ยอดชายากับองค์หนูน้อยแห่งจวนอ๋องอี้ – บทที่ 826 สรุปแล้วเจ้าคือราชทูตของต้าเซี่ยหรือไม่

ยอดชายากับองค์หนูน้อยแห่งจวนอ๋องอี้

ยากับองค์หนูน้อยแห่งจวนอ๋องอี้ นิยาย บท 826

“ท่านน้า ท่านน้า!” หนานหว่านเยียนมองดูมือที่ค่อยๆ ทิ้งตัวของโม่หวิ่นหมิง หัวใจรู้สึกจุกแน่นจนแทบหายใจไม่ออก ท้องที่คอยบีบรัดของนางยังคงปวดอย่างต่อเนื่อง นางรีบจับชีพจรที่ใต้กรามของเขา จากนั้นก็รีบกวาดสายตามองดูรอบๆ ดวงตาของนางแดงก่ำ ทางตะโกนเสียงแตกพร่า “ช่วยข้ากดบาดแผลของเขาไว้ เร็วเข้า! เร็วเข้า!”

กู้โม่หานที่ใบหน้าซีดเผือดรีบคุกเข่าลงไปช่วยกดบาดแผลของโม่หวิ่นหมิงไว้ หนานหว่านเยียนรีบซ้อนฝ่ามือทั้งสอง จากนั้นก็กดไปยังตรงกลางส่วนล่างของกระดูกหน้าอก เริ่มทำการช่วยชีวิตฉุกเฉินทันที

กู้โม่หานมองดูไปหน้าที่ขาวซีดเสียยิ่งกว่าหิมะของหนานหว่านเยียน มืออีกข้างของเขากำแน่น วิตกกังวลยิ่งกว่าใครๆ

โม่หวิ่นหมิง ห้ามตายเป็นอันขาด…

เวลานี้เอง นางกำนัลที่หนีออกไปเมื่อครู่นี้ได้สร้างความตื่นตระหนกให้กับทุกคนเป็นอย่างมาก แม้แต่ไท่เฟยเองก็รู้สึกตกใจไม่น้อย

เดิมทีไท่เฟยกำลังรอหนานหว่านเยียนและโม่หวิ่นหมิงอยู่ที่ตำหนักอู๋ขู่ แต่พ่อบ้านกาวกลับมาขอเข้าเฝ้า นางคิดว่าทุกคนต่างก็เป็นคนต้าเซี่ย ก็เลยอนุญาตให้เขาเข้ามาในตำหนัก

ตอนแรกนางตั้งใจจะเกลี้ยกล่อมพ่อบ้านกาวด้วยตนเอง ทว่าโชคดีที่โม่หวิ่นหมิงและหนานหว่านเยียนมาถึงเสียก่อน ทุกคนได้มานั่งคุยกันดีๆ ปรับความเข้าใจในเรื่องที่เคยเข้าใจผิด

แต่นึกไม่ถึงเลย ทั้งสองเพิ่งจะพูดคุยไปเพียงไม่กี่ประโยค ก็ได้ยินข่าวว่าหนานหว่านเยียนถูกลอบสังหาร

นางรีบตรงดิ่งไปหาหนานหว่านเยียนด้วยความตื่นตระหนก พอไปถึงก็เห็นกู้โม่หานกำลังยืนอึ้งอยู่กับที่ไม่ขยับตัวแม้แต่นิดเดียว พอเดินไปใกล้มากขึ้น ก็เห็นว่าหนานหว่านเยียนที่ทั้งเนื้อทั้งตัวเต็มไปด้วยคราบเลือดกำลังพยายามช่วยชีวิตใครบางคนอยู่

พอเห็นชัดว่าคนที่หนานหว่านเยียนกำลังช่วยชีวิตคือโม่หวิ่นหมิง ไท่เฟยก็ตกใจเป็นอย่างมาก รู้สึกใจสั่นไปหมด “นี่…นี่มัน…”

แต่พอพ่อบ้านกาวได้เห็นว่าหนานหว่านเยียนยังมีชีวิตปลอดภัยดี ส่วนโม่หวิ่นหมิงได้เสียชีวิตไปแล้ว แววตาของเขาก็มืดลงในทันที ริมฝีปากเม้มแน่น ในหัวก็นึกอะไรขึ้นมาได้ แต่ก็รู้สึกว่าผลเป็นแบบนี้ก็ไม่เป็นไร

อย่างน้อยๆ …ก็รักษาฐานะของคุณหนูไว้ได้

เวลานี้เอง หยุนเหิงก็ได้พากองกำลังเสริมมาถึงพอดี

เขาไม่กล้าที่จะไปดูหนานหว่านเยียนในเวลานี้ เขาประสานมือคารวะกู้โม่หานด้วยความเคารพ สีหน้าย่ำแย่เป็นอย่างมาก “ฝ่าบาท กระหม่อมไร้ความสามารถ ไม่สามารถนำตัวฆ่ากลับมาได้ ขอฝ่าบาทโปรดทรงให้อภัยด้วยพ่ะย่ะค่ะ!”

“ทว่า กระหม่อมรู้สึกแปลกอยู่เรื่องหนึ่ง องครักษ์ที่ตามล่านักฆ่ามีสองกลุ่ม ยิ่งไปกว่านั้น ทางเดินในวังหลวงสลับซับซ้อนเป็นอย่างมาก หากไม่ใช่คนที่คุ้นเคยในเส้นทาง ไม่มีทางจะสามารถหนีไปได้อย่างไร้ร่องรอยด้วยเวลาอันสั้นอย่างแน่นอน เรื่องนี้ค่อนข้างน่าแปลกเป็นอย่างมาก ฝ่าบาทจะต้องสืบให้กระจ่างชัด!”

เขาสงสัยว่ามีคนทรยศแฝงตัวอยู่ในวังหลวง แต่ก็ไม่กล้าพูดอย่างโจ่งแจ้ง เพื่อเป็นการหลีกเลี่ยงความสงสัยที่สลับซับซ้อน แต่คำเตือนที่จำเป็นก็ไม่อาจหลีกเลี่ยงได้

กู้โม่หานกดบาดแผลของโม่หวิ่นหมิงไว้แน่น ใบหน้าที่หล่อเหลาไร้ซึ่งความรู้สึกใดๆ ดูไม่ได้แตกต่างจากปกติเท่าไหร่นัก ยกเว้นนัยน์ลึกล้ำคู่นั้นที่เต็มไปด้วยเส้นเลือดฝอยสีแดงก่ำ

เขาจ้องมองโม่หวิ่นหมิงที่ไม่มีปฏิกิริยาตอบสนองใดๆ และหนานหว่านเยียนที่ท้ายที่สุดก็ยังไม่ยอมแพ้ และก็ไม่พูดอะไรออกมาแม้แต่คำเดียว

หยุนเหิงเห็นว่ากู้โม่หานไม่ตอบอะไร จึงไม่กล้าที่จะลุกขึ้น เขาเม้มปากแน่น พ่อบ้านกาวก็ได้พูดขึ้นด้วยน้ำเสียงที่เย็นชา “ดูท่าแล้ววังหลวงของแคว้นซีเหย่ คงไม่ค่อยสงบเท่าไหร่นัก”

“หวงไท่เฟย คนผู้นี้ คือคนที่พระองค์อยากจะพาเข้าวังหรือพ่ะย่ะค่ะ?”

หวงไท่เฟยมองดูโม่หวิ่นหมิงที่ไม่มีลมหายใจแล้ว ในใจก็รู้สึกจุกแน่นจนแทบหายใจไม่ออก ความโศกเศร้าค่อยๆ ปรากฏขึ้นในดวงตาของนาง พอได้ยินคำพูดของพ่อบ้านกาว นางก็เหลือบไปมองเขาทันควัน “ใช่แล้วอย่างไรเล่า?”

หยุนเหิงได้ยินคำพูดของพ่อบ้านกาวแล้ว ก็รู้ได้ในทันทีว่าเขาเจตนาร้าย จึงจ้องมองไปยังเหล่าราชทูตของต้าเซี่ยด้วยแววตาที่ดุดัน “ท่านราชทูตทั้งหลาย หากไม่มีธุระอะไรแล้ว ก็แยกย้ายกันเถิด!”

“นี่เป็นเรื่องภายในของแคว้นซีเหย่ ไม่เกี่ยวอะไรกับพวกท่าน!”

พ่อบ้านกาวได้ยินแล้วก็พูดขึ้นด้วยน้ำเสียงที่เย็นชา “แม่ทัพหยุน คำพูดนี้ไม่ถูกต้อง”

“ในเมื่อคนผู้นี้คือบุคคลที่หวงไท่เฟยต้องการจะพาเข้าวัง ฉะนั้นก็ควรให้หวงไท่เฟยเป็นคนตรัสเอง ว่าผู้ใดยังจะสามารถระบุตัวตนของจวิ้นจู่แห่งต้าเซี่ยได้!”

“พัวพันมาถึงจวิ้นจู่แห่งต้าเซี่ยของพวกเรา เช่นนั้นก็ไม่ใช่แค่เรื่องภายในของแคว้นซีเหย่อีกต่อไป แต่เป็นเรื่องระหว่างสองแคว้นต่างหาก!”

“หากกระหม่อมจำไม่ผิด คนผู้นี้น่าจะเป็นท่านน้าของฮองเฮาเหนียงเหนียงกระมัง? เด็กน้อยผมเหลืองที่ติดตามองค์หญิงชิงตอนนั้น”

“ไท่เฟยรับสั่งให้เขาเข้าวังมาเพื่อเป็นพยาน แต่ตอนนี้เขาได้เสียชีวิตไปแล้ว แถมยังเสียชีวิตอยู่ข้างกายฮองเฮาเหนียงเหนียง ทุกท่านไม่คิดหรือว่านี่คือเรื่องที่บังเอิญมากเกินไป?”

เมื่อได้ยินคำพูดประโยคนี้ คนส่วนใหญ่ไม่ค่อยเข้าใจเท่าไหร่นัก ทว่าสีหน้าของไท่เฟยและหยุนเหิงกลับเคร่งขรึมขึ้นมาทันที

พ่อบ้านกาวจ้องมองหนานหว่านเยียนด้วยสีหน้าที่เรียบเฉย จากนั้นก็พูดต่อไปว่า “ยิ่งไปกว่านั้น เมื่อครู่นี้แม่ทัพหยุนได้พูดแล้ว ว่านักฆ่าคุ้นเคยกับเส้นทางในวังหลวงเป็นอย่างดี มิเช่นนั้นพวกเขาคงจะไม่สามารถหลบหนีได้อย่างรวดเร็วและง่ายดายเช่นนี้”

“เช่นนั้น กระหม่อมสามารถเข้าใจเช่นนี้ได้หรือไม่ ว่าทั้งหมดนี้คือละครที่ฮองเฮาเหนียงเหนียงเล่นเองแสดงเองตั้งแต่ต้นจนจบ และก็ได้ลงมือฆ่าเขาทิ้ง เพื่อที่จะสร้างแผนทรมานตน ให้ผู้อื่นมาสงสารเวทนา และพระองค์ก็จะได้ขึ้นเป็นจวิ้นจู่แห่งต้าเซี่ย!”

เมื่อคำพูดประโยคนี้ถูกพูดออกมา หวงไท่เฟยโมโหจนแทบจะกระอักเลือดเสียด้วยซ้ำ “กาวม่านหย่วน เจ้าบังอาจกล่าวหาหว่านเยียนรึ? ช่างกล้าเสียจริง!”

“เจ้าบังอาจใส่ร้ายป้ายสีฮองเฮาเหนียงเหนียง! กำเริบเสิบสานเกินไปแล้ว!” หยุนเหิงโมโหเป็นอย่างมาก เตรียมพุ่งเข้าไปสั่งสอนพ่อบ้านกาว ทว่าถูกเหล่าองครักษ์รั้งตัวไว้ก่อน เพราะอย่างไรเสียทั้งสองแคว้นก็มีความสัมพันธ์ทางการทูต ไม่เป็นประโยชน์ใดๆ ทั้งสิ้น

พ่อบ้านกาวมั่นใจเป็นอย่างมาก “เป็นการกล่าวหาหรือไม่ เกรงว่ามีแต่ฮองเฮาเหนียงเหนียงเท่านั้นที่รู้ดีเป็นที่สุด!”

“สถานการณ์ตอนนี้ พระนางไม่ยอมพูดอะไรแม้แต่คำเดียว เอาแต่กดหัวใจท่านน้าของพระนางไม่หยุด กลัวว่าจะตายไม่สนิท แม้แต่ฝ่าบาทก็ยอมให้พระนางทำตัวเช่นนี้ ทุกอย่างยังชัดเจนไม่พออีกหรือ?”

ไม่ว่าอย่างไร การยัดเยียดความผิดเรื่องมือสังหารให้กับหนานหว่านเยียนนั้นถือว่าเหมาะที่สุดแล้ว ไม่ว่าพวกเขาจะหลุดพ้นจากความผิดทางนี้ หรือสามารถช่วยให้คุณหนูหวนคืนสู่ฐานะจวิ้นจู่ได้ ล้วนมีแต่ข้อดีไม่มีข้อเสีย

ทุกคนต่างพากันหันไปมองหนานหว่านเยียนและกู้โม่หาน เมื่อเห็นว่าหนานหว่านเยียนพยายามกดร่างกายของโม่หวิ่นหมิงอย่างเต็มแรง ต่างก็รู้สึกว่านางโหดร้ายเป็นอย่างมาก แม้แต่คนตายก็ไม่ละเว้น!

“นึกไม่ถึงเลยว่าฮองเฮาเหนียงเหนียงจะจิตใจโหดเหี้ยมถึงเพียงนี้ เพื่อที่จะแอบอ้างเป็นจวิ้นจู่ของพวกเรา แม้แต่ญาติในสายเลือดก็ยังลงมือทำร้ายได้ลงคอ!”

“ใช่แล้ว บนตัวของฮองเฮาไม่มีบาดแผลแม้แต่นิดเดียว แต่ท่านน้าของฮองเฮากลับตรงกันข้ามอย่างสิ้นเชิง เขาต้องทุกข์ทรมานแค่ไหนกัน แม้ว่าจะตายไปแล้ว ฮองเฮาก็ยังคอยกดร่างกายของเขาอย่างรุนแรง ช่างจิตใจช่างโหดเสียเลขอะไร…”

ไท่เฟยได้ยินแล้วก็โมโหควันแทบออกหู พระนางตะโกนเสียงดังลั่น “หุบปากประเดี๋ยวนี้!”

“เจ้าพวกฝูงคนตาบอดใจบอด พวกเจ้าไม่เห็นหรือว่าหนานหว่านเยียนและกู้โม่หานกำลังพยายามที่จะช่วยชีวิตแค่ไหน?!”

“พวกเจ้าเป็นถึงราชทูตของต้าเซี่ย บางคนก็เคยเป็นขุนนางเก่าของพี่หญิงชิงเสียด้วยซ้ำ! ไม่มีวิจารณญาณของตนเองเลยหรือ ใครพูดอะไรก็เชื่อไปหมด?!”

ไท่เฟยสีหน้าฉุนเฉียว เหล่าบรรดาราชทูตต่างก็พากันเงียบไปตามๆ กัน

พ่อบ้านกาวสีหน้าเคร่งขรึม ยังไม่ทันที่เขาจะได้ปลุกปั่นต่อ ก็ถูกสายตาที่คมกริบประดุจมีดของไท่เฟยจ้องมองมาที่เขาทันที พลางพูดขึ้นด้วยน้ำเสียงที่เกรี้ยวกราดและน่ากลัวเป็นอย่างมาก “เจ้าก็อีกคน กาวม่านหย่วน!”

“พวกเจ้ายังต้องการความสัมพันธ์ทางการทูตกับแคว้นซีเหย่อีกหรือไม่?! ข้าดูแล้ววันนี้พวกเจ้ามาเพื่อที่จะยุยงให้เกิดข้อพิพาทระหว่างสองแคว้นเสียมากกว่ากระมัง!”

“ข้าจำไม่ได้เสียแล้วว่าต้าเซี่ยอบรมสั่งสอนราชทูตเช่นนี้ สรุปแล้ว เจ้าใช่คนที่ต้าเซี่ยส่งมาหรือไม่…”

ยอดชายากับองค์หนูน้อยแห่งจวนอ๋องอี้

ยอดชายากับองค์หนูน้อยแห่งจวนอ๋องอี้

Status: Ongoing
หนานหว่านเยียน อัจฉริยะแห่งวงการแพทย์ ข้ามภพมาเป็นพระชายาอัปลักษณ์ผู้ถูกทอดทิ้งแห่งจวนอ๋องอี้ แต่ด้วยมันสมองของอัจฉริยะ และความแข็งแกร่งฉบับสาวยุคใหม่ เธอจะพลิกเกมกลับมาแก้แค้นไอ้พวกเศษสวะให้สิ้นซาก!

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท
Close Ads ufanance
Click to Hide Advanced Floating Content สล็อตออนไลน์
Click to Hide Advanced Floating Content สมัคร ufabet
Click to Hide Advanced Floating Content สล็อตฟรีสปิน