ยอดชายากับองค์หนูน้อยแห่งจวนอ๋องอี้ – บทที่ 726 หลอกนางอีกแล้ว

ยอดชายากับองค์หนูน้อยแห่งจวนอ๋องอี้

ยากับองค์หนูน้อยแห่งจวนอ๋องอี้ นิยาย บท 726

ค่ำคืนหนึ่งผ่านไป แสงยามรุ่งอรุณทะลุผ่านหน้าต่างสาดส่องเข้ามาในตำหนักบรรทม ตกลงบนใบหน้างดงามอันองอาจผึ่งผายใบนั้นของกู้โม่หานพอดี

ชายหนุ่มค่อยๆ ลืมตาขึ้น มองเห็นหนานหว่านเยียนที่หลับสนิทอยู่ข้างกาย มีความรู้สึกเหมือนฝัน

เมื่อก่อนพอตื่นจากฝันขึ้นมา ข้างกายว่างเปล่ามีเพียงตนเอง ตอนนี้บุคคลอันเป็นที่รักอยู่ตรงหน้าอย่างชัดเจน อยู่บนเตียงของเขา อยู่ในอ้อมอกของเขา

จิตใจของกู้โม่หานอ่อนโยน นิ้วมือเรียวยาวลูบไล้คิ้วและตาของหนานหว่านเยียนอย่างละเอียด มองเห็นแหวนที่สวมบนนิ้วมือของนาง รอยยิ้มในแววตาค่อยๆ เข้มขึ้น

เขาโน้มตัวจูบริมฝีปากของหนานหว่านเยียนเบาๆ สักหน่อย จากนั้นลุกขึ้นอย่างระมัดระวัง เดินไปที่ด้านข้างแล้วอุ้มเกี๊ยวน้อยที่ยังหลับสนิทเข้ามาในอ้อมอก อุ้มกลับมาที่เตียง

เขางอแขนเข้า ให้เกี๊ยวน้อยกับหนานหว่านเยียนหนุนอยู่ในอ้อมแขนของตนเอง ก้มหน้ามองภรรยาและลูกสาวในอ้อมอก ในใจรู้สึกหวานชื่นเต็มเปี่ยม

เขาอดยื่นมือไปลูบปลายจมูกของเกี๊ยวน้อยไม่ได้ ยัยหนูน้อยเหมือนรู้สึกถึงอะไรบางอย่าง ขยับอยู่ในอ้อมอกของเขาอย่างอาลัยอาวรณ์ ราวกับชอบความรู้สึกแบบนี้มาก

นางแอบอิงแนบชิดอยู่ข้างกายของกู้โม่หาน ปากน้อยๆ ยังกำลังพูดจาละเมอ

“อืม……เสด็จพ่อ ข้ายังอยากกินถังหูหลู……ซาลาเปาน้อยเจ้าวิ่งช้าๆ หน่อย อย่า อย่าหกล้มเชียว”

สีหน้าของกู้โม่หานอ่อนโยนลงมาทันใด มองลูกสาวด้วยความรักทะนุถนอมเต็มที่ รู้สึกเพียงว่าในใจอบอุ่น

ถ้าหากซาลาเปาน้อยอยู่ข้างกายเขาด้วยคงจะดี

ถึงตอนนั้น เขากับหว่านเยียนจูงมือกันเดินอยู่ด้านหลัง เกี๊ยวน้อยกับซาลาเปาน้อยเดินจูงมือกันอยู่ข้างหน้า สองพี่น้องกินถังหูหลูอย่างมีความสุข แล้วหันหน้ามาเรียกเขาว่า“ท่านพ่อ”“ท่านพ่อ”

ความคิดค่อยๆ ล่องลอยไปไกล เหมือนว่าเขามองเห็นอีกปีสองปีข้างหน้า หว่านเยียนจะให้กำเนิดองค์ชายสักคนแก่เขา เกี๊ยวน้อยสอนการต่อสู้ให้เขา ส่วนซาลาเปาน้อยสอนตำราเรียนให้เขา

และเมื่อยามว่างเขากับหนานหว่านเยียนก็นั่งชมจันทร์อยู่ในสวน ชมดอกไม้ร่วงอย่างสงบ

ถ้าเมื่อลูกชายเติบโตแล้ว เขาก็จะอบรมลูกชายให้ดี ให้เขาอยู่ต่อไปเพื่อสืบทอดแคว้นของเขา

รอแคว้นซีเหย่มีที่พึ่งแล้ว เขาจะพาลูกสาวสองคนกับหว่านเยียนออกไปเที่ยวชมทัศนียภาพอันงดงาม หลุดพ้นจากความขัดแย้งของสังคมและอำนาจเหล่านี้ แต่ว่าถ้าเป็นอย่างนั้น——จะไม่เป็นธรรมต่อลูกชายอยู่บ้างหรือไม่……

ฉะนั้นเขายังต้องสั่งสอนลูกชายตั้งแต่เด็กว่า เด็กผู้หญิงก็คือมีไว้รักใคร่เอ็นดู ถ้ารอลูกชายเติบโตมีคนที่รักแล้ว จะโง่เขลาเยี่ยงเขานี้ไม่ได้ ที่เกือบทำให้คนที่ชอบหลุดมือไปแล้ว……

หนานหว่านเยียนฝันร้ายฉากหนึ่ง จึงลืมตาขึ้นมากะทันหัน สบสายตาที่เต็มไปด้วยอารมณ์รักคู่นั้นของกู้โม่หานเข้าแล้ว

“ท่าน……” หนานหว่านเยียนเพิ่งอยากเอ่ยปากถามกู้โม่หานว่าทำไมยังไม่ไปอีก ทำไมนางถึงนอนหลับไปแล้ว หางตาเหลือบไปเห็นเกี๊ยวน้อยที่อยู่ในอ้อมอกกู้โม่หานเข้า

เกี๊ยวน้อยหนุนศีรษะอยู่ในอ้อมแขนของชายหนุ่ม บนใบหน้าน้อยๆ ที่อมชมพูดูพึงพอใจมาก

ชั่วขณะนั้น ความโกรธเมื่อสักครู่ก็ถูกความไม่พอใจเข้าแทนที่โดยสิ้นเชิง

นางนึกขึ้นมาได้เช่นกันว่า ตนเองถูกเขาทำให้สลบไป ดังนั้นจึงยิ่งโมโหแล้ว

กู้โม่หานกลับจ้องหนานหว่านเยียนที่เสื้อผ้ายุ่งเหยิงและหลวมอยู่บ้างตรงหน้าไว้ ยังมีรอยจูบสีแดงสดบนคอของนางอีก สายตาเป็นประกาย

“ตื่นแล้ว?”

หนานหว่านเยียนถลึงตาใส่เขาทีหนึ่ง ทำไม้ทำมืออยู่พูดเสียงเบาๆ “เหตุใดท่านยังไม่ไป?”

เขายิ้มนิดหน่อย ลูกตาที่ดำดุจหมึกประหนึ่งเปล่งแสงระยิบระยับ ทันใดนั้นเกิดความคิดหยอกเย้าขึ้นแล้ว เลิกคิ้วแบบเสแสร้งทำเป็นลำบากใจ

“ขยับไม่ได้ เกี๊ยวน้อยหลับลึกเกินไปแล้ว ถ้าเจ้าสะดวก ช่วยอุ้มนางออกไปสิ”

หนานหว่านเยียนจ้องเกี๊ยวน้อย ทันใดนั้นในใจรู้สึกอิจฉาอยู่บ้าง

ตอนนี้ยัยหนูน้อยของตนเองคาดไม่ถึงยังไม่ติดนางแล้ว ทว่าวิ่งไปเบียดกู้โม่หานนอนอย่างใกล้ชิดขนาดนั้น

แต่พอคิดดูดีๆ เมื่อคืนก่อนที่นางจะหลับไป เกี๊ยวน้อยก็ถูกเขาอุ้มออกไปแล้ว ตอนนี้คงต้องไปอุ้มยัยหนูน้อยกลับมาเป็นแน่ จากนั้นจงใจเบียดยัยหนูน้อยใกล้ขนาดนั้น

“ท่านดึงแขนออกเองไม่ได้หรือ?”

เขามองนางอยู่ สายตาดูลึกล้ำ “แขนชาแล้ว”

หนานหว่านเยียนทำเสียงอ่ออย่างเย็นเยือก และไม่อยากคุยกับเขาต่ออีก นอนหลับมาตื่นหนึ่งแล้ว จะถือสาหาความอีกก็ไร้ความหมาย รีบยอมเขาถึงจะถูก

นางโน้มตัวยื่นมือไปอุ้มเกี๊ยวน้อยมา เพิ่งอุ้มเข้ามาในอ้อมอก กู้โม่หานกลับดึงนางเข้ามาในอ้อมอกอย่างรวดเร็วราวกับสายฟ้าแลบ

ก่อนหน้าที่นางยังไม่มีปฏิกิริยากลับมา เขาจูบลงมาที่ริมฝีปากอย่างแรงแล้ว

อ่อนนุ่ม ทั้งยังมีความหวานพอสมควร

มองนางเบิกดวงตาโตอย่างพึงพอใจ เขายกมุมปากขึ้น ถือโอกาสตอนที่หนานหว่านเยียนยังไม่ได้ตอบสนองกลับมาโดยสมบูรณ์หมุนตัวลงจากเตียงอย่างฉับไว

แขนเสื้อเขาสะบัดอยู่กลางอากาศอย่างว่องไว ชั่วขณะนั้นรูปร่างสูงใหญ่ปรากฏให้เห็นอย่างไม่ต้องสงสัย

เขาเอียงศีรษะมองหนานหว่านเยียนที่ตกตะลึงพรึงเพริด ยกริมฝีปากหัวเราะเบาๆ

“ยัยหนูน้อยยังหลับอยู่ ข้าไปก่อนแล้ว รอการประชุมราชการเช้าจบแล้วจะมาหาพวกเจ้าอีกที”

พูดจบ เขาไม่ให้โอกาสหนานหว่านเยียนระบายอารมณ์แต่อย่างใด หมุนตัวเดินออกไปแล้ว

ตอนที่ไป หางตาของกู้โม่หานยังมีรอยยิ้มอันเข้มข้น ท่าทางเหมือนร่าเริงมีชีวิตชีวา

หนานหว่านเยียนตะลึงอยู่บนเตียงในสมองยุ่งเหยิงไปหมด

รอตอนที่นางตอบสนองกลับมา ก็ไม่เห็นร่องรอยของกู้โม่หานแล้ว

ชั่วขณะหนึ่งนางโกรธเคืองอย่างยิ่ง ขุ่นเคืองจนกัดฟันไว้ แต่คำนึงถึงเกี๊ยวน้อยในอ้อมอก จึงยังไม่ระเบิดอารมณ์ออกมา เพียงแค่แอบด่าสักหน่อย “แม่ง! ทะลึ่ง!”

คาดไม่ถึงเขาจะใช้ลูกไม้พวกนี้มาหลอกนางอีก——

ยอดชายากับองค์หนูน้อยแห่งจวนอ๋องอี้

ยอดชายากับองค์หนูน้อยแห่งจวนอ๋องอี้

Status: Ongoing
หนานหว่านเยียน อัจฉริยะแห่งวงการแพทย์ ข้ามภพมาเป็นพระชายาอัปลักษณ์ผู้ถูกทอดทิ้งแห่งจวนอ๋องอี้ แต่ด้วยมันสมองของอัจฉริยะ และความแข็งแกร่งฉบับสาวยุคใหม่ เธอจะพลิกเกมกลับมาแก้แค้นไอ้พวกเศษสวะให้สิ้นซาก!

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท