ยากับองค์หนูน้อยแห่งจวนอ๋องอี้ นิยาย บท 798
“หากท่านรู้ตัวแล้วก็รีบไสหัวออกไปได้แล้ว อย่ามาขวางยามพักผ่อนของข้าเลย”
สีหน้าของกู้โม่หานพลันเปลี่ยนไปทันใด เห็นนางกำลังเดินออกไป เขาก็เคลื่อนมือไปโอบเอวของนางไว้อย่างไม่รอช้า แผงอกอุ่นแนบชิดกับแผ่นหลังของนาง
“หว่านเยียน ข้าเคยพูดไปแล้ว เรื่องของหยุนอี่ว์โหรวไม่นานความจริงต้องปรากฏแน่”
“ข้าสั่งให้เสิ่นอี่ว์ไปสืบความจริงเรื่องเมื่อคืนนั้นอย่างละเอียดแล้ว ข้าไม่เชื่อว่าตนเองเคยสัมผัสแตะตัวนาง บัดนี้เพิ่งผ่านไปเพียงสองวัน หากเจ้าให้เวลาข้าอีกสักหน่อย ข้าสัญญาว่าจะกอบความจริงทั้งหมดด้วยสองมือมามอบให้เจ้า”
“เจ้าอย่าผลักไสข้าออกไปอีกได้หรือไม่ เจ้าและข้าต่างเป็นสามีภรรยา ควรจะได้ใช้ชีวิตร่วมกันไปจนวันสุดท้าย อยู่เคียงข้างกันไปชั่วชีวิตมิใช่หรือ”
หนานหว่านเยียนเหนื่อยหน่ายกับข้อแก้ตัวของเขาเต็มทีแล้ว วันพรุ่งนี้คนจากแคว้นต้าเซี่ยก็จะเข้าวังแล้ว นางจะได้เดินทางจากที่แห่งนี้ไปในวันพรุ่งนี้แล้ว คืนนี้ก็แค่อยากจะพักผ่อนให้เต็มที่ก็เท่านั้น “ข้าไม่อยากฟังแล้ว ปล่อย!”
กู้โม่หานได้ยินเสียงเยียบเย็นของนาง แววตาก็แข็งไปทันที ริมฝีปากเม้มจนกลายเป็นเส้นตรงเส้นหนึ่ง ตึงแน่นจนดูราวว่าหากมีบางอย่างมากระแทกก็พร้อมแตกได้ทันที
ฉับพลันทันใดนั้น เขาช้อนเอวของหนานหว่านเยียนและอุ้มขึ้นมา เดินตรงไปยังเตียงนอน
หนานหว่านเยียนเห็นสถานการณ์ นัยน์ตาพลันสะท้อนประกายตื่นตระหนกวูบไหวขึ้นมา ความรู้สึกไม่ปลอดภัยและประหม่าพลันถาโถมขึ้นมาในใจ ทุบตีหน้าอกของกู้โม่หาน “กู้โม่หานเจ้าทำบ้าอะไร?!”
“ปล่อยข้าลงเดี๋ยวนี้เลยนะ!”
กู้โม่หานเฉยเมยราวกับไม่ได้ยิน อุ้มนางวางบนเตียง ก่อนจะกดนางไว้เบื้องล่าง นัยน์ตาลุ่มลึกดำขลับคู่นั้นจ้องมองดวงหน้าหนานหว่านเยียนไม่กะพริบ อดใจไม่ไหวใช้มือทั้งสองข้างลูบดวงหน้าและปรางแก้มของนางอย่างแผ่วเบา
หนานหว่านเยียนครั้นเห็นความรักและจริงใจสะท้อนในแววตาของเขา ก็สะดุ้งตกใจอย่างอดไม่ได้ หัวใจพลันรู้สึกเบาหวิวขึ้นมา ใช้แรงดีดดิ้นสะบัดตัวหนี “กู้โม่หาน! ปล่อยข้านะ!”
เขากดนางลงอย่างง่ายดาย ออกแรงบังคับให้นางสอดสิบนิ้วประสานมือกับเขา ก่อนจะตะโบมจูบบนลำคอเนียนระหงของหนานหว่านเยียนอย่างอาวรณ์ มิวายในปาก ยังครางเสียงต่ำเรียกนางอย่างไม่รู้หน่าย “หว่านเยียน หว่านเยียน…”
หนานหว่านเยียนหลบไม่พ้นแล้ว ได้แต่กัดริมฝีแน่น ใบหน้าปรากฏความอึดอัดชัดเจน
ความจริงสตรีที่กำลังตั้งครรภ์อ่อนไหวกับเรื่องเหล่านี้มากเป็นพิเศษ พูดแบบไม่เกินความจริง ความต้องการเรื่องเหล่านี้รุนแรงชัดเจนกว่าบุรุษหลายเท่านัก
แต่นางไม่เคยคิดมาก่อน ว่าตนเองจะมิได้อยู่ในข้อยกเว้น
ทว่าสิ่งนี้คือความต้องการทางกายภาพโดยทั่วไปของมนุษย์ นางมีวิชาการแพทย์ไม่จำเป็นต้องเขินอาย เพียงแต่ในยามนี้นางจะยอมให้ตนเองได้กับกู้โม่หานไม่ได้…
หนานหว่านเยียนหน้าแดงก่ำ คิดว่าน้ำเสียงจะเยียบเย็นกว่าถ้ำน้ำแข็ง แต่ความจริงกลับไม่รู้สึกตัวเลยว่าเสียงที่เปล่งออกมาจะนุ่มนวลยั่วเย้าหาใดเปรียบได้เพียงนี้
“กู้โม่หาน เจ้ายังเป็นคนอยู่หรือเปล่า ข้ากำลังตั้งครรภ์อยู่นะ! เจ้าหัดคิดบ้างเถิด ส่วนใหญ่ในวังหลวงล้วนเป็นสตรีที่ปรารถนาจะคลายปัญหาให้เจ้าทั้งสิ้น!”
แววตาของกู้โม่หานเยียบเย็นลุ่มลึก ดวงตานั้นดุดันอันตรายดุจตะขอ นัยน์ตาวาวโรจน์และแดงฉาน ฝ่ามือร้อนระอุนั้นราวกับจะแผดเผาให้หนานหว่านเยียนหลอมละลาย
กลิ่นกายหอมรัญจวนของนางยังอบอวลอยู่ข้างริมฝีปาก เขาแลบลิ้นเลียตามสัญชาตญาณ ภายใต้แสงจันทร์กระจ่างนัยน์ตาสีดำขลับของเขา งดงามจนใจหาย ลุ่มลึกดึงดูดราวกระแสน้ำวนทรงพลัง
“ข้าไม่ต้องการใครทั้งสิ้น ยกเว้นเจ้า! หว่านเยียน เจ้าเป็นภรรยาของข้าอย่างถูกต้องตามกฎหมาย ส่งเกี้ยวแปดคนหามไปรับเจ้าเข้าเรือนอย่างสมเกียรติแล้ว เจ้าไม่ต้องมาขู่ข้า และไม่ต้องมาผลักไสข้าออกไปเช่นนี้ ข้าทราบดี เจ้าในยามนี้ สามารถทำเรื่องเหล่านั้นกับข้าได้”
“ยิ่งไปกว่านั้น เจ้าเองก็รู้สึกเหมือนกันมิใช่หรือ…”
การตอบสนองเมื่อครู่ของหนานหว่านเยียน อยู่ในสายตาของเขาทั้งสิ้น เสี้ยวขณะนี้เขาเห็นตรงกับคำพูดที่กู้โม่เฟิงพยายามโน้มน้าวเขาแล้ว
ไม่ว่ากรณีใด นางชิงชังรังเกียจเขาอย่างสุดชีวิต ไม่เคยต้องการเขา ต่อให้เขาจะฝากฝังดวงใจไว้ที่นาง นางก็ยังรังเกียจเดียดฉันท์เขา เช่นนั้นแล้วมีเหตุผลใดที่เขาจะไม่ลองเลือกเดินเส้นทางอื่นดู ไม่แน่อาจสำเร็จก็เป็นไปได้…
ในแววตาของหนานหว่านเยียนสะท้อนประกายประหวั่นพรั่นพรึงออกมา แน่นอนว่า นางเพิ่งตั้งครรภ์ได้เดือนที่สามเข้าเดือนที่สี่ เรื่องอย่างว่าพอจะกล้อมแกล้มทำได้…
ทว่านางไม่มีวันยอมให้เป็นเช่นนั้นเด็ดขาด กัดฟันแน่นก็โต้แย้งกลับไปว่า “เหลวไหล! ข้าไม่รู้สึกอะไรกับเจ้าทั้งสิ้น! ข้าจะพูดอีกแค่คำเดียว หากเจ้ายังไม่ออกไป ตราบสิ้นชีวิตนี้ข้า…”
ทว่ากู้โม่หานพลันอุดริมฝีปากของนางไว้ ไม่ยอมให้นางเอื้อนเอ่ยคำใดออกมา น้ำเสียงแหบพร่าทุ้มต่ำเต็มด้วยอารมณ์ยั่วเย้าดึงดูด “อย่าอวดดีนักเลย”
เขาลูบแก้มสองข้างของหนานหว่านเยียน อารมณ์ลึกซึ้งในแววตามิได้ซ่อนเร้นแม้แต่น้อย
“เจ้าทราบหรือไม่สำหรับบุรุษคนหนึ่ง ที่อดอยากและกระหายมานานเพียงนี้ จะได้กลิ่นอะไร?”
แววตาของนางนิ่งค้างไป คล้ายกับเดาออกว่าเขาคิดจะทำอะไร ก็จ้องกู้โม่หานในความมืดมิดด้วยความหวาดกลัวขึ้นมาทันใด
โครงร่างเขางดงามคมคายหาได้เปรียบไม่ นัยน์ตาสีดำขลับนั้นราวกับเป็นโพรงลึกไป แม้มองเพียงปราดเดียวก็สามารถทำดึงดูดคนให้จมหายไปได้ ในดวงตาคู่นั้นนอกจากความรู้สึกอันลึกซึ้งแล้ว ยังมีความน้อยเนื้อต่ำใจและความรู้สึกไร้ค่าเจืออยู่ด้วย
“หว่านเยียน ข้าไม่ใช่พระอิฐพระปูน ที่ไร้ตัณหาไร้ราคะ ข้าเองก็เชื่อมั่นว่าไม่มีบุรุษคนใด จะยอมให้คนที่ตนเองรักหมางเมินเหมือนไม่มีตัวตนได้อย่างเด็ดขาด ยิ่งไปกว่านั้นข้ากับเจ้าต่างเป็นสามีภรรยา ข้ากลัวว่าเจ้าจะโกรธ ถึงได้อดทนอดกลั้นมาตลอด ทั้งก่อนจะทราบว่าเจ้าตั้งครรภ์ก็อดทน กระทั่งหลังทราบว่าเจ้าตั้งครรภ์แล้วข้าก็ยังอดทนเสมอ”
นิ้วเรียวของเขา กระตุกสายรัดบนเอวของหนานหว่านเยียนออก “ในฐานะที่เป็นภรรยา เจ้าควรจะสงสารและเห็นใจข้าบ้างสิ ยอมให้ข้าบ้างสักครั้ง ให้ข้าได้ร่วมหอกับเจ้าเถิด…”