ยากับองค์หนูน้อยแห่งจวนอ๋องอี้ นิยาย บท 814
เมื่อมองดูท่าทางเช่นนี้ของเขา ไม่รู้ทำไม หนานหว่านเยียนถึงได้สงบนิ่งเป็นที่สุด ผละมือของเขาที่จูงมือนางอยู่ออกด้วยความสุภาพใจเย็นเป็นอย่างยิ่ง
“ตั้งแต่แรก ก็ไม่ใช่เพราะท่านไม่ต้องการข้าเหรอ? ตอนนี้ข้าก็แค่อยากจะจากไป ทำไมท่านถึงไม่สามารถปล่อยให้ข้าจากไปได้เหมือนก่อนหน้านี้ล่ะ”
กู้โม่หานมองไปยังโฉมหน้าที่งดงามเฉยเมยอย่างไร้ที่เปรียบนี้ คิดถึงการพูดจาอย่างเมินเฉยเย็นชาในก่อนหน้านี้ ความรู้สึกเจ็บปวดเสียใจในจิตใจก็พุ่งพรวดขึ้นมาเหมือนดั่งพืชไม้เลื้อยอันบ้าคลั่งเช่นนั้น
“ข้าคิดว่า พวกข้าล้วนเริ่มมีความสัมพันธ์ฉันสามีภรรยากันแล้ว เจ้าก็ไม่ได้กีดกันมาก กระทั่งยังชอบมากอีกด้วย ความสัมพันธ์ของพวกข้าผ่อนคลายลงแล้ว คิดไม่ถึงเลยว่าความคิดของเจ้าจะไม่เคยเปลี่ยนแปลงมาก่อน…….”
สีหน้าบนใบหน้าอันหล่อเหลาไร้ที่เปรียบซีดลงเล็กน้อย มองดูนางจากเขาไปไกลเช่นนั้น ก็อดไม่ได้ที่จะยื่นมือออกไป กอดนางไว้อย่างแนบแน่นในอ้อมแขน พยายามอย่างเต็มที่ในการสะกดอารมณ์และเอ่ยปาก
“หว่านเยียน ข้าไม่เหมือนอดีตแล้ว พวกข้าก็ไม่เหมือนเมื่อก่อนแล้ว ตอนนี้เจ้าตั้งครรภ์ลูกของข้า พวกข้ายังมีลูกสาวที่น่ารักอีกสองคน เจ้าต้องการสามี พวกเด็กๆต้องการพ่อ ตอนนี้ข้าก็สามารถทำได้ดีมาก”
“เมื่อก่อนเป็นข้าที่ทำผิดต่อเจ้าและลูก ข้าจะใช้ทั้งชีวิตเพื่อชดเชยพวกเจ้า ชดเชยลูกในท้องของเจ้า ข้าสาบานต่อเจ้า เรื่องของหยุนอี่ว์โหรว ข้าก็จะจัดการให้ดี จะไม่ให้เจ้าและพวกลูกๆต้องถูกทำร้ายอีกเด็ดขาด อยู่ต่อเถอะ ข้าจะทำให้เจ้าและลูกมีความสุข ดีหรือไม่?”
หนานหว่านเยียนถูกเขากอดไว้แน่น มองไม่เห็นสีหน้าการแสดงออกของกู้โม่หาน ได้ยินเพียงแค่คำขอร้องที่ไร้ค่าของเขา
อดีตนางเคยอ้อนวอนด้วยความต้อยต่ำให้เขามองมาสักแวบหนึ่ง แต่ความจริงใจก็ถูกเขาเหยียบย่ำจนจมลงไปในโคลน เก็บขึ้นมาไม่ได้อีก
ใครจะคิดว่าหลายปีต่อมา กู้โม่หานที่อยู่อย่างสูงศักดิ์ ผู้ที่ดูแคลนนางมาโดยตลอดนั้น จะขอร้องอ้อนวอนให้นางอยู่ต่อด้วยความต่ำต้อยอย่างเช่นในตอนนี้
แต่นางกลับไม่ได้มีความสุขนัก ยิ่งกว่านั้นนางมีลางสังหรณ์ว่า ครั้งนี้ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นกับทูตแคว้นต้าเซี่ย นางก็อยู่ที่ซีเหย่ได้ไม่นานแล้ว กู้โม่หานไล่ตามอย่างไม่ลดละเช่นนี้ ก็ไม่ได้เป็นประโยชน์ต่อใครทั้งสิ้น
“เรื่องเมื่อคืน เป็นท่านที่บังคับอยู่ครึ่งหนึ่ง ข้าตอบสนองต่อท่าน เพียงเพราะข้าเป็นคนธรรมดา ไม่ได้เกี่ยวกับการชอบหรือไม่ชอบท่าน”
“อีกอย่าง พวกข้าก็อยู่ด้วยกันมานานขนาดนี้ ท่านก็รู้นิสัยคนอย่างข้าดี เรื่องที่ตัดสินใจแล้ว แม้มีวัวสิบตัวมาฉุดรั้งก็กู่ไม่กลับ”
“แทนที่จะตัดบัวแต่ยังเหลือใยไว้ เจ็บปวดจนไม่อยากมีชีวิต สู้ปล่อยมือกันอย่างผ่าเผยยังจะดีซะกว่า ท่านปล่อยให้ข้าและพวกลูกๆไปให้ไกล ออกจากสังคมที่วุ่นวายนี้แล้วลืมเลือนกันไปซะ บางทีหลายปีต่อจากนั้นที่ได้พบกันอีกครั้ง ก็อาจจะยังสามารถนั่งลงคุยกันอย่างสงบและใจเย็นได้”
ได้ยินดังนั้น ม่านตาของเขาก็หดลงอย่างรุนแรง ถูกคำพูดของนางทำให้โกรธเล็กน้อยอย่างฉับพลัน “เจ้าบอกข้ามาซิ ใครกันที่จะอยากได้ความรู้สึกจะเป็นจะตายกว่าสิบปีเช่นนั้นเพื่อแลกเปลี่ยนมาเป็นความสงบทางจิตใจ?”
สมองของเขาไม่ได้มีปัญหาสักหน่อย ปล่อยนางจากไป ตัวเองทำลายชีวิตการแต่งงานของตัวเอง ทำซะจนภรรยาของตัวเองแยกจากไปโดยสมบูรณ์ ก็เพื่อหลังจากนั้นอีกสิบกว่าปีจะสามารถพูดคุยกันดีๆได้งั้นเหรอ?
หนานหว่านเยียนเห็นสีหน้าท่าทางของเขา กัดริมฝีปากแล้วกล่าวว่า “กู้โม่หาน ท่านเคยคิดหรือไม่ว่า ท่านเพียงแค่รู้สึกไม่ยอม แต่ไม่ได้รักข้าจริงๆ”
ไม่กี่วินาทีนั้นในบรรยากาศก็เกิดความเงียบงันขึ้น เสียงอันแหบแห้งเย็นชาของชายหนุ่มดังขึ้น “เรื่องมาถึงวันนี้ ทำไมเจ้าถึงยังคิดว่า ข้ารักเจ้าก็เพราะความรู้สึกไม่ยอม?”
“หากว่าข้าไม่ยอมจริงๆ คิดเพียงแค่อยากจะได้เจ้า ข้าก็จะไม่ปฏิบัติต่อเจ้าดีเพียงนี้ จุดอ่อนของเจ้ามากมายขนาดนั้น ข้าแค่บีบไว้อย่างหนึ่ง เจ้าก็ต้องยิ้มเป็นเพื่อนข้า นอนกับข้าอย่างเชื่อฟัง ข้าต้องการอะไร เจ้าก็ต้องทำสิ่งนั้นให้ได้ ข้าชอบร่างกายของเจ้า เจ้าก็ต้องทำให้ข้าพอใจ ข้าไม่ต้องทำให้ตัวเองลำบากเป็นนักพรตที่บำเพ็ญตบะอย่างทุกข์ทนเป็นแรมปีโดยสิ้นเชิง เพียงแค่ข้าพอใจ แม้ว่าจะแรงเยอะทำให้เจ้าเจ็บ ก็กรอกยาให้เจ้าสองขนาน ก็จะต้องรักษาครรภ์ของเจ้าได้”
“เจ้าอย่ามองข้าด้วยสีหน้าเช่นนี้ ด้วยตำแหน่งฐานะในตอนนี้ของข้า แม้ว่าจะไม่ได้รับการยินยอมจากเจ้า โดยผิวเผินแล้วคิดจะให้เจ้ายอมสวามิภักดิ์ก็เป็นเรื่องเล็กน้อย ไม่ใช่หรือ?”
เขาปล่อยนางเล็กน้อย หนานหว่านเยียนเห็นความดุดันและกดดันบนใบหน้าของเขาได้อย่างง่ายดาย สายตาที่มองดูนางล้วนเต็มไปด้วยการสะกดกลั้นอารมณ์
ชั่วขณะหนึ่ง นางก็รู้สึกกลัวเขาเล็กน้อยอย่างอธิบายไม่ได้ และรู้สึกว่าสิ่งที่เขาพูดมีเหตุผล แม้ว่านางจะยังรู้สึกว่า เขาอาจมีความรู้สึกต่อนางอยู่บ้าง แต่มันก็ยังห่างไกลจากระดับที่นางสามารถรู้สึกได้
นางลูบท้องด้วยสัญชาตญาณ
“ได้ เอาเป็นว่าท่านรักข้า แต่ท่านก็รู้อุดมคติความรักของข้า ต้องรักทะนุถนอมข้า ปกป้องข้า อยู่เป็นคู่กันทั้งชีวิตทั้งชาติ แต่ตอนนี้ท่านเป็นฮ่องเต้ ลิขิตไว้ว่าท่านต้องมีสามวังหกตำหนัก ท่านคิดว่าท่านสามารถรักเดียวใจเดียวต่อข้าได้ แต่ท่านจะสามารถต่อสู้ด้วยเหตุผล ทำลายข้อผูกมัดของพวกขุนนางและเสด็จย่า ทำข้อนี้ให้สำเร็จได้หรือ?”
“ท่านอยู่ในฐานะสูงส่ง ไม่สามารถละทิ้งราษฎรและไม่สนใจเหล่าขุนนางได้ ยิ่งไม่สามารถอยู่กับข้าทั้งชีวิตด้วยจิตใจที่ไม่ว่อกแว่กได้ แม้ว่าตอนนี้ท่านจะบังคับให้ข้าอยู่ หลังจากนี้ พวกข้าก็จะมีปัญหากันเช่นเคย”
“อีกย่าง แม้ว่าจะเป็นตอนนี้ ท่านก็ไม่เคยจัดการกับหนี้ทางอารมณ์ความรู้สึกของตัวเองให้ดีได้ ไม่ใช่หรือ?”
เขาก็มีลูกกับหยุนอี่ว์โหรวแล้ว แล้วจะเจรจาให้ถึงมาตรฐานของนางได้อย่างไรล่ะ
แม้ว่ากู้โม่หานจะจัดการกับหยุนอี่ว์โหรวแล้วจะยังไง การมีลูกเป็นเรื่องเลือดตกยางออก หากว่ารักเขาใหม่อีกครั้ง ห่วงใยเขาใหม่อีกครั้ง ทันทีที่เห็นเขามีลูกกับผู้หญิงคนอื่น ก็จะรู้สึกว่าโดนหักหลัง นั่นก็เป็นทรายที่ไม่อาจบดขยี้ให้แหลกสลายได้ และเป็นแผลเป็นที่ไม่มีวันลบเลือนไปได้
แล้วพวกเขาจะอยู่ด้วยกันต่อไปได้ยังไง?
กู้โม่หานกำหมัดแน่น “ให้เวลาข้าอีกวัน ข้าจะจัดการ……”
“ข้าไม่อยากให้เวลาแล้ว สิ่งที่ท่านขอข้ามากมายเกินไป” ในดวงตาของนางที่มองไปยังกู้โม่หาน มองความรู้สึกนอกเหนือจากนั้นไม่ออก “กู้โม่หาน แม้ว่าข้าจะไม่รักท่านแล้ว แต่ก็เคารพในการเป็นฮ่องเต้ที่รู้หน้าที่ และรู้จักรับผิดชอบมาโดยตลอด”
“ตอนนี้สถานการณ์ของแคว้นซีเหย่และแคว้นต้าเซี่ยท่านก็เห็นแล้ว หากว่าท่านไม่ปล่อยข้าไป ความสัมพันธ์ทางการทูตระหว่างทั้งสองแคว้นจะต้องพังทลายอย่างแน่นอน ถึงเวลาหากว่าเกิดสงครามขึ้นไปทั่ว เกี่ยวโยงไปถึงชีวิตของประชาชนทั้งสองแคว้น ท่านจะทำยังไง?”
“หากว่าท่านรักข้าจริง ก็ควรให้ข้ารักษาความชื่นชมและความเคารพที่มีต่อท่านไว้ให้คงอยู่ในระยะเวลาสุดท้ายของข้า อย่าทำให้ข้ารู้สึกว่า ท่านเป็นคนที่ทำให้ทั้งแคว้นต้องตกอยู่ในกองเพลิงเพียงเพราะเห็นแก่ความรักระหว่างชายหญิง”
กู้โม่หานมีหน่วยก้านเป็นกษัตริย์ที่ปราดเปรื่องได้อย่างแท้จริง เสด็จย่าไม่ได้ดูผิดไป แม้ว่าเขาจะเลอะเลือนไม่เป็นท่าในเรื่องของความรู้สึก แต่ในจิตใจของเขามีประชาชน มีความเห็นแก่ส่วนรวม จะไม่ทำให้เกิดสงครามอย่างไร้เหตุผล ทำให้ทั้งสองแคว้นตกอยู่ในอันตรายเป็นแน่
ใบหน้าอันหล่อเหลาของกู้โม่หานสงบเหมือนดั่งวันก่อนจะเกิดพายุฝน ไม่ยอมถอยแม้สักนิด
“เจ้าเพียงแค่ตอบทูตแคว้นต้าเซี่ยไปว่า ให้เลือกบุคคลอื่นเป็นจักรพรรดินี แล้วอยู่เคียงข้างข้าเป็นฮองเฮาของข้าด้วยความวางใจ แคว้นซีเหย่และแคว้นต้าเซี่ยก็จะทำความสัมพันธ์ทางการทูตกันได้ ทั้งสองแคว้นก็จะไม่มีข้อพิพาทกัน”
“ข้าก็สาบานกับเจ้าได้ หากว่าผู้ใดกล้ารุกรานแคว้นต้าเซี่ย ข้าก็จะพินาศทั้งแคว้นของเขา——”