ยากับองค์หนูน้อยแห่งจวนอ๋องอี้ นิยาย บท 818
พ่อบ้านกาวและคนอื่นๆถูกขันทีในวังจัดการพาไปยังที่พักของทูต สถานที่นี้เป็นอิสระ ห่างไกลจากบรรดาคนในวังหลัง
พ่อบ้านกาวได้ยินเหล่าทูตต้าเซี่ยด้านข้างเอ่ยถามด้วยความคาดคั้นและความสงสัย ก็รู้สึกหงุดหงิดใจเป็นอย่างมาก
เดิมทีเขาคิดว่าการฟื้นฟูฐานะจวิ้นจู่ในวันนี้จะกระทำการเสร็จสิ้นได้อย่างรวดเร็ว แต่คิดไม่ถึงว่าหนานหว่านเยียนและหวงไท่เฟยจะพุ่งมาขวางกลางทาง ก่อกวนจนเรื่องราวยุ่งเหยิงไปหมด
แต่ในตอนนี้ สิ่งที่เขากังวลมากที่สุดก็ยังเป็นหยุนอี่ว์โหรว
ก็ไม่รู้ว่าตอนนี้จวิ้นจู่จะถูกไทเฮาปฏิบัติอย่างโหดร้ายหรือไม่ เกิดเรื่องใหญ่เช่นนี้ขึ้น นางจะต้องตื่นตระหนกมากเป็นแน่
เขาจำเป็นจะต้องรีบไปหารือเรื่องราวต่อจากนี้กับจวิ้นจู่ให้เร็วหน่อย วางแผนการให้ดีถึงจะได้
ทูตหลายคนเหล่านั้นไม่เข้าใจ พ่อบ้านกาวจึงไล่ทูตเหล่านั้นไปด้วยคำพูดสองสามคำ แล้วออกมาจากที่พักด้วยตัวเองคนเดียว หลังจากสอบถามที่อยู่ของหยุนอี่ว์โหรวกับนางกำนัลไม่กี่คนที่ผ่านไปแล้ว จึงเดินหน้าไปที่ตำหนักกูฝู
ทุกคนรู้ว่าตอนนี้พ่อบ้านเป็นทูตของแคว้นต้าเซี่ย และเข้าใจจุดประสงค์การมาของคนแคว้นต้าเซี่ยดี
เห็นเขาไปที่ตำหนักกูฝู ก็ไม่กล้าขัดขวาง คิดเพียงว่าเขาต้องการไปเยี่ยมจวิ้นจู่แคว้นต้าเซี่ยเท่านั้น
พ่อบ้านกาวจึงได้เดินไปที่ตำหนักกูฝูโดยไร้การกีดขวางใดๆ
ขณะที่เขาผลักประตูเข้าไป ก็เห็นเพียงหยุนอี่ว์โหรวนั่งอยู่ในห้องผู้เดียว มองดูพื้นด้วยแววตาเย็นชา สีหน้าซีดขาวเล็กน้อย ไม่รู้ว่ากำลังคิดอะไรอยู่
พ่อบ้านกาวขมวดคิ้ว รีบทำความเคารพนางอย่างนอบน้อม “ข้าน้อย คารวะจวิ้นจู่!”
“มาช่วยช้าไป ยังไงก็ขอให้จวิ้นจู่โปรดลงโทษด้วยพ่ะย่ะค่ะ!”
พวกเขาวางแผนกันมานานขนาดนั้น ก็เพียงเพื่อวันนี้ แต่เขากลับปล่อยให้หนานหว่านเยียนและคนอื่นมีโอกาสเข้าแทรกแซง จนแทบจะพาจวิ้นจู่กลับไปไม่ได้แล้ว
เมื่อได้ยินเสียงพ่อบ้านกาวอย่างกะทันหัน หยุนอี่ว์โหรวที่ยังคงจมอยู่กับการได้เห็นคนผู้นั้นเมื่อไม่นานมานี้ จึงสะดุ้งทันที
นางมองไปทางพ่อบ้านกาว ในตามีแววความตกใจแวบผ่าน แต่กลับรีบแสร้งแสดงสีหน้าอันตื่นตระหนกหวาดกลัวออกมา ท่าทางที่กำลังอยากจะร้องไห้ทำให้ผู้คนเกิดความสงสาร “พ่อบ้านกาว เจ้า ในที่สุดเจ้าก็มาแล้ว……”
หยุนอี่ว์โหรวเดินโซเซเข้าไปพยุงพ่อบ้านกาวให้ลุกขึ้น บนใบหน้าอันซีดขาวเต็มไปด้วยความกลัวและความกังวล ชำเลืองมองไปด้านนอกไม่หยุด เหมือนว่ากลัวใครอยู่เช่นนั้น
“พ่อบ้านกาว ข้ากลัวจังเลย ข้ารู้สึกว่าข้ากำลังจะตายแล้ว เจ้า เจ้าจะต้องช่วยข้า ช่วงเวลานี้ หนานหว่านเยียนวางกับดักข้าทุกทาง บีบบังคับให้ข้ากระโดดเข้ากองไฟ ยิ่งทำให้ฮ่องเต้เชื่อฟังทำตามนางทุกอย่าง จนแทบจะสังหารข้าให้ตายแล้ว!”
นางเช็ดน้ำตา ร้องไห้ระบายความทุกข์กับพ่อบ้านกาว ไม่ให้โอกาสพ่อบ้านกาวได้พูดจาโดยสิ้นเชิง
“ข้ารู้ว่านางเกลียดร่างกายนี้ แต่คิดไม่ถึงว่าวิธีการของนางจะโหดเหี้ยมเพียงนี้ หากไม่ใช่เพราะไทเฮาเห็นแก่ลูกในท้องของข้า ข้าก็ถูกฮ่องเต้ประหารไปนานแล้ว”
“ตอนนี้ข้าอยู่ในวังก็ยากที่จะขยับตัวได้ ถูกกักขังทุกวัน อยู่เหมือนศพเดินได้เช่นนั้น”
“พวกเขา พวกเขายังบอกว่า รอให้ข้าคลอดลูกออกมา ก็ต้องการจะตีข้าให้ตายอีกด้วย! พ่อบ้านกาว ไม่ง่ายกว่าข้าจะทนมาได้ถึงตอนนี้ ในที่สุดก็รอจนเจ้ามารับข้าแล้ว เจ้าจะให้หนานหว่านเยียนขัดขวางข้าไม่ได้เด็ดขาด เจ้า เจ้าจะต้องคิดวางแผนการให้ข้า!”
เสียงร้องไห้ของนางน่าอนาถมากขึ้นเรื่อยๆ ทำให้คนที่ได้ยินรู้สึกปวดใจ จนถึงขั้นคนที่ได้ยินก็หลั่งน้ำตาตามได้
มือทั้งสองของพ่อบ้านกาวสั่นเทาเล็กน้อย มองดูหยุนอี่ว์โหรวที่น่าสงสารขนาดนั้น ก็ปวดใจเป็นอย่างมาก
เห็นนายน้อยค่อยๆซูบผอมลงในแต่ละวัน ใบหน้าก็ซีดเซียวเป็นอย่างยิ่ง พ่อบ้านกาวแค่เดาก็เดาได้ ว่าช่วงที่อยู่ในวังนี้ นายน้อยได้รับความลำบากมากมายเพียงใด
เขารีบเปล่งเสียงปลอบโยนหยุนอี่ว์โหรว “จวิ้นจู่ ท่านอย่าเพิ่งตื่นตระหนกไป เรื่องเหล่านี้ ข้าน้อยจะต้องช่วยท่านจัดการให้เรียบร้อยอย่างแน่นอน”
“ตอนนี้สิ่งที่ท่านต้องทำ ก็คือบำรุงร่างกายให้ดี ขณะที่พวกข้ากลับแคว้นต้าเซี่ย การเดินทางยากลำบาก ข้าน้อยกลัวว่าสุขภาพของท่านจะรับไม่ไหวเอานะพ่ะย่ะค่ะ”
“สำหรับหนานหว่านเยียนนั่น แม้ว่ะยุ่งยากอยู่บ้าง แต่นางก็สร้างคลื่นใหญ่ไม่ได้ คนที่ไร้เหตุผล แม้ว่าจะแก้ตัวอย่างไร ก็ไม่สามารถพูดจากดำให้เป็นขาวได้ ท่านก็คือจวิ้นจู่แห่งแคว้นต้าเซี่ย เรื่องนี้ ไม่อาจจะปฏิเสธได้พ่ะย่ะค่ะ!”
ทั้งหมดเป็นเพราะก่อนหน้านี้องค์ชายรองและหวงไท่เฟยจำคนผิด จึงได้เกิดเหตุการณ์วันนี้ขึ้น
หากรู้ล่วงหน้า ขณะที่เขาอยู่ที่จวนอี้อ๋องก็ควรจะเปิดเผยความสัมพันธ์กับองค์ชายรองให้กระจ่าง เปิดเผยความจริงต่อทั่วหล้า ก็คงไม่ถึงขั้นทำให้เกิดเรื่องน่าขันวุ่นวายจนสะสางไม่ได้เช่นในตอนนี้
สิ้นสุดเสียง หยุนอี่ว์โหรวจึงได้วางใจลงเล็กน้อย นางผ่อนคลายความคิดลงแล้วนั่งลงอีกครั้ง ดวงตาทั้งสองข้างยังคงแดงและมีน้ำตา “เป็นเช่นนั้นก็ดี มีเจ้าอยู่ ข้าก็วางใจได้ไม่น้อยจริงๆ”
แต่ทันใดนั้นก็นึกอะไรขึ้นได้ หยุนอี่ว์โหรวเหลือบตาขึ้นด้วยความจริงจังอย่างไร้ที่เปรียบ นัยน์ตามีความสงสัยไม่เข้าใจเล็กน้อย
“ถูกแล้วพ่อบ้านกาว มีเรื่องหนึ่ง ข้าไม่ค่อยเข้าใจนัก เจ้าสามารถอธิบายกับข้าได้หรือไม่?”
พ่อบ้านกาวก้มคำนับ ด้วยความเคารพอย่างยิ่ง “จวิ้นจู่อยากถามอะไร ข้าน้อยสามารถบอกให้ท่านฟังได้ทั้งหมดพ่ะย่ะค่ะ”
หยุนอี่ว์โหรวกล่าว: “วันนี้ ในราชสำนักคำพูดนั้นที่เจ้าพูดหมายความว่าอะไร? อะไรที่เรียกว่าข้าได้สลับฐานะตัวตนกับหนานหว่านเยียนตอนวัยเยาว์…….”