ยอดชายากับองค์หนูน้อยแห่งจวนอ๋องอี้ นิยาย บท 833
เมื่อได้ยินลู่ยวนหลีได้เปลี่ยนคําพูดในที่สุด ไท่หวงไท่โฮ่วก็ถอนหายใจด้วยความโล่งอก จิตใจที่ตึงเครียดก็ผ่อนคลายลงทันที แต่ดวงตาก็มืดครึ้มลงเล็กน้อย
ในท้ายที่สุด นางทำได้เพียงพูดคุยเกี่ยวกับขั้นตอนนี้ แต่จะแยกทางกับเหลนสาวที่น่ารักทั้งสองนางก็ทำใจไม่ได้จริงๆ
หลี่หมัวหมัวมองไปที่เหล่าไท่ไท่ ก็ดอไม่ได้ที่จะปวดใจ
เดิมที มันไม่ง่ายสำหรับซีเหย่ที่จะให้กำเนิดองค์หญิง แต่ตอนนี้องค์หญิงทั้งสองถูกพาตัวไปพร้อมกัน ไท่หวงไท่โฮ่วอาจรู้สึกอึดอัดใจมาก
พ่อบ้านกาวอยากจะโต้แย้งเป็นอย่างมาก แต่สถานการณ์ตอนนี้มันไม่มีโอกาสเลย
และเขาคิดเกี่ยวกับเรื่องนี้อีกครั้ง สถานการณ์ในตอนนี้ มันอาจจะปลอดภัยมากกว่าสำหรับจวิ้นจู่ที่จะอยู่ในซีเหย่ มิฉะนั้นด้วยอารมณ์ขององค์ชายรอง เขาอาจจะลงมืออย่างรุนแรงจริง ๆ
แต่ไม่ว่าอย่างไร เขาก็ไม่สามารถคืนสถานะของนางในฐานะจวิ้นจู่ได้ เขาแค่รู้สึกเสียดายและไม่เต็มใจ!
ลู่ยวนหลีไม่มีอารมณ์ที่จะใส่ใจกับความคิดของพ่อบ้านกาว เขามองไปที่ไท่หวงไท่โฮ่วด้วยดวงตาที่ชัดเจน และน้ำเสียงของเขาก็แน่วแน่
“แม้ว่าพวกข้าจะบรรลุข้อตกลงแล้ว แต่ไม่มีหลักฐานสำหรับสิ่งที่พวกข้าพูด ข้านี้เห็นว่าต้องมีการลงนามในสนธิสัญญา”
เดิมทีทั้งสองแคว้นได้บรรลุข้อตกลงผ่านการหารือ ดังนั้นพวกเขาควรลงนามในดารหารือ
ไท่หวงไท่โฮ่วไม่คัดค้าน แต่เรื่องใหญ่ของแคว้น ฮ่องเต้ควรเป็นผู้ออกหน้า แต่เมื่อนางคิดถึงสภาพในปัจจุบันของกู้โม่หานที่หลงใหลในตัวเยียนเอ๋อร์ เขาจะไม่เห็นด้วยกับเรื่องนี้ และไม่ยอมปล่อยตัวคนอย่างแน่นอน อาจเป็นเช่นเดียวกับหวยซื่ออ๋อง ถ้าพวกเขาใช้อารมณ์ ก็จะเกิดสงครามระหว่างสองแคว้น
ด้วยความกลัวว่ากู้โม่หานจะตัดสินใจในสิ่งที่เป็นอันตรายต่อแคว้น ไท่หวงไท่โฮ่วจึงพยักหน้าอย่างหนักแน่น ท่าทางเปลี่ยนเป็นหนักแน่นขึ้น “ข้ากับหวยซื่ออ๋องจะลงนามในสัญญานี้!”
มุมปากของลู่ยวนหลียกขึ้นเล็กน้อย “ไท่หวงไท่โฮ่วตรงไปตรงมาจริงๆ! มา เขียนหนังสือสัญญามา”
ข้าราชบริพารของซีเหย่ ร่างต้นฉบับทันทีโดยเขียนข้อตกลงทั้งหมดที่ไท่หวงไท่โฮ่วและลู่ยวนหลีเพิ่งพูดถึง
ทูตของลู่หยวนหลียังได้ร่างต้นฉบับด้วยตัวอักษรของต้าเซี่ยและอ่านด้วยตัวเองหนึ่งรอบ จากนั้นก็ลงนามในหนังสือสัญญาสองฉบับและพิมพ์ลายมือแล้วมอบให้ไท่หวงไท่โฮ่ว “เชิญเถอะ”
ไท่หวงไท่โฮ่วขมวดคิ้วขณะมองดูข้อความในสัญญา
แม้ว่านางจะรู้ว่ามันไม่ดี แต่ในส่วนตัวของนางรู้สึกว่าหว่านเยียนและโม่หานยังเป็นสามีภรรยากันเสมอ สามีภรรยาทะเลาะกัน จะมีวันที่คืนดีกันซักวันหนึ่ง
ยิ่งไปกว่านั้น ตอนนี้หว่านเยียนกำลังตั้งครรภ์ เป็นไปได้หรือที่จะไม่ต้องพ่อให้กับเด็กในท้อง?
ในตอนนี้มันเป็นเพียงแค่ความขัดแย้ง เมื่อพวกเขาคืนดีกันหลังจากนี้ และหว่านเยียนก็จะได้เป็นจักรพรรดินีอีกครั้ง การฟื้นฟูความสัมพันธ์ทางการทูตกับต้าเซี่ยก็จะไม่ใช่เรื่องยากอีก
เมื่อคิดเช่นนี้ นางรับหนังสือสัญญาและพู่กันมาลงชื่อแทนและพิมพ์รอยนิ้วมือด้วย
ด้านข้างหลี่หมัวหมัวและข้าราชบริพารมองดูเหตุการณ์ตรงหน้ากำลังคิดว่า ตอนนี้ฮ่องเต้และฮองเฮากำลังทะเลาะกัน ท่านน้าของฮองเฮายังเสียชีวิตในพระราชวัง
ถ้าฮองเฮากลับต้าเซี่ยแล้วจริงๆ มักจะรู้สึกว่าซีเหย่กับต้าเซี่ย—จะทำสงครามกันโดยตรง…
หลังจากที่ไท่หวงไท่โฮ่วลงนามแล้ว ลู่หวนหลีก็เอาหนังสือสัญญาส่วนที่เป็นของเขาไปให้คนเก็บรักษาไว้
หลังจากนั้นก็มองไท่หวงไท่โฮ่วด้วยสีหน้าเย็นชา “ข้าไม่คุ้นเคยกับเส้นทางในวังมากนัก ไปรับว่านเยียนไม่สะดวกนัก โปรดขอให้ไท่หวงไท่โฮ่วฝากคนนำทางไว้ ”
ไท่หวงไท่โฮ่วดูเหมือนจะแก่ตัวลงทันที มองมาที่หลี่หมัวหมัว “เจ้าแนะนำทางให้หวยซื่ออ๋องเถอะ มีเรื่องอะไรรายงานให้ข้าทราบได้ตลอดเวลา”
หลี่หมัวหมัวตอบว่า “เพคะ ไท่หวงไท่โฮ่ว”
ท้ายที่สุด นางรู้ว่าเมื่อลงนามแล้ว โดยหว่ายยียนพวกนางจะอยู่อีกไม่นาน นางจึงไม่กล้าที่จะมองหว่านเยียนและเด็กหญิงตัวน้อยทั้งสองมากไปกว่านี้
กลัวที่จะมอง ในใจก็ทนไม่ไหวที่พวกนางจะจากไปแล้ว…
ไท่หวงไท่โฮ่วออกไปแล้ว หลิวช่างชูและคนอื่นๆ ก็ไม่มีความจำเป็นที่จะต้องอยู่ต่อ
หลังจากพวกเขาหลายคน ทำความเคารพลู่ยวนหลี พวกเขาก็จากไปทีละคน ในใจพวกเขารู้สึกเสียใจที่เคยทำร้ายหนานหว่านเยียนก่อนหน้านี้
ตอนนี้ฮองเฮาเป็นจวิ้นจู่จริงๆ และนางจะเป็นราชินีในอนาคต หวังว่านางจะไม่ถือโทษโกรธเคือง…
ผู้คนที่ไม่เกี่ยวข้องจากไป ลู่ยวนหลีเหลือบมองทูตจากต้าเซี่ยกลุ่มก่อนหน้า จากนั้นตาของเขาก็จับจ้องไปที่ร่างของพ่อบ้านกาว
พ่อบ้านกาวก็มองเขาเช่นกัน มองด้วยท่าทางที่ไม่เต็มใจและไม่เห็นด้วย ม่านตาสีทองของลู่หยวนส่องแสงด้วยความเย็นชา “พาเขาลงไปและควบคุมอย่างแน่นหนา!”
“พ่ะย่ะค่ะ” ขณะที่พวกทหารองครักษ์กําลังจะลากพ่อบ้านกาวออกไป ปากของพ่อบ้านกาวถูกปิดกั้น แต่ก็ยังตะโกนอย่างแข็งขันว่า “เตี้ยนเซี่ย ท่านจําคนผิดแล้ว หนานหว่ายเยียนนั้น ห้ามนํากลับไปต้าเซียเด็ดขาด…”
พ่อบ้านกาวกำลังสะอื้นไห้และไม่สามารถออกเสียงพูดได้อย่างชัดเจน แต่ทุกคนสามารถเดาได้ว่าเขาพูดอะไร
ลู่ยวนหลีทำเป็นหูหนวก หันไปสั่งคนอื่นๆ ว่า “พวกเจ้าไปพาองค์หญิงน้อยทั้งสองมา!”
“พ่ะย่ะค่ะ เตี้ยนเซี่ย” เหล่าองครักษ์พยักหน้าตอบรับ ลู่ยวนหลีมองหลี่หมัวหมัวอย่างเย็นชา “หลี่หมัวหมัว นำทางไป…”
อีกด้านหนึ่ง ในตำหนักใหญ่
หมอหญิงที่ลู่ยวนหลีส่งมาพร้อมกับเขา มารักษาหนานหว่านเยียนอยู่ในตำหนัก
กู้โม่หานและหยุนเหิงก็ยืนอยู่นอกตำหนัก กู้โม่หานหน้าซีดเซียว เมื่อสักครู่หว่านเยียนได้เกิดอาการก่อนคลอดก่อนที่จะเข้าไปในตำหนัก หากมีเหตุฉุกเฉินเกรงว่าเด็กจะรักษาไว้ไม่ได้
หัวใจของเขาเย็นเยือกราวกับน้ำแข็ง เห็นได้ชัดว่าเขายืนอยู่ตรงนี้แต่กลับไม่สามารถทำอะไรได้
ในเวลานี้ หมอหลวงในวังก็มาอย่างรีบร้อนเช่นกัน
เขาทำความเคารพกู้โม่หาน “ฝ่าบาท ข้ามาสาย โปรดยกโทษให้ข้าด้วย!”
กู้โม่หานไม่ตอบสนอง ตอนนี้มีหมอหญิงอยู่ในตำหนัก หมอหลวงไม่มีความจำเป็นในตอนนี้
หมอหลวงแอบมองไปที่หยุนเหิง ยุนเหิงบอกให้เขารีบลุกขึ้น จากนั้นเขาจึงลุกขึ้นอย่างสั่นเท้าและสังเกตเห็นปิ่นที่เสียบอยู่ที่หน้าอกของกู้โม่หาน
ทันใดนั้นหมอหวงก็สีหน้าตกใจและรีบเอ่ยปากว่า “ฝ่าบาท บาดแผลของท่านเลือดไหลไม่หยุด ต้องจัดการให้เร็วที่สุด ท่านโปรดถอดเสื้อคลุมออกและให้กระหม่อมจัดการแผลให้ท่านด้วย”
กู้โม่หานเม้มริมฝีปากเป็นเส้นตรง “ไม่ต้อง”
ความเจ็บบาดแผล สามารถทำให้เขามีสติได้
หยุนเหิงก็กระวนกระวายเหมือนมดบนกระทะที่เผาไฟจนร้อน “ฝ่าบาท โปรดฟังหมอหลวงเถอะ”
“ตอนนี้ชีวิตและความตายของฮองเฮาเหนียงเหนียงยังไม่แน่นอน แทนที่จะทนเจ็บเช่นนี้ ท่านควรรักษาให้เร็วกว่านี้ เพื่อว่าเมื่อฮองเฮาเหนียงเหนียงตื่นขึ้น ท่านจะได้มีแรงไปเยี่ยมนางไม่ใช่หรือ?”
มิฉะนั้น ถ้าเป็นเหมือนเมื่อสองเดือนก่อน เมื่อกู้โม่หานปฏิเสธที่จะรักษาแผลไฟไหม้ที่แขนของเขา ทำให้เกิดแผลเป็นที่ไม่มีวันรักษาหายไปตลอดชีวิต สิ่งนี้…
อีกอย่างครั้งนี้จักรพรรดิได้รับบาดเจ็บที่หน้าอก ถูกอาวุธมีคมแทงทะลุ นอกจากนี้ยังเป็นเพราะเรี่ยวแรงของเหนียงเหนียงมีไม่มาก บาดแผลจึงไม่ถูกแทงลึกมาก มิฉะนั้น คงจะแย่จริงๆ…
ใบหน้าที่หล่อเหลาของกู้โม่หานกลายเป็นสีซีดและไม่น่าดู ทันใดนั้นเขาก็หลุบขนตาที่ดำราวกับหมึกลงและพึมพำด้วยเสียงต่ำ
“นางไม่อยากพบข้าแล้ว ไม่อยากแล้ว…”