ยอดชายากับองค์หนูน้อยแห่งจวนอ๋องอี้ – บทที่ 772 เขาจะไม่ยอมปล่อยมือ

ยอดชายากับองค์หนูน้อยแห่งจวนอ๋องอี้

ยากับองค์หนูน้อยแห่งจวนอ๋องอี้ นิยาย บท 772

“แต่โม่หานก็ไม่กล้าโกรธ คิดเอาเองว่าเป็นเพราะกู้จิ่งซานคิดว่าเขาอุตสาหะไม่พอ คิดว่าเขาโง่เกินไป จึงดูถูกเขา”

“หมัวมัวบอกว่า ตั้งแต่นั้นมา โม่หานไม่เคยแสดงออกอะไรง่ายๆ แค่ทุ่มเทอยู่เบื้องหลังผู้อื่นอย่างเงียบๆ เก็บซ่อนและข่มอารมณ์ทั้งหมดไว้ ส่วนข้าในฐานะแม่ กลับได้แต่นอนเป็นคนผัก ไม่สามารถปลอบโยนและปกป้องลูกของข้าได้ คนอื่นมีแม่ที่รักและปกป้อง แค่เขาเท่านั้น มีก็เหมือนไม่มี…”

หนานหว่านเยียนฟังคำพูดที่ซาบซึ้งของเท่เฟย พลางขมวดคิ้วโดยไม่ได้ตั้งใจ

นางสัมผัสความรู้สึกนั้นได้ เหมือนตอนที่นางยังเด็ก ถูกคนอื่นดูหมิ่นดูแคลน รู้สึกโดดเดี่ยวไร้แรงสนับสนุน มันก็เข้าใจได้ ในฐานะแม่คนหนึ่ง มันเจ็บปวดเพียงใดที่ได้ยินข่าวเช่นนี้

แต่หนานหว่านเยียนก็ไม่รู้ว่าควรพูดอย่างไร ทำได้เพียงลูบหลังของเท่เฟยอย่างเงียบๆ

เท่เฟยส่ายหน้า แล้วหันไปจับมือของหนานหว่านเยียน พลางลูบไล้หลังมือเบาๆ น้ำตาคลอเบ้า

“เอาล่ะสะใภ้ของข้า โม่หานมีข้อบกพร่องทางอารมณ์จริงๆ ทั้งหมดเกิดจากผลกระทบจากครอบครัวเดิมของเขา ข้ากับกู้จิ่งซาน ติดหนี้เขามากเหลือเกินจริงๆ”

“แต่การที่ได้เกื้อกูลกันมานาน ข้าเชื่อว่าเจ้าก็มองเห็นแล้ว ยังมีคนชื่นชมและสนับสนุนคอยติดตามอยู่เคียงข้างเขามากมาย”

ทั้งหมดนี้เป็นผลมาจากการปฏิบัติต่อผู้อื่นอย่างจริงใจของโม่หาน ถึงได้ผลลัพธ์เช่นนี้มา เพราะทุ่มเทด้วยใจจริง ทุกคนจึงยินดีติดตามเขาเสมอ”

“ทำตัวเป็นสุภาพบุรุษ เขาก็ไม่เลวนะ และข้าก็เห็นว่าตอนนี้เขากลับเนื้อกลับตัวแล้วจริงๆ เขารักเจ้าหัวปักหัวปำ ทำดีกับลูก มีความรับผิดชอบ ต่อไปจะเป็นสามีที่ดีมากในอนาคต คำว่าพ่อ สำหรับเจ้าถือว่าเป็นคนดีแล้ว เจ้าว่าไหม?”

เท่เฟยพูดจบ ก็จ้องเขม็งไปที่หนานหว่านเยียนเพื่อรอคำตอบของนาง

ถึงอย่างไรลูกสะใภ้ที่ดีเช่นนี้ ซ้ำยังตั้งครรภ์อีก นางบอกว่าไม่ต้องการอยู่ต่อ ต้องไม่ใช่เรื่องจริงแน่ ส่วนตัวนางแล้ว นางยังคงหวังว่าหนานหว่านเยียนจะให้โอกาสกู้โม่หานอีกครั้ง

ลูกชายปากเสียเกินไป แน่นอนว่าในฐานะแม่ นางต้องช่วยเหลือสักหน่อย

หนานหว่านเยียนตกตะลึง มองเท่เฟยที่แววตาเป็นประกาย แต่กลับพูดอย่างหนักแน่น

“เสด็จแม่ ข้าเข้าใจว่าท่านหมายถึงอะไร แต่ท่านก็รู้ว่ามีรอยร้าวระหว่างกู้โม่หานกับข้า และรอยร้าวก็กว้างขึ้นเรื่อยๆ หากยังบังคับฝืนใจอีก ก็มีแต่จะทิ้งร่องรอยเป็นหลุมเป็นบ่อเอาไว้”

“ตอนนี้ข้าไม่สามารถเกลี้ยกล่อมตัวเองให้ปล่อยวางอดีตและฝืนอยู่ด้วยกันได้อีก ข้าเกรงว่าข้าจะแสดงออกได้ไม่ดี ดังนั้นควรปล่อยมือให้เร็วที่สุดจะดีกว่า สิ่งนี้จะเป็นผลดีต่อเขาและข้า”

เท่เฟยเห็นท่าทางเด็ดเดี่ยวของนางก็พูดไม่ออกกะทันหัน สุดท้ายก็ยิ้มกล่าวว่า “ข้าเข้าใจแล้ว คำพูดเมื่อครู่ เจ้าก็ถือว่าเป็นคำบ่นของแม่ก็แล้วกัน ยังไงข้าก็หวังว่าเจ้ากับลูกๆ จะใช้ชีวิตอย่างมีความสุขได้ในอนาคต”

แต่นางก็รู้สึกไม่สบายใจอยู่ลึกๆ โม่หาน เจ้าเด็กคนนั้นพูดอะไรก็ง่าย รักและปกป้องหว่านเยียนได้ แต่เมื่อพูดว่าต้องปล่อยนางไป เกรงว่าเขาจะไม่ยอมแพ้ง่ายๆ

นอกจากนี้เขายังสามารถยืนหยัดอยู่ในแคว้นนี้ได้อย่างมั่นคง หากจะบอกว่าเขาไม่มีแผนการ ทำอะไรอย่างเปิดเผย นางผู้เป็นแม่ไม่เชื่อแล้วหนึ่งคน

แค่หวังว่าตัวเขาเองจะปล่อยวางลงได้ ไม่เช่นนั้น…ก็ปวดหัวแน่

หนานหว่านเยียนพยักหน้า “ขอบพระทัยเสด็จแม่ พวกข้าต้องทำได้”

เท่เฟยไม่อยากคิดอะไรมากอีก จึงคว้าห่อของที่นางนำมาด้วย เปิดมันอย่างคล่องแคล่ว

“เอาล่ะ เอาล่ะ เจ้าตั้งครรภ์ อาจจะมีอารมณ์แปรปรวนในระหว่างตั้งครรภ์ได้ง่าย ข้ายังฟังออกจากที่เจ้าพูดมามากมายได้บ้าง”

นางผลักยาบำรุงครรภ์ไปตรงหน้าหนานหว่านเยียน “พวกนี้น่ะ ข้าเป็นคนหามาเอง เป็นยาบำรุงครรภ์คุณภาพดี”

“แม้ว่าเจ้าจะมีทักษะทางการแพทย์ที่ยอดเยี่ยม แต่การตั้งครรภ์ก็ยังเป็นเรื่องที่ประมาทไม่ได้ อีกไม่กี่วันเจ้าจะกลับแคว้นต้าเซี่ยแล้ว ระยะทางยาวไกล เจ้าต้องทรมานมากแน่ๆ เอาของพวกนี้ไปด้วย ระหว่างทางกลับจะได้กันไว้ดีกว่าแก้”

หนานหว่านเยียนมองไปชุดยาจีนโบราณและของบำรุงที่กองหนาแน่นตรงหน้า ดวงตาร้อนผ่าวขึ้นมาทันที

นางอดไม่ได้ที่จะเอื้อมมือไปกอดเท่เฟย น้ำเสียงแผ่วเบา เต็มไปด้วยความซาบซึ้งที่นางมีต่อบุคคลตรงหน้า “ขอบพระทัยเสด็จแม่ ข้าขอโทษจริงๆ”

ในช่วงเวลาและสถานที่เช่นนี้ การที่มีคนคนหนึ่งนึกถึงตัวเองเป็นเรื่องน่ายินดีจริงๆ

เท่เฟยถึงกับชะงักงัน ไม่นานสายตาก็อ่อนโยนลง พลางยกมือขึ้นตบหลังของ หนานหว่านเยียนเบาๆ ราวกับกำลังปลอบเด็ก “เด็กโง่ ความจริงแล้วเจ้ากับโม่หานก็ยังเป็นเด็กทั้งคู่”

“ในหัวใจของข้า พวกเจ้าล้วนต้องการความรัก ต้องการลูก แต่น่าเสียดาย คนสองคนที่เป็นหวัดอยู่ด้วยกัน มีแต่จะแพร่เชื้อให้กันและกัน ยิ่งแย่ลงเรื่อยๆ ตอนนี้ได้แต่รอให้ต่างคนหายเป็นปกติ ไม่จำเป็นต้องรู้สึกผิดกับใคร”

เท่เฟยบอกให้ดูแลตัวเองดีๆ แล้วจึงจากไป

หนานหว่านเยียนนั่งอยู่คนเดียวในตำหนักใหญ่ สงบอารมณ์อยู่เป็นเวลานาน

นางไม่สามารถบอกได้ว่าความรู้สึกเศร้าโศกที่อธิบายไม่ได้นั้นมาจากไหน แต่รู้สึกราวกับว่ามีใครมาขุดชิ้นส่วนภายในหัวใจ ทั้งว่างเปล่าและอึดอัด

แต่หนานหว่านเยียนไม่ได้คิดอะไรมาก ขณะที่กำลังจะลุกขึ้นกลับไปที่ตำหนักบรรทมเพื่อพักผ่อน เฟิงยางก็ผลักประตูเข้ามา

“จวิ้นจู่… “เฟิงหยางเม้มปากมองหนานหว่านเยียนที่มีสีหน้าไม่สู้ดีนัก แววตาฉายความกังวล “ใกล้ถึงเวลาอาหารกลางวันแล้ว ท่านต้องการพักผ่อนไหม ยังต้องการให้คนไปเรียกอานผิงจวิ้นจู่ไหม?”

หนานหว่านเยียนฉีกยิ้มออกมา ไม่อยากให้เฟิงยางกังวลมากเกินไป “ข้าเหนื่อยนิดหน่อย อยากนอนสักพัก พวกเจ้าไปเรียกเกี๊ยวน้อยให้ขึ้นมารับประทานอาหารกลางวันเถอะ”

พูดตามตรง นางไม่ค่อยอยากอาหารเท่าไหร่

เฟิงยางพยักหน้ารับคำ ขยับริมฝีปาก เหมือนลังเลที่จะพูด

หนานหว่านเยียนเห็นดังนั้นก็ถามตรงๆ ว่า “เป็นอะไรไป มีเรื่องอื่นอีกหรือ?”

สุดท้ายเฟิงยางก็อดพูดไม่ได้ “ความจริง บ่าวมีเรื่องจะรายงาน…”

ยอดชายากับองค์หนูน้อยแห่งจวนอ๋องอี้

ยอดชายากับองค์หนูน้อยแห่งจวนอ๋องอี้

Status: Ongoing
หนานหว่านเยียน อัจฉริยะแห่งวงการแพทย์ ข้ามภพมาเป็นพระชายาอัปลักษณ์ผู้ถูกทอดทิ้งแห่งจวนอ๋องอี้ แต่ด้วยมันสมองของอัจฉริยะ และความแข็งแกร่งฉบับสาวยุคใหม่ เธอจะพลิกเกมกลับมาแก้แค้นไอ้พวกเศษสวะให้สิ้นซาก!

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท