นางสนมแพทย์อัจฉริยะ – บทที่ 713 ปาฏิหาริย์ ข้าไม่มีทางยอม

นางสนมแพทย์อัจฉริยะ

หากไม่เห็นด้วยตาของตนเองก็เกรงว่าคงไม่มีใครเชื่อว่านี่เป็นเรื่องจริง และมีแค่ผู้ที่เห็นด้วยตาตัวเองเท่านั้นที่รู้ว่าช่วงเวลานี้มันยิ่งใหญ่ขนาดไหน ถึงจะรู้ว่ามันน่าน่าอัศจรรย์เพียงใด

เหมือนกับที่ได้เตรียมการไว้ล่วงหน้า เมื่อจักรพรรดิคุกเข่าลง อ้อนวอนขอพรพระเจ้าอย่างเศร้าสลด เพื่อยกโทษให้ประชาชนในใต้หล้า ช่วยชีวิตประชาชนผู้บริสุทธิ์ หิมะ……

หยุดแล้ว!

หลังจากคำพูดสุดท้ายของจักรพรรดิสิ้นสุดลง ตอนนั้น……ไร้ซึ่งนิมิตอันใด หิมะที่ร่วงหล่นมาจากท้องฟ้าหายไปอย่างไร้ร่องรอย ท้องฟ้าเริ่มสว่างขึ้น

มหัศจรรย์!

ทุกคนซึ่งอยู่ที่นั่นต่างตกตะลึง จ้องมองฉากที่เกิดขึ้นอย่างว่างเปล่าราวกับกำลังอยู่ในความฝัน จากภาพเคลื่อนไหวด้านหน้ากลับสู่ความนิ่งสงัดในชั่วพริบตา หิมะหยุดตกแล้ว เมื่อสิ้นสุดพิธีสักการะของจักรพรรดิ หิมะซึ่งกำลังตกอยู่ก็หยุดในทันที

พระเจ้า! นี่เป็นเรื่องจริงอย่างนั้นหรือ?

เหล่าขุนนางรวมถึงทหารนับพันคน ในตอนนี้ทุกคนเงียบเป็นเป่าสาก ได้ยินแม้กระทั่งเสียงลมหายใจ ราวกับอยู่ภายใต้มนต์สะกด เหมือนว่าทุกคนถูกสาปให้กลายเป็นหิน ในเวลานี้ไม่มีใครสามารถพูดหรือเคลื่อนไหวได้ ทุกคนต่างหยุดนิ่งอยู่ที่เดิม แยกแยะในสิ่งที่พวกเขาได้เห็น

แน่นอน ในตอนนี้ทุกคนกลายเป็นหินไปเป็นที่เรียบร้อยแล้ว แน่นอนว่าพวกเขาไม่มีใจจะสนใจสิ่งอื่น ยิ่งไม่ต้องพูดถึงเลยว่า พวกเขาจะเห็นการเคลื่อนไหวที่ผิดปกติอันละเอียดอ่อนของเสด็จอาเก้าหรือไม่

ไม่มีใครรู้ ในวินาทีซึ่งหิมะหยุดตกราวกับปาฏิหาริย์ของพระเจ้า เสด็จอาเก้าคืนสภาพกลับมาเป็นปกติ ดวงตาสดใสและลึกล้ำ……

ที่แท้ ที่แท้นี่ก็คือความมั่นใจของจักรพรรดิ

ขนตายาวกะพริบอย่างแผ่วเบาราวกับแมลงปอร่วงหล่นบนใบบัว น้ำตาคลอ เสด็จอาเก้าค่อยๆลืมตามขึ้น เห็นหิมะซึ่งอยู่ตกอย่างกะทันหัน เสด็จอาเก้าเงยหน้าขึ้นมองท้องฟ้าอันแจ่มใส รอยยิ้มอันเลือนรางปรากฏขึ้นบนริมฝีปากของเขา

ทายาทสกุลฝู่ ข้าประเมินเจ้าต่ำเกินไป!

“หิมะหยุดแล้ว หิมะหยุดแล้ว หิมะหยุดแล้ว จักรพรรดิรู้สึกซาบซึ้งจากใจจริง หิมะหยุดแล้ว หิมะหยุดแล้ว!”

“พระเจ้าทรงคุ้มครองตงหลิง พระเจ้าทรงตอบรับคำขอของจักรพรรดิ หิมะหยุดตกแล้ว…..”

ไม่รู้ว่าใครเป็นคนตะโกนออกมา ในที่สุดคำสาปก็ถูกทำลาย ทุกคนตื่นขึ้นมาจากภวังค์

ตุบ……

เหล่าขุนนางในพระราชวัง ราชองครักษ์ต่างคุกเข่าลง เสด็จอาเก้ากับซู่ชินอ๋องเองก็ไม่สามารถละเลยได้ หากตอนนี้เจ้าไม่ทำตาม เจ้าจะกลายเป็นเป้าหมายและศัตรูต่อสาธารณชน

“ขอองค์จักรพรรดิอายุยืนนาน หมื่นปี หมื่น หมื่น ปี” ณ ตอนนี้ นอกจากประโยคนี้แล้วก็ไม่สามารถหาคำใดมาสรรเสริญความยิ่งใหญ่ขององค์จักรพรรดิได้เลย ในตอนนี้……

พระเจ้าทรงมอบพลังอันยิ่งใหญ่ในการสนับสนุนองค์จักรพรรดิ

หิมะหยุดตกแล้ว!

ผู้ซึ่งปีติยินดีมากที่สุดในตอนนี้ก็คงเป็นใครไปไม่ได้นอกจากองค์จักรพรรดิ ความปีติยินดีของเขาเหมือนคลื่นทะเลที่สาดซัด กลืนกินร่างกายของเขาไปทั้งตัว หิมะหยุดตกแล้ว เมื่อพิธีบูชาฟ้าสิ้นสุดลง หิมะหยุดตกในทันที นี่คือผลลัพธ์ที่ดีที่สุด เขาเป็นจักรพรรดิองค์แรกในจิ่วโจวที่อธิษฐานขอพรจากพระเจ้าและได้รับคำตอบรับกลับมา

ฮ่าฮ่าฮ่า……หากไม่ใช่เพราะเหตุนี้ ยังมีเหตุผลอันใดอีก จักรพรรดิลุกขึ้นยืนพร้อมหัวเราะออกมาดังลั่น ในตอนนี้ทุกคนเข้าใจได้ทันทีว่าเขาภาคภูมิใจมากแค่ไหน

หิมะจะหยุดลงตอน 9 โมง 45 นาที เป็นอย่างที่คิด หิมะหยุดตกเวลานั้นจริง นี่คือสิ่งซึ่งพระเจ้าลิขิตให้ข้า ข้าคือบุตรแห่งมังกรที่แม้แต่ฟ้ายังต้องเชื่อฟัง

คาวนี้ข้าอยากจะรู้ว่าพวกเจ้าที่บอกว่าข้าไม่คู่ควรแก่ตำแหน่งจักรพรรดิ ยังจะมีใครกล้าบอกว่าข้าไม่คู่ควรอยู่อีกหรือไม่ และในใต้หล้ายังมีใครกล้าเป็นศัตรูกับข้า ผู้ซึ่งเป็นศัตรูกับข้าก็เท่ากับว่าเป็นศัตรูกับสวรรค์

มีความสุข อิ่มเอิบใจ

ความรู้สึกของจักรพรรดิในตอนนี้ดีกว่าตอนที่ได้ยินว่าเหล่าพี่น้องและพระบิดาของเขาตายจากโลกนี้ไปแล้วเสียอีก ราชวงศ์ตงหลิงนอกจากเขาแล้วก็ไม่มีใครสามารถเป็นจักรพรรดิได้อีก เขาเป็นคนเดียวที่มีคุณสมบัติได้นั่งบนบัลลังก์กษัตริย์แห่งตงหลิง เขาคือพระจักรพรรดิแห่งตงหลิง

ตอนนี้จักรพรรดิดีใจจนไร้ขอบเขต โชคดีที่เขาควบคุมสติสัมปชัญญะได้ดี การขึ้นครองตำแหน่งจักรพรรดิมาหลายปีทำให้จิตใจของเขาแข็งแกร่งและแน่วแน่กว่าเดิมมาก ดังนั้นเขาจึงไม่ทำอะไรที่ดูเหมือนการเสียสติ

จักรพรรดิยืนตระหง่านอยู่บนศาลเจ้า มองลงมายังเหล่าข้าราชบริพารที่กำลังคุกเข่าอยู่แทบเท้าของเขา

เหล่านี้คือข้าราชบริพารของเขา ทุกคนในใต้หล้าล้วนต้องยอมจำนนต่อแทบเท้าเขา

จักรพรรดิกลางมือออกทั้งสองข้าง กล่าวออกมาเสียงดังว่า “ทุกคนยืนขึ้น”

ในตอนนี้เลือดในร่างกายของจักรพรรดิร้อนรุ่มเป็นอย่างมาก เขาเชื่อว่าชีวิตนี้ เขาจะสามารถทำให้จิ่วโจวรวมเป็นหนึ่งได้สำเร็จ และได้รับการสวามิภักดิ์จากประชาชนทุกคน

ในขณะเดียวกันก็แอบรู้สึกเสียใจเล็กน้อย หากรู้ตั้งแต่แรกว่าคำพูดของฝู่หลินเป็นความจริง เขาควรจะทำพิธีบูชาฟ้าต่อหน้าประชาชนทุกคน ทำให้ประชาชนในตงหลิงได้เห็นถึงความยิ่งใหญ่ในตัวจักรพรรดิของพวกเขา ว่ามันยิ่งใหญ่มากเพียงใด!

น่าเสียดาย แต่ตอนนี้จักรพรรดิก็พอใจกับผลลัพธ์ที่ออกมา เขาชื่อว่าเรื่องที่เกิดขึ้นในวันนี้จะต้องแพร่กระจายออกไปในทุกซอกทุกมุมบนแผ่นดินจิ่วโจว ในตอนนี้จักรพรรดิมีความทะเยอทะยานเป็นอย่างมาก เขาเชื่อว่าสักวันหนึ่งเขาจะสามารถพิชิตใต้หล้าได้!

“พระเจ้าทรงคุ้มครองตงหลิง พระองค์ผู้ทรงปรีชาญาณ ขอองค์จักรพรรดิอายุยืนนาน หมื่นปี หมื่น หมื่น ปี” ผู้คนด้านล่างของศาลเจ้ายังคงไม่ลุกขึ้นยืน แต่แสดงความเคารพจากส่วนลึกของจิตวิญญาณอีกครั้ง ในตอนนี้คำสรรเสริญของพวกเขาล้วนออกมาจากจิตใจอย่างแท้จริง

หากจักรพรรดิไม่มีพระปรีชาสามารถ เช่นนั้นหลังพิธีบูชาฟ้าสิ้นสุดลง หิมะจะหยุดตกได้อย่างไร แม้มีคนคิดว่าจักรพรรดิอาจรู้ล่วงหน้าว่าหิมะจะหยุดตกในวันนี้ แต่พวกเขาเองก็เชื่อในตัวจักรพรรดิมากขึ้น เนื่องจากจักรพรรดิสามารถรู้ลิขิตล่วงหน้าของสวรรค์!

ลิขิตสวรรค์? อะไรคือลิขิตสวรรค์ ลิขิตสวรรค์ก็คือสิ่งที่สวรรค์เป็นผู้กำหมด ลิขิตสวรรค์ไม่อาจฝ่าฝืนได้ และจักรพรรดิก็ได้รับลิขิตจากสวรรค์

หัวใจของเหล่าขุนนางและทหารในตงหลิงกำลังเดือดพล่าน จักรพรรดิผู้ซึ่งพวกเขาถวายตัวรับใช้เป็นผู้ได้รับลิขิตของสวรรค์ พวกเข้าคือข้าราชบริพารของพระองค์ แน่นอนว่าพวกเขาเองก็ต้องได้รับพรจากสวรรค์ แม้แต่ซู่ชินอ๋องเองยังมีใบหน้าอันตื่นเต้น เสด็จอาเก้าอยู่ใกล้กับซู่ชินอ๋องมาก เขาแอบได้ยินอีกฝ่ายกล่าวออกมา “มีจักรพรรดิศักดิ์สิทธิ์เช่นนี้อยู่ เป็นโชคดีของตงหลิง”

เสด็จอาเก้ารู้ดีกว่าชัยชนะครั้งนี้ของจักรพรรดินั้นไม่ใช่ชัยชนะอันงดงามเหมือนเช่นเคย มันงดงามกว่าปกติเป็นอย่างมาก เขาพิชิตใจทุกคนได้สำเร็จ ในตอนนี้ทุกคนต้องถอยออกมาหนึ่งก้าว ภายใต้แสงแห่งปาฏิหาริย์ ไม่ว่าพวกเขาจะเคลื่อนไหวอย่างไร การกระทำเหล่านั้นก็ดูโง่เขลาอย่างชัดเจน

สำหรับเกมนี้ เขาคิดว่ามันเป็นเพียงจุดเริ่มต้นเท่านั้น ไม่ใช่จุดจบ

9 โมง 45 นาที!

นั่นเป็นช่วงเวลาซึ่งจักรพรรดิทำพิธีบูชาฟ้าและหิมะหยุดพอดี ปาฏิหาริย์เช่นนี้ไม่ว่าใครจะพูดอะไรล้วนไร้ความหมาย การโจมตีทั้งหมดไร้อำนาจ ตอนนี้สิ่งที่เขาทำได้ก็มีแค่ถอยออกไปหนึ่งก้าว

เสด็จอาเก้าจ้องมองเหล่าผู้คนที่ยิ้มออกมาด้วยความปีติยินดี องค์จักรพรรดิ อนาคตยังอีกยาวไกล!

ปาฏิหาริย์นั้นเป็นเหมือนโซ่ตรวน จักรพรรดิโง่เขลาทำได้ง่าย จักรพรรดิผู้เก่งกาจทำได้ยาก แต่จักรพรรดิศักดิ์สิทธิ์ไม่มีทางเป็นไปได้

เสด็จอาเก้าหันหน้ามอง เตรียมพร้อมจับกุมฝู่หลินซึ่งซ่อนตัวอยู่อย่างไร้ซึ่งความผิดพลาด ฝู่หลินยังคงสวมเสื้อผ้าสีเงิน อยู่ในท่าทางที่นิ่งสงบ ราวกับเรื่องที่เกิดขึ้นบนศาลเจ้าไม่เกี่ยวข้องอะไรกับเขา

แนวของชายทั้งสองมาบรรจบกัน และพวกเขาก็แลกเปลี่ยนคำตอบกันโดยปริยาย

คนเราสามารถพัฒนาได้หลังจากการศึกษาซึ่งกันและกัน

ฝู่หลิน ทายาทของสกุลฝู่ เจ้าทำเรื่องนี้ลงไปแล้ว เจ้าคิดว่าเจ้าจะสามารถหลบอยู่ในมุมมืดเช่นนั้นได้อีกงั้นหรือ?

ฝู่หลิน ในเมื่อเจ้าเข้ามาเกี่ยวข้องกับการต่อสู้ของจิ่วโจว เจ้าก็อย่าได้คิดจะปลีกตัวเองออกไป คิดจะซ่อนตัว? ข้าไม่มีทางยอมให้เจ้าทำเช่นนั้น!

……

จักรพรรดิแสดงละครใหญ่โตขนาดนี้ แน่นอนว่ามันไม่มีทางจบลงเพียงเท่านี้อย่างแน่นอน หลังจากนี้เป็นเวลาบำเพ็ญกุศล สรรเสริญคุณธรรม และประกาศให้ใต้หล้าได้รู้

ตอนนี้จักรพรรดิต้องการให้ใต้หล้าได้รับรู้ถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในวันนี้ให้เร็วที่สุด ให้ใต้หล้าได้รู้ว่าเขายิ่งใหญ่และน่าเกรงขามปานใด และในขณะเดียวกันเขาต้องการเห็นทัศนคติของผู้ปกครองหนานหลิง ซีหลิง เป่ยหลิงและเมืองจิ่ว เขาคือผู้ได้รับลิขิตจากสวรรค์ นั่นคือเขาเป็นจักรพรรดิซึ่งอยู่บนจุดสูงสุดของโลกใบนี้ เขาต้องการให้จักรพรรดิของอีกสามประเทศได้รู้ว่า ทั้งสามจะต้องอยู่ภายใต้เงาของเขาตลอดไป

เมื่อพิธีสิ้นสุดลง จักรพรรดิสั่งให้จัดงานเลี้ยงในค่ำคืนนี้ ขณะเดียวกันให้เชิญซีหลิงเทียนเหล่ย หนานหลิงจิ่นฝานรวมถึงเจ้าเมืองเย่เฉิงมาร่วมงาน บอกว่าจักรพรรดิต้องการร่วมสนุกกับทุกคน

นี่เป็นเรื่องใหญ่สำหรับตงหลิง แน่นอนว่าเหล่าข้ารับใช้ในตงหลิงต่างดีใจ เนื่องจากตอนนี้พวกเขาสามารถคุยโวโอ้อวดกับหนานหลิงและซีหลิงได้ “พวกเจ้าลองดู จักรพรรดิของพวกข้าทำพิธีบูชาฟ้า หิมะที่กำลังตกหนักก็หยุดในทันที หากจักรพรรดิของพวกข้าไม่ใช่ผู้ที่ลงมาจากสวรรค์แล้วพระองค์จะเป็นอะไรได้?”

“จักรพรรดิของพวกข้าเป็นห่วงประเทศและประชาชนจากใจจริง ขนาดพระเจ้ายังทรงเห็นใจ จนถึงขั้นสั่งให้หิมะหยุดตก”

“นี่คือลิขิตสวรรค์ มันคือลิขิตสวรรค์!”

“การกระทำขององค์จักรพรรดินั้นไม่ได้ทำแค่ประชาชนในตงหลิงเท่านั้น แต่องค์จักรพรรดิของพวกเรายังทำเพื่อประชาชนในใต้หล้า”

งบอกเลยว่าเรื่องที่หิมะหยุดตกนั้นบังเอิญเป็นอย่างมาก บังเอิญจนเหล่าข้าราชบริพารไม่ต้องใช้สมองคิดคำสรรเสริญ พวกเขาสามารถกล่าวชื่นชมองค์จักรพรรดิได้อย่างราบรื่น เนื่องจากไม่ว่าจำเป็นคำไหนก็สามารถนำมาใช้ได้ทั้งนั้น

ทุกสิ่งอย่างล้วนมีสองด้านเสมอ เมื่อหิมะหยุดตก ซีหลิงเทียนเหล่ยและหนานหลิงจิ่นฝานเองก็ดีใจ แต่……

ไม่ควรใช้วิธีนี้ในการทำให้หิมะหยุดตก

องค์จักรพรรดิแห่งตงหลิงกำลังบอกกับทุกคนบนโลกให้รู้ว่า ที่หิมะหยุดตกได้เป็นเพราะเขาอธิษฐานต่อพระเจ้า ดังนั้นความดีและเกียรติยศทั้งหมดล้วนเป็นของจักรพรรดิแห่งตงหลิง ส่วนประชาชนของหนานหลิง ซีหลิงและเป่ยหลิง หลังจากรู้เรื่องราวเหล่านี้ พวกเขาเองก็แอบขอบคุณจักรพรรดิแห่งตงหลิง ขอบคุณที่จักรพรรดิทำให้ความทุกข์ทรมานในครั้งนี้ผ่านไป

ด้วยเหตุนี้ ศักดิ์ศรีของจักรพรรดิตงหลิงจึงเพิ่มมากขึ้นอย่างไม่เคยมีมาก่อน

“ปัง……” หนานหลิงจิ่นฝานใช้แรงบีบแก้วในมือจนแตก

“9 โมง 45 นาที! 9 โมง 45 นาที! บัดซบ! หากรู้ว่า 9 โมง 45 นาที สามารถทำให้หิมะหยุดตกได้ แบบนั้นตงหลิงของพวกเจ้าจะมีโอกาสได้โอหังเช่นนี้ได้อย่างไร” ใช่ ถ้ารู้ก่อนหน้านี้ หากรู้ก่อนหน้านี้ หากพวกเขารู้ก่อนหน้านี้พวกเขาก็สามารถทำแทนจักรพรรดิตงหลิงได้ และพวกเขาก็จะกลายเป็นผู้ที่สวรรค์ยอมรับ

แต่น่าเสียดาย……เสียดายที่พวกเขาไม่รู้

“สารเลว ไปหามา ไปหามาให้ข้า ใครเป็นผู้อยู่เบื้องหลังเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในครั้งนี้ ข้าไม่เชื่อ ข้าไม่เชื่อว่าจักรพรรดิผู้เย่อหยิ่งจะมีความมั่นใจและกล้าจะทำอะไรเช่นนี้ด้วยตัวเอง” หนานหลิงจิ่นฝานโกรธมาก ซีหลิงเทียนเหล่ยเองก็เข้าใจ เขาเองก็กำลังควบคุมอารมณ์อยู่เช่นกัน

จักรพรรดิตงหลิง เขากำลังเหยียบจักรพรรดิของสามประเทศที่เหลือเพื่อปีนขึ้นไป เขาสามารถเอาชนะใจประชาชนได้ก็จริง แต่เขาทำให้จักรพรรดิทั้งสามประเทศต้องขุ่นเคือง

ต่างจากท่าทางที่หนานหลิงจิ่นฝานแสดงออกมา ซีหลิงเทียนเหล่ยเก็บความโกรธไว้ในใจ มือของเขาบีบแก้วแน่น พูดออกมาด้วยใบหน้าอันมืดมน “เป็นห่วงประเทศและประชาชน ข้าว่าเขาเป็นห่วงประชาชนและแผ่นดินทั่วทั้งใต้หล้าเลยมากกว่า คิดจะรวมจิ่วโจวให้เป็นหนึ่ง ทะเยอทะยานยิ่งนัก ฮึ……จักรพรรดิตงหลิง เจ้าคิดว่าจะทำให้ทั่วทั้งใต้หล้าสยบภายใต้แทบเท้าเจ้าด้วยปาฏิหาริย์เพียงเล็กน้อยแค่นี้งั้นหรือ โลกนี้ไม่ได้มีไว้สำหรับผู้มากคุณธรรม แต่มันมีไว้สำหรับผู้มีความสามารถ อีกอย่างด้วยการกระทำของเจ้าในวันนี้ เจ้าก็สามารถหลอกได้แค่ประชาชนอันโง่เขลาของเจ้าเท่านั้น ข้าไม่เชื่อว่าเจ้าจะได้รับการยอมรับจากสวรรค์ ไป ไปหามา ใครกันที่อยู่เบื่องหลังเหตุการณ์ในครั้งนี้”

“ขอครับ!”

ตอนนี้เหล่าผู้มีอำนาจต่างพากันค้นหาข้อมูลของฝู่หลิน แม้ว่าต้องตกน้ำหรือลุยไฟพวกเขาก็ต้องหาตัวของฝู่หลินออกมาให้จงได้ ศัตรูที่อยู่ในความมืด หากไม่รู้ตัวพวกเขาก็ไม่มีทางสบายใจ

สิ่งที่เฟิ่งชิงเฉินคิดไม่ถึงก็คือ หลังจากฝู่หลินหายไปนานขนาดนี้ การปรากฏตัวครั้งใหม่ของเขากลับทำให้ตกใจเสียเหลือเกิน……

นางสนมแพทย์อัจฉริยะ

นางสนมแพทย์อัจฉริยะ

Status: Ongoing
ในยามวันมงคลสมรสของตนเอง นางตื่นสะลึมสะลือขึ้นมาที่ย่านชานเมือง ด้วยอาภรณ์ที่บางเบาและทั่วร่างที่สั่นเทา พร้อมกับสายตาดูหมิ่นที่จับจ้องมองมาที่นางมากมาย ทุกย่างก้าวที่เต็มไปด้วยเลือดกำลังย่างกรายเข้าสู่ราชวัง นางคือสตรีกำพร้าที่ไร้บิดามารดาคอยดูแล ส่วนเขาเป็นท่านอ๋องหน้ากากเหล็กที่อยู่เหนือกว่าทุกคนในใต้หล้า ทั่วร่างของนางที่เต็มไปด้วยบาดแผลมากมาย ทั้งยังถูกทำให้อับอายขายขี้หน้า; เขาผู้ที่ไปมาไร้ร่องรอย หาผู้ใดมาเทียบเคียงได้ยาก นางต้องก้มหน้าคุกเข่าอย่างนอบน้อม เขาคือผู้ที่จ้องมองลงมาจากเบื้องบน เส้นทางของคนทั้งสองคนที่ต่างกันราวฟ้ากับเหว แต่กลับมาบรรจบพบพานด้วยความบังเอิญ อาภรณ์ที่อบอุ่นผืนนั้น ปกปิดคราบสกปรกบนเนื้อตัวของนาง โดยแลกมาด้วยความรักชั่วชีวิตของตนเอง แพทย์หญิงผู้มากความสามารถจากยุคศตวรรษที่ 21 ทั่วทั้งกายและใจของนางมอบให้แต่เขาเพียงผู้เดียว เขาผู้อยู่เหนือผู้คนในใต้หล้า คมดาบที่อาบไปด้วยเลือดมากมาย นางสามารถละทิ้งทุกอย่างได้ ขอเพียงแค่ชาตินี้ ขอให้นางได้ครองรักเช่นสามีภรรยา ความรักที่ไร้ขอกังหา ไม่ว่าจะเป็นหรือตายนางล้วนไม่สนใจ แต่เขากลับมอบคมดาบเพื่อปลิดชีพนาง…………

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท