นางสนมแพทย์อัจฉริยะ – บทที่ 119 รักษาตงหลิงจื่อลั่ว

นางสนมแพทย์อัจฉริยะ

บทที่ 119 รักษาตงหลิงจื่อลั่ว

“หากไม่อนุญาต ชิงเฉินไม่มีความมั่นใจแม้แต่นิดเดียว และขอให้ฝ่าบาททรงออกพระราชโองการสังหารชิงเฉิน และเชิญหมอยอดฝีมือท่านอื่นมาเสียดีกว่าเพคะ” ทั้งที่เป็นคำกล่าวข่มขู่ แต่ชิงเฉินกลับกล่าวออกมาได้เศร้าโศกอย่างมาก

“ฝ่าบาท ชิงเฉินเป็นหมอ และผู้ที่ได้รับบาดเจ็บในวันนี้คือลั่วอ๋อง หากว่าเป็นคนธรรมดา ชิงเฉินจะไปรับการรักษาโดยไม่คำนึงถึงสิ่งใด ต้องทราบเอาไว้ว่า การช่วยเหลือคนนั้นเหมือนดั่งการดับไฟที่ลุกไหม้ หากว่าช้าลงเท่าใด ลั่วอ๋องก็จะอันตรายมากเท่านั้น”

เฟิ่งชิงเฉินเตือนอีกครั้งว่า ตอนนี้ไม่รู้ว่าตงหลิงจื่อลั่วจะมีชีวิตอยู่ต่อได้หรือไม่ และนี่เกิดจากฮองเฮา มิใช่เพราะเฟิ่งชิงเฉิน

“เฟิ่งชิงเฉิน เจ้ากล้าดียังไงมาขู่จักรพรรดิ” ความแข็งแกร่งที่ฮองเฮาแสร้งสร้างขึ้นมา เกือบจะถูกเฟิ่งชิงเฉินทำพัง

มิต้องกล่าวถึงตำแหน่งของตงหลิงจื่อลั่ว คนที่นอนอยู่บนเตียงซึ่งไม่รู้ว่าจะมีชีวิตรอดหรือไม่นั้น เป็นลูกแท้ๆ ของนางเลยนะ

ความทุกข์ของนางแตกต่างจากความทุกข์ของจักรพรรดิอย่างสิ้นเชิง

“ทูลฮองเฮา ชิงเฉินมิกล้าทำเช่นนั้น ชิงเฉินเพียงแค่พูดความจริง”เฟิ่งชิงเฉินเกือบจะล้มลงกับพื้นร่างกายของนางสั่นเล็กน้อย เผยให้เห็นความกลัวของนางอย่างเงียบ ๆ

นางกลัวจริงๆ กลัวอย่างมาก

กลัวว่าจักรพรรดิจะบังคับให้นางรักษาตงหลิงจื่อลั่วต่อหน้าทุกคน และกลัวว่าจักรพรรดิจะไม่ให้โอกาสนาง และสังหารนางเสีย

นางไม่อยากตาย!

เฟิ่งชิงเฉินรู้ว่าเมื่อฮ่องเต้ออกคำสั่งสังหารนาง เสด็จอาเก้าไม่มีทางปกป้องนาง แม้ว่าเสด็จอาเก้าจะปกป้องนาง แต่เขาก็ทำมิได้

นางสามารถพึ่งพาตัวเองได้เท่านั้น

เฟิ่งชิงเฉินกัดฟันและกล่าวอีกครั้ง “ฝ่าบาท อาการบาดเจ็บของลั่วอ๋องรอนานกว่านี้มิได้แล้วเพคะ หากยิ่งนานก็จะยิ่งอันตรายเพคะ ได้โปรดฝ่าบาททรงออกพระราชโองการเถิดเพคะ”

ท่านจะสังหารข้า หรือให้ข้าช่วยตงหลิงจื่อลั่ว!

หัวใจของเฟิ่งชิงเฉินเป็นกังวลอย่างมาก และรอการตัดสินใจของฮ่องเต้..

สิ่งที่เฟิ่งชิงเฉินไม่คาดคิดคือ จักรพรรดิไม่ตอบคำถามของนาง แต่ถามตงหลิงจิ่ว

“น้องเก้า เจ้าคิดว่าอย่างไร?”

“ฮ่องเต้เป็นคนฉลาด การตัดสินใจของฝ่าบาทนั้นดีที่สุดสำหรับลั่วอ๋องอย่างแน่นอน” ตงหลิงจิ่วไม่ตกตะลึง เขาตีคำถามนี้กลับไปอย่างอ่อนโยน

ตอนนี้ คนที่ร้อนรน มิใช่เขา

“น้องเก้า ลั่วอ๋องได้รับบาดเจ็บเพราะช่วยเจ้า และเฟิ่งชิงเฉินก็ได้รับการแนะนำจากเจ้าเช่นกัน เจิ้นอยากฟังความคิดเห็นของเจ้า”คิดอยากจะทิ้งตัวออกห่างจากเรื่องนี้หรือ? เป็นไปมิได้

แสงเย็นชาวาบในดวงตาของจักรพรรดิ

สำหรับการเสียลูกชายไป เขาต้องได้อะไรกลับมา

“น้องเป็นคนโง่เขลา หากฮ่องเต้คิดว่าเฟิ่งชิงเฉินไม่สามารถรักษาลั่วอ๋องได้ ก็ฆ่านางเสีย นางก็เป็นเพียงหญิงสาวผู้หนึ่ง” เขาดูสงบราวกับว่าเขากำลังคุยกันว่าวันนี้จะกินอะไร

นางรู้แล้วว่าจะเป็นเช่นนั้น แต่หัวใจของเฟิ่งชิงเฉินยังคงเจ็บปวดเล็กน้อยอย่างช่วยไม่ได้

เฟิ่งชิงเฉินยิ้มอย่างขมขื่น และคุกเข่าอยู่บนพื้นเพื่อรอการตัดสินใจของจักรพรรดิ

ที่แท้ นางเป็นเพียงหมากตัวหนึ่งเท่านั้น

สิ่งที่จักรพรรดิสนใจไม่ใช่ว่านางจะสามารถช่วยตงหลิงจื่อลั่วได้หรือไม่ แต่สนใจว่านางจะสามารถทำให้ตงหลิงจิ่วล้มลงมาได้หรือไม่

“เอาล่ะ เช่นนั้นเจิ้น…” ดูเหมือนจักรพรรดิตั้งใจจะเล่นกล เขากล่าวและหยุดลง

หลังจากรอเป็นเวลานานก็ไม่ได้ยินคำพูดของตงหลิงจิ่ว ฮ่องเต้ผิดหวังอย่างมาก เขาเหลือบไปมองตงหลิงจื่อลั่วและกล่าวว่า “เจิ้นจะให้โอกาสเฟิ่งชิงเฉิน น้องเก้าเจิ้นเชื่อเจ้า และเชื่อคนที่เจ้าเสนอมา”

เขาช่วยเฟิ่งชิงเฉินไว้หลายครั้ง แต่เขากลับไม่สนใจว่านางจะอยู่หรือจะตาย

น้องเก้า แผนของเจ้าคืออะไรกันแน่?

จักรพรรดิพบว่าเขาไม่เข้าใจ ตงหลิงจิ่ว มากขึ้นเรื่อย ๆ

และตงหลิงจิ่วไม่เคยคิดว่าจะมีใครมาเข้าใจเขา

“เสด็จพี่กล่าวให้ความสำคัญน้องมาเสียจนเกินไป เฟิ่งชิงเฉินมิใช่คนที่น้องเสนอ น้องเพียงแค่คิดว่าผู้หญิงคนนี้อาจมีทางแก้ น้องได้ยินมาว่านางช่วยหมอหลวงหยวนที่เป็นโรคหลอดเลือดสมองอยู่นอกจวนเฟิ่ง จึงคิดว่าจิตใจและฝีมือการรักษาของหญิงผู้นี้คงจะไม่แย่เท่าไหร่นัก”

เสด็จอาเก้ากำลังเตือนเฟิ่งชิงเฉินว่าอย่านำความคับข้องใจส่วนตัวระหว่างนางกับตงหลิงจื่อลั่วมาเกี่ยวข้องกับเรื่องนี้

“น้องเก้าพูดถูก ผู้หญิงคนนี้จิตใจไม่เลว เฟิ่งชิงเฉินลงมือเถอะ อย่าทำให้เจิ้นผิดหวัง” สิ่งที่ต้องชดใช้เมื่อทำให้จักรพรรดิผิดหวังนั้น อยู่เกินเอื้อมของคนธรรมดา

“ขอบพระคุณฝ่าบาท ฮองเฮาและเสด็จอาเก้า ชิงเฉินจะพยายามอย่างเต็มที่” เฟิ่งชิงเฉินมิกล้ากล่าวกระไรที่ว่าจะไม่ทำให้พวกเขาผิดหวัง เพราะ…

นางเองก็ไม่มั่นใจเช่นกัน

“เช่นนี้ พวกเจ้าออกไปเถิด ให้หมอเฟิ่งอยู่ในห้องนี้เพียงผู้เดียว” จักรพรรดิหันกลับไปและเดินออกไปก่อน

ตงหลิงจิ่วและองค์รัชทายาทเดินตามอย่างใกล้ชิด ฮองเฮาจงใจก้าวช้าลงและพูดด้วยน้ำเสียงที่อ่อนโยนว่า “เฟิ่งชิงเฉิน หากเจ้ารักษาลั่วอ๋องได้ ความคับแค้นในอดีตข้าจะลืมมันไป ข้าขอให้คำสัญญากับเจ้าว่า วันหน้าหากลั่วอ๋องแต่งงานกับพระชายาเอก เจ้าจะได้เป็นเพราะชายารอง”

“ขอบพระคุณฮองเฮา ขอพระองค์ทรงพระเจริญ” เฟิ่งชิงเฉินแสดงความเคารพ “ฮองเฮาโปรดอภัยที่ชิงเฉินไม่สามารถส่งท่านได้ เพราะอาการของลั่วอ๋องน่าเป็นห่วงอย่างมาก”

พระชายารองหรือ? เฟิ่งชิงเฉินไม่แยแสหรอก

หลังจากพูดจบ ไม่ว่าสีหน้าของฮองเฮาจะดูแย่แค่ไหน นางก็หันหลังและเดินกลับไปในห้อง

นางดึงฉากกั้นมาบังหน้าต่างประตูเอาไว้ และจุดเทียน

ฮองเฮาโกรธมากจนอยากจะอาเจียนเป็นเลือด

ไม่มีใครในราชวงศ์ตงหลิงกล้าที่จะไม่ให้เกียรตินางเช่นนี้

“เหนียงเหนียงโปรดใจเย็น อาการบาดเจ็บของลั่วอ๋องสำคัญยิ่งกว่า แม่นางเฟิ่งเองก็ทำเพราะเป็นห่วงอาการของลั่วอ๋องเพคะ” นางกำนัลเร่งปลอบโยนฮองเฮาเหนียงเหนียง

“ไปกันเถอะ” ฮองเฮาสะบัดแขนเสื้อ และนางกำนัลปิดประตูตำหนักอย่างระมัดระวัง

หลังจากที่ผู้คนเดินจากไป เฟิ่งชิงเฉินเป็นเพียงคนเดียวที่เหลืออยู่ในตำหนักขนาดใหญ่ ในที่สุด เฟิ่งชิงเฉินก็สามารถผ่อนคลายความตึงเครียด และใช้กระเป๋าเครื่องมือแพทย์อัจฉริยะ และวินิจฉัยให้ตงหลิงจื่อลั่วได้เสียที

ผลการวินิจฉัยนั้นแย่กว่าที่เฟิ่งชิงเฉินคาดไว้ ดัชนีร่างกายทั้งหมดต่ำกว่าค่าเฉลี่ยมากเกินไป การเต้นของหัวใจอ่อนเสียจนแทบจะตรวจไม่พบ และความดันโลหิตก็ต่ำจนน่ากลัวยิ่งกว่าเดิม

จำเป็นต้องมีการถ่ายเลือด

ตงหลิงจื่อลั่ว กรุ๊ปเลือด O

กรุ๊ปเลือดนี้ไม่ต้องกังวลว่าจะหาเลือดยาก แต่ว่า…..

เฟิ่งชิงเฉินมองไปที่ถุงเลือดกรุ๊ป O ทีเหลือเพียงถุงเดียวในคลังเลือด นางอยากจะร้องไห้แต่ร้องไม่ออก

“เลือด 200cc ไม่เพียงพอเลย” เฟิ่งชิงเฉินถือถุงเลือดเอาไว้ และวางไว้ทางด้านซ้ายของตงหลิงจื่อลั่ว

“คราวหน้า จะต้องเก็บสะสมเลือดเพิ่มอีกนิด เมื่อเวลาเราต้องการใช้มักจะไม่พอ”

เฟิ่งชิงเฉินเห็นว่าถุงเลือด 200cc หดตัวอย่างรวดเร็ว นางรู้สึกหดหู่ใจอย่างมาก

ที่นี่คือพระราชวัง แม้จะมีเลือดอยู่มากมาย แต่นางกลับเก็บเลือดได้ยาก แม้ว่ามีเลือดที่มากเพียงพอ พระราชวังก็คงไม่ให้นางใช้อย่างแน่นอน

เชื้อพระวงศ์ ราชศ์วงจะยอมให้เลือดผู้สูงศักดิ์ในร่างกายของพวกเขาถูกปนเปื้อนหรือ?

เฟิ่งชิงเฉินเก็บผมให้ดี และสวมถุงมือ สีหน้าของนางเคร่งเครียดอย่างมาก

เฟิ่งชิงเฉินฉีดยาปฏิชีวนะให้ตงหลิงจื่อลั่วก่อน เพื่อเพิ่มแอนติบอดี้ของเขา จากนั้นจึงฉีดยากระตุ้นหัวใจให้สูบฉีดเลือด

หากไม่มีเลือด ก็สร้างเลือดขึ้นมาเองเสีย

ร่างกายของตงหลิงจื่อลั่วเย็นอย่างมาก เพราะปริมาณเลือดไม่เพียงพอ หากเป็นเช่นนี้ มันจะไม่มีประโยชน์แม้ว่านางจะช่วยเขาได้สำเร็จ นางจะต้องฟื้นฟูการทำงานของร่างกายของตงหลิงจื่อลั่ว ก่อน จึงจะดึงลูกศรออกจากขาของเขาได้

ร่างกายของตงหลิงจื่อลั่วอ่อนแอเกินไป ร่างกายที่อ่อนแอเช่นนี้แทบจะไม่สามารถทนต่อการผ่าตัดที่จะทำต่อจากนี้ได้ นางต้องกระตุ้นพลังของร่างกายของตงหลิงจื่อลั่วออกมาก่อน

สิบห้านาทีผ่านไป เฟิ่งชิงเฉินฉีดยาชาให้ตงหลิงจื่อลั่ว เฟิ่งชิงเฉินไม่กล้าให้ยาชาทั่วร่างกายแก่เขาดังนั้นจึงใช้ยาชาเฉพาะที่ และอธิษฐานในใจว่า ของให้เขาอย่าตื่นมากลางคัน

ยาชายังไม่ได้ผล เลือด 200cc หมดไปก่อน

เฟิ่งชิงเฉินถอดถุงเลือดออกและแขวนถุงน้ำเกลือเอาไว้

เฟิ่งชิงเฉินยุ่งมาก แต่ไม่ตื่นตระหนกแม้แต่น้อย

โต๊ะข้างเตียงของตงหลิงจื่อลั่ว เต็มไปด้วยขวดยาและยาฉีดทุกชนิด สิ่งที่สะดุดตาที่สุดคือขวดสีดำ

เอาของพวกนี้ออกมาวางบนโต๊ะ มีแต่เฟิ่งชิงเฉินชิงที่คิดได้ แม้ว่าจะหยิบสะดวก แต่มันดูสะดุดตามากเกินไป

นางสนมแพทย์อัจฉริยะ

นางสนมแพทย์อัจฉริยะ

Status: Ongoing
ในยามวันมงคลสมรสของตนเอง นางตื่นสะลึมสะลือขึ้นมาที่ย่านชานเมือง ด้วยอาภรณ์ที่บางเบาและทั่วร่างที่สั่นเทา พร้อมกับสายตาดูหมิ่นที่จับจ้องมองมาที่นางมากมาย ทุกย่างก้าวที่เต็มไปด้วยเลือดกำลังย่างกรายเข้าสู่ราชวัง นางคือสตรีกำพร้าที่ไร้บิดามารดาคอยดูแล ส่วนเขาเป็นท่านอ๋องหน้ากากเหล็กที่อยู่เหนือกว่าทุกคนในใต้หล้า ทั่วร่างของนางที่เต็มไปด้วยบาดแผลมากมาย ทั้งยังถูกทำให้อับอายขายขี้หน้า; เขาผู้ที่ไปมาไร้ร่องรอย หาผู้ใดมาเทียบเคียงได้ยาก นางต้องก้มหน้าคุกเข่าอย่างนอบน้อม เขาคือผู้ที่จ้องมองลงมาจากเบื้องบน เส้นทางของคนทั้งสองคนที่ต่างกันราวฟ้ากับเหว แต่กลับมาบรรจบพบพานด้วยความบังเอิญ อาภรณ์ที่อบอุ่นผืนนั้น ปกปิดคราบสกปรกบนเนื้อตัวของนาง โดยแลกมาด้วยความรักชั่วชีวิตของตนเอง แพทย์หญิงผู้มากความสามารถจากยุคศตวรรษที่ 21 ทั่วทั้งกายและใจของนางมอบให้แต่เขาเพียงผู้เดียว เขาผู้อยู่เหนือผู้คนในใต้หล้า คมดาบที่อาบไปด้วยเลือดมากมาย นางสามารถละทิ้งทุกอย่างได้ ขอเพียงแค่ชาตินี้ ขอให้นางได้ครองรักเช่นสามีภรรยา ความรักที่ไร้ขอกังหา ไม่ว่าจะเป็นหรือตายนางล้วนไม่สนใจ แต่เขากลับมอบคมดาบเพื่อปลิดชีพนาง…………

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท