ยอดชายากับองค์หนูน้อยแห่งจวนอ๋องอี้ – บทที่ 774 เจ้าคือฮองเฮาของข้า

ยอดชายากับองค์หนูน้อยแห่งจวนอ๋องอี้

ยากับองค์หนูน้อยแห่งจวนอ๋องอี้ นิยาย บท 774

“ท่านต้องการลงโทษหมอหลวงเจียงจริงหรือ?!”

ผ้าไหมสีเขียวเลื่อนลงมาตามหัวไหล่พร้อมกับการเคลื่อนไหวของนาง นำพากลิ่นหอมจางๆ ที่ดูเหมือนจะไม่มีอยู่จริง

กู้โม่หานเงยหน้าขึ้น ใบหน้าที่บอบบางของหนานหว่านเยียนอยู่ในสายตาของเขา แต่กลับไม่มีความประหลาดใจที่คาดไม่ถึง คล้ายรอคอยมานานแสนนานมากกว่า

ภายในตำหนักมีเพียงพวกเขา สาวใช้และขันทีคนอื่นๆ ไม่ได้รับอนุญาตให้เข้าไปข้างใน เขายืนขึ้น ประคองแขนของหนานหว่านเยียนเบาๆ “มีอะไรพูดก็นั่งก่อน เจ้ากำลังท้อง ทำอะไรอย่ารีบร้อนเกินไป”

หนานหว่านเยียนขมวดคิ้ว พลางสะบัดมือเขาออกด้วยความไม่พอใจ นางยืนตัวตรง ข่มความโกรธตรงหว่างคิ้ว พยายามไม่ให้อารมณ์ตัวเองตื่นเต้นเกินไป

“อย่านอกเรื่องกับข้า ตอนนี้ข้าถามท่าน การลงโทษหมอหลวงเจียงมันเรื่องอะไรกัน?”

ในขณะที่นางก้าวเข้าสู่ห้องทรงพระอักษร จู่ๆ นางก็รู้สึกเสียใจขึ้นมา

โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อนางเห็นการแสดงออกของกู้โม่หานที่ดูไม่แปลกใจเลย นางคิดว่าเขาอาจจงใจ…

เขากำลังบังคับให้นางมา

กู้โม่หานมองไปที่ฝ่ามือที่ว่างเปล่าด้วยความผิดหวัง เขากำมือแน่น นัยน์ตาเล็กเรียวจับจ้องใบหน้างดงามจับจิตตรงหน้าครู่หนึ่ง

กู้โม่หานโน้มตัวเข้าไปใกล้นาง พลางถามเบาๆ “ทำไมล่ะ เจ้าต้องการขอความเมตตาให้เขาหรือ?”

ลมหายใจอุ่นๆ ของชายหนุ่มส่งมาจากติ่งหู จนหนานหว่านเยียนรู้สึกจักจี้ นางขมวดคิ้ว แววตาเต็มไปด้วยการต่อต้าน เบี่ยงหันตัวไปทางด้านข้าง เพื่อหลีกเลี่ยงเจตนาใกล้ชิดของกู้โม่หาน

จากนั้นนางก็มองไปที่กู้โม่หานด้วยแววตาเย็นชา ตอบกลับด้วยน้ำเสียงที่ทรงพลัง “หมอหลวงเจียงไม่รู้ว่าข้าท้อง ตอนแรกข้าไม่ได้ให้เขาตรวจ แถมยังข่มขู่เขาข้าขอรับผิดชอบทั้งหมด เขาอายุมากแล้ว ทนการโบยหลายสิบไม้ไม่ได้หรอก นับประสาอะไรกับการถูกเนรเทศ คงรอดตายแบบหวุดหวิดแน่”

“ถ้าท่านอยากลงโทษก็ลงโทษข้า เขาเป็นเพียงคนน่าสงสารที่ถูกข้าข่มขู่

กู้โม่หานมอความเหินห่างโดยเจตนาของหนานหว่านเยียน คิ้วรูปดาบขมวดเล็กน้อย

เขาเม้มริมฝีปากล่าง น้ำเสียงเด็ดขาด “ไม่ว่าเจ้าจะข่มขู่เขาหรือไม่ก็ตาม เขาเป็นคนของข้า หลอกลวงข้า กระทำความผิดฐานหลอกลวงฮ่องเต้”

“เจ้าควรรู้ว่า การหลอกลวงฮ่องเต้เป็นความผิดร้ายแรงมีโทษประหารเก้าชั่วโคตรไม่มีละเว้น หมอหลวงเจียงไม่ได้ตรวจชีพจรให้เจ้า แต่โกหกว่าทุกอย่างเป็นปกติ แค่ลงโทษโบยเขา เนรเทศเขาออกจากเมืองหลวง หว่านเยียน ถือว่าข้าเมตตาพอแล้ว”

หนานหว่านเยียนกำหมัดแน่น เกร็งใบหน้าสวยงาม “กู้โม่หาน ท่านอย่าคิดจะขู่ข้า แม้ว่าหมอหลวงเจียงจะโป้ปดฮ่องเต้ นั่นก็เพราะถูกข้าบังคับ ไม่ใช่ความเต็มใจของเขา”

“ท่านจงใจลงโทษรุนแรง ก็เพื่อต้องการความเห็นของข้ามิใช่หรือ? คำพูดของข้าอยู่ตรงนี้แล้ว ผลลัพธ์ทั้งหมดเกิดจากข้า ข้ายินดีรับผิดชอบทั้งหมด ท่านปล่อยเขาไปเถอะ”

กู้โม่หานมองไปที่หนานหว่านเยียนด้วยสีหน้าที่รู้ทุกอย่าง ขนตาดำขลับลู่ลงเล็กน้อย ดวงตาดุจหงส์ที่ซ่อนอยู่ใต้ขนตาฉายประกายมืดมน

แน่นอน ตั้งแต่ที่เขาสั่งลงโทษหนักหมอหลวงเจียง เขาก็คาดเดาได้ว่า ขอเพียงนางได้รู้ข่าว จะต้องมาพบเขาแน่นอน

นี่เป็นกลอุบายเล็กๆ น้อยๆ ที่เขาใช้ เขายอมรับว่าเขาร้าย แต่ถ้าไม่ทำเช่นนี้ เขาคงไม่มีโอกาสเข้าใกล้นาง

ไม่มีโอกาสเข้าใกล้จะคืนดีกันเหมือนเดิมได้อย่างไร

ยิ่งกว่านั้น หมอหลวงเจียงก็สมควรถูกลงโทษ

เขาหยุดเสแสร้ง เม้มริมฝีปาก ทัดปลายผมตรงหน้าผากของนางไปไว้หลังใบหู น้ำเสียงทุ้มต่ำแฝงความเย้ายวนผู้คน

“เจ้าคือฮองเฮาของข้า ในเมื่อเจ้าต้องการปกป้องหมอหลวงจริงๆ ไหนจะขอร้องข้าแล้ว ข้าย่อมตอบสนองเจ้า ไม่จำเป็นต้องรับผิดชอบทั้งหมดคนเดียว เจ้าก็รู้ว่าข้าทำอะไรเจ้าไม่ได้ ใช่ไหม?”

เพียงคำพูดอันแผ่วเบาของเขา มีความหมายว่าได้ปล่อยหมอหลวงเจียงแล้ว

ดูเหมือนไม่สำคัญว่าหมอหลวงเจียงจะถูกลงโทษหนักหรือไม่ เขาแค่ต้องการให้นางมาอ้อนวอนเขา แล้วค่อยแต่งตั้งนางขึ้นเป็นฮองเฮาอย่างเปิดเผย

หนานหว่านเยียนมองชายใบหน้าขาวบริสุทธิ์ที่อยู่ตรงหน้า หัวใจเกิดอาการสั่นไหว

เพราะนางจำได้ทันทีว่า หมอหลวงเจียงถูกลงโทษหนักในวันที่เกิดเรื่องแล้ว ตอนนั้นนางโกรธเขาจนแทบคลั่ง เขาก็โกรธมากเช่นกัน แต่ในสถานการณ์เช่นนี้ เขายังสามารถคิดหาวิธีปูทางสำหรับอนาคต บังคับให้นางมาพบเขาในตอนนี้ได้

ในแง่ของความสัมพันธ์ ดูเหมือนเขาจะเป็นฝ่ายถูกกระทำ แต่ฝ่ายถูกกระทำ ดูเหมือนว่า…จะมีเพียงนางผู้เดียวเสมอ นางถึงกับเกิดภาพหลอน แม้ว่านางจะไม่ชอบเขาอีกแล้ว จนถึงขนาดอยากจะหนีไป เขาก็ยังเป็นผู้ควบคุมทิศทาง

สีหน้าของหนานหว่านเยียนดูแปลกๆ ริมฝีปากแดงเม้มแน่น “ข้าไม่สนหรอกว่าท่านจะพูดอะไร ไม่ลงโทษข้าก็เป็นเรื่องของท่าน ถ้าท่านตอบตกลงแล้วก็ต้องรักษาคำพูด อย่าทำร้ายหมอหลวงเจียง ข้าขอตัวก่อน”

“ช้าก่อน…” เสียงดังขึ้น แต่กู้โม่หานก็จับข้อมือขาวเรียวของหนานหว่านเยียนไว้แน่น

ฝ่ามือที่ร้อนผ่าวของเขาออกแรงเล็กน้อย มืออีกข้างโอบรอบเอวของนางอย่างที่ควรจะเป็น เขามองไปที่คอเรียวขาวผุดผ่องของนาง ร่างอันอวบอิ่ม พูดด้วยน้ำเสียงแหบแห้ง “ข้ายังพูดไม่จบ เจ้าอย่าเพิ่งรีบออกไป”

ต้องโทษกู้โม่เฟิงที่พูดจาเหลวไหล ไม่เช่นนั้น…เขาจะสามารถปกปิดความคิดของเขาได้เป็นอย่างดี

หนานหว่านเยียนมองเห็นสายตาของเขากวาดผ่านตัวนางทีละน้อย นางก็ไม่ใช่เด็กสาวที่ไร้เดียงสาเช่นกัน มีบางอย่างซ่อนอยู่ในสายตาของเขา ถึงอย่างไรนางก็เข้าใจได้ รู้สึกหงุดหงิดเล็กน้อย อดดิ้นรนไม่ได้

“มีอะไรก็รีบพูดมา ข้าไม่มีเวลาฟังเรื่องเล็กๆ น้อยๆ ของท่าน อีกอย่าง ปล่อยมือก่อน”

กู้โม่หานไม่ยอมปล่อยมือ กลับกอดแน่นขึ้นแทน “เป็นเรื่องปกติที่คู่รักจะโอบกอดกัน ข้าสัญญากับเจ้าว่าจะปล่อยหมอหลวงเจียงไป แต่มีเงื่อนไข”

จู่ๆ กำปั้นของหนานหว่านเยียนก็กำแน่น สายตาราวกับมีดที่กำลังกะซวกกู้โม่หาน

“ท่านยังมีเงื่อนไขอีกหรือ? ท่านต้องการอะไร?”

ยอดชายากับองค์หนูน้อยแห่งจวนอ๋องอี้

ยอดชายากับองค์หนูน้อยแห่งจวนอ๋องอี้

Status: Ongoing
หนานหว่านเยียน อัจฉริยะแห่งวงการแพทย์ ข้ามภพมาเป็นพระชายาอัปลักษณ์ผู้ถูกทอดทิ้งแห่งจวนอ๋องอี้ แต่ด้วยมันสมองของอัจฉริยะ และความแข็งแกร่งฉบับสาวยุคใหม่ เธอจะพลิกเกมกลับมาแก้แค้นไอ้พวกเศษสวะให้สิ้นซาก!

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท