ยากับองค์หนูน้อยแห่งจวนอ๋องอี้ นิยาย บท 811
ไท่เฟยปกป้องนางขนาดนี้ หนานหว่านเยียนรู้สึกอบอุ่นในจิตใจ
ทว่า แต่ไหนแต่ไรมาหนานฉีซานก็เจรจาแค่เรื่องผลประโยชน์เท่านั้น เกรงว่าวันนี้คงจะคำนวณมาอย่างแม่นยำ ยืนยันแล้วว่านางจะได้กลายเป็นจวิ้นจู่แคว้นต้าเซี่ย ฐานะของเขาก็จะก้าวกระโดดขึ้นไปบนตึกสูง จึงได้ให้ความร่วมมือเพียงนี้
บนใบหน้าอันสง่างามของกู้โม่หานไม่มีอารมณ์ความรู้สึกใด แต่เส้นขอบกรามอันสมบูรณ์แบบที่กลับตึงมากยิ่งขึ้น
ความเข้ากันเป็นปี่เป็นขลุ่ยของหวงไท่เฟยและหนานฉีซาน ทำให้ทุกคนดึงสติกลับมาได้ในที่สุด ส่งเสียงเอะอะวุ่นวายขึ้น
“คิดไม่ถึงว่าฮองเฮาเหนียงเหนียงจะเป็นจวิ้นจู่แห่งแคว้นต้าเซี่ยจริงๆ? !”
“มิน่าล่ะเมื่อครู่ฮองเฮาถึงได้จับโหรวเฟยไว้ไม่ปล่อย ที่แท้นางก็เป็นตัวจริงโดยชอบธรรม!”
“คิดไม่ถึงเลยน่ะนะ ว่าเมื่อครู่จะเป็นพวกข้าที่เข้าใจฮองเฮาเหนียงเหนียงผิดไป!”
เหล่าทูตแคว้นต้าเซี่ยกระซิบกระซาบกัน ทั้งหมดล้วนมองไปยังพ่อบ้านกาว ต้องการขอคำอธิบาย
ยังไงซะโฉมหน้าขององค์หญิงพวกเขาทั้งหมดก็เคยเห็นมาก่อน หนานหว่านเยียนมีความคล้ายคลึงองค์หญิงอยู่บ้างจริงๆ แต่พ่อบ้านกาวกลับบอกว่าหยุนอี่ว์โหรวสิจึงจะเป็นจวิ้นจู่ เพราะว่าพวกเขาเชื่อเขาถึงได้พูดตามน้ำไปเช่นนี้ แต่ไท่เฟยก็ปฏิเสธแล้ว นี่ นี่เกิดอะไรขึ้นกันแน่?
หยุนอี่ว์โหรวก็ตะลึงงันเช่นกัน สมองตื้อ แทบจะยืนไม่อยู่ ยังเป็นพ่อบ้านกาวที่พยุงนางไว้ นางจึงได้ฝืนยืนหยัดไว้
หนานหว่านเยียนจะเป็นจวิ้นจู่แคว้นต้าเซี่ยได้ยังไง? !
พ่อบ้านกาวจะไม่โกหก เขาบอกว่านางเป็นนายน้อยของเขา งั้นนางก็เป็น ไม่เช่นนั้นเขาจะปฏิบัติต่อนางอย่างดีมานานเพียงนี้ได้ยังไง สิบกว่าปีเชียวนะ นี่ก็ไม่ใช่แค่เพียงชั่วข้ามคืนเท่านั้น!
ไทเฮาก็ตะลึงงันจนพูดไม่ออกด้วยเช่นกัน หว่านเยียนยันเด็กคนนี้ คิดไม่ถึงว่าฐานะจะสูงศักดิ์เพียงนี้?
กู้โม่เฟิงก็ตกใจ มองไปทางกู้โม่หานทันที ในดวงตาเต็มไปด้วยความกังวลและความตึงเครียด
สีหน้าของกู้โม่หานพูดไม่ได้ว่าเย็นชา แต่ก็ไม่ได้ดูดีมากนัก
เขาระงับความตื่นตระหนกและความกลัวในใจ ตะโกนกล่าวด้วยเสียงอันเย็นชา “เงียบ!”
เสียงในท้องพระโรงที่ดังราวกับพลุแตก เงียบลงอีกครั้งในพริบตา ดวงตาอันงดงามของกู้โม่หานหรี่ลงครึ่งหนึ่ง มองไปทางพ่อบ้านกาวอยู่บ่อยๆ “พ่อบ้านกาว! ตอนนี้เจ้าจะอธิบายอย่างไร?”
ไม่เพียงแค่กู้โม่หานเท่านั้น ตอนนี้ทุกคนในท้องพระโรงล้วนเต็มไปด้วยความสงสัยต่อเรื่องนี้
ทุกคนมองไปยังพ่อบ้านกาวโดยไม่ได้นัดหมาย เสียงเอ่ยถามดังขึ้นมากมายไม่รู้จบ “ทูตกาว ขอคำอธิบายให้พวกข้าหน่อย!”
“ฮองเฮาเหนียงเหนียงและโหรวเฟย ใครคือจวิ้นจู่แห่งแคว้นต้าเซี่ยที่แท้จริงกันแน่?”
หยุนอี่ว์โหรวมองไปยังเหล่าขุนนางที่โกรธเคืองกลุ่มนี้ เบื้องหน้ามืดมนขึ้นทันใด มองไปทางพ่อบ้านกาวด้วยความจนปัญญา
สีหน้าของพ่อบ้านกาวเคร่งขรึม “เรื่องเหล่านี้ ข้าน้อยสามารถอธิบายได้พ่ะย่ะค่ะ!”
“ทุกคนในแคว้นต้าเซี่ยล้วนรู้ดี ก่อนที่องค์หญิงพระองค์โตจะขึ้นครองราชย์บัลลังก์ในแต่ละยุค ข้างกายจะมีแม่ทัพติดตามคุ้มกันอยู่ไม่ห่าง และข้าก็คือแม่ทัพที่ถูกเลือกให้อารักขาคุ้มกันข้างกายองค์หญิงชิงในตอนนั้น!”
“ตอนนั้นหลังจากที่องค์หญิงชิงสิ้นพระชนม์ ข้าไม่วางใจจวิ้นจู่ที่อายุยังน้อย จึงได้ตัดสินใจโดยพลการ เปลี่ยนตัวจวิ้นจู่กับเด็กทารกในชนบทผู้หนึ่งด้วยตัวเอง หยกซื่อหลินชิ้นนี้ เดิมทีเป็นสิ่งของติดตัวขององค์หญิงชิง องค์หญิงมอบมันให้ข้า ก็เพราะอยากทิ้งหลักฐานเพื่อยืนยันตัวตนให้ลูกไว้”
“ตอนที่ข้าเปลี่ยนตัวเด็ก ก็ได้เปลี่ยนหยกชิ้นนี้ด้วยเช่นกัน ข้าเฝ้าดูการเติบโตของจวิ้นจู่มาตลอด จำคนไม่ผิดเป็นแน่พ่ะย่ะค่ะ!”
“เพื่อปกป้องจวิ้นจู่ให้ดียิ่งขึ้น กำลังภายในทั้งตัวก็ได้ทำลายไปแล้ว กลายเป็นตาแก่อ่อนแอไม่มีประโยชน์ผู้หนึ่ง เพียงเพื่อปิดบังตัวตนให้ดียิ่งขึ้น ความซื่อสัตย์ภักดีต่อองค์หญิงและจวิ้นจู่ของข้าฟ้าดินเป็นพยาน หากพูดปลดแม้แต่คำเดียว ขอให้ฟ้าดินลงทัณฑ์ ไม่ได้ตายดีพ่ะย่ะค่ะ!”
พูดพลาง พ่อบ้านก็มองไปทางไท่เฟยอีกครั้งด้วยความโกรธ
“หวงไท่เฟย พระองค์อาศัยเพียงแค่หน้าตา ก็บอกว่าฮองเฮาเหนียงเหนียงเป็นพระธิดาขององค์หญิงชิง ไม่เป็นการทึกทักไปเองเกินไปหรือพ่ะย่ะค่ะ!”
“ทั่วทั้งหล้า คนที่หน้าตาคล้ายคลึงกันมีถมเถไป จะอาศัยโฉมหน้ามาแยกแยะได้อย่างไร? ต้องการให้ข้าน้อยอธิบาย หยกซื่อหลินก็คือสิ่งของยืนยันที่สามารถเห็นได้โดยตรงที่สุด จวิ้นจู่แคว้นต้าเซี่ย ก็คือหยุนอี่ว์โหรว ไม่มีการคงอยู่ของคนที่สองเป็นอันขาด!”
ไม่ได้ถือว่าเขาโกหก ตอนนั้น เป็นความจริงที่เขาสลับตัวเด็ก เพียงแต่เด็กที่สลับก็คือบุตรสาวของอนุภรรยาจวนเฉิงเซี่ยง
แต่ตอนนี้ เขาทำได้เพียงแค่พูดว่าสลับกับเด็กในชนบท เช่นนี้จึงจะสามารถยืนยันความบริสุทธิ์ของ “หยุนอี่ว์โหรว” ได้
เขาก็รู้หนานหว่านเยียนหน้าตาเหมือนองค์หญิงอยู่นิดหน่อย แต่ว่า โฉมหน้าโกหกคนได้ สิ่งของยืนยันจะไม่
ยิ่งกว่านั้น ก่อนหน้านี้ใบหน้าของหนานหว่านเยียนก็เสียโฉมไปแล้ว หลังจากทำการรักษาจึงได้เปลี่ยนเป็นงดงามขึ้น ใครจะรู้ว่านางทำอะไรกับใบหน้าของตัวเองบ้าง เห็นได้ชัดว่านายน้อยเหมือนองค์หญิงยิ่งกว่า งามเป็นเลิศในแคว้นตั้งแต่เด็กๆ!
พ่อบ้านกาวสาบานอย่างผ่าเผย ทุกคนล้วนตกตะลึงอีกครั้งทันที พวกเขาไม่มีใครคิดว่า ตอนนั้นหนานหว่านเยียนและหยุนอี่ว์โหรว จะถูกสลับตัวกันมาก่อนจริงๆ?
เช่นนั้นเมื่อพูดมาแล้ว หยุนอี่ว์โหรวถึงจะเป็นบุตรสาวของจวนเฉิงเซี่ยง หนานหว่านเยียนก็เป็นเพียงแค่เด็กที่เกิดจากญาติฝ่ายมารดาของจวนแม่ทัพเท่านั้น?
ทำไมเรื่องนี้ถึงได้ซับซ้อนเช่นนี้ ความสัมพันธ์ของตัวละครช่างวุ่นวายจริงๆเชียว!
กู้โม่หานขมวดคิ้ว มองดูหนานหว่านเยียนที่อยู่ข้างๆ
คิดไม่ถึงว่านางจะถูกสลับตัว? เรื่องเช่นนี้ นางรู้หรือไม่?
คิ้วอันงดงามของหนานหว่านเยียนขมวดแน่นเป็นอย่างยิ่ง สีหน้าท่าทางเปลี่ยนเป็นประหลาดใจขึ้นมาทันที
จากท่าทางของพ่อบ้านกาว ไม่เหมือนการโกหก แต่ทำไมนางถึงจำไม่ได้ว่าตัวเองถูกคนเปลี่ยนตัวมาก่อน อีกทั้งยังเป็นการทุ่มเทเปลืองแรงผ่านอุปสรรคส่งไปยังชนบทเช่นนั้นอีก?
หากพ่อบ้านกาวต้องการจะปกป้องจวิ้นจู่จริง ตอนนั้นในจวนเฉิงเซี่ยงก็มีหนานชิงชิง สลับตัวกับหนานชิงชิงไปเลยก็สิ้นเรื่องจะได้ไม่ต้องลำบาก ทั้งยังสามารถปกป้องได้ตลอดเวลาอีก ฐานะก็สูงศักดิ์กว่าหน่อย ส่งไปชนบทน่าอนาถมากเพียงใด ทั้งยังต้องถูกคนรังแกอีก……
นางมักจะรู้สึกว่ามีข้อมูลสำคัญอะไรบางอย่างที่นางพลาดไป แต่ชั่วขณะนี้ นางก็คิดอะไรไม่ออก
แต่เมื่อพิจารณาจากสถานการณ์ตอนนี้ นางไม่เพียงแค่รู้สึกว่าพ่อบ้านกาวมีปัญหาเท่านั้น นางรู้สึกว่าคนที่เป็นทูตของแคว้นต้าเซี่ยทั้งหมดล้วนมีปัญหาเล็กน้อยเช่นเดียวกัน
แต่สุดท้ายเกิดความผิดพลาดตรงไหนกันแน่ โดยปกติแล้วพี่รองเป็นคนรอบคอบระมัดระวัง จะทำเรื่องผิดพลาดเช่นนี้ออกมาได้ยังไง?
พ่อบ้านกาวตัวเขาและทูตเหล่านี้…..เป็นคนเหล่านั้นที่พี่ชายส่งมาจริงๆหรือ?
หลังจากหยุนอี่ว์โหรวได้ยิน ก็มองไปทางพ่อบ้านกาวด้วยความหมายลึกซึ้งแวบหนึ่ง แววตามีความสงสัยและไม่แน่ใจ
ทำไมนางจำได้ว่า ตัวเอง……
แต่เมื่อหนานฉีซานได้ยินคำพูดนี้ ก็เดือดดาลขึ้นอย่างเห็นได้ชัด
เขาถลกแขนเสื้อขึ้นอยากจะพุ่งเข้าไปเอาความกับพ่อบ้านกาว แต่ถูกเหล่าขุนนางที่อยู่ด้านข้างจับไว้ จึงทำได้เพียงตะคอกคำราม “กาวม่านหย่วน! เจ้าว่าอะไรนะ? !”
“เจ้ากล้าแอบสลับตัวลูกของข้าลับหลังข้างั้นหรือ? !”
เขาไม่รู้เลยว่าข้างกายของโม่หวิ่นชิงจะมีแม่ทัพอยู่ด้วย คิดไม่ถึงว่าจะลึกลับเพียงนี้ ยิ่งไม่รู้ด้วยซ้ำว่าลูกของตัวเองถูกสลับตัวกลางทางมาก่อน
แต่หนานหว่านเยียนเหมือนโม่หวิ่นชิงขนาดนั้น จะไม่ใช่ลูกที่นางให้กำเนิดจริงๆหรือ?
คำพูดนี้เป็นข้อมูลที่ยิ่งใหญ่เกินไปแล้ว กู้โม่เฟิงและไทเฮาล้วนงงงันไปหมด
เรื่องทูตแคว้นต้าเซี่ยยอมรับจวิ้นจู่เรื่องนี้เรียกได้ว่าพลิกแล้วพลิกอีก จึงอดไม่ได้ที่จะสงบนิ่งลง
ตอนนี้หนานหว่านเยียนและหยุนอี่ว์โหรวล้วนเป็นคนที่อยู่ในสถานการณ์ที่อันตรายที่สุด ไม่ว่าจะทำอะไร ก็จะกลายเป็นเป้าหมายในการวิพากษ์วิจารณ์ของทุกคนทันที
ด้วยเหตุนี้ พวกนางทั้งสองจึงไม่สะดวกที่จะเอ่ยปาก
พวกเขาเหล่านี้ก็เข้าใจกันหมด แต่ตอนนี้ ใครค่อนข้างมีเหตุผลกว่ากันแน่ แล้วจวิ้นจู่คือผู้ใดกันแน่?
ไท่เฟยถูกการดึงดันอธิบายครั้งนี้ของพ่อบ้านกาวทำให้อึดอัดพูดไม่ออกในชั่วขณะ และรู้สึกตะลึงงันเป็นที่สุด
ก็ไม่ใช่ว่านางจับข้อผิดพลาดของพ่อบ้านกาวไม่ได้ เพียงแต่นางไม่เคยคิดมาก่อน ว่าระหว่างนี้ยังจะมีการสลับตัวเด็กอยู่ด้วยจริงๆ
สถานการณ์นี้ในตอนนี้ ยากที่จะอธิบายได้โดยแท้
ไม่ว่ายังไงตอนนั้นก็ไม่มีใครรู้ ว่าเกิดอะไรขึ้นกันแน่
แต่จากความรู้สึกส่วนตัว นางก็ยังคงเชื่อว่าหนานหว่านเยียนเป็นจวิ้นจู่ของแคว้นต้าเซี่ย แต่เพราะท่าทางเช่นนี้ของหว่านเยียน บอกว่าไม่ใช่แล้วใครจะเชื่อได้ล่ะ
นางตะคอกด้วยเสียงเย็นชา น้ำเสียงมีความไม่พอใจเป็นอย่างมาก
“ไม่ว่ายังไง ตอนนี้พวกข้าก็ยังสรุปผลออกมาไม่ได้ และก็ไม่สามารถยืนยันได้ว่าใครเป็นตัวจริงใครเป็นตัวปลอม”
“ยังไงซะข้าดูแล้วหยุนอี่ว์โหรวนี่ก็ไม่ได้มีลักษณะเหมือนกับท่านพี่ชิงแม้สักนิด หากว่าเป็นบุตรสาว ไม่ว่าจะยัดเยียดยังไง ก็ควรจะมีความเหมือนอยู่บ้าง เป็นไปไม่ได้ที่จะไม่เหมือนเลยแม้สักนิด”
“ยิ่งกว่านั้นในมือของนางก็มีเพียงหยกซื่อหลินชิ้นเดียวที่เป็นหลักฐาน ก็ยิ่งไม่สามารถอธิบายอะไรได้ ก็ตามที่เจ้าพูดเองนั่นแหละ ตอนนั้นหลังจากที่เจ้าส่งนางไปแล้ว เพื่อรักษาความปลอดภัยของจวิ้นจู่ จึงไม่ได้ไปคุ้มกันบ่อยๆ งั้นหลังจากนั้นเกิดอะไรขึ้นบ้าง ทุกคนก็ล้วนไม่อาจรู้ได้”
“หากว่ามีคนจงใจเอาหยกห้อยเอวนี้ไป แล้วส่งเด็กกลับมา แล้วจะทำอย่างไร เจ้ามั่นใจได้รึว่า หยุนอี่ว์โหรวที่ยืนอยู่เบื้องหน้าของเจ้าในตอนนี้ เป็นเด็กผู้นั้นที่เจ้าสับเปลี่ยนในตอนนั้น–”