นางสนมแพทย์อัจฉริยะ – บทที่ 733-2 ตำนาน อุปสรรคที่ถาโถมเข้ามา

นางสนมแพทย์อัจฉริยะ

โจ่วอันกระโจนขึ้นไปในอากาศและพุ่งเข้าหาเฟิ่งชิงเฉิน ดาบยังมือยังเปื้อนไปด้วยเลือด เมื่อมันพุ่งผ่านอากาศ เงาสีแดงสาดส่องไปทั่ว ทำให้การมองเห็นของเฟิ่งชิงเฉินถูกรบกวน

เป็นมือสังหารที่ฉลาดมาก แต่เฟิ่งชิงเฉินก็ไม่ใช่สัตว์กินพืช เฟิ่งชิงเฉินไม่แม้แต่กะพริบตา ในตอนที่โจ่วอันกระโจนเข้ามาเฟิ่งชิงเฉินก็เหนี่ยวไกออกไปทันที……

ปัง……

เช่นเดียวกับมือสังหาร นักแม่นปืนที่ซ่อนอยู่ในเงามืดพร้อมเล็งไปยังเป้าหมาย มีโอกาสเพียงแค่ครั้งเดียว อย่าลืมไปว่าเฟิ่งชิงเฉินไม่ใช่มือปืน ดังนั้นนางไม่มีทางยิงออกไปเพียงนัดเดียว

โจ่วอันเห็นทิศทางกระสุนที่พุ่งเข้ามา แน่นอนว่าเขาสามารถหลบนัดแรกได้ แต่นัดที่สองมันเป็นไปไม่ได้

หลังจากเฟิ่งชิงเฉินยิงนัดแรกออกไปก็พุ่งลงไปยังพื้น คราวนี้ไม่มีแผ่นเนื้อคอยรองรับ เฟิ่งชิงเฉินนอนหมอบลงกับพื้น แค่ได้ยินเสียงก็รู้ว่านางลงไปแรงแค่ไหน นี่เป็นสิ่งซึ่งได้มาจากการฝึกฝน วินาทีซึ่งเฟิ่งชิงเฉินล้มลงพื้น นางยิงออกมาอีกหนึ่งนัด เสียงปืนนัดที่สองตรงกับช่วงเวลาที่เสียงการป้องกันกระสุนนัดแรกดังขึ้นพอดี โจ่วอันจึงไม่ได้ยินเสียงมัน เมื่อกระสุนนัดที่สองพุ่งเข้ามามันก็สายไปแล้ว……

เชือก……กระสุนพุ่งไปที่น่องของโจ่วอัน เฟิ่งชิงเฉินก็ไม่ใช่คนชอบการต่อสู้ หลังจากยิงถูกเป้าก็รีบพลิกตัวทันที กลิ้งออกจากระยะการโจมตีของโจ่วอัน มันเป็นปฏิกิริยาตอบสนองโดยสัญชาตญาณ ทันทีที่ไปยังพื้นที่ปลอดภัย เฟิ่งชิงเฉินรีบลุกขึ้นวิ่งไปยังม้าของนาง

ความเร็วถึงขีดจำกัดการฝึกของนางแล้ว ความตายอยู่ตรงหน้า เฟิ่งชิงเฉินได้แสดงความเร็วสูงสุดของนางให้เห็น

นางเป็นทหารที่เก่งที่สุดในหมู่หมอ และเป็นหมอที่เก่งที่สุดในหมู่ทหาร

“เป็นการลงมือและเคลื่อนไหวที่ปราดเปรียว รุนแรงเหลือเกิน” โจ่วอันฟื้นจากความเจ็บปวด เฟิ่งชิงเฉินขึ้นไปอยู่บนหลังม้าแล้ว……

“ฮี้……”

ม้าพุ่งออกทะยานออกไป เหลือเพียงฝุ่นที่ทิ้งไว้ให้โจ่วอัน

โจ่วอันจ้องมองเฟิ่งชิงเฉินที่จากไปแต่ไม่ได้ไล่ตาม รอยยิ้มแปลก ๆ ปรากฏขึ้นบนใบหน้าอันขาวซีดของเขา “เฟิ่งชิงเฉิน ในฐานะแกะตัวอ้วนที่สุดในโลกแห่งมือสังหาร ครั้งนี้เจ้าสามารถหนีไปได้ก็จริง แต่ครั้งต่อไปเจ้าไม่มีทางรอด ข้าคาดหวังที่จะเห็นการต่อสู้ของเจ้ากับมือสังหารทั่วโลก สุดท้ายใครจะเป็นฝ่ายชนะ”

โจ่วอันก้มหน้า มองเลือดที่ไหลอยู่บนน่อง นำกริชที่เหน็บอยู่ข้างขาเล่มหนึ่งออกมา นั่งยอง ๆ แล้วแทงกริชเข้าไปในบาดแผล จากนั้นขยับข้อมือ……

เชือก……กระสุนสีเลือดพุ่งออกมาและตกลงสู่พื้น มองไม่เห็นสีดังเดิมของมัน โจ่วอันก็ไม่มีความคิดที่จะหยิบมันขึ้นมาดู

บาดแผลใหญ่ขึ้น เลือดไหลรุนแรง ราวกับโจ่วอันไม่รู้สึกถึงความเจ็บปวด หยิบขวดยาออกมาจากแขนเสื้อ เทมันลงไป จากนั้นเลือดก็ไม่ไหลออกมาอีก โจ่วอันถึงหยุดการกระทำของตนเอง จากนั้นหยิบผ้าเช็ดหน้าผืนหนึ่งออกมาปิดบาดแผลเอาไว้

หลังจากทำทุกอย่างเรียบร้อยแล้ว โจ่วอันลุกขึ้นยืน เดินเข้าไปหาหลานอีหลิน ดังแต่เขาเริ่มเดิน มันมองไม่ออกเลยว่าขาของเขาได้รับบาดเจ็บ เห็นได้ว่าความดื้อรั้นของธรรมชาติมนุษย์เช่นนี้มันเกินกว่าเฟิ่งชิงเฉินเป็นอย่างมาก

ไม่แม้แต่จะมอง โจ่วอันยกมีดขึ้น เตรียมตัดหัวของหลานอีหลิน ในสายตาของเขา หัวของหลานอีหลินที่อยู่ตรงหน้ามีค่าสองพันแผ่นเงิน แม้จะฝืนหลักการที่ยึดถือของเขา แต่หลักการมันก็ต้องยอมจำนนต่อความเป็นจริง ตัวอย่างเช่นตอนนี้เขาต้องการแผ่นเงิน หากเขาไม่มีรายได้เขาก็ต้องไปปล้น

อีกอย่าง เมื่อสักครู่เขาได้ทำผิดหลักการของเขาไปแล้วครั้งหนึ่ง ผิดอีกสักครั้งมันจะเป็นอะไรไป ส่วนเรื่องอื่น มันไม่ได้เกี่ยวอะไรกับเขา เขาแค่ซื่อสัตย์ต่อตัวเองเท่านั้น

แต่ในตอนนี้เสียงม้าที่ไกลออกไปกลับดังขึ้นมาอีกครั้ง โจ่วอันรู้ว่าผู้ที่กำลังมาเป็นใคร มีดในมือแข็งทื่ออยู่บนอากาศ จากนั้นก็ทำตามความคิดของตนเองต่อไป

ด้วยระยะห่างนี้ มันเพียงพอจะเอาหัวนี้ไป และยังมีเวลาเพียงพอสำหรับการหนี

แต่โจ่วอันประเมินระยะของกระสุนผิดไป ขณะที่มีดในมือของเขากำลังฟันลงมา เฟิ่งชิงเฉินก็ยิง……

ปัง……เสียงดังขึ้น ยิงไปถูกเท้าของโจ่วอัน สัญชาตญาณของมือสังหารทำให้เขาหลบการโจมตี ทำให้พลาดโอกาสจะนำหัวของหลานอีหลินไป ขยับไปด้านหน้าอีกครั้ง เฟิ่งชิงเฉินเล็งปืนเข้ามา ทำให้เขาหมดโอกาสเข้าใกล้

ขณะที่เสียงปืนดังขึ้น สายลับตระกูลหวังเองก็พุ่งเข้ามา ล้อมโจ่วอันเอาไว้ สถานการณ์พลิกผันทันที……

โจ่วอันรู้ว่าครั้งนี้มันจบแล้ว ยืนอยู่ใจกลาง โจ่วอันไม่มีความคิดจะลงมือแต่อย่างใด

เฟิ่งชิงเฉิน เสด็จอาเก้าและหวังจิ่นหลิงกำลังขี่ม้าเข้ามา

“มือสังหารโจ่วอัน ไม่สังหารสตรี เด็ก และคนแก่ คิดไม่ถึงเลยว่าเจ้าจะรับภารกิจในการสังหารเฟิ่งชิงเฉินในครั้งนี้ แถมยังคิดจะสังหารผู้หญิงอีกคน” เห็นได้ชัดว่าหวังจิ่นหลิงรู้จักคนผู้นี้ คำพูดของเขามีความเย้ยหยันแฝงอยู่

“สองแสนแผ่นทอง ไม่ว่าใครก็ใจสั่นทั้งนั้น โจ่วอันเองก็เป็นคนเหมือนกัน” โจ่วอันไม่ได้สนใจคำพูดเย้ยหยันของหวังจิ่นหลิง เขาคือมือสังหาร สองมือเปื้อนไปด้วยเลือดในตอนนั้นเขาถูกกำหนดแล้วว่าเป็นผู้ฆ่าคนเพื่อเงิน

ไม่สังหารสตรี เด็ก และคนแก่เป็นเพียงแค่สิ่งที่ทำให้ตนเองสบายใจ แต่สองแสนแผ่นทองอยู่ตรงหน้า จิตใจอันชั่วร้ายของมนุษย์ย่อมปรากฏออกมา ทำไมเขาต้องเสียใจกับเรื่องนี้

“สองแสนแผ่นทองไม่ใช่น้อย ๆ แผ่นดินจิ่วโจว ผู้ที่เงินจำนวนมากขนาดนั้นมีอยู่ไม่มาก” หวังจิ่นหลิงมองลงไปที่โจ่วอันด้วยรูปเกมที่เหนือกว่า คำพูดของเขาคือต้องการถามโจ่วอันว่าผู้ที่ต้องการเอาชีวิตของเฟิ่งชิงเฉินเป็นใคร

“ถูกต้อง นี่คือสิ่งที่ทำให้ผู้คนบ้าคลั่ง แม่นางเฟิ่ง เจ้าต้องระวังตัวให้มาก ไม่ใช่ว่าทุกคนจะเป็นเหมือนข้าโจ่วอันที่จะยอมปล่อยสองแสนแผ่นทองที่อยู่ตรงหน้าไปเพราะสนใจในอาวุธลับในมือของเจ้า” คำพูดของโจ่วอันเป็นการบ่งบอกกับหวังจิ่นหลิงว่า เขาไม่รู้ว่าคนที่ต้องการชีวิตของเฟิ่งชิงเฉินเป็นใคร ขณะเดียวกันเขาก็ตั้งใจจะปล่อยเฟิ่งชิงเฉินไปในครั้งนี้ หากไม่เช่นนั้นเฟิ่งชิงเฉินคงตายไปตั้งแต่แรก

“ข่าวลือจากยุทธจักรที่ว่ามือสังหารโจ่วอันเป็นคนคลั่งไคล้ในอาวุธ ที่แท้ก็เป็นความจริง” หวังจิ่นหลิงไม่ได้สงสัยในคำพูดของโจ่วอัน ช่วงเวลาที่ผ่านมาเมื่อสักครู่ มีแค่เฟิ่งชิงเฉินเพียงคนเดียว หากโจ่วอันคิดจะลงมือ เฟิ่งชิงเฉินคงตายไปตั้งนานแล้ว

โจ่วอันขมวดคิ้วและไม่พูดอะไร เนื่องจากเรื่องนี้เป็นความจริง เขาไม่มีความคิดจะกลบเกลื่อน เขาฆ่าคนเพื่อเงิน ทั้งหมดนำไปเพื่อประดิษฐ์และพัฒนาอาวุธ เรื่องนี้มันไม่ใช่ความลับที่ยิ่งใหญ่อะไร คนทั่วทั้งใต้หล้าต่างรู้ดี

เมื่อมือสังหารโจ่วอันออกมารับภารกิจ นั่นแสดงว่าเขาได้ใช้เงินไปหมดแล้ว!

“โจ่วอัน เห็นแค่ข่าวที่เจ้าเปิดเผยออกมา ล้มเลิกภารกิจนี้ แล้วข้าจะไว้ชีวิตเจ้า” เสด็จอาเก้าโบกมือให้สายลับถอยออกไป เปิดทางให้โจ่วอันเดิน

นี่เป็นการตัดสินใจที่ไม่ได้ถามความเห็นของโจ่วอัน

“ต่อให้ข้าล้มเลิก คนอื่นก็ไม่มีทางล้มเลิก มือสังหารทั่วโลกกำลังไล่ล่าเอาชีวิตอย่างบ้าคลั่ง” โจ่วอันเก็บดาบ และบอกเสด็จอาเก้าถึงการตัดสินใจของเขา

เขาเป็นคนฉลาด แน่นอนว่าเขาไม่มีทางสู้กับสิ่งที่เอาชนะไม่ได้จนตัวตาย

ไม่ต้องพูดเรื่องอื่น มือสังหารฆ่าเพื่อทำให้ภารกิจสำเร็จ หากตาย……เขาจะเอาเงินที่ได้มาไปให้ใคร

“ข้าจะจัดการมันเอง” เสด็จอาเก้ากล่าวออกมาด้วยใบหน้าอันมั่นใจ

ความผิดพลาดแบบเดียวกัน เขาไม่มีทางยอมให้มีครั้งที่สองเกิดขึ้น ไม่มีทางปล่อยให้เฟิ่งชิงเฉินอยู่ลำพัง เนื่องจากการเดินทางครั้งนี้ไม่ได้ยิ่งใหญ่ ดูเหมือนเป็นคนปกติ ไม่ได้มีการเคลื่อนไหวใดทำให้ผู้คนแตกตื่น แม้แต่เสด็จอาเก้าเองก็ไม่รู้ว่าพวกเขาจะออกเดินทางเวลาไหน ประกอบกับการปลอมตัวของเฟิ่งชิงเฉิน หากไม่ได้เดินทางมากับพวกเขาสองคน ก็ไม่มีใครรู้ว่านางเป็นใคร

พวกเขามั่นใจเกินไป คิดไม่ถึงว่าเกือบจะทำให้ทุกอย่างล้มเหลว!

“ก็ใช่ ใครจะไปกล้าแย่งอาหารจากมือของเสือ” ในตอนที่โจ่วอันพูดประโยคนี้ออกมา เขาไม่ลืมที่จะเหลือบตามองหวังจิ่นหลิง เมื่อหวังจิ่นหลิงขมวดคิ้วด้วยความไม่พอใจ โจ่วอันก็จากไปอย่างสง่างาม……

มือสังหารโจ่วอันล้มเหลวในการฆ่าเฟิ่งชิงเฉิน แถมยังละทิ้งภารกิจในการสังหารเฟิ่งชิงเฉิน ทันทีที่ข่าวนี้แผ่ออกไปในโลกของมือสังหาร ทำมือสังหารจำนวนมากที่กำลังคิดจะลงมือเปลี่ยนความคิด

ขนาดโจ่วอันยังประสบความสูญเสีย แล้วพวกเขาล่ะ? แน่นอนว่าข่าวนี้ก็ไปกระตุ้นมือสังหารที่มีใจคิดจะเอาชนะ ภารกิจครั้งนี้ไม่ใช่แค่สองแสนแผ่นทองเท่านั้น แต่มันยังสามารถเอาชนะตำนานอย่างโจ่วอันได้ด้วย!

นางสนมแพทย์อัจฉริยะ

นางสนมแพทย์อัจฉริยะ

Status: Ongoing
ในยามวันมงคลสมรสของตนเอง นางตื่นสะลึมสะลือขึ้นมาที่ย่านชานเมือง ด้วยอาภรณ์ที่บางเบาและทั่วร่างที่สั่นเทา พร้อมกับสายตาดูหมิ่นที่จับจ้องมองมาที่นางมากมาย ทุกย่างก้าวที่เต็มไปด้วยเลือดกำลังย่างกรายเข้าสู่ราชวัง นางคือสตรีกำพร้าที่ไร้บิดามารดาคอยดูแล ส่วนเขาเป็นท่านอ๋องหน้ากากเหล็กที่อยู่เหนือกว่าทุกคนในใต้หล้า ทั่วร่างของนางที่เต็มไปด้วยบาดแผลมากมาย ทั้งยังถูกทำให้อับอายขายขี้หน้า; เขาผู้ที่ไปมาไร้ร่องรอย หาผู้ใดมาเทียบเคียงได้ยาก นางต้องก้มหน้าคุกเข่าอย่างนอบน้อม เขาคือผู้ที่จ้องมองลงมาจากเบื้องบน เส้นทางของคนทั้งสองคนที่ต่างกันราวฟ้ากับเหว แต่กลับมาบรรจบพบพานด้วยความบังเอิญ อาภรณ์ที่อบอุ่นผืนนั้น ปกปิดคราบสกปรกบนเนื้อตัวของนาง โดยแลกมาด้วยความรักชั่วชีวิตของตนเอง แพทย์หญิงผู้มากความสามารถจากยุคศตวรรษที่ 21 ทั่วทั้งกายและใจของนางมอบให้แต่เขาเพียงผู้เดียว เขาผู้อยู่เหนือผู้คนในใต้หล้า คมดาบที่อาบไปด้วยเลือดมากมาย นางสามารถละทิ้งทุกอย่างได้ ขอเพียงแค่ชาตินี้ ขอให้นางได้ครองรักเช่นสามีภรรยา ความรักที่ไร้ขอกังหา ไม่ว่าจะเป็นหรือตายนางล้วนไม่สนใจ แต่เขากลับมอบคมดาบเพื่อปลิดชีพนาง…………

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท