้วแล้วมองกู้โม่หานอย่างไม่รู้ตัว
นี่เขาหมายความว่าอะไร อยู่ดีๆ ทำไมถึงอยากจะพระราชทานงานแต่งให้แก่หยุนเหิง?
หยุนเหิงเคร่งเครียดมาก พลันแสดงท่าทางหัวเด็ดตีนขาดไม่ทำตามประสงค์เด็ดขาด
“ไม่พ่ะย่ะค่ะ!”
“ฝ่าบาท กระหม่อมกับไป๋จื่อผูกสมัครรักใคร่ต่อกัน ข้าน้อยตัดสินใจไว้แล้ว ชั่วชีวิตนี้จะแต่งงานกับไป๋จื่อและไม่มีวันทำให้ไป๋จื่อเสียใจเพราะผู้หญิงคนอื่น กระหม่อมบังอาจ ขอฝ่าบาทถอนคำสั่งด้วยพ่ะย่ะค่ะ!”
หนานหว่านเยียนเห็นการแสดงอย่างดีของหยุนเหิง หากไม่ร่วมมือจะรู้สึกมันดูแปลกประหลาด “แม่ทัพน้อย หากไม่ใช่ท่านข้าก็ไม่ออกเรือน”
ดวงตาอันโหดเหี้ยมของกู้โม่หานหม่นหมองลงถนัดตา คิ้วค่อยๆ ทมึงทึงถึงขั้นสยดสยอง “หยุนเหิง หรือเจ้าจะขัดราชโองการ?”
เสิ่นอี่ว์ตะลึงแน่นิ่ง พลางจ้องมองลักษณะท่าทางผิดปกติของกู้โม่หาน แอบตกใจมาก
ฮ่องเต้กำลังหึงจนอิจฉา ขาดเพียงแสดงออกทางสีหน้าเท่านั้นเอง คิดไม่ถึง ฮ่องเต้จะเป็นแบบนี้ เพราะสตรีที่มีหน้าตาละม้ายคล้ายกับฮองเฮาเพียงนิดเดียวถึงเพียงนี้
กระทั่งเขาไม่เข้าใจ ทว่าจำต้องรักษาเกียรติอันน่าเกรงขามของเจ้านายไว้ด้วย
“แม่ทัพน้อยหยุน เวลานี้ฝ่าบาทเอ่ยปากอันทรงเกียรติเพื่อประทานการแต่งงานให้ท่าน นั่นคือบุญคุณใหญ่หลวง ท่านกลับไม่กล่าวขอบพระทัย ยังต่อปากต่อคำอีก นี่ถือว่าเป็นการไม่เคารพอย่างยิ่ง ยังไม่รีบขอประทานอภัยโทษจากฝ่าบาทอีกหรือ?”
หยุนเหิงขมวดคิ้ว ไร้คำพูด
ส่วนหนานหว่านเยียนจ้องมองท่าทางวางอำนาจบาตรใหญ่บีบคั้นคนของกู้โม่หาน จนเกิดความรู้สึกหนาวเหน็บอยู่ในใจชั่วครู่
“ฝ่าบาท เหตุใดต้องทำให้แม่ทัพน้อยลำบากใจด้วย แม่ทัพน้อยไม่มีสิทธิ์เลือกคนที่ตนเองชื่นชอบเลยหรือ?”
กู้โม่หานจ้องมองดวงตาเปล่งประกายของนาง พลางกล่าวแกมอมยิ้ม “เช่นนั้นต้องดูด้วยว่า ใครกันที่เป็นบุคคลที่เขาชื่นชอบแล้วแหละ…”