ซูเหวินชิงพูดขึ้นมาด้วยท่าทีโกรธเคือง “ท่านอาวุโสของตระกูลเซี่ยกล่าวว่า เจ้าไม่รู้จักการแพทย์เสียด้วยซ้ำ ในยามที่เจ้ามารักษาให้ฮูหยินรองตระกูลเซี่ยนั้นเจ้าเกือบจะทำให้ฮูหยินรองตายเสียด้วย นับว่าโชคดีที่คนในตระกูลเซี่ยได้ไปเชิญหมอหลวงหยวนมาเสียก่อน ถึงได้รักษาชีวิตของฮูหยินรองตระกูลเซี่ยเอาไว้ได้ หมอหลวงหยวนเองก็กล่าวว่า หลังจากที่เขาได้ดูบาดแผลของฮูหยินรองแล้วนั้น ก็รู้ได้เลยว่า เจ้าหาได้มีความรู้ทางด้านการแพทย์ไม่ อีกทั้งยังเป็นเพียงแค่ครูพักลักจำมาเท่านั้น ตระกูลเซี่ยยังกล่าวว่า พวกเขาจะฟ้องร้องเจ้า”
เฟิ่งชิงเฉินพลันถอนหายใจออกมาอย่างไร้เรี่ยวแรง “ฮูหยินรองตระกูลเซี่ยงั้นหรือ?”
มีเพียงแค่คนไข้ของนางเท่านั้น ที่จะมีอำนาจพูดออกมาได้
“ไม่รู้เช่นกัน ฮูหยินรองตระกูลเซี่ยหาได้มาออกหน้าไม่” ซูเหวินชิงมิได้ปกปิดเรื่องราวเอาไว้
“อย่างน้อย คนไข้ของข้าก็มิได้ใส่ร้ายข้า ก็พอแล้ว” เฟิ่งชิงเฉินพยายามจะทำตัวให้ร่าเริงเข้าไว้ในยามนี้
หากคนในยุคนี้จะสงสัยในทักษะการแพทย์ของนางนั้น ก็มิได้แปลกแต่อย่างใด นางเข้าใจได้ นอกจากภายในราชสำนักที่มีสตรีเป็นหมอหลวงแล้ว ก็ไม่มีสตรีคนใดที่รู้จักทักษะการแพทย์ได้ อีกทั้งยังกล้าออกมาพูดว่าตนเองรู้เรื่องนี้ดีด้วย
แต่เฟิ่งชิงเฉินมิคาดคิดเลยว่า จะมีคนมาใช้ประโยชน์จากสิ่งนี้ เพื่อมาสร้างข่าวลือให้นางเป็นคนหลอกลวง
คนหลอกลวง ถือเป็นข้อกล่าวหาที่ร้ายแรงมากนัก โดยเฉพาะการหลอกลวงในเรื่องทักษะการแพทย์นั้น เสมือนเป็นการฆาตกรรมบุคคลทางอ้อมเลยทีเดียว
เฮ้อ คนพวกนี้ต้องการจะสังหารนางงั้นหรือ?
“เฟิ่งชิงเฉิน เจ้าไม่ต้องสนใจฮูหยินรองตระกูลเซี่ยหรอกว่าจะเช่นไร เฟิ่งชิงเฉิน รีบไปเถอะ ออกไปจากเมืองหลวงแห่งนี้ ตอนนี้ ที่นี่ไม่มีที่ใดให้เจ้าอยู่ได้อีกแล้ว ข้าจะส่งเจ้าไปอยู่แถบชายแดน ที่นั่นมีพี่น้องข้าอยู่มากมายนัก พวกเขาจะสามารถช่วยเหลือเจ้าได้ เจ้าจะไม่เป็นอันใด ” อวี่เหวินหยวนฮั่วพลันมองไปที่เฟิ่งชิงเฉินด้วยท่าทางเป็นกังวล
เมื่อได้ยินข่าวลือเช่นนี้ อย่าได้พูดถึงเฟิ่งชิงเฉินเลย แม้แต่พวกเขาเองก็รู้สึกโมโหยิ่งนัก
“ไป? ข้าไปไม่ได้ หากข้าไปตระกูลหวังก็จะซวยเพราะข้า หวังจิ่นหลิงช่วยข้าถึงเพียงนี้ ข้าจะทรยศต่อความไว้ใจของเขาไปได้อย่างไร”
“แต่ว่า” ทั้งอวี่เหวินหยวนฮั่วและซูเหวินชิงต่างก็ลอบสบตากันไปครู่หนึ่ง
“พวกเจ้าไม่เชื่อข้า?”
มิน่าเล่า ข่าวลือถึงแพร่ไปไวถึงเพียงนั้น อีกทั้งยังทำให้ผู้คนสงสัยได้ ที่แท้ก็เป็นเพราะ
แม้แต่คนใกล้ตัวนางก็ยังไม่เชื่อใจนาง
นางล้มเหลวในการเป็นมนุษย์ยิ่งนัก!
ทั้งอวี่เหวินหยวนฮั่วและซูเหวินชิงต่างก็รีบร้อนอธิบายออกมา “ไม่ไม่ไม่ พวกข้าหาได้ไม่เชื่อใจเจ้าไม่ เพียงแค่ ดวงตาของหวังจิ่นหลิงนั้น มิใช่เรื่องที่จะรักษาได้ง่าย”
แม้แต่หมอธรรมดายังยอมแพ้ให้กับดวงตาของหวังจิ่นหลิง แม้แต่ปรมจารย์แห่งหุบเขาซวนยีเองก็ยังไร้หนทางในการรักษาเขา พร้อมกล่าวว่า ให้หวังจิ่นหลิงยอมแพ้เสียเถอะ ว่าดวงตาของเขายากที่จะฟื้นฟูขึ้นมาใหม่ได้แล้ว
แน่นอนว่า เรื่องนี้มีเพียงคนในภายในตระกูลหวังเท่านั้นที่ล่วงรู้ หากข่าวนี้ถูกแพร่กระจายออกมานั้น หากเป็นเช่นนั้น มันจะเลวร้ายต่อเฟิ่งชิงเฉินมากกว่านี้อีก
พวกเขาหาได้ไม่เชื่อใจต่อเฟิ่งชิงเฉินไม่ ทว่า เพียงแค่เป็นกังวลเท่านั้น ว่าเรื่องนี้อาจจะทำให้เฟิ่งชิงเฉินตกอยู่ที่หน้าลำบากก็เป็นได้
หากการรักษาล้มเหลวแล้วนั้น เฟิ่งชิงเฉินย่อมไม่อาจมีที่ยืนไปได้อีก
ฮ่าฮ่าฮ่า
เฟิ่งชิงเฉินพลันหัวเราะออกมาด้วยความเศร้าใจทั้งรู้สึกอ้างว้างในเวลาเดียวกัน
“แม้แต่พวกเจ้ายังไม่เชื่อใจข้า ข้าจะไปเพ้อฝันให้ผู้คนภายนอกเชื่อใจข้าได้อย่างไร หากพวกเจ้าไม่เชื่อก็คือไม่เชื่อ”
“เฟิ่งชิงเฉิน พวกข้ามิใช่ว่า”
อยากจะพูดออกมาว่า หาใช่เช่นนั้นไม่ แต่เมื่อเห็นแววตาของเฟิ่งชิงเฉินที่มองออกและเข้าใจทุกอย่างแล้วนั้น ก็อดที่จะกลืนคำพูดของตนเองลงคอไปมิได้
พวกเขาไม่เชื่อจริง ๆ
ถึงแม้ว่าเฟิ่งชิงเฉินจะรู้ทักษะการแพทย์นั้น แต่นางอายุยังน้อยยิ่งนัก จะไปสู้ปรมาจารย์ทางด้านการแพทย์ที่มีอายุมากกว่าไปได้อย่างไร
ในโลกนี้ คงไม่มีผู้ใดเชื่อว่า เฟิ่งชิงเฉินจะสามารถรักษาดวงตาของหวังจิ่นหลิงได้หรอกกระมัง
แม้แต่วังจิ่นหลิงเอง เมื่อได้ยินปรมจารย์แห่งหุบเขาซวนยีกล่าวเช่นนั้น ก็ย่อมต้องหวั่นใจบ้าง
แต่ทว่า ด้วยบุคลิกของเขาแล้ว ก็คงจะไม่ทำการซ้ำเติมเฟิ่งชิงเฉินเป็นแน่
“เฟิ่งชิงเฉิน แม้แต่หมอที่มีชื่อเสียงมากมาย ต่างก็บอกว่าดวงตาของหวังจิ่นหลิงยากที่จะรักษาให้กลับมาได้ นอกจากจะต้องพึ่งปาฏิหาริย์เท่านั้น ”
“พึ่งปาฏิหาริย์งั้นหรือ?” เฟิ่งชิงเฉินพลันลุกขึ้นยืน พร้อมกับมองไปที่อวี่เหวินหยวนฮั่วและซูเหวินชิง แล้วจึงกล่าวออกมาด้วยท่าทีมั่นใจว่า
“ท่านแม่ทัพอวี่เหวิน คุณชายซู ข้า เฟิ่งชิงเฉินจะต้องรักษาดวงตาของหวังจิ่นหลิงให้กลับมามองเห็นเหมือนเดิมได้แน่ พวกเจ้าจงรอดูข้า ผู้ที่จะสร้างปาฏิหาริย์นั้นขึ้นมาด้วยตนเองเถิด!”
พูดจบ เฟิ่งชิงเฉินก็พลันก้าวเท้ายาว ๆ กลับห้องไปในทันที
หากผู้คนบนโลกนี้ไม่เชื่อนาง นางก็จะแสดงให้ผู้คนทั่วโลกได้เห็นกับตาด้วยตนเอง
สิ่งที่พวกเจ้าเชื่อว่าเป็นไปไม่ได้ แต่สำหรับข้าแล้ว มันเป็นเพียงเรื่องเล็กน้อยเท่านั้น
ดวงตาของหวังจิ่นหลิงจะต้องกลับมามองเห็นโลกใบนี้ได้อีกครั้ง
ตลอดทั้งคืน เฟิ่งชิงเฉินเอาแต่ขังตัวเองไว้ที่ห้องผ่าตัดที่ตระกูลหวังสร้างขึ้นมา ทั้งอวี่เหวินหยวนฮั่วและซูเหวินชิงต่างก็เป็นกังวลยิ่งนัก หากแต่ก็ไม่กล้าจะเคาะประตูเรียก มีเพียงคำเกลี้ยกล่อมของเฟิ่งชิงเฉินที่ดังออกมา บอกให้พวกเขากลับไป แล้วพรุ่งนี้ค่อยมาใหม่
ในระหว่างนั้นเอง โจวสิงก็ได้เข้ามาส่งข้าวส่งน้ำให้กับนาง ภายใต้คำสั่งของเฟิ่งชิงเฉินที่บอกไปว่า ห้ามผู้ใดมารบกวนนางอีก
นางจะต้องเตรียมการสำหรับการผ่าตัดในวันพรุ่งนี้ นี่ถือเป็นการผ่าตัดครั้งแรก ที่นางได้ข้ามมาในราชวงศ์ตงหลิง นางจะไม่ยอมให้มีสิ่งใดมาทำให้แผนการของนางต้องล้มเหลวเป็นอันขาด
ในยามที่เฟิ่งชิงเฉินเอาแต่ขังตนเองไว้ที่ห้องผ่าตัดหนึ่งคืนนั้น หลานจิ่วชิงเองก็อยู่เป็นเพื่อนนางที่ด้านนอกด้วยเช่นกัน
“เฟิ่งชิงเฉิน ข้าเชื่อใจเจ้า เอาความสามารถทั้งหมดที่เจ้ามี ไปถล่มข่าวลือพวกนั้นให้ราบคาบเสีย เจ้าจักได้กลายมาเป็นหมอเทวดา!”
เมื่อใกล้รุ่ง ร่างของหลานจิ่วชิงเองก็ได้หายวับไปกับสายลมในทันที
วันที่สอง เฟิ่งชิงเฉินปรากฏตัวต่อหน้าโจวสิงด้วยอารมณ์แจ่มใสยิ่งนัก ไม่เหมือนผู้ที่อดหลับอดนอนมาตลอดทั้งคืนเลย
แท้จริงแล้ว นางผลอยหลับไปในห้องผ่าตัดครึ่งค่อนคืน ฉะนั้นแล้ว นางไม่อาจทำตัวให้ตนเองดูไม่สดใสให้ทุกคนได้เห็นได้
วันนี้เสมือนเป็นสงครามของเฟิ่งชิงเฉินขนาดย่อม ๆ นางจักปล่อยให้เกิดข้อผิดพลาดขึ้นมาได้อย่างไร
นางต้องไปที่ตระกูลหวังด้วยตนเอง เพื่อไปหารือและวางแผนเกี่ยวกับการผ่าตัดของหวังจิ่นหลิง ก็เพื่อใช้ความสามารถของตนเอง ประจักษ์ให้ทุกคนได้เห็นว่านางมีความสามารถและนางก็ภูมิใจในตัวตนของนาง
ความบริสุทธิ์ของนาง หาใช่ผู้ใดจะเอามาพูดก็พูดได้ อีกทั้งข้อกล่าวหาที่นางเป็นคนหลอกลวงนั้น หาใช่ผู้ใดจะมาสาดข่าวลือเช่นนี้ใส่นางได้อีกเช่นกัน
คนหลอกลวง?
ฮึ
ตระกูลเซี่ย หมอหลวงหยวน พวกเจ้าเตรียมตัวเอาไว้เถิด!
สิ่งใดที่พวกเจ้าไม่อาจทำได้ มิได้หมายความว่า ข้าเฟิ่งชิงเฉินจักทำไม่ได้เช่นกัน
ยังมีฮองเฮาเหนียงเหนียง องค์หญิงอันผิง พวกเจ้ารอดูงิ้วดี ๆ เสีย แม้ว่างิ้วเช่นนี้จะถูกกำกับโดยพวกเจ้า หากแต่ตอนจบนั้น หาใช้สิ่งที่พวกเจ้าจักสามารถกำกับมันได้
เสด็จอาเก้า ข้าจะพยายามอย่างหนักก็เพื่อให้สมกับความเชื่อใจที่ท่านคอยช่วยเหลือข้า
ข้าเชื่อว่า ในโลกนี้ย่อมต้องมีอำนาจบางอย่าง ที่สามารถใช้ไปงัดข้อกับองค์จักรพรรดิได้เช่นกัน
ความสามารถที่ถูกสรรสร้างขึ้นมา ข้าเชื่อว่าความสามารถของข้าจะเป็นตัวบ่งบอกของฐานะตนเองได้เป็นอย่างดี ข้าเฟิ่งชิงเฉินที่เป็นสามัญชนธรรมดาเท่านั้น จักสามารถทำพวกคนชั้นสูงเช่นพวกเจ้าไม่อาจกล้ามาหาเรื่องกับข้าได้อีก
เฟิ่งชิงเฉินพลันสะบัดผ้าพร้อมกับเดินออกไปด้านนอกจวนเฟิ่งในทันที เพียงแค่เปิดประตูออกไปด้านนอกจวนนั้น ด้านนอกจวนที่ถูกทิ้งให้รกร้างเมื่อวาน ในยามนี้เสมือนกับตลาดนัดให้ผู้คนมาเลือกซื้อผักปลายิ่งนัก มันรายล้อมไปด้วยผู้คนมากมายที่กำลังด่าทอนาง
“เฟิ่งชิงเฉิน เจ้าคนโกหก คืนเงินข้ามาเดี๋ยวนี้”
“เฟิ่งชิงเฉิน เจ้าคนโกหก เจ้าจงชดใช้สำหรับที่เจ้าฆ่าคนตายเสีย เอาชีวิตมารดาข้าคืนมา”
“เฟิ่งชิงเฉิน เจ้าคนหน้าไม่อาย ไสหัวออกมาหาข้าเดี๋ยวนี้”
เจ้าคนพวกนี้ แค่นางกวาดตามองก็รู้แล้ว ว่าเป็นคนที่ถูกส่งมาใส่ความนาง เนื่องจากว่า พวกเขาหาได้มุ่งหน้าที่จะพังเข้ามาในจวนตระกูลเฟิ่งไม่ เพียงแค่สร้างข่าวลืออยู่รอบ ๆ จวนตระกูลเฟิ่งเท่านั้น
ปึ้ง
เฟิ่งชิงเฉินพลันปิดประตูจวนในทันที
นางรู้ดีว่า ในสถานการณ์เช่นนี้ นางไม่อาจไปถึงตระกูลหวังได้แน่
“พี่ เช่นนั้นจะทำเช่นไรดี? พวกเขาทำเช่นนี้ มิใช่จะทำให้พวกเราต้องตายอยู่ในจวนตระกูลเฟิ่งหรือ?” สีหน้าของโจวสิงเป็นกังวลยิ่งนัก ก่อนหน้านั้น ยามที่เขาเดินออกมา หาได้พบเจอกับเหตุการณ์เช่นนี้ไม่
“ย่อมต้องมีทางออกแน่” เฟิ่งชิงเฉินยืนพิงอยู่ที่บานประตู พร้อมกับคิดวิธีการที่จะปืนข้ามกำแพงออกไป
ทว่า นางก็ปัดตกความเป็นไปได้นี้ ไปในทันที
เกรงว่า เรื่องที่เมื่อวานนางพูดคุยกับพวกอวี่เหวินหยวนฮั่วนั้น ต้องมีข่าวหลุดออกไปแน่ เช่นนั้น มันย่อมไม่เกิดเรื่องเช่นนี้ขึ้นมา
เรื่องบังเอิญหรือ? นี่มันเป็นหนังของพวกฮ่องกงใต้หวันหรือ ถึงได้มีเหตุการณ์บังเอิญเกิดขึ้นมาเช่นนี้
แต่ทว่า เฟิ่งชิงเฉินหาได้สงสัยในตัวอวี่เหวินหยวนฮั่วหรือซูเหวินชิงสองคนนี้ไม่อย่างไรสองคนนี้ย่อมไม่อาจทรยศต่อนางได้แน่นอน
บางที ฝ่ายตรงข้ามอาจจะคอยจับตามองทุกฝีก้าว พร้อมทั้งลอบฟังสิ่งที่นางพูดออกไปทุกถ้อยคำก็เป็นได้
“แย่แล้ว”
เฟิ่งชิงเฉินพลันส่งเสียงร้องออกมา พร้อมกับมุ่งหน้าวิ่งไปที่ห้องผ่าตัวด้วยความรวดเร็ว
“พี่” โจวสิงตกใจยิ่งนัก
เฟิ่งชิงเฉินหาได้มีเวลามาสนใจสิ่งใดไม่ นางมุ่งหน้าวิ่งไปที่ห้องผ่าตัดในทันที
หากอีกฝ่าย คอยจับตามองนางอยู่นั้น เช่นนั้น พวกเขาก็ต้องรู้ว่า ห้องสองห้องนี้ มีความสำคัญต่อนางเช่นไรบ้างอย่างแน่นอน
ถึงแม้ว่า ผู้คนในยุคนี้ จะไม่เชื่อความสามารถของนางในการรักษาหวังจิ่นหลิง แต่ฝ่ายที่จ้องจะทำร้ายนาง ย่อมต้องหาทางทำลายนางให้ล่มจมอย่างแน่นอนอีกทั้งห้องผ่าตัดนี้ สร้างขึ้นมาด้วยความยากลำบากยิ่งนัก
หลังจากที่ต่อกรกับองค์หญิงอันผิงมากกว่าหนึ่งครั้งแล้วนั้น เฟิ่งชิงเฉินก็รู้จักวิธีขององค์หญิงผิงอันเป็นอย่างดี นางย่อมไม่อาจปล่อยให้เฟิ่งชิงเฉินมีชีวิตรอดไปได้
“ไม่ ไม่ อย่าทำลายห้องผ่าตัดของข้า”
“เร็วเข้า รีบเร็วเข้า ห่องผ้าตัดที่เป็นเลือดเนื้อของข้า อีกทั้งยังเป็นความหวังของข้าอีก ไม่อาจทำลายมันได้”
เฟิ่งชิงเฉินวิ่งไป พร้อมกับคว้าสิ่งของที่อยู่กระเป๋าเครื่องมือแพทย์อัจฉริยะออกมา
นี่ถือเป็นอาวุธชนิดเดียว ที่นางจะใช้เอาไปปราบศัตรูได้แล้ว
ลางสังหรณ์ของเฟิ่งชิงเฉินถูกต้อง ยามที่วิ่งเข้าไปในลานของตำหนักนั้น เฟิ่งชิงเฉินก็พลันเห็นชายฉกรรจ์แปดคน สวมใส่อาภรณ์สีดำอยู่ด้านใน ในมือพลันถือค้อนเหล็กอยู่ พลันกำลังเข้าไปทุบตีห้องผ่าตัดของนาง